“ไม้ด่าง” หรือ “แคคตัสด่าง” คำเรียกคุ้นหูที่ใช้เรียกแคคตัสที่มีลักษณะสีสันต่างๆ ที่มาสลับกับสีเขียว ซึ่งสีสันเหล่านี้ได้สร้างความโดดเด่นสะดุดตาแก่เหล่านักสะสมแคคตัสเป็นอย่างมาก หลายคนต้องอยากมีไว้ในครอบครอง เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งในเมืองไทยและต่างประเทศ มีราคาค่อนข้างสูง เนื่องจากพบและเพาะพันธุ์ได้ยาก บางต้นที่ลวดลายสวยงาม มีเอกลักษณ์ จะมีราคาหลักพัน หรือบางต้นอาจมีราคาสูงถึงหลักหมื่น วันนี้ Livingpop จะพาเพื่อนๆ มารู้จักกับเจ้ากระบองเพชรด่าง หรือแคคตัสด่างกันครับ ว่ามันพิเศษอย่างไร? ทำไมถึงมีราคาแสนแพง?
ด่างเกิดจากอะไร?
ตามธรรมชาติของต้นไม้อื่นๆ หรือตัวแคคตัสเอง ก็ต่างมีสีเขียว แต่แคคตัสด่างนั้น เกิดจากคลอโรฟิลล์ ซึ่งเป็นเม็ดสีที่ทำหน้าที่ในการสังเคราะห์แสงในเซลล์พืชบริเวณนั้นหายไปบางส่วน หายไปเป็นหย่อมๆ หรือหายไปจนหมด แล้วปรากฏเป็นเม็ดสีอื่นขึ้นมาให้เห็นแทน ที่พบได้บ่อยคือ สีเหลือง สีส้ม สีชมพู และสีแดง หรืออาจพบเห็นเป็นสีอื่นๆ อีกก็ได้ นักปรับปรุงพันธุ์ได้มีการนำแคคตัสด่างในสกุลเดียวกัน แต่ต่างเอกลักษณ์ ต่างสี แต่ละต้นมาผสมเกสรข้ามต้น เพื่อพัฒนาสี จนเกิดเป็นสีสันใหม่ๆ แปลกตาและสวยงามมากขึ้นดังที่เห็นในปัจจุบันครับ
แคคตัสด่างสายพันธุ์ฮิต ติดตลาดลมบน
สำหรับแคคตัสด่างนั้น มีหลากหลายสายพันธุ์ ไม่แพ้กับแคคตัสสีเขียวเลยครับ พูดง่ายๆ ว่า แคคตัสทุกชนิดที่มีการเปลี่ยนแปลงของเม็ดสีคลอโรฟิลล์ ก็สามารถเป็นแคคตัสด่างได้ สายพันธุ์ที่นิยมเล่นกันอย่างแพร่หลาย ได้แก่ ยิมโนคาเลเซียมด่าง (Gymnocalycium Variegated) ซึ่งมีลักษณะด่างที่โดนเด่น สีคมชัดมาก หากนักปรับปรุงพันธุ์ผสมพันธุ์จนได้ลักษณะสีสันที่มีเอกษณ์เฉพาะตัวได้ จะยิ่งสร้างมูลค่าของแคคตัสด่างได้อย่างไม่มีขีดจำกัด บางสายพันธุ์หากเป็นสีเขียวธรรมดาราคาอาจอยู่ที่หลักสิบถึงหลักร้อย แต่เมื่อใดก็ตามหากเป็นแคคตัสด่างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ราคาอาจพุ่งสูงถึงหลักแสนบาทกันเลยทีเดียวครับ
อีกสายพันธุ์ที่นิยมคือ แอสโตรไฟตัมด่าง (Astrophytum Variegated) เจ้าแคคตัสตัวอ้วนกลมนี้ ก็เป็นที่น่าสนใจของเหล่านักสะสมเช่นกัน ด้วยเอกลักษณ์พิเศษของสีเหลือง สีส้ม และสีชมพู ที่แทรกซึมเข้ามาตามผิวของแอสโตรไฟตัม ทำให้เจ้าไม้กลมๆ เขียวๆ มีสีสันและมีเสน่ห์มากขึ้น
และอีกหนึ่งสายพันธุ์คือ ฮาโวเทียด่าง (Haworthia Variegated) ที่อาจดูเป็นไม้อวบน้ำนอกกระแส มีการเล่นเฉพาะกลุ่ม แต่หากมีความด่างแล้ว ก็จะเป็นที่จับตามองของเหล่านักสะสมไม้อวบน้ำเลยครับ
ด่างแท้ หรือ ด่างเทียม
แคคตัสด่างแท้ หรือด่างเทียม เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่เหล่าสาวกแคคตัส ต่างให้ความสนใจเกี่ยวกับแคคตัสด่าง ความด่างของแคคตัสต้นนั้นเป็นด่างจริงๆ หรือด่างเทียม ถ้าเป็นมือใหม่เพิ่งเริ่มหัดเลี้ยง ในบางครั้งก็อาจจะยังแยกไม่ออกฮะ
ด่างแท้
จากที่ได้กล่าวไปแล้วว่า แคคตัสด่างนั้นเกิดจากคลอโรฟิลล์ในเซลล์ของผิวแคคตัสบริเวณนั้นหายไปบางส่วน แล้วปรากฏเป็นเม็ดสีอื่นขึ้นมา จึงทำให้เกิดความด่าง กรณีเช่นนี้ เราเรียกกันว่าด่างจริงๆ ครับ เป็นความด่างที่เกิดจากแคคตัสจริงๆ
ด่างเทียม
ด่างเทียมนั้น เป็นความด่างที่เกิดขึ้นจากการกระทำของผู้เลี้ยงหรือสิ่งแวดล้อมทำให้เป็นด่าง ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น แคคตัสซึ่งปกติมีลำต้นสีเขียว แต่ถูกเลี้ยงในสิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการเจริญเติบโต สารอาหารไม่เพียงพอ หรือเลี้ยงในที่ที่มีแสงแดดจัดจนเกินไป ก็จะมีสีที่เปลี่ยนแปลงไป ในกลุ่มผู้เลี้ยงแคคตัสคนไทยมักจะเรียกว่า “ไม้ดิฟ” ซึ่งมาจากคำว่า Differetial คือการมีสีที่แตกต่างออกไป กรณีนี้จะเรียกว่าด่างเทียม ซึ่งอาจสร้างความเข้าใจผิดให้แก่ผู้ที่เพิ่งหัดเลี้ยงแคคตัสได้
ด่างแบบไหนขายได้ราคาดี?
ทำความรู้จักกับแคคตัสด่างมาพอสมควรแล้ว เราจะรู้ได้อย่างไรว่าแคคตัสด่างแต่ละต้น ต้นไหนมีราคาแพงหรือจะขายได้ในราคาที่สูง วิธีดูแคคตัสด่างไม่ยากเลยครับ ตามธรรมชาติของโลกเป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่า อะไรที่หายาก หรือมีอยู่น้อยจะมีราคาแพง แคคตัสก็เช่นกันครับ สายพันธุ์ไหนที่สวยสะดุดตา เพาะพันธุ์ได้ยาก หรือทำจำนวนได้น้อยก็จะมีราคาสูง ยิ่งถ้าเป็นแคคตัสด่างแล้วราคาจะสูงตามลักษณะสีสันที่เป็นเอกลักษณะ เช่น แคคตัสที่มีการด่างกระจายของสีสลับกับสีเขียวดั้งเดิมครบทุกพูของลำต้น ลักษณะด่างที่เป็นเส้นๆ เรียงตามบั้ง สมมาตรครบในทุกพู หรือลักษณะด่างที่มีการซึมของสีเข้าไปตามร่องของลำต้น ลักษณะเหล่านี้จะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แคคตัสได้อย่างไม่สิ้นสุดฮะ เพราะการที่จะได้แคคตัสด่างลักษณะพิเศษเหล่านี้ เกิดขึ้นค่อนข้างยากในการปรับปรุงพันธุ์หรือผสมเกสรแต่ละครั้ง จึงทำให้ขายได้ในราคาสูงสำหรับเหล่านักสะสมแคคตัสด่างครับ
เลี้ยงอย่างไรให้สวยและรอด
การเลี้ยงแคคตัสด่างนั้น ไม่ได้มีความแตกต่างจากการเลี้ยงแคคตัสสีเขียวทั่วไปเลยครับ เพียงแต่จะมีเกร็ดเล็กๆ น้อยๆ ในการดูแลเท่านั้น มีแคคตัสด่างบางชนิด ที่ด่างเกือบทั้งต้น หรือด่างสีเหลืองเป็นบริเวณกว้าง อาจต้องมีการปรับสภาพแสงภายในโรงเรือน เพราะแสงแดดที่แรงเกินไป อาจทำให้ผิวของแคคตัสเหล่านี้ไหม้ได้ และข้อแตกต่างจากแคคตัสเขียวที่สังเกตได้ชัด คือเรื่องการเติบโต ด้วยความที่แคคตัสด่าง มีเม็ดสีเขียวของคลอโรฟิลล์คงเหลือให้สังเคราะห์แสงได้น้อย จึงทำให้มีการโตของลำต้นช้ากว่าแคคตัสเขียว ตรงนี้เพื่อนๆ ไม่ต้องตกใจนะ เป็นธรรมชาติของแคคตัสด่างฮะ ส่วนการรดน้ำ และใส่ปุ๋ย สามารถทำได้เหมือนแคคตัสเขียวปกติเลย
เป็นอย่างไรกันบ้าง? ไม่ยากเลยใช่มั๊ยครับกับเจ้าแคคตัสด่าง ตอนนี้ในเมืองไทยของเราก็มีหลากหลายสายพันธุ์ให้สะสมและจับจองเป็นเจ้าของ มีหลากหลายราคาให้ได้เลือกซื้อ หรือหากเพื่อนๆ ท่านไหนมีแคคตัสด่างสวยๆ สะสมเอาไว้อยู่แล้ว ก็สามารถนำมาแบ่งปันให้ชมกันได้นะครับ และในบทความถัดไปมาดูกันว่าจะมีเรื่องแคคตัสไหนมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันอีก รอติดตามกันได้ที่คอลัมน์สวนหลังบ้านของเราเลยฮะ 😁