วันนี้สวนหลังบ้าน LivingPop จะพาเพื่อนๆ ชาวไม้หนาม มาทําความรู้จักกับโรคร้ายของแคคตัส พร้อมวิธีการดูแลรักษา ให้ชาวไม้หนามมือใหม่เอาตัวรอดกับโรคร้ายที่จะมาในฤดูฝนนี้ ระวังอากาศชื้นๆ แถมแดดไม่มี จะทำให้เกิดโรคเพียบบ!! อย่าปล่อยให้น้องป่วย มาศีกษาเตรียมพร้อมกันดีกว่า จะมีโรคอะไรบ้างมาดูกันเลยครับ
โรคแคงเกอร์ (Canker) หรือ โรคขี้กลาก
โรคแคงเกอร์ หรือ โรคขี้กลาก เป็นโรคแคคตัสที่พบได้บ่อยในพวกตระกูลแอสโตรไฟตัม มีลักษณะเป็นสะเก็ด ขรุขระและแข็ง มีสีน้ําตาลนูนขึ้นมา ยิ่งปล่อยไว้นานจะยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทําให้ผิวต้นแคคตัสของเราไม่สวย แล้วพออาการหนักก็ทําให้แคคตัสของเราตายได้เลยเหมือนกันครับ มันสามารถรุกลามไปยังต้นอื่นๆ ผ่านทางน้ําฝนและน้ําค้างได้ด้วยนะ
ป้องกันโรคยังไง?
ก่อนที่เพื่อนๆ จะซื้อแคคตัสทุกครั้ง ให้เช็กด้วยว่ามีโรคติดมาด้วยหรือเปล่า? เมื่อซื้อต้นไม้มาแล้วให้ทําการเปลี่ยนดินใหม่ เพื่อป้องกันโรคที่ติดมาครับ ถ้าพบต้นที่เป็นโรคก็ให้แยกออกมา แล้วฉีดพ่นด้วยยา ต้องรีบทำตั้งแต่ซื้อต้นไม้มาใหม่ๆ เลยนะครับ ถ้าเรามัวแต่ปล่อยไว้ไม่เปลี่ยนดิน ก็จะทำให้เกิดโรคได้
รักษาโรคยังไง?
วิธีการรักษาโรคแคงเกอร์ หรือโรคขี้กลาก คือ ใช้มีดหรือคัตเตอร์แคะแผ่นแคงเกอร์ออกให้หมด จากนั้นทายากันราเอาไว้ รอให้แผลแห้งแล้วฉีดพ่นด้วยยา เช่น แอกริมัยซิน, ฟังกูราน หรือ ไธอะโนซาน รอให้แผลค่อยๆ เลื่อนลงไปอยู่ที่โคนต้น จากนั้นก็ฉีดพ่นยาสม่ำเสมอทุกเดือน โรคก็จะหายไปเองครับ
โรคเพลี้ยหอย (Scale Insect)
โรคเพลี้ยหอย เป็นศัตรูพืชที่คนเลี้ยงแคคตัสต้องเคยเจอแน่นอนฮะ มันจะมีรูปร่างเป็นจุดสีขาวกลมและเรียวยาว สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า คอยดูดกินน้ําเลี้ยง ทําให้ยอดหยุดเดิน เสียรูปทรง และยังลามไปต้นอื่นๆ ได้รวดเร็วมาก โดยอาศัยมดที่มากินน้ําเลี้ยง เมื่อมดมากินน้ําเลี้ยง เพลี้ยหอยก็ติดไปด้วย ทําให้ลามได้อย่างรวดเร็ว อย่าจัดการแค่เพลี้ยหอย ให้จัดการมดรอบๆ ที่เราปลูกด้วย ไม่งั้นกําจัดไปยังไงก็ไม่หมด มันก็จะเกิดแบบนี้ขึ้นซ้ำๆ อยู่ดีครับ
ป้องกันโรคยังไง?
วิธีป้องกันโรคเพลี้ยหอย จะเหมือนกับโรคแคงเกอร์เลยครับ คือเราต้องสํารวจต้นไม้ทุกครั้งก่อนซื้อว่ามีโรคติดมาด้วยหรือเปล่า? เมื่อซื้อแคคตัสมาให้ทําการเปลี่ยนดินใหม่ เพื่อป้องกันโรคที่ติดมา ถ้าพบโรคให้รีบแยกแคคตัสออกมาจากต้นอื่นๆ แล้วรีบจัดการรักษาให้หาย
รักษายังไง?
วิธีการรักษาโรคเพลี้ยหอย คือใช้น้ํายาล้างจานผสมน้ําเปล่า ฉีดพ่นไปเลยให้ทั่วต้น แล้วใช้แปรงสีฟันขัดเพลี้ยหอยออกให้หมด หรือใช้สตาร์เกิลจีโรยรอบกระถาง ถ้าเป็นหนักให้ใช้มาลาไทออน หรือนิโคตินซัลเฟต รดให้ทั่วต้น ทําสม่ำเสมอทุกเดือนจนกว่าโรคเพลี้ยหอยจะหายไป
โรคราสนิม (Plant Rusts)
โรคราสนิม จะมีลักษณะคล้ายสนิมเหล็ก สีน้ําตาลดํา เกิดจากความชื้นของน้ําฝน หรือแสงแดดที่ได้รับไม่เพียงพอ ถ้าเราปล่อยให้ลามไปจนทั่วต้น จะทําให้ยอดไม่เดินลําต้นเหี่ยวและทําให้ต้นไม้ตายได้ ถ้าไม่รีบรักษาแล้วปล่อยให้ลาม ต้องรอจนราสนิมไล่ลงโคนต้น ซึ่งจะใช้เวลานานหลายปีเลยทีเดียวครับ
ป้องกันโรคยังไง?
วิธีป้องกันโรคราสนิม คือต้องดูแลให้สภาพแวดล้อมที่ปลูกไม่อับชื้น ปลูกให้โดนแสงแดด 6 ชั่วโมงขึ้นไป อย่าให้ต้นไม้โดนน้ําฝนและความชื้นมาก เปลี่ยนเครื่อง
ปลูกให้โปร่งและระบายน้ําได้ดี
รักษายังไง?
เรารักษาโรคราสนิมได้ โดยการถอดต้นออกมาแช่น้ํายากันเชื้อราจอยท์ แล้วทิ้งไว้ให้แห้ง จากนั้นค่อยลงปลูกใหม่ แต่ต้องคอยพ่นยากันราทุกๆ 1 เดือน สลับใช้ยาหลายๆ ตัวด้วยนะครับ เพราะไม้อาจดื้อยาได้ รอจนแผลที่เกิดจากราสนิมไล่ลงไปด้านล่าง ถ้ารักษาไม่หายจริงๆ ควรทิ้งไปเลย เพื่อกันไม่ให้ลามไปโดนต้นอื่นๆ ไม่งั้นจะต้องรักษาเจ้าแคคตัสจนหัวหมุนแน่ๆ ฮะ
โรคเน่า (Rot)
โรคเน่า เรามักจะพบบ่อยในช่วงฤดูฝน เกิดจากวัสดุปลูกแน่นเกินไป น้ําไม่ระบาย พอได้รับน้ํามากๆ ก็เกิดความชื้น แล้วเชื้อราก็เข้ามาทําลาย ทําให้ต้นนิ่ม ยอดไม่เดิน ต้นไม้เปลี่ยนสีเป็นสีน้ําตาล และเน่าตายในที่สุด วิธีรักษายากมากครับ เพราะต้นไม้จะไม่ค่อยแสดงอาการ ต้องคอยเช็กต้นไม้ดูว่านิ่มหรือเปลี่ยนสีหรือเปล่า?
ป้องกันโรคยังไง?
วิธีป้องกันโรคเน่า คือเปลี่ยนวัสดุปลูกให้โปร่ง ระบายน้ําได้ดีด้วยการผสมหินภูเขาไฟ อย่าวางต้นแคคตัสให้โดนน้ําฝนหรือน้ําค้างนะครับ ไม่งั้นความชื้นมาเยือนแน่นอน แล้วก็ปลูกให้โดนแสงแดดอย่างทั่วถึง เพียงเท่านี้โรคเน่าก็จะไม่ถามหาแล้ว
รักษายังไง?
วิธีการรักษาโรคเน่า คือตัดส่วนที่เน่าเสียทิ้งไป เพื่อควบคุมและรักษาอาการเชื้อรา ถ้าเป็นต้นเล็กดูอาการประมาณ 3 – 4 วัน ส่วนต้นใหญ่อาจจะใช้เวลานานกว่านี้นะครับ หรือจะใช้วิธีการพ่นยาเคมี ยาป้องกันเชื้อราก็ได้ มีหลายยี่ห้อให้เลือกเลย
และนี่คือ 4 โรคร้ายของแคคตัสที่เราสามารถพบเจอได้บ่อยๆ อย่าลืมนะครับ ก่อนซื้อก็เช็กโรค เปลี่ยนดินให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันโรคต่างๆ ที่ตามมา หมั่นดูแลต้นไม้ของเราบ่อยๆ ฮะ เพราะถ้าเป็นโรคขึ้นมา การรักษาก็จะค่อนข้างจุกจิกนิดนึง ดังนั้นต้องคอยสังเกตต้นไม้ของเราให้ดีนะครับ ถ้าเกิดโรคขึ้นมาแล้วเรารักษาอย่างทันท่วงที โอกาศที่จะกลับมาเหมือนเดิมก็ไม่ยาก ยิ่งช่วงนี้เป็นหน้าฝนด้วยแล้ว อย่าลืมประคบประหงมเจ้าแคคตัสของเรากันนะค้าบบ 😉