สวัสดีเพื่อนๆ ชาว LivingPop ทุกคนนะครับ หลังจากที่เราพาทุกท่านไปรีวิวโรงแรม 5-6 ดาวมาติดๆ กันหลายโรงแรม ไปทั้งภาคเหนือที่ Raya Heritage และที่ Tamarind ไปแล้ว แล้วก็หนีไม่พ้นพาลงใต้ไปต่อกันที่ Cape Fahn และ Rayavadee
วันนี้จะมาพาทุกท่านไปเที่ยวทางภาคอีสานกันบ้างครับ กับโรงแรม “Isaan Isan Boutique Resort Khaoyai by Andacura”
ที่นี่เป็นบูทีครีสอร์ต ที่มาในธีมอีสาน แบบ อีส๊านอีสาน สมชื่อเลยครับ ออกตัวก่อนว่าผมเองเป็นคนโคราช เพราะฉะนั้นจะคุ้นชิ้นกับความเป็นอีสาน ความผ้าขาวม้า ความเป็นธีมแนวนี้ รวมไปถึงอาหารอีสานอยู่แล้ว แต่ที่โรงแรมนี้ทำได้เกินความคาดหมายมากครับ มีความอยู่กึ่งกลางระหว่างความบ้านทุ่ง และความทันสมัย
เรียกได้ว่าไม่ได้ดูแบบอีสานแล้วจะเก่าๆ บ้านๆ แต่มีความทันสมัยในแบบของเค้า ที่เดี๋ยวจะพูดถึงอีกทีข้างในนะครับ

Isaan Isan Boutique Resort Khaoyai by Andacura
เริ่มจากตรงทางเข้าก่อนเลย ตัวโรงแรมตั้งอยู่ใกล้มากๆ กับทางขึ้นอุทยานเขาใหญ่ (Google Maps) เหมือนจะกลั้นหายใจขับรถก็ขึ้นอุทยานได้เลย ใกล้จริงๆ รายล้อมด้วยร้านอาหารต่างๆ ระหว่างทางมามากมาย ขับรถตาม GPS มาเรื่อยๆ ก็จะเจอกับป้ายหน้าโรงแรมที่เป็นเอกลักษณ์มากๆเลยครับ สวยงามและโดดเด่นมากๆ ในละแวกนี้
ตัวโรงแรมรายล้อมด้วยภูเขาเกือบจะทุกด้าน อากาศเย็นลงทันทีที่เข้ามาในบริเวณโรงแรมเลยครับ อันนี้ดีมากๆ มีหมอกลงด้วยตอนเช้าๆ

บรรยากาศที่ล็อบบี้
เมื่อเข้ามาที่ล็อบบี้ก็จะเจอความเป็นอีสานเข้ามามากมาย การตกแต่งด้วยสีที่ฉูดฉาด ผ้าขาวม้า การใช้ไม้ไผ่ อุปกรณ์จักสานต่างๆ ก็จะมีให้เห็นเต็มไปหมด อีกทั้งยังมีผีตาโขน น่ารักๆ สามตัวยืนต้อนรับเราอยู่ที่ข้างหน้า น่ารักมาก เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญในการถ่ายรูปเลยครับ ข้างๆ ของล็อบบี้ก็มีน้องไก่ มีเล้าไก่ให้เด็กๆ ได้เดินมาดู ตอนเช้าไก่ในเล้าขันปลุกกันเต็มที่เลยด้วยครับ น้องไก่ก็น่ารักมากกก
กิจกรรมตักบาตรยามเช้า
พื้นที่ข้างหน้ายังเป็นพื้นที่ ที่ตอนเช้าของทุกวันจะมีการทำบุญตักบาตรกันด้วย อันนี้เป็นกิมมิคที่เก๋และมีสไตล์มากครับ ชอบมากๆ เหมือนเราไปทางเหนือที่ชอบมีตักบาตรตอนเช้า
ในวันที่ไป ผมมาตักบาตรคืนแรกเลยครับ ราคาต่อชุดก็ 199 บาทไม่แพง ได้ดอกไม้อาหาร เตรียมการต่างๆ พร้อมสรรพ ที่ชอบมากๆ คือมีพ่อแม่พาเด็กๆ มาสอนให้ตักบาตรเพียบเลย แล้วก็เด็กๆ ก็ดูจะชอบกันมากๆ ด้วย เป็นกิจกรรมกระชับมิตรในครอบครัวได้ดีมากๆ เลยครับ มีการแนะนำวิธีการตักบาตรต่างๆ ให้ด้วย เผื่อบางคนไม่คุ้นชินในการตื่นมาตักบาตรตอนเช้าอ่ะเนอะ
เมนูอาหารเช้า
พอเสร็จจากตักบาตรแล้ว ก็ไปต่อกันที่ห้องอาหารเช้า บอกเลยว่าผมไปนอนมาหลายโรงแรมที่เป็น Concept Hotel แต่ที่นี่ผมชอบแนวของอาหารเช้ามากๆ มันเป็นอาหารเช้าที่ผมเคยกินจริงๆ ตอนเด็กๆ เลยครับ เช่นหมูปิ้ง ปาท่องโก๋ ไข่ปิ้งชากาแฟ แบบที่เป็นชองแก้วต่อแก้ว มีสเตชั่นของการชงชากาแฟเป็นรถเข็นเหมือนในต่างจังหวัด น่ารักมาก อาหารเช้าอื่นๆ ก็มีครบครับ ทั้งขนมปัง นม น้ำผลไม้ สลัด ข้าวกับแกง อร่อยมากๆ เลยหลายเมนูเลยครับ มอบเยี่ยมให้เลย
ห้องพัก
มาถึงห้องพักกันบ้างครับ ห้องพักก็เก๋ไก๋มากเลย ผมจะมารีวิวห้องให้ดูทั้งหมด 2 Type กันนะครับ นั่นคือห้องแบบ Suit แบบ 2 เตียง และห้องแบบ Deluxe สองเตียง
เดี๋ยวไปดูที่ห้อง Suit กันก่อนเลยครับ เข้ามาที่ห้องพัก ที่ Facility ก็ครบครันครับ ห้องน้ำห้องนอนสะอาดและใหม่มาก น่าจะเป็นเพราะว่าเปิดมาไม่นานประมาน 2 ปีได้ ที่ห้องก็จะมีการตกแต่งด้วยธีมอีสานเหมือนเดิมทั้งเตียง เบาะ หมอน แม้แต่ของตกแต่งในห้องนอนก็สวยงามในแบบฉบับความเป็นอีสาน สิ่งที่ชอบอีกอย่างก็คือเรื่องของโต๊ะที่ตรงกลางห้องที่เป็นเหมือนโต๊ะญี่ปุ่นให้นั่งเล่นได้ และก็ยังเข้าธีมอยู่ ห้องมีความ Hommy ดูอบอุ่น เตียงนุ่มนอนสบาย ทีวีจอใหญ่ เน็ตแรง ครบครันทันสมัยมากครับ ผมนอนดูทีวีท้างวันเลย ที่ระเบียง
ห้องนี้จะติดน้ำเลยครับเป็นสระในโรงแรม มีน้องเป็ดน้องห่าน เดินไปเดินมา ว่ายไปว่ายมา แบบติดห้องเลยครับ น่ารักมาก
มาที่อีกแบบก็คือห้อง Deluxeครับผม ตัวของห้องไม่ได้ต่างกันมากครับ คล้ายๆกัน ขนาดเล็กลงมากว่านิดนึง ไม่ได้มีโต๊ะกลางห้องแล้ว แต่ที่น่าสนใจคือระเบียงที่ติดกับฝั่งสวนครับ ตื่นเช้ามาเห็นสวนสวยๆ สดชื่นมาก จิบกาแฟไปด้วย ฟังเสียงไก่ขัน นกร้อง ใกล้ชิดธรรมชาติมากเลยครับ
ตัวห้องก็ครบครันด้วย Facility ทั้งชุดคลุมลายผ้าขาวม้า ชากาแฟ น้ำดื่ม ตัวห้องยังใหม่และสะอาดมากครับผม
บรรยากาศ
ห้องอาหารที่ตกแต่งตามคอนเซ็ปต์ของทางโรงแรมได้ให้กลิ่นอายของความเป็นอีสาน โดยสามารถนั่งได้ทั้งด้านในและด้านนอก ซึ่งด้านนอกจะสามารถรับลมเย็นและซึมซับบรรยากาศของธรรมชาติได้เป็นอย่างดี พร้อมทั้งอาหารพื้นเมืองหลากหลายรูปแบบให้เลือก ซึ่งทำจากวัตถุดิบที่สดใหม่ผ่านกรรมวิธีที่พิถีพิถันอีกทั้งการจัดจานและเลือกใช้ภาชนะที่บอกได้เลยว่าใครๆ เห็นก็ต้องร้อง “ว้าว…” จึงการันตีคุณภาพและความอร่อยได้อย่างแน่นอน จุดเด่นของห้องอาหารที่นี่อีกอย่างก็คือหนังกลางแปลงและดนตรีสด
ซึ่งทุกๆ วันตอนเย็นจะมีการฉายหนังกลางแปลงที่สนามติดกับห้องอาหารซึ่งเราสามารถสั่งอาหารไปนั่งทานที่สนามพร้อมกับชมหนังกลางแปลงไปได้ด้วย สบายสุดๆ ไปเลย และหลังจากที่หนังกลางแปลงจบก็จะมีดนตรีสดมาร้องให้ฟังกันต่ออีกบอกได้เลยว่า เอนเตอร์เทนกันแบบจัดเต็มกันเลยทีเดียว
และส่วนที่พลาดไม่ได้ก็คืออาหารนั่นเอง
ปลากะพงทอดน้ำปลา ตัวปลาสดมากๆ เนื้อหวาน เสริฟคู่กับน้ำยำซึ่งมีรสชาติที่กลมกล่อม พอทานคู่กัน อร่อยลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อเลย
หมูสามชั้นทอดปลาร้า หมูทอดได้กรอบนอกและนุ่มใน กัดเข้าไปมันฉ่ำมาก รสชาติไม่เค็มจนเกินไป พอจิ้มกับน้ำจิ้มแจ่ว บอกเลยว่าอร่อยมากๆ
ลาบเป็ด รสจัดจ้านใช้ได้เลย แต่จุดเด่นของเมนูนี้คือเสริฟมาบนกระบอกไม้ไผ่ เป็นการจัดจานที่ให้เต็ม 10 ไปเลย
ต้มแซ่บหมู รสชาติแซ่บได้สมกับเป็นอาหารอีสานแท้ๆ เลย บอกเลยว่าเด็ดมากๆ
จิ้มจุ่ม เสริฟมาในหม้อดินและเตาถ่าน ทำให้ได้บรรยากาศของความเป็นอีสานสุดๆ ยังมีทั้งหมู กุ้ง ปลา ปลาหมึก และผักต่างๆ อีก บอกได้เลยว่าครบเครื่องมากๆ
ทิ้งท้าย
ถ้าคุณกำลังมองหาที่พักสุดชิลล์ สบายๆ ที่ไม่ไกลจากกรุงเทพ และเป็นสไตล์ที่แตกต่างออกไปจากโรงแรมปกติ อยากได้ความเก๋ ความอีสานพื้นบ้านที่อาหารอร่อย บรรยากาศดี ที่พักใหม่และบริการด้วยรอยยิ้มประทับใจ อยากฝากให้โรงแรม Isaan Isan Boutique Resort Khaoyai by Andacura เป็นอีกหนึ่งทางเลือก ด้วยการเดินทางที่สะดวก ราคาต่อคืนที่สมเหตุสมผล พลาดไม่ไ้ด้เลยทีเดียวที่จะให้โรงแรมนี้เป็นหนึ่งในโรงแรมที่พวกเรา LivingPop ชื่นชอบครับ 🙂
