สำหรับตู้คอนเทนเนอร์แล้ว ถ้าจะกล่าวว่ามีอาชีพหลักเป็นตู้สำหรับบรรจุ และขนส่งสินค้า อาชีพเสริมก็คงจะเป็นการนำมาประยุกต์ใช้เป็นบ้าน อาคาร ร้านค้าต่างๆ ที่เรียกได้ว่ามีมาให้ทำได้เรื่อยๆ ไม่ขาดสาย บทความนี้ LivingPop ได้รวบรวมเรื่องที่น่าสนใจเกี่ยวกับตู้คอนเทนเนอร์ มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังกัน แล้วจะเข้าใจว่าเพราะอะไร? ทำไมถึงฮิตกันนักกับการนำตู้คอนเทนเนอร์มาใช้ในงานสถาปัตยกรรม
ขนาดของตู้คอนเทนเนอร์
เริ่มด้วยขนาดของตู้คอนเทนเนอร์กันก่อน หากจำแนกประเภทของตู้คอนเทนเนอร์ ตามขนาดมาตรฐาน จะมี 2 ขนาด นั่นคือ ขนาด 20 ฟุต และ 40 ฟุต มาดูสัดส่วนความกว้าง ความยาว ความสูงกัน
ตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 20 ฟุต (กว้าง x สูง x ยาว)
ขนาดภายนอก 2.44 x 2.59 x 6.06 เมตร
ขนาดภายใน 2.35 x 2.39 x 5.71 เมตร
ตู้คอนเทนเนอร์ขนาด 40 ฟุต (กว้าง x สูง x ยาว)
ขนาดภายนอก 2.44 x 2.59 x 12.19 เมตร
ขนาดภายใน 2.35 x 2.39 x 12.30 เมตร
หากดูจากขนาดแล้ว โดยเฉพาะความสูงจะสังเกตได้ว่า เป็นความสูงที่พอสำหรับการเข้าไปใช้งานภายในได้แบบสบายๆ โดยไม่ต้องก้ม หรือจะลองเทียบแบบง่ายๆ ก็คือประมาณระดับพื้นถึงเพดานของห้องน้ำในคอนโดทั่วๆ ไป
รูปแบบของตู้คอนเทนเนอร์
- Dry Container เป็นตู้คอนเทนเนอร์สำหรับขนส่งสินค้าทั่วไป
- Reefer Container เป็นตู้คอนเทนเนอร์ที่มีการควบคุมอุณหภูมิ จะมีเครื่องทำความเย็นติดตั้งอยู่ สำหรับขนส่งอาหารสด ไอศกรีม ผลไม้และอาหารต่างๆ
- Open Top Container เป็นตู้ที่ออกแบบให้ด้านบนเปิดโล่ง ไม่มีหลังคา สำหรับสินค้าหรือ สิ่งของที่มีความสูงพิเศษ
- Flat Rack Container เป็นตู้คอนเทนเนอร์ที่เปิดโล่ง ทั้งด้านบนและด้านข้าง จะมีฐานที่ราบสำหรับสินค้าขนาดใหญ่
สำหรับชนิดที่นิยมนำมาใช้ในงานสถาปัตยกรรม ก็คือแบบ Dry Container เพราะฟังก์ชันที่ไม่ต้องดัดแปลงมาก โครงสร้างและอุปกรณ์เดิมไม่ยุ่งยากซับซ้อนนั่นเอง
วัสดุและโครงสร้างของตู้คอนเทนเนอร์
อีกคุณสมบัติของตู้คอนเทนเนอร์ที่เป็นข้อดีมากๆ ซึ่งเหมาะกับการนำมาใช้ในงานสถาปัตยกรรม นั่นก็คือโครงสร้างและวัสดุ
- ส่วนโครงสร้างประกอบไปด้วยเสาและคาน ทำจากเหล็ก ตำแหน่งของเสาอยู่ทั้ง 4 มุมของคอนเทนเนอร์ ซึ่งมีความแข็งแรงมากๆ รับน้ำหนักได้กว่า 25 ตัน
- ส่วนผนัง เป็นส่วนที่มีเอกลักษณ์ เป็นอีก Signature ของตู้คอนเทนเนอร์เลย โดยเป็นเหล็กที่พับเป็นลอนๆ เพื่อเพิ่มความแข็งแรง แต่น้ำหนักยังเบาอยู่ และอีกสิ่งที่น่าสนใจคือสีที่พ่นทับ จะมีความคงทนมากๆ ต่อสภาพดินฟ้าอากาศ และความชื้น
- ส่วนพื้นโดยทั่วไปจะเป็นวัสดุบอร์ด หรือพาเลตไม้ วางลงบนโครงสร้างของตู้คอนเทนเนอร์
จะเห็นว่าลักษณะของวัสดุและโครงสร้าง มีความแข็งแรงคงทน มีลักษณะเป็นกล่องปิดล้อมรอบด้าน สามารถกันแดด กันฝนได้อย่างดีเยี่ยมแน่นอน รวมถึงรูปลักษณ์เฉพาะตัวของตู้คอนเทนเนอร์ ที่ดูมีความเท่ Industrail หน่อยๆ การจะดัดแปลง เจาะช่องเปิดเพิ่มก็ไม่ยุ่งยากมากนัก จึงเหมาะมากๆ ที่จะนำมาออกแบบเพิ่มเติม เสริมให้กลายเป็นอาคาร
การนำตู้คอนเทนเนอร์มาใช้ในงานสถาปัตยกรรม
- การซ้อนชั้น ด้วยโครงสร้างของตัวตู้เอง สามารถซ้อนได้หลายชั้นด้วยกัน ทำให้ไม่ต้องห่วงเรื่องการรับน้ำหนักมากนัก แต่ถ้ามีการซ้อนแบบเหลื่อมกัน หรือการซ้อนสลับด้านไปมา อาจจะต้องมีการคำนวณเพิ่มเติมครับ
- ฉนวนกันความร้อน เนื่องจากฟังก์ชันที่เราจะดัดแปลง เป็นที่ที่คนเข้าไปใช้สอยได้ หากเป็น Indoor แท้ๆ ที่ต้องติดแอร์ แนะนำให้ติดฉนวนกันความร้อนด้วยนะ
- ฐานรากยกพื้นการติดตั้ง ไม่แนะนำให้ติดตั้งชิดกับดินเลย เนื่องจากเรื่องความชื้นจากดิน และการทรุดตัวของดินในภายหลัง เราจึงแนะนำให้ทำฐานรากแล้วให้ตู้คอนเทนเนอร์ติดตั้งลอยเหนือดินครับ
เรามีช่องใน Youtube มาฝากเพื่อนๆ กันด้วย สำหรับใครที่ชอบบ้านขนาดเล็กกระทัดรัด เพราะช่องนี้จะมาไปดูบ้านที่มีคนอาศัยอยู่จริง จะดัดแปลงมาจากตู้คอนเทนเนอร์บ้าง ดัดแปลงมาจากรถบัสเก่าๆ รถไฟเก่าๆ หรือสร้างขึ้นมาใหม่เอง ซึ่งแต่ละบ้าน แต่ละครอบครัว จะมีสไตล์การตกแต่งที่แตกต่างกัน เราจะได้ฟังการสัมภาษณ์ แรงบันดาลใจ และเหตุผลที่ทำให้เขาเลือกทำบ้านขนาดเล็กด้วย เลยอยากเอามาแชร์ให้เพื่อนๆ เผื่อจะได้ไอเดียดีๆ ในการกลับไปแต่งบ้านของตัวเองครับ
จากหลายๆ ตัวอย่างจะเห็นว่า การใช้ตู้คอนเทนเนอร์ มาทำเป็นบ้าน ร้าน หรือสำนักงาน มีความน่าสนใจด้วยลักษณะเฉพาะของตู้คอนเทนเนอร์ ที่ดูชิค ดูเท่ ให้ลุคที่ Industrail หน่อยๆ ดูดิบๆ เปลือยๆ แต่กลับมีสไตล์ ดังนั้นการออกแบบจัดวางสัดส่วน หรือการซ้อนกันของตู้คอนเทนเนอร์ก็น่าสนุก และมีความเป็นไปได้หลากหลายสไตล์ จึงไม่แปลกใจเลยที่จะมีงานสถาปัตยกรรมจากตู้คอนเทนเนอร์ ที่น่าสนใจออกมาให้เห็นเรื่อยๆ และยังคงความเท่ ความคูล เอาไว้ไม่มีเอาต์แน่นอนครับ