fbpx
เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับแคคตัส

วันแรกกับน้องแคคตัสต้นใหม่ แกะกล่องแล้วเริ่มดูแลยังไง?

สำหรับสายช้อปปิ้งแคคตัส ทั้งสาย cf ทางออนไลน์ (สะดวก ไม่ต้องเดินทาง) หรือสายชอบเดินทางไปซื้อเองที่หน้าร้าน (ได้เห็นของจริง) ไม่ว่าจะซื้อจากช่องทางไหนก็แล้วแต่ เมื่อเรารับแคคตัสต้นใหม่เข้าบ้านมาแล้ว ก็จะมีวิธีดูแลอยู่ฮะ ซึ่งวันนี้สวนหลังบ้านจะมาแนะนำการดูแคคตัสเมื่อไปรับมาใหม่จะต้องทำยังไงบ้าง? ตามไปดูกันเล้ยยย



เมื่อรับแคคตัสต้นใหม่มา เราต้องทำยังไงบ้าง?

หากเพื่อนๆ เป็นคนหนึ่งที่ซื้อแคคตัสต้นใหม่มาแล้ว วางแมะไว้เลยไม่ได้สนใจ ขอให้อ่านบทความนี้สักนิด เพื่อแคคตัสของเพื่อนๆ จะได้เติบโตมาแบบมีคุณภาพมากขึ้นครับ ขอแยกการซื้อออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือสายช้อปออนไลน์กับสายซื้อนหน้าร้าน จะได้อธิบายเข้าใจกันแบบง่ายๆ ฮะ

สาย CF ช้อปออนไลน์

เมื่อเราได้สั่งซื้อแคคตัสผ่านช่องทางออนไลน์ และได้รับของแล้ว สิ่งที่ควรทำ คือรีบเปิดกล่องดูความเสียหายเบื้องต้น เพราะบางทีการขนส่งอาจจะทำให้ต้นไม้เราเสียหายได้ ซึ่งในการส่งแคคตัสของทางร้าน จะมีทั้งส่งแบบถอดกระถาง และส่งมาทั้งกระถาง

ในกรณีที่ส่งแบบถอดกระถาง

เมื่อเราได้ไม้มาแบบถอดกระถางก็จะไม่ยุ่งยากอะไรมากครับ เพราะเราได้เห็นรากและตัวต้นของแคคตัสแบบเต็มๆ ทางร้านจะเคาะดิน และล้างรากมาให้แล้ว หรือบางครั้งก็จะตัดแต่งรากมาให้ด้วย (ตัดแต่งรากเพื่อให้ต้นสามารถงอกรากใหม่ และสามารถทำให้แคคตัสเติบโตเร็วขึ้น) เมื่อเราเปิดกล่องแล้วเอาน้องออกมา ให้เราวางแคคตัสไว้ในที่ๆ อากาศถ่ายเท อย่าพึ่งเอาต้นลงกระถางนะครับ ควรให้น้องได้ปรับตัวกับสภาพแวดล้อมใหม่ สัก 2 – 3 วัน แล้วจึงนำลงปลูกได้ แต่ก่อนปลูกขอให้เช็กสภาพของต้นอีกรอบว่ามีเพลี้ย หรือวมีแผลตรงไหนมั๊ย เพื่อทำการรักษาก่อนที่จะนำไปปลูกฮะ

ในกรณีที่ส่งแบบทั้งกระถาง

ขอแนะนำให้รื้อกระถางและนำลงปลูกใหม่ครับ ถ้าถามว่าทำไมต้องรื้อ มาอ่านเหตุผลทั้ง 3 ข้อนี้กัน

  1. รื้อกระถาง เพราะเราไม่รู้ว่าดินที่อยู่ในกระถางนั้นใช้มานานมากหรือยัง ดินอาจเสื่อมสภาพแล้วก็เป็นได้ และการที่เราเปลี่ยนดินใหม่ จะทำให้เราคาดการณ์ระยะเวลาในการเปลี่ยนดินครั้งต่อไปได้ง่ายขึ้น ส่วนผสมของดินที่ปลูกควรเหมือนกันทั้งหมด เวลาที่รดน้ำหรือดูแลจะได้ใส่ปุ๋ยง่ายฮะ สูตรดินของแต่ละที่ก็จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการปรับสูตรตามความเหมาะสม
  2. รากมีปัญหาจะได้รีบแก้ไขได้ทันท่วงที (ตัดแต่งราก) เพราะในบางครั้ง ไม้ที่เราซื้อมานั้นอาจจะยังมีรากเก่าเยอะเกินไป เราสามารถตัดรากเก่าออกได้ครับ หรือการที่รื้อกระถางออกมา ก็เป็นการตรวจเช็กกับทางร้านอีกรอบ ว่าที่ร้านบอกเราว่าต้นนี้เป็นไม้เมล็ดหรือไม้หน่อมีรากแล้วจริงหรือไม่ เพราะเราคงไม่อยากได้แคคตัสแบบต้นไม่ดีมาแน่นอน ไม่อยากเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลาในการรื้อกระถางออกมาเช็ก
  3. ในบางครั้งมีโรคที่ติดมากับดินในกระถาง เช่น เพลี้ยหรือรา เมื่อเจอต้องรีบทำการรักษา เพื่อไม่ให้มาติดต่อกับต้นอื่นๆ ที่เรามีอยู่ โดยขอแนะนำว่า หากพบโรคในดิน ให้นำดินนั้นทิ้งไป ไม่ควรนำกลับมาใช้อีก

ในกรณีที่ดูแล้วว่า ดินคุณภาพยังดีอยู่ อาจจะนำดินนั้นมาตากแดด ผสมปุ๋ยเพิ่ม แล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้อีก แต่ถ้าไม่สะดวกเปลี่ยนกระถางจริงๆ ด้วยประการทั้งปวง ก็มีข้อแนะนำเพิ่มเติม คือในช่วง 2 – 3 อาทิตย์แรกหลังจากที่ได้ไม้มา จะต้องแยกแคคตัสต้นใหม่มาอยู่ในพื้นที่เฉพาะ เพื่อป้องกันโรคติดต่อที่อาจจะมีมากับต้นใหม่ครับ การที่เราแยกต้นใหม่ออกมาก็เพื่อดูว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ และก็ให้เค้าได้ปรับสภาพให้เข้ากับอากาศบ้านเราด้วย

สิ่งสำคัญต่อมาที่ต้องมีเตรียมไว้เลยก็คือ พวกยากันรา ยากันเพลี้ย ยาป้องกันแมลงต่างๆ เวลามีปัญหาเกิดขึ้นจะได้ใช้ทันที เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 3 สัปดาห์ ถ้าไม่มีอะไรที่ผิดปกติ ก็น่าจะคลายกังวลได้ในระดับนึงแล้ว ว่าไม้ของเราที่ซื้อมาน่าจะปลอดภัยไร้โรค สามารถนำมาวางกับเพื่อนๆ ต้นอื่นได้ครับ



ซื้อจากหน้าร้านแคคตัส

เมื่อเราซื้อแคคตัสจากทางหน้าร้าน สิ่งที่ควรทำคือ

  1. ถ้าซื้อจากหน้าร้านโดยส่วนใหญ่แล้วร้านจะห่อกระบองเพชรหรือแคคตัสด้วยกระดาษ เพื่อป้องกันการเสียหาย ป้องกันหนามที่จะทิ่มเรา เมื่อถึงบ้าน เราจึงควรแกะห่อออกก่อน อย่าทิ้งไว้จนลืม 
  2. ร้านต้นไม้บางร้านอาจรดน้ำมาก่อนแล้วนะครับ สังเกตง่ายๆ ที่ดินในกระถางว่ามีความชื้นรึเปล่า ถ้าชื้นก็ยังไม่ต้องรดเพิ่ม
  3. แคคตัสที่เราเลือกซื้อมา ในบางครั้งต้นอาจจะเริ่มโตกว่ากระถาง เราสามารถเปลี่ยนกระถางให้เหมาะสมได้ และการที่เอาต้นแคคตัสต้นใหม่เข้าบ้านนั้น ควรรื้อกระถางออกมาเช็กระบบราก และดูว่าต้นมีเพลี้ย หรือเชื้อรามั๊ย แต่ถ้าไม่สะดวกเปลี่ยนกระถาง ก็ให้แยกแคคตัสต้นใหม่ออกมาก่อน เพื่อดูว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ และให้เค้าได้ปรับสภาพให้เข้ากับอากาศของบ้านเรา

เกร็ดความรู้ท้ายบทความ

เมื่อทำการเปลี่ยนกระถาง และอยากรู้ว่ารากมาเยอะแล้วหรือยัง มีวิธีการเช็คแบบง่ายๆ คือเอานิ้วหรือไม้เล็กๆ ลองดันที่ต้นดู ไม่ต้องแรงมากนะครับ ถ้าดันแล้วต้นคลอน เอนโยกไปตามที่เราดัน แสดงว่ารากยังไม่มา หรือรากงอกแล้วแต่ยังงอกน้อยอยู่ แต่ถ้าเราดันต้นของเค้าไปแล้วต้นไม่โยก ต้นแน่นติดกับดินดีไม่คลอน ก็แสดงว่ารากออกเยอะ หรือรากแน่นสมบรูณ์แข็งแรงตั้งตัวกับดินในกระถางได้แล้ว

ข้อห้าม : อย่าถอนออกมาดูรากบ่อยๆ เพราะรากใหม่ที่พึ่งงอกอาจจะชํ้า ทำให้ต้นชะงักการเจริญเติบโตได้


ทั้งหมดนี้เป็นวิธีการดูแลแคคตัสทั้งแบบซื้อออนไลน์และซื้อหน้าร้าน อย่ามองข้ามขั้นตอนเหล่านี้เด็ดขาดเลยนะครับ ถ้าเราเริ่มต้นดี แคคตัสของเราก็จะเติบโตมาอย่างมีคุณภาพนะครับ เพื่อนๆ อย่าลืมนำไปปรับใช้กันได้นะ บทความนี้น่าจะเป็นบทความส่งท้ายปี 2021 แล้วพบกันใหม่ในปี 2022 สวนหลังบ้านของเราจะนำเรื่องราวดีๆ อะไรมาแชร์กันอีก อย่าลืมติดตามกันนะค้าบบบ



Related posts
สายพันธุ์แคคตัสเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับแคคตัส

รวมแคคตัสสายพันธุ์กลิ่นดอกหอม Vs ดอกกลิ่นสะพรึง

การปลูกแคคตัสเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับแคคตัส

“ไอเดียจัดสวนถาดแคคตัสแบบสวยเก๋”

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับแคคตัส

ส่อง 10 ยิมโนคาไลเซียม “โคลนชื่อดัง” ที่เหล่านักสะสมต้องมีครอบครอง

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับแคคตัส

"เปลือกไข่" ไอเทมสารพัดประโยชน์สำหรับแคคตัส