fbpx
รีวิวที่พัก-โรงแรม

หนีความวุ่นวายในเมือง มาพักผ่อนบนเกาะส่วนตัวริมแม่น้ำเจ้าพระยากับ “ศาลาบางปะอิน”

วันนี้เราพาทุกคนมาพักที่โรงแรมน้องใหม่ล่าสุดในเครือศาลากับ “ศาลา บางปะอิน” โรงแรมแห่งนี้ตั้งอยู่ที่อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยาครับ ผมใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ มาถึงที่นี่แค่ 50 – 60 นาทีเองฮะ พอมาถึงเราก็จะได้พบกับความเงียบสงบ รวมถึงวิถีชีวิตของชุมชนริมน้ำบางกระสั้นซี่งอยู่รายล้อมโรงแรมด้วย ที่นี่มีดีไซน์ร่วมสมัย แต่ยังคงหยิบยกบางเอกลักษณ์ของบ้านในชุมชนบริเวณนั้นมาประยุกต์ใช้ เช่นหลังคาทรงจั่ว ที่ทำให้โรงแรมมีความสวยงาม และกลมกลืนไปกับชุมชนโดยรอบได้เป็นอย่างดี



เมื่อมาถึงศาลา บางปะอินแล้ว เราก็จะพบกับล็อบบี้ที่ถูกจัดแต่งด้วยสีแดงเป็นหลัก ทั้งสถาปตยกรรมอาคาร และเฟอร์นิเจอร์ที่ตกแต่ง ดูโดดดก่นท่ามกลางธรรมชาติสีเขียว และผืนน้ำสีเทาๆ มากเลยฮะ ถ้าลองสังเกตล็อบบี้ดูจะเห็นว่าใต้ถุนของบ้านมีการยกให้สูงขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาน้ำท่วม (ถ้าหากน้ำท่วมล็อบบี้จะถูกย้ายไปอยู่ฝั่งเดียวกับฝั่งของห้องพัก การเดินทางเพื่อเช็คอิน เช็คเอ้าท์ โรงแรมจะมีเรือโดยสารอำนวยความสะดวก) มีเปลสานสีแดง สะท้อนวิถีชีวิตชาวบ้านในละแวกนั้นได้เป็นอย่างดี

เมื่อแจ้งเช็คอินเรียบร้อยแล้ว พี่ๆ พนักงานก็เตรียมต้อนรับเราด้วยขนมพื้นบ้านอย่างท๊อฟฟี่กะทิรสหวาน เสิร์ฟมาพร้อมกับน้ำกระเจี๊ยบรสเปรี้ยว ถือเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของโรงแรมเลยก็ว่าได้

มองจากล็อบบี้ไปเราจะเห็นเกาะส่วนตัวที่อยู่อีกฝั่ง ถูกขนาบข้างด้วยแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งฝั่งนั้นจะเป็นที่ตั้งของห้องพัก สระว่ายน้ำ ห้องอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ของโรงแรมทั้งหมด โดยมีสะพานโค้งสูงใหญ่สีแดงสะดุดตาเป็นจุดเชื่อมทั้ง 2 ฝั่งเข้าด้วยกัน พอเช็คอินเสร็จเรียบร้อย เราก็เดินข้ามสะพานสีแดงนี้ไปครับ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็น Signature ของโรงแรม และเป็นจุดที่หลายๆ คนต้องแวะถ่ายรูป ถือว่าเป็นภาพจำของโรงแรมเลยแหละครับ

ลงสะพานมาจะเจอกับลาน Tree Deck ซึ่งเป็นที่นั่งพักผ่อนทรงกลม สามารถมองออกไปยังวิวแม่น้ำสายเล็กได้อย่างสบายตา โดยมีต้นจามจุรีสูงใหญ่ 2 ต้นอยู่ตรงกลาง สร้างให้ความร่มรื่มให้กับบริเวณนี้ได้เป็นอย่างดี

ถัดมาจะเป็นสระว่ายน้ำส่วนกลางขนาดใหญ่ ที่ถูกดีไซน์ให้อยู่ขนานกับแม่น้ำ เพื่อให้ผู้เข้าพักห้องฝั่งสระว่ายน้ำได้ทั้งวิวสระว่ายน้ำและวิวของแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่างทางเดินไปยังแต่ละห้องพัก จะมีปลาตะเพียนสานห้อยตกแต่งอยู่เป็นระยะ เน้นย้ำเอกลักษณ์พื้นบ้านในสถานที่แสนจะโมเดิร์นแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี

ห้องพัก

ห้องพักของทางโรงแรมแบ่งออกเป็น 6 ประเภท โดยการตกแต่งภายในห้องแต่ละประเภทจะเน้นสีขาวตัดกับไม้สีอ่อน ให้ความรู้สึกอบอุ่น สบายตา สิ่งอำนวยความสะดวกที่มีก็จะเป็น อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ เครื่องชงกาแฟ หรือแม้แต่ลำโพงบลูทูธ ก็จัดเตรียมไว้ให้ในทุกห้องแบบพร้อมใช้งานเลย อีกหนึ่งสิ่งที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของที่นี่คือการวาง Lay Out ของห้องพักแต่ละประเภท ที่จะถูกจัดให้หันหน้าออกไปยังแม่น้ำแต่ละฝั่ง มอบความรู้สึกเป็นส่วนตัว สงบ และใกล้ชิดธรรมชาติให้แก่ผู้เข้าพักได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ห้อง River View Pool Villa และ River View Pool Villa Suite จะวางตำแหน่งให้ตั้งอยู่สลับกัน ทำให้บริเวณของห้องพักดูมีมิติมากยิ่งขึ้นด้วย

River View Deluxe Balcony

มีทั้งหมด 7 ห้องครับ ตั้งอยู่บนชั้น 2 ของอาคาร ถึงจะเป็นห้องที่มีขนาดเล็กที่สุด แต่ก็ยังสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและล็อบบี้ของโรงแรมได้ มีระเบียงให้ออกไปนั่งรับลมชมวิว รวมถึงมุมนั่งเล่นที่มีหน้าต่างบานใหญ่ ถ้าจะถ่ายรูปมุมนี้รับรองว่าแสงสวย เวลาถ่ายออกมาแสงแดดจากข้างนอกจะตกกระทบกับอาคาร สร้างเงาให้รูปของเราดูมีมิติมากยิ่งขึ้น แต่ว่าห้องนี้จะไม่สามารถเพิ่มเตียงเสริมได้นะ

Cr.รูปห้องพักจาก https://www.salahospitality.com/bang-pa-in/th

River View Deluxe Terrace

ห้องนี้จะอยู่ชั้น 1 โดยมีเพียง 3 ห้องเท่านั้น จุดเด่นคือส่วนของ Terrace ขนาดใหญ่ พร้อมโต๊ะและเก้าอี้ที่จัดเตรียมไว้ให้ผู้เข้าพักได้มานั่งชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้อย่างสะดวกสบาย

Cr.รูปห้องพักจาก https://www.salahospitality.com/bang-pa-in/th

River View Deluxe Pool Terrace

ห้องพักประเภทนี้มีทั้งหมด 4 ห้อง โดยความแตกต่างของห้องนี้กับห้อง River View Deluxe Terrace คือ Terrace ของห้องนี้จะติดกับสระว่ายน้ำหลักมากๆ ชนิดที่ว่าก้าวขาออกไปจาก Terrace ก็เป็นสระว่ายน้ำแล้วครับ และถัดไปจากสระว่ายน้ำก็จะเป็นส่วนของแม่น้ำเจ้าพระยาสายเล็กที่ห้องนี้สามารถดื่มดำกับธรรมชาติโดยรอบได้เช่นเดียวกัน

Cr.รูปห้องพักจาก https://www.salahospitality.com/bang-pa-in/th

River View Pool Villa

ถัดมาจะเป็นห้องที่มีคนเลือกเข้าพักเยอะที่สุด เนื่องจากมีสระว่ายน้ำส่วนตัวที่เป็นอีกหนึ่งมุมถ่ายรูปสุดฮิต จะมีทั้งหมด 6 ห้อง ซึ่ง 5 ห้องจะหันหน้าไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาสายใหญ่ และมีเพียงห้องเดียวเท่านั้นที่หันหน้าไปทางแม่น้ำเจ้าพระยาสายเล็ก และอยู่ติดกับห้อง SALA Signature แต่ห้องทั้งหมดได้ถูกดีไซน์ให้มีชานห้องพัก และกระจกบานใหญ่เต็มบานที่จะเป็นจุดเชื่อมสายตาไปยังวิวของแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นหัวใจของโรงแรมนี้

Cr.รูปห้องพักจาก https://www.salahospitality.com/bang-pa-in/th

River View Pool Villa Suite

มีทั้งหมด 3 ห้องด้วยกัน ซึ่งรูปแบบของวิลล่านี้จะเป็นวิลล่าชั้นครึ่ง สูง โปร่ง โดยด้านล่างเมื่อเปิดประตูเข้าห้องจะพบกับโซนนั่งเล่นขนาดใหญ่ และเมื่อขึ้นบันไดไปยังชั้นลอยจะพบกับบริเวณเตียงนอน วิลล่านี้มีสระว่ายน้ำส่วนตัว พร้อมชานห้องพักขนาดใหญ่ ที่พร้อมให้ผู้เข้าพักดื่มด่ำกับบรรยากาศธรรมชาติโดยรอบได้เช่นเดียวกับห้อง River View Pool Villa

Cr.รูปห้องพักจาก https://www.salahospitality.com/bang-pa-in/th

SALA Signature – 3 Bedroom Pool Villa

หรือเรียกว่าห้องวิลล่า 1 เป็นห้องประเภทสุดท้ายที่เราจะแนะนำ และเป็นห้องที่เราได้เข้าพักในรอบนี้ครับ เป็นวิลล่า 2 ชั้น ขนาดใหญ่ที่มี 3 ห้องนอน มีพื้นที่ใช้สอย 483 ตารางเมตร บริเวณภายในห้องมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ (ที่ขนาดก็ใหญ่มากๆ อีกเช่นกัน) หรือพื้นที่นั่งเล่นด้านนอก สามารถปรับเป็นโซนปิ้งย่างบาร์บีคิว หรือทานอาหารแบบส่วนตัวได้ ซึ่งต้องบอกว่าเมื่อเปิดประตูเข้ามาในห้องพักแต่ละห้องก็สร้างความประทับใจให้กับเราได้เป็นอย่างมาก เพราะการตกแต่งภายในที่สวยงาม ประกอบกับแสงแดดอ่อนๆ ยามบ่ายที่สาดผ่านผ้าม่านเข้ามายังตัวห้อง ทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลายและอบอุ่น รับรองเลยว่าคนที่เข้ามาพักจะต้องประทับใจกับบรรยากาศของห้องนี้อย่างแน่นอนครับ

อีกไฮไลท์หนึ่งของห้องนี้ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ วิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบ 180 องศา ซึ่งผู้เข้าพักจะได้เจอกับความสวยงามของเวิ้งแม่น้ำเจ้าพระยาทั้งสองฝั่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเย็น วิวที่ห้องนี้จะเห็นชัดที่สุดเพราะตำแหน่งของห้องอยู่ปลายแหลมของเกาะ ซึ่งหันหน้าไปทางทิศตะวันตกพอดี ทำให้ช่วงเย็นหรือช่วงพระอาทิตย์ตกดิน ห้องนี้จะมีวิวเป็นพระอาทิตย์ตก พร้อมกับแสงอาทิตย์ที่สะท้อนกับพื้นแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงท้องฟ้าไล่สีตามแสงของพระอาทิตย์ที่กำลังจะลวลับไป เป็นอีกหนึ่งวิวแสนโรแมนติกที่คุ้มค่าแน่นอนฮะ


สิ่งอำนวยความสะดวกและกิจกรรมอื่นๆ

เริ่มจาก Sala Bang Pa-In Eatery Bar ห้องอาหารของโรงแรมที่ตั้งอยู่บริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาสายหลัก มีที่นั่งทั้ง Indoor และ Outdoor ตกแต่งด้วยหลังคาทรงจั่ว เปิดให้บริการตั้งแต่ 7.00 – 21.00 น. โดยจะเป็นบริเวณสำหรับทาน Breakfast ในช่วงเช้าของผู้เข้าพัก นอกจากนี้ยังเปิดบริการให้คนนอกที่ไม่ได้พักสามารถมาแวะทานอาหารพร้อมบรรยากาศดีๆ ที่นี่ได้เช่นกัน

โดยมีเมนูอาหารให้บริการหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย หรืออาหารตะวันตก สำหรับอาหารเช้า ถ้าอยากทานเป็นอาหารไทยแนะนำโจ๊ก ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ไข่กระทะ หรือหมูปิ้ง หากอยากทานเป็นอาหารตะวันตก Egg Benedict หรือ French Toast ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจ นอกจากหน้าตาของอาหารจะสามารถทำคอนเทนต์ได้แล้ว ยังอร่อยด้วยครับ สำหรับสายเฮลตี้ก็มี Muesli Yogurt หรือ Smoothie Bowl ด้วยนะ

ในส่วนของอาหารเย็นเราขอแนะนำเป็นต้มยำกุ้งรสชาติจัดจ้าน หรือเนื้อผัดพริกไทยดำ หรือจะเป็นสเต๊กเนื้อต่างๆ ก็อร่อยไม่แพ้อาหารไทยเลย หากต้องการปิดท้ายด้วยของหวาน เราขอแนะนำเป็นขนมเปียกปูนสูตรพิเศษที่สีสันสวยงามรสชาติดีในการปิดท้ายมืออาหารฮะ

สำหรับใครที่มองหากิจกรรมภายในโรงแรม สิ่งหนึ่งที่เราอยากจะแนะนำคือ การล่องเรือชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา (แนะนำให้จองไปช่วงเย็นๆ) โดยมีเป็นแพคเกจให้เลือกตั้งแต่ 30 นาที 1,500 บาท หรือจะเพิ่มเวลาเป็น 1 ชั่วโมง ราคาก็จะอยู่ที่ 3,000 บาท ราคานี้ไม่รวมอาหารและเครื่องดื่ม ถ้าหากต้องการเพิ่มเซ็ตปิกนิกจะอยู่ที่ 950++ มีอาหารให้เลือกหลากหลายเช่นกัน แต่ต้องสั่งเครื่องดื่มเพิ่มเติมครับ

มาถึงอยุธยาทั้งที อีกกิจกรรมที่น่าสนใจคือการตักบาตรทางน้ำในช่วงเช้า โดยทางโรงแรมมีบริการจัดเตรียมเซ็ตของตักบาตรให้ด้วย ราคาอยู่ที่ 390 บาท ซึ่งการตักบาตรนั้นจะต้องแจ้งโรงแรมล่วงหน้า 1 วันเพื่อให้ทางโรงแรมได้ไปนิมนต์พระให้ครับ นอกจากนี้ยังมี Riverside Walk ไว้ให้ผู้เข้าพักได้เดินชมวิวรอบๆ เกาะด้วย เมื่อเดินไปเรื่อยๆ จะเจอกับ Herb Garden ซึ่งเป็นสวนที่โรงแรมปลูกผักออแกนิคไว้ สามารถสั่งเซ็ตปิกนิกมานั่งชิวบริเวณนี้ได้ด้วย หรือจะเข้า Cooking Class และ Cocktail School คลาสสอนสนุกๆ ให้ผู้ที่สนใจได้เรียนทำอาหารริมแม่น้ำ แต่ต้องจองล่วงหน้า 3 ชั่วโมงนะ

เนื่องจากในสถานการณ์โควิด In-Room Spa ของที่นี่จึงงดให้บริการไป แต่หากกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งก็ถือว่าเป็นอีกกิจกรรมที่น่าสนใจ โดยค่าบริการเริ่มต้นเพียง 750 บาทเท่านั้นครับ ในส่วนของโปรโมชันต้องบอกว่าตอนนี้ทางโรงแรมเข้าร่วมโครงการเราเที่ยวด้วยกันอยู่ ใครสนใจไปเช็กรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย คลิกดูโปรโมชัน

เราอาจจะเคยมีคำถามว่า ทำไมต้องมาที่ศาลาบางปะอิน เพราะที่นี่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยว ไม่ได้อยู่ในเมือง เป็นเขตชนบท แต่เมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ก็ต้องพูดเลยว่า คุณจะตกหลุมรักโรงแรมที่มีแม่น้ำเจ้าพระยาขนาบข้าง รายล้อมด้วยวิถีชีวิตของชาวท้องถิ่น และโอบล้อมไปด้วยธรรมชาติที่สวยงามแห่งนี้ได้ไม่ยาก เชื่อว่าหลายๆ คนที่เคยมา คงอยากกลับมาอีกสักครั้งอย่างแน่นอน

Related posts
รีวิวที่พัก-โรงแรม

รีวิว “รายาวดี รีสอร์ท” (Rayavadee Resort) ที่พักสุดหรู กับวิวหลักล้าน บรรยากาศส่วนตั๊วส่วนตัว

รีวิวที่พัก-โรงแรม

รีวิว “รายา เฮอริเทจ” (Raya Heritage) โรงแรมสไตล์ล้านนาริมแม่น้ำปิง เงียบสงบ เหมาะกับการพักผ่อน

รีวิวที่พัก-โรงแรม

รีวิว "โรงแรมแทมมาริน วิลเลจ เชียงใหม่" สถานที่พักผ่อนสบายๆ สไตล์ล้านนา กลางเมืองเชียงใหม่

รีวิวที่พัก-โรงแรม

รีวิว "Cape Fahn" ที่พักแบบส่วนตั๊วส่วนตัวววบนเกาะสมุย กับบริการทุกระดับประทับใจ (รึป่าว?) ฉบับโรงแรม 6 ดาว