ช่วงต้นปีแบบนี้ ต้อนรับอากาศหนาวๆ ถ้าจะนึกถึงสถานที่ท่องเที่ยวสักแห่งเพื่อรับลมหนาว ก็ต้องมีเชียงใหม่เป็นหนึ่งในลิสอย่างแน่นอน วันนี้เราเลยขอพาชาว LivingPop ไปรับลมหนาวกันที่เชียงใหม่สักหน่อยฮะ เชียงใหม่มีสถานที่พักผ่อนมากมาย ไม่ว่าจะนอกหรือในตัวเมือง รวมไปถึงภูเขาและดอยต่างๆ แสนจะได้รับความนิยมทั้งจากชาวไทยและต่างชาติ
แต่วันนี้เราอยากจะลองซึมซับความเป็นชาวเหนือ เลยเลือกสถานที่พักผ่อนที่ให้ความรู้สึกประหนึ่งเป็นชาวล้านนากับ “โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ เชียงใหม่” (Tamarind Village Chiang Mai) ซึ่งที่นี่ถูกสร้างมามากว่า 17 ปีแล้วครับ แถมอยู่ใกล้ประตูท่าแพมากๆ แค่เพียง 400 เมตรเท่านั้นเอง
ตอนเราจอง “โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ เชียงใหม่” (Tamarind Village Chiang Mai) เราจองแบบล่วงหน้ามา และทางโรงแรมก็มีบริการรถรับส่งจากสนามบินมายังโรงแรมด้วย เราสามารถแจ้งทางโรงแรมได้เลยตั้งแต่ตอนจองที่พักว่าไฟล์ทจะมาถึงตอนไหน รถจากทางโรงแรมจะมารอรับที่สนามบินทันที ขอบอกว่าตรงเวลามากๆ เราลงเดินจากเครื่องพร้อมรับกระเป๋าเดินทาง จะเจอทางโรงแรมมายืนรอรับอยู่ตรงทางออกสนามบินพอดีเลยครับ
จากนั้นก็จะพาเราไปที่โรงแรม รับเครื่องดื่ม Welcome Drink จากทางโรงแรมพร้อมกับผ้าเย็น เพื่อเพิ่มความสดชื่นระหว่างรอทางพนักงานทำเรื่องเช็กอินเข้าที่พักนั่นเอง แล้วทางพนักงานก็จะอธิบายข้อปฏิบัติจากทางเทศบาลเชียงใหม่ให้ฟัง ว่าต้องลงทะเบียนและทำอะไรบ้าง ซึ่งการลงทะเบียนนั้นก็เพื่อไว้ติดตามตัวในกรณีที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ถ้าเราลงทะเบียนมาตั้งแต่ที่สนามบินแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนซ้ำอีกรอบครับ
การออกแบบ (Decoration)
“โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ เชียงใหม่” (Tamarind Village Chiang Mai) มีความเป็นเอกลักษณ์มากๆ ครับ เมื่อเราได้ก้าวเข้ามาที่โรงแรมจะมีซุ้มไผ่ล้อมอยู่ตั้งแต่ทางเข้า ให้ความร่มเย็นและสบายตามากๆ แล้วก็จะเจอระเบียงคต ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากวัดต้นเกวี๋ยน ซึ่งเป็นวัดต้นแบบของทางเหนือ จะมีทรายล้อมรอบ จากนั้นเข้ามาก็จะเจอการตกแต่งแบบล้านนาที่ร่วมสมัย โดยที่พักจะตกแต่งด้วยไม้ ให้ความรู้สึกเป็นล้านนาสไตล์ แล้วยังมีต้นไม้ที่ปลูกรายล้อมอยู่เต็มโรงแรมให้เราได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากขึ้น ที่ขาดไม่ได้เลย เรียกว่าเป็นจุดเช็กอินของที่นี่คือ “ต้นมะขาม” ถือเป็นซิกเนเจอร์ของ “โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ เชียงใหม่” (Tamarind Village Chiang Mai) ก็ว่าได้
ต้นมะขาม (Tamarind)
ต้นมะขามที่นี่มีอายุกว่า 200 ปี ปลูกไว้ตั้งแต่ก่อนที่จะสร้างโรงแรมนี้ เมื่อเจ้าของได้เห็น ก็ตัดสินใจเก็บเจ้าต้นมะขามนี้ไว้ แล้วสร้างที่พักล้อมรอบแทน ซึ่งชื่อของ “โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ เชียงใหม่” (Tamarind Village Chiang Mai) นี้ ก็มีที่มาจากต้นมะขามต้นนี้นี่เองครับ ในโรงแรมแห่งนี้จะมีต้นไม้ใหญ่อยู่ทั่วโรงแรมเลย นอกจากต้นมะขามที่ได้กล่าวไปแล้ว ก็จะมีต้นลำไย และต้นมะเดื่อด้วย
ห้องพัก (Accommodation)
ห้องพักที่ “โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ เชียงใหม่” (Tamarind Village Chiang Mai) มีทั้งหมด 5 แบบ จำนวน 46 ห้องด้วยกัน ได้แก่ Lanna Room, Lanna Deluxe, Lanna Suite, Tamarind Suite และ The Spa Suite Room โดยการตกแต่งจะเน้นความเป็นชาวเมืองมากๆ ทั้งหมอน Bathrobe ต่างๆ โดยจะเลือกสีสรรให้หลากหลาย ลายแบบชนเผ่า และยังเป็นผลผลิตที่มาจากชนเผ่าอีกด้วย ซึ่งแต่ละชนเผ่าก็จะมีลวดลายของผลิตภัณฑ์ที่แตกต่างกันออกไป และถ้าเราสังเกตดีๆ ของตกแต่งทุกอย่างกับลายผ้าบนหมอน หรือ แม้กระทั่งชุด Bathrobe ก็จะสอดคล้องกัน
สำหรับห้องพักทั้งหมดจะแบ่งออกเป็น 6 ตึก ตามประเภทห้องต่างๆ ดังนี้
- ตึก 1 จะมีทั้งหมด 12 ห้อง แบ่งเป็น 2 แบบก็คือ Lanna Room จำนวน 6 ห้อง และ Lanna Deluxe จำนวน 6 ห้อง ในตึกนี้จะเป็นตึกแนวยาวเลย
- ตึก 2 จะมีทั้งหมด 11 ห้องแบ่งเป็น Lanna Room จำนวน 5 ห้อง, Lanna Deluxe จำนวน 5 ห้อง และ Tamarind Suite จำนวน 1 ห้อง ซึ่งตึกนี้จะมีความพิเศษนิดนึงตรงที่รูปตึกจะเป็นตัว U
- ตึก 3 จะมีทั้งหมด 4 ห้อง แบ่งเป็น 2 แบบก็คือ Lanna Room จำนวน 2 ห้อง และ Lanna Deluxe จำนวน 2 ห้อง
- ตึก 4 จะมีทั้งหมด 7 ห้อง เป็นห้อง Tamarind Suite จำนวน 1 ห้อง และมีประตูเชื่อมกับห้อง Lanna Room อีก 6 ห้อง
- ตึก 5 จะมีทั้งหมด 4 ห้อง เป็นห้อง Lanna Suite ทุกห้องแบ่งเป็นชั้นล่างกับชั้นบน แล้วก็ Lanna Room จำนวน 2 ห้อง
- ตึก 6 จะเป็นโซน Village Spa และห้อง The Spa Suite 1 ห้อง และยังมีห้อง Lanna Deluxe อีกจำนวน 7 ห้อง
Lanna Room (จำนวน 21 ห้อง)
ห้อง Lanna Room จะมีอยู่ในเกือบทุกตึกของโรงแรมเลย ยกเว้นแค่ตึก 6 เท่านั้น มีจำนวน 21 ห้อง โดยในห้องจะไม่มีโต๊ะกลางห้อง และอ่างอาบน้ำให้ โดยจะเป็นห้องน้ำแบบฝักบัว ภายในห้องเข้ามาจะเจอกับเตียงนอนขนาด 6 ฟุตและสามารถมองออกไปเจอวิวที่เป็นสวนด้านนอกได้ทั้งชั้น 1 และชั้น 2
Lanna Deluxe (จำนวน 20 ห้อง)
ห้อง Lanna Deluxe จะมีอยู่ในเกือบทุกตึกของโรงแรมเช่นกัน ยกเว้นแค่ตึก 4 และ 5 โดยในห้องจะไม่มีโต๊ะกลางห้องให้ และอ่างอาบน้ำให้ แต่ความต่างของห้อง Lanna Deluxe คือจะมีระเบียงห้องพร้อมที่นั่ง สามารถเปิดออกไปนั่งรับลมเย็นพร้อมชมวิวจากต้นมะขามหรือจะเป็นต้นลำไยและต้นมะเดื่อได้แบบพอดีๆ
Lanna Suite (จำนวน 2 ห้อง)
ห้อง Lanna Suite จะมีเพียง 2 ห้องเท่านั้น อยู่ที่ตึก 5 ตึกเดียวครับ โดยห้องจะมี Garden View อยู่ด้านข้าง ซึ่งมีชั้นบนและล่างให้เลือกพัก ห้องไทป์นี้จะมีห้องรับแขกพร้อมโซฟามาให้ รวมไปถึงห้องน้ำเองก็มีอ่างอาบน้ำด้วย
Tamarind Suite (จำนวน 2 ห้อง)
ห้อง Tamarind Suite จะมีเพียง 2 ห้องเท่านั้นในโรงแรมแห่งนี้ มีให้เลือกทั้งชั้นบนและชั้นล่างเหมือนกับ Lanna Suite แต่ความต่างกันก็คือห้อง Tamarind Suite จะได้วิวต้นมะขามแบบชัดๆ ซึ่งเราจองห้องนี้มาครับ โดยห้อง Tamarind นั้น จะมีทั้งทรงยาวเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าและรูปตัวแอล โดยมีเตียงนอน ห้องรับแขก และห้องน้ำที่มาพร้อมอ่างอาบน้ำ
The Spa Suite Room (จำนวน 1 ห้อง)
มีแค่เพียง 1 ห้องเท่านั้น เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของที่นี่ เป็นห้องที่มี Sunbed แล้วยังมีพื้นที่หน้าห้องให้ใช้สอยแบบกว้างๆ ด้วย จะมีเตียงนอน ห้องรับแขกและห้องน้ำพร้อมอ่างอาบน้ำ สิ่งที่มีมากกว่าห้องอื่นๆ เพิ่มขึ้นมาคือ Shower แบบ Outdoor เพื่อให้เราดื่มด่ำกับธรรมชาติได้มากยิ่งขึ้น และที่ห้องนี้มีชื่อเรียกว่า Spa Suite ก็เพราะว่าอยู่ใกล้กับ Village Spa นั่นเอง
สิ่งอำนวยความสะดวก (Facility)
สิ่งอำนวยความสะดวกของทาง “โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ เชียงใหม่” (Tamarind Village Chiang Mai) นั้น มีหลากหลายแบบมากๆ ไม่ว่าจะเป็น Village Spa, ห้องอาหารเรือนแทมมาริน หรือกิจกรรมประจำวัน รวมไปถึงบริการต่างๆ จากทางโรงแรม ดังนี้
- บริการรถรับส่งไปที่สนามบิน หรือบริการเช่ารถ มีทั้งแบบรายชั่วโมง และรายวัน
- บริการพี่เลี้ยงเด็กเล็ก
- บริการเตารีด และ บริการซักรีด
- บริการพาเที่ยวสถานที่ต่างๆในจังหวัด
Village Spa
ครั้งนี้เราก็ได้มาลองใช้บริการสปาของทาง “โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ เชียงใหม่” (Tamarind Village Chiang Mai) ด้วยเช่นกัน โดยเลือก The Village Signature Massage ซึ่งจะเป็นการนวดแบบผสมผสาน ทั้งการนวดน้ำมันและการนวดประคบในครั้งเดียวเลย ใช้เวลา 90 นาทีโดยประมาณ ซึ่งที่นี่จะมีห้องนวดน้ำมันจำนวน 2 ห้องและห้องนวดไทย จำนวน 1 ห้อง ทางโรงแรมจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 10 โมงเช้าจนถึง 4 ทุ่มของทุกวัน (แต่ทั้งนี้เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ก็จะมีการปรับเปลี่ยนเวลาการให้บริการเล็กน้อย สามารถสอบถามได้โดยตรงกับทางโรงแรมเมื่อทำการจองคอร์สนวด)
นอกจากนี้ยังมีการนวดรูปแบบอื่นๆ ให้เลือกอีก ไม่ว่าจะเป็นการนวดหน้า สามารถเลือกได้ว่าจะเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า ลดริ้วรอยหรือกระชับผิวหน้า และอันสุดท้ายจะเป็นการนวดสำหรับผิวที่แพ้ง่าย ทางโรงแรมบอกว่า ตัวที่เป็นซิกเนเจอร์ก็คือตัว The Village Signature Massage หรือ ถ้าอยากนวดแบบปกติ ไม่ว่าจะนวดฝ่าเท้า นวดอโรมา หรือ นวดไทยแผนโบราณ ทางโรงแรมก็มีให้เลือกเช่นกัน
ห้องอาหารเรือนแทมมาริน (Ruen Tamarind Restaurant)
ห้องอาหารที่อยู่ติดริมสระน้ำ สามารถรับลมเย็นได้สบายๆ พร้อมอาหารพื้นเมืองหลากหลายรูปแบบให้เลือก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “10 จาน ตำนานแห่งความอร่อย” ของที่นี่ ซึ่งเต็มไปด้วยคุณภาพและการันตีความอร่อยจากคนที่มาเข้าพักและนักชิมต่างๆ ซึ่งห้องอาหารจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึง 10 โมงเช้าสำหรับบริการอาหารเช้า ส่วนอาหารกลางวันหรืออาหารเย็นจะเป็น All Day Dining ก็เริ่มตั้งแต่ 11 โมงเช้ายาวไปตลอดทั้งวันจนถึง 5 ทุ่มเลยทีเดียว
อาหารเช้าแบบเบาๆ ครับ
ในการเข้าพักครั้งนี้ เราก็ได้มาลองรับประทานอาหารค่ำที่ห้องอาหารเรือนแทมมารินแห่งนี้ด้วยเช่นกัน ห้องอาหารตกแต่งด้วยสไตล์ล้านนาเหมือนห้องพักเลยครับ โดยเมนูอาหารต่างๆ รังสรรค์ด้วยความใส่ใจและวัตถุดิบแบบออแกนิคจากธรรมชาติ ซึ่งที่นี่จะมีการปลูกพืชผักสวนครัวไว้ใช้ทำที่ห้องอาหารเองเกือบทั้งหมด เช่น พริก สะระแหน่ หรือพืชผักสวนครัวต่างๆ และทางโรงแรมก็ยังมีอาหารว่างให้บริการด้วยเช่นกัน
เราสั่งอาหารมาทั้งหมด 4 เมนู มีฉู่ฉี่ปลาบึก เมี่ยงใบชะพลูทูน่า ซี่โครงหมูซอสมะขาม กุ้งต้มยำแห้ง ซึ่งทั้ง 4 เมนูที่เลือกสั่งมาค่อนข้างมีความอร่อยในแบบของโรงแรมเลย รสชาติกลมกล่อม ซึ่งจากที่ได้ลองชิมเมนูข้างต้น เมนูที่อยากแนะนำให้ลองก็คือ เมี่ยงใบชะพลูทูน่า และ ซี่โครงหมูซอสมะขาม แถมทั้งสองเมนูนี้ก็อยู่ในลิสของ “10 จาน ตำนานแห่งความอร่อย” ด้วยนะ
กิจกรรม (Excursions & Activities)
ทาง “โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ เชียงใหม่” (Tamarind Village Chiang Mai) นั้น มีกิจกรรมและการบริการค่อนข้างหลากหลายมากๆ ซึ่งจะมีข้อเสนอทั้งการพาไปเที่ยวชมวัฒนธรรมต่างๆ ของเชียงใหม่ หรือ การพาไปเที่ยวชมเมือง หรือแม้กระทั่งการพาออกไปเที่ยวนอกเมืองก็มีให้บริการเช่นกัน ซึ่งทางโรงแรมสามารถซัพพอร์ตหรือปรับแต่งโปรแกรมตามที่เราอยากไปได้ด้วย โดยที่รูปแบบการท่องเที่ยวจะมีทั้งแบบครึ่งวัน และแบบเต็มวัน เราเลยรวบรวมกิจกรรมดีๆที่น่าสนใจจากทางโรงแรมมาฝากกันครับ
- เที่ยวชมเมืองด้วยสามล้อหรือจักรยานแบบครึ่งวัน โดยเส้นทางจะไปที่พระบรมราชานุสาวรีย์สามกษัตริย์ รวมไปถึงวัดพระสิงห์และวัดเจดีย์หลวง นอกจากนั้นก็จะมีตลาดวโรรส ซึ่งเป็นตลาดที่คนจะนิยมมาซื้อของฝาก ไม่ว่าจะเป็นแคปหมู หรือไส้อั่วต่างๆ สุดท้ายก็จะกลับโรงแรมเพื่อรับประทานกลางวัน
- เที่ยววัดสุเทพแบบครึ่งวัน เป็นสถานที่ๆ คนส่วนใหญ่ที่มาเที่ยวเชียงใหม่ต้องได้แวะไป โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจากที่โรงแรม ซึ่งถือว่าคุ้มค่ากับวิวที่สวยงามและอากาศที่กำลังดี ซึ่งเราสามารถไปต่อที่พระตำหนักภูพิงคราชนิเวศน์ได้ด้วย ถ้าเกิดว่าเวลายังเหลืออยู่ก็สามารถเพิ่มลงในทริปได้เช่นกัน
- เที่ยวดอยอินทนนท์แบบเต็มวันด้วยความสูงกว่า 2500 เมตรจากระดับน้ำทะเล เพียงแค่ 90 นาทีจากโรงแรม พร้อมทั้งดื่มด่ำกับอาหารกลางวันพื้นเมือง หลังจากนั้นสามารถชื่นชมกับบรรยากาศรอบๆ ที่สวยงามได้อย่างเต็มที่ตลอดทั้งวัน
- เที่ยวเชียงรายและสามเหลี่ยมทองคำแบบเต็มวัน อีก 1 สถานที่ๆ น่าสนใจกับการไปเที่ยวเชียงรายตลอดทั้งวัน ไปสามเหลี่ยมทองคำที่เป็นจุดชมวิว 3 ประเทศริมแม่น้ำโขง ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างประเทศไทย ลาว และเมียนมาร์ มาบรรจบกันโดยมีแม่น้ำโขงตัดผ่าน โดยบริเวณนี้ก็จะมีที่เที่ยวเช่นกัน เช่น หอฝิ่น พระเชียงแสนสี่แผ่นดิน หรือ พระพุทธนวล้านตื้อ
- กิจกรรมพับใบตองและกลีบบัวแบบครึ่งวัน ซึ่งกิจกรรมนี้มีหลากหลายแบบมาก และเราสามารถเลือกเข้าร่วมได้ตามวันที่เข้าพักเลย
- วันจันทร์ : ระบายสีร่มกระดาษสา
- วันอังคาร : การพับใบตองและกลีบบัว
- วันพุธ: ศิลปะการพับดอกไม้ใบเตย
- วันพฤหัสบดี : การร้อยมาลัย
- วันศุกร์ : การทำลูกประคบสมุนไพร
- วันเสาร์ : การตัดตุงกระดาษ
- ตุง คำภาษาเหนือสำหรับเรียก ธง นั้น ทำมาจากการตัดกระดาษสีต่าง ๆ ด้วยเทคนิกพิเศษ มักถูกใช้ประดับประดาบ้านเรือนและวัดวาอารามในช่วงเทศกาล ทั้งนี้ เพราะสำหรับชาวล้านนา ตุง เป็นสัญลักษณ์สื่อถึงบันได สำหรับดวงวิญญาณมนุษย์ให้ปีนป่ายขึ้นไปสู่สวรรค์นั่นเอง
- เดินทัวร์ “วิลเลจ วอล์ก”
- ทุก ๆ วันอาทิตย์ของสัปดาห์ เรายินดีพาท่านเดินเที่ยวชมโบราณสถาน วัดวาอาราม และตึกรามบ้านเรือนที่สวยงามรอบ ๆ บริเวณแทมมาริน วิลเลจ หรือ หมู่บ้านมะขามของเรา โดยการเดินเที่ยวชมจะเริ่มด้วยการถวายภัตตาหารที่วัดโบราณใกล้ๆ โรงแรม ต่อด้วยการเดินชมเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
Village Walk
ทางโรงแรมจะมีบริการพาเดินเที่ยวชมวัดวาอารามต่างๆ ที่อยู่ในบริเวณโรงแรม พร้อมทั้งถวายภัตตาหารเพลพระด้วย โดยสามารถจองได้ทุกวัน เริ่มต้นตั้งแต่เวลา 9 โมงครึ่งไปจนถึง 11 โมงเช้า โดยจะเริ่มจากสถานที่แรกสุดคือ “วัดดวงดี” ซึ่งเราจะได้ถวายภัตตาหารเพลพระที่วัดนี้เลย ทางโรงแรมจะเป็นคนเตรียมปิ่นโตภัตตาหารเพล แถมยังมีชุดพื้นเมืองพร้อมให้เราด้วย ขอบอกเลยว่าทางโรงแรมบริการให้ฟรี เรียกว่าเป็น Complimentary จากทางโรงแรม แต่เรื่องเวลาจะไม่สามารถเลื่อนได้ เนื่องจากว่าการถวายภัตตาหารเพลนั้นจะต้องทำภายใน 11 โมงเช้าเท่านั้น จากนั้นก็จะไปต่อกันวัดที่ 2 กันเลยนั่นก็คือวัดอินทขีลสะดือเมือง ซึ่งที่เรียกว่าสะดือเมืองก็เป็นเพราะว่า ตำแหน่งนี้เป็นจุดกึ่งกลางพอดีของคูเมืองเชียงใหม่พอดี
ถัดมาก็จะเป็นวัดสุดท้ายนั่นก็คือ วัดอุโมงค์มหาเถรจันทร์ เรียกได้ว่าเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดวัดนึงของเชียงใหม่เลยทีเดียว มีอายุมากว่า 700 ปี น่าจะเป็นวัดแรกๆ ที่เกิดขึ้นใกล้เคียงกับการสร้างเมืองเชียงใหม่ขึ้นมา ไฮไลท์ของวัดนี้คือ “หลวงพ่อสมใจนึก” ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่สามารถเปลี่ยนพระพักตร์ได้ถึง 9 แบบ ที่เกิดจากการใช้แสงมาตกกระทบผ่านรูปแบบต่างๆ ทำให้เราสามารถมองเห็นพระพักตร์เป็นรูปแบบหน้ายิ้ม หน้าเศร้า หรือหน้าขรึม และหน้าแบบอื่นๆ ได้ถึง 9 แบบ จากนั้นก็จะเป็นอันจบทริปกิจกรรม Village Walk จากทางโรงแรมนั่นเอง
ระหว่างทาง ทีมไกด์ที่พามาทำกิจกรรมนี้ เล่ารายละเอียดประวัติศาสตร์ของเมืองเชียงใหม่ และสถานที่ต่างๆ ที่ได้แวะไปมาได้อย่างสนุกและได้ความรู้เกี่ยวกับเชียงใหม่เยอะมากๆ เลยครับ สำหรับใครที่ได้มาพักที่ “โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ เชียงใหม่” (Tamarind Village Chiang Mai) นี้ ห้ามพลาดเด็ดขาด ได้ทั้งความรู้ ได้ทั้งทำบุญ แถมยังได้เที่ยวอีก
ชุมชน (Communities)
“โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ เชียงใหม่” (Tamarind Village Chiang Mai) ค่อนข้างให้ความสำคัญมากๆ กับการเติบโตไปพร้อมๆ กับชุมชน ซึ่งเป็นทิศทางการทำงานของทางโรงแรมทั้งหมดในเครือเลย โดยจะให้พนักงาน ชุมชน และบริษัทสามารถเติบโตไปพร้อมๆ กันได้ ไม่ว่าจะเป็น การอุดหนุนพืชผักสวนครัวจากชาวบ้าน เพื่อมาประกอบอาหารให้กับแขกผู้มาเยือน หรือเพื่อให้พนักงานได้มีกิจกรรมทำร่วมกันภายในสถานที่ ส่วนกิจกรรมอื่นๆ ที่ไปร่วมกับชุมชนก็จะมี ตัวอย่างเช่น กิจกรรมจันทร์หอมหอมแพง โดยจะมีกิจกรรมทุกวันจันทร์แรกของต้นเดือน หลังจากจบถนนคนเดินในวันอาทิตย์ ซึ่งกิจกรรมนี้ก็จะเป็นการขออาสาสมัครอยู่บริเวณนี้ เพื่อมาร่วมกันทำความสะอาดถนนราชดำเนินหลังจากจบถนนคนเดินในวันอาทิตย์ และสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความเหมาะสม หรือถ้าไม่ได้มีถนนคนเดิน ก็อาจจะเป็นปลูกต้นไม้ ตัดต้นไม้ในวัดรอบๆ ซึ่งไม่ได้โฟกัสแค่ถนนราชดำเนินเพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นการทำกิจกรรมในบริเวณคูเมืองทั้งหมดเลย
โปรโมชั่น (Promotions)
ตอนนี้ทางโรงแรมแทมมาริน วิลเลจ เชียงใหม่จะมีโปรโมชั่นที่เรียกได้ว่าสุดคุ้มเลย เมื่อจองห้องพักจำนวน 1 คืน ได้นอนฟรีเพิ่มอีก 1 คืนทันที และยังสามารถใช้ร่วมกับ “เราเที่ยวด้วยกัน” เพื่อใช้เป็นส่วนลดห้องพักได้อีกต่อนึง โดยโปรโมชั่นเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 64 ไปจนถึง 31 มีนาคม 64 เลยครับ
- Lanna Room จากราคาเต็ม 3,500 บาทต่อคืน จะเหลือเพียง 2,100 บาทต่อคืนเมื่อใช้ “เราเที่ยวด้วยกัน”
- Lanna Deluxe จากราคาเต็ม 4,500 บาทต่อคืน จะเหลือเพียง 2,700 บาทต่อคืนเมื่อใช้ “เราเที่ยวด้วยกัน”
ทั้งนี้ในโปรโมชั่นจะมีบริการรถรับส่งที่สนามบินเชียงใหม่ อาหารเช้า 2 ที่ และสำหรับเข้าพัก 2 คน ซึ่งต้องสำรองห้องผ่านทางอีเมลล์นี้ [email protected] เท่านั้นฮะ
ถ้าเพื่อนๆ ต้องการการพักผ่อนแบบเงียบสงบ ปราศจากสิ่งรบกวนใดๆ และยังได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ในขณะเดียวกันหากเราอยากจะออกไปเจอแสงสีหรือไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ก็สามารถออกไปได้เลย ให้ “โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ เชียงใหม่” (Tamarind Village Chiang Mai) เป็น 1 ในตัวเลือกดูครับ
สถานที่พักผ่อนที่เหมาะแก่การพักผ่อนแบบจริงจัง มีกิจกรรมแบบคนเมืองให้เลือกเยอะมากๆ พร้อมด้วย Facilities ที่ครบครัน ทั้งสระว่ายน้ำ สปา และอื่นๆ ด้วยราคาหลักพันนิดๆ ไปจนถึง 5,000 บาท ก็ถือว่าคุ้มค่ามากๆ แล้ว พร้อมด้วยการบริการจากพนักงานที่มีความใส่ใจแบบดีเยี่ยม เชื่อได้ว่าคุณจะไม่ผิดหวังกับที่นี่อย่างแน่นอนครับ
ช่องทางการติดต่อโรงแรม (Contact)
โรงแรมแทมมารินวิลเลจ
50/1 ถนน ราชดำเนิน ตำบล ศรีภูมิ
อำเภอเมือง เชียงใหม่ 50200
โทร : (+66) 053 418 896-9
โทรสาร : (053) 418 900
อีเมลล์ : [email protected]
ติดต่อแผนกจองห้องพัก
อีเมลล์ : [email protected]
โทร : (+66) 2 301 1861-3
โทรสาร : (+66) 2 399 1060