สายพันธุ์แคคตัส

“แผงคอม้า” แคคตัสสุดหรูน่าสะสม

เป็นที่ทราบกันดีว่า โลกของแคคตัส มันช่างกว้างใหญ่ไพศาล ในปัจจุบันมีการค้นพบและมีการพัฒนาสายพันธุ์แคคตัสขึ้นหลายร้อยสกุล บ่อยครั้งที่มักมีความสับสนในเรื่องของชื่อ และสายพันธุ์เนื่องจากบางชนิดมีลักษณะคล้ายคลึงกันมาก แต่มีแคคตัสอยู่สกุลหนึ่ง ที่มองปาดเดียวก็ร้อง “อ๋อ” ได้เลย



วันนี้ครับ สวนหลังบ้าน LivingPop จะพาเพื่อนๆไปทำความรู้จักกับแคคตัสสกุลหนึ่ง ที่มีลักษณะพิเศษและความโดดเด่นที่น่าจดจำ ที่มาพร้อมกับความหรูหราในตัวของมันเอง ใครได้เห็นต้องหลงไหลอย่างแน่นอน พบกับเรื่องราวของแคคตัส อูเบลแมนเนีย (Uebelmannia pectinifera) หรือ “แผงคอม้า” ไปพร้อมๆ กัน ตามผมมาเลยครับ

อูเบลแมนเนีย เพ็คตินิเฟอร่า (Uebelmannia pectinifera) หรือ “แผงคอม้า” มีถิ่นกำเนิด ในเมือง Diamentina เหมืองเพชรเก่าแก่ ตั้งแต่สมัยทศวรรษที่ 18 ในรัฐ Minas Gerais ทางตอนใต้ของประเทศบราซิล

ซึ่งลักษณะภูมิประเทศดั้งเดิมคือเป็นเทือกเขาทุ่งหญ้าสลับกับหินปูน ขึ้นบนที่สูง 650-1000 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล มีอากาศหนาวเย็น ในปัจจุบันถูกนำเข้ามาเลี้ยงและขยายพันธุ์ในเมืองไทยที่อากาศค่อนข้างร้อนชื้น แม้อูเบลแมนเนียจะสามารถทนต่อสภาพอากาศของบ้านเราได้ แต่ไม่สามารถออกดอกได้ดีนัก จึงทำให้การขยายพันธุ์ทำได้ยาก อูเบลแมนเนีย จึงมีราคาค่อนข้างสูงในเมืองไทยครับ

ทำไมมีชื่อว่า “แผงคอม้า” เพราะจินตนาการของนักเลี้ยงแคคตัสเมืองไทยนั้น ล้ำเหนือกว่าประเทศใด จึงมักมีการตั้งชื่อเป็นภาษาไทยเพื่อให้จดจำได้ง่าย โดยชื่อที่ถูกตั้งขึ้นมานั้นจะสอดคล้องกับลักษณะโดดเด่นของแคคตัสชนิดนั้นๆ ซึ่งอูเบลแมนเนียมีรูปทรงของหนามคล้ายกับแผงคอม้า จึงได้ชื่อว่าภาษาไทยสุดเก๋ว่า “แผงคอม้า” นั่นเอง

ลักษณะเด่นของแผงคอม้าที่เอาใจนักสะสมแคคตัสไปแทบทุกคน คือตุ่มหนามที่ชี้ออกด้านบนโดยไม่กางออกด้านข้าง เรียงชิดติดกันตลอดความยาวสันพู มองคล้ายแผงคอม้า เมื่อขนาดต้นยังเล็กอาจมองยังไม่ชัดเจน แต่เมื่อเข้าสู่ต้นเต็มวัยจะมองเห็นความสวยงามและมีเอกลักษณ์ของหนามอย่างชัดเจน

ตามถิ่นกำเนิดตั้งเดิมแผงคอม้าเป็นแคคตัสลำสูงได้ถึง 1 เมตร แต่ด้วยสภาพอากาศเมืองไทย พบว่าแผงคอม้าสูงไม่เกิน 30-50 เซนติเมตรเท่านั้น ที่สำคัญแผงคอม้าโตค่อนข้างช้า จึงไม่ค่อยพบเห็นแคคตัสแผงคอม้าต้นขนาดใหญ่ในเมืองไทยมากนัก

นอกจากหนามที่สร้างความหลงไหลให้แก่นักสะสมแคคตัสแล้ว สีผิวของลำต้นแผงคอม้าที่มีได้หลายสีก็เอาใจสาวกแคคตัสไปเต็มๆ ที่เลี้ยงในเมืองไทยมีหลายสี ได้แก่ แผงคอม้าขียว แผงคอม้าม่วง และแผงคอม้าด่าง และเมื่อแคคตัสแผงคอม้ามีอายุมากขึ้นจะมีการสร้างแว็กซ์มาเคลือบที่ชั้นผิวจนหนา ผิวของแคคตัสแผงคอม้าจะมีความเงาและสวยงามอย่างมาก

การดูแลแผงคอม้า

การเลี้ยงแคคตัสแผงคอม้าคล้ายกับการเลี้ยงแคคตัสทั่วไป แต่เนื่องจากมีราคาในท้องตลาดค่อนข้างสูง เลยอาจต้องดูแลเป็นพิเศษนิดหน่อยฮะ เริ่มที่วัสดุที่ใช้ปลูกต้องเน้นที่ความโปร่ง ระบายน้ำได้ดี หากผสมอินทรีย์วัตถุ เช่น ใบก้ามปูหมักและหินภูเขาไฟ จะช่วยให้แคคตัสแผงคอม้าเติบโตได้ดียิ่งขึ้น

แคคตัสแผงคอม้าสามารถโดนแดดได้ทั้งวัน แสงแดดที่เพยงพอจพมำให้แคคตัสแผงคอม้ามีผิวสีเข้มคล้ายกำมะหยี่ แต่เพื่อผิวของต้นที่สวยงาม ควรมีการพรางแสงด้วยสแลนประมาณ 50% ในส่วนการให้น้ำ 1 ครั้ง/สัปดาห์ ก็เพียงพอฮะ

การขยายพันธุ์

แคคตัสแผงคอม้านิยมปลูกด้วยการเพาะเมล็ด และการกราฟต์ โดยสามารถกราฟต์ได้บนตอหลายชนิด เช่น ตอสามเหลี่ยมหนาม ตอหนามดำ หรือตอริทเทอโรก็ได้ฮะ ส่วนการเพาะเมล็ดนั้น นิยมเพาะแบบปิดครับ

สวนหลังบ้านเชื่อว่า เมื่อใครเห็นและได้เลี้ยงแคคตัสแผงคอม้าก็ต้องหลงรักอย่างแน่นอน เพราะเป็นไม้ที่มีความสวยงาม มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนแคคตัสสายพันธุ์อื่น เสน่ห์ในตัวของมันเองที่ชวนให้หลงใหล สาวกแคคตัสต้องมีไว้สะสมกันนะครับ เป็นอีกต้นที่ผมขอ Recommend เลยสำหรับวันนี้ สวนหลังบ้าน LivingPop ขอลาไปก่อน พบกันอีกครั้งในบทความถัดไป สวัสดีครับ ^ ^



Related posts
สายพันธุ์แคคตัส

ทำความรู้จัก "โคเปียโป" แคคตัส ชื่อแปลก หายาก

สายพันธุ์แคคตัส

ท่องโลกแคคตัสสีหวาน นามเพราะ "พิงค์ไดมอนด์" (Pink Diamond)

สายพันธุ์แคคตัส

แคคตัสนักกล้าม ชื่อน่าเกรงขามแต่ตัวจริงน่ารักนะ

สายพันธุ์แคคตัส

ท่องโลก"เฟรเลีย" แคคตัสชื่อแปลก