เมื่อพูดถึงไม้อวบน้ำ หรือ ซัคคิวเลนท์ (Succulent) หลายๆ คนอาจคุ้นชินกับชื่อที่เรียกว่า “กุหลาบหิน” แต่จริงๆ แล้ว ในโลกของไม้อวบน้ำนั้น มีมากกว่ากุหลาบหินครับ ไม้อวบน้ำเป็นพืชที่มีความเท่อยู่ในตัวเอง มักพบเห็นถูกปลูกอยู่ในกระถางเล็กๆ ตั้งประดับตามมุมต่างๆ สร้างความสวยแบบน้อยแต่มาก ด้วยคุณสมบัติเฉพาะตัวที่มีรูปร่างโดดเด่น แปลกตา ราคาไม่สูง ค่อนข้างเลี้ยงง่าย การดูแลไม่ซับซ้อนยุ่งยากเท่าพันธุ์ไม้อื่นๆ จึงเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย และเข้าไปอยู่ในใจนักเลี้ยงต้นไม้ไซส์เล็กไม่แพ้แคคตัสหรือไม้ใบชนิดอื่นๆ เลย

วันนี้สวนหลังบ้าน LivingPop จะพาเพื่อนๆ ไปรู้จักกับ 10 ไม้อวบน้ำสุดฮิต ติดเทรนด์ เลี้ยงง่าย เหมาะกับมือใหม่รักษ์โลกที่กำลังมองหาต้นไม้น่ารักๆ เล็กๆ ดูแลง่าย ซักต้นมาประดับบ้าน ถ้าเพื่อนๆ อยากรู้ว่ามีสายพันธุ์ไม้อวบน้ำมีอะไรบ้าง ตามผมมาได้เล้ยยยยยย!
1. เอชิวาเลีย หรือ “กุหลาบหิน”
(Echeveria)

เริ่มต้นแรกด้วยสายพันธุ์สุดฮิต มีชื่อเรียกง่ายๆ ติดปากว่า “กุหลาบหิน” ด้วยลักษณะพิเศษของลำต้นที่คล้ายดอกกุหลาบ เป็นไม้อวบน้ำที่เลี้ยงกันอย่างแพร่หลายในเมืองไทย มีลักษณะใบหนา สีเขียวฟ้าอมคราม เรียงซ้อนขึ้นสับหว่างกันฟอร์มเป็นลำต้น คล้ายการเรียงซ้อนกันของกลีบกุหลาบ มีทั้งใบกลม ใบแหลมยาว แล้วแต่สายพันธุ์ ขยายพันธุ์ง่ายๆ ด้วยวิธีการตัดชำหน่อ หรือวางใบ การดูแลก็ไม่ยากครับ เจ้ากุหลาบหินชนิดนี้ชอบแสงแดดอ่อนๆ ตอนเช้า ไม่ต้องการน้ำมาก เพราะจะทำให้ลำต้นเน่าได้ รดน้ำเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้งก็พอแล้ว ข้อควรระวังระหว่างรดน้ำคือ อย่าให้มีน้ำขังที่ใบ เพราะจะทำให้กุหลาบหินเกิดโรคและตายได้
2. ฮาโวร์เทีย
(Haworthia)

“ฮาโวร์เทีย” เป็นอีกหนึ่งสกุลไม้อวบน้ำที่มีหลากหลายทางสายพันธุ์มากๆ ครับ ด้วยเอกลักษณ์สุดโดดเด่นเฉพาะตัว รูปทรงสวยงาม ต้นสั้นๆ ใบกลมๆ เรียงซ้อนกัน ใบคล้ายกับว่ามีน้ำอยู่ในนั้น ส่วนสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากในเมืองไทย ก็คือ Haworthia Cooperi Var. Obtusa หรือ หยดน้ำ ซึ่งมีทั้งสีเขียว หรือสีเขียวเข้มอมดำ เรียก “หยดน้ำดำ” หรือมีสีด่างเหลือง “เรียกหยดน้ำด่าง” ชื่อหยดน้ำแต่ก็ไม่ได้ชอบน้ำนะครับ รดน้ำเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้งเท่านั้น ชอบแสงแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้า และค่อนข้างชอบดินที่ระบายอากาศและน้ำได้ดี เพราะจะช่วยให้รากเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่ และส่งให้ลำต้นอวบอ้วน ใบใสน่าจับน่าบีบ แต่อย่าบีบแรงนะครับ ใบอาจแตกและเน่าได้
3. ซีดัม
(Sedum)

“ซีดัม” เป็นไม้อวบน้ำที่มีรูปร่างน่ารัก มีขนาดลำต้นเล็ก เหมาะกับการนำมาปลูกเพื่อประดับตกแต่ง หรือปลูกในพื้นที่จำกัด ลักษณะใบสีเขียวมินต์ หนา กลมมน คล้ายเม็ดข้าว มักให้ดอกช่วงฤดูร้อน มีหลากหลายสายพันธุ์ นิยมนำมาตกแต่งตามมุมห้อง ร้านกาแฟ จัดสวนถาด หรือปลูกรวมกับไม้อื่นๆ ได้ครับ เนื่องจากค่อนข้างทนและไม่ต้องการการดูแลมาก ซีดัมแตกต่างจากไม้อวบน้ำชนิดอื่นตรงที่มันค่อนข้างชอบอากาศเย็นและแห้ง รดน้ำเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ก็เพียงพอแล้วฮะ
4. ยูโฟเบีย ซูโด โกลโบซ่า
(Euphorbia pseudo globosa)

“ยูโฟเบีย ซูโด โกลโบซ่า” หรือคนไทยเรียกว่า “ยูโฟเบียนักกล้าม” อีกหนึ่งสกุลไม้อวบน้ำสุดฮิตติดตลาด ด้วยลักษณะพิเศษที่มีการแตกหน่อที่ดูคล้ายนักกล้ามกำลังเบ่งกล้าม สามารถฟอร์มกอเป็นพุ่มได้ ดูแลง่ายเหมือนไม้อวบน้ำทั่วไป ใช้ดินที่มีส่วนผสมของเครื่องปลูกที่โปร่ง หรือใช้ดินปลูกแคคตัสก็ได้ครับ รดน้ำเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
5. ไลทอปส์
(Lithops)

“ไลทอปส์” สายพันธุ์ไม้อวบน้ำสุดเท่ มีชื่อเรียกหลายชื่อ ไม่ว่าจะเป็น ศิลาดล, หน้าหิน, ก้อนหินมีชีวิต, Living Stone, Stone Face ฯลฯ ด้วยลักษณะพิเศษคล้ายกับก้อนหิน เป็นต้นทรงกระบอก มีเพียง 2 ใบ หน้าตัดด้านบนของใบเป็นรูปรีๆ คล้ายเมล็ดกาแฟ หรือคล้ายไต แล้วแต่จะจินตนาการครับ มีหลายลวดลายแตกต่างกันไปคล้ายก้อนหินเล็กๆ โคนรากฝังอยู่ใต้ดิน โคนใบเชื่อมติดกัน ใบมีหลายสี ได้แก่ สีเขียว สีขาวหม่น สีครีม สีน้ำตาลอมแดง สีเขียวอมน้ำตาล สีน้ำตาลเข้ม เป็นต้น ใบจะแตกเป็นยอดใหม่ ช่วงปลายฝนต้นหนาว ออกดอกเป็นดอกเดี่ยวๆ แทรกขึ้นมาระหว่างซอกใบ มีทั้งดอกสีเหลือง หรือสีขาว การเลี้ยงก็ไม่ยากฮะ ไลทอปส์ไม่ต้องการอะไรนอกจากน้ำ และจะให้น้ำเมื่อสังเกตว่าลำต้นมีรอยเหี่ยวย่นเท่านั้นครับ
6. กุหลาบแพนด้า
(Panda Plant/Kalanchoe tomentosa)

“กุหลาบแพนด้า” เป็นอีกหนึ่งไม้อวบน้ำในตระกูลกุหลาบหิน ลักษณะลำต้นสูง ใบหนาเรียวยาว สีใบจะออกเขียวอมฟ้าอ่อนๆ มีขนสีเงิน และที่พิเศษคือมีขนสีน้ำตาลที่ขอบใบ มองด้วยจินตนาการจะคล้ายลายของหมีแพนด้า วิธีการเลี้ยงคล้ายกับไม้อวบน้ำทั่วไป ชอบดินโปร่งร่วนที่ระบายน้ำได้ดี รดน้ำเพียงสัปดาห์ละ 1 ครั้งหรือเมื่อดินแห้งก็เพียงพอครับ
7. เฟเนสตราเรีย
(Fenestraria)

“เฟเนสตราเรีย” ไม้อวบน้ำทรงแท่ง รูปทรงเก๋ๆ คล้ายขนมแท่งป้อกกี้ ลักษณะลำต้นเป็นทรงพุ่มเตี้ย มักปลูกรวมๆ กันให้ดูเป็นกอ เฟเนสตราเรียเจริญเติบโตได้ดีในดินปนทราย ไม่ค่อยชอบแสงแดดจัด แต่ก็ต้องการแสงแดดรำไรตลอดทั้งวัน ไม้อวบน้ำชนิดนี้ค่อนข้างชอบน้ำ รดน้ำวันละ 1 ครั้ง หรือ 1-2 วัน/ครั้งครับ
8. แอนนาแคมเซโรส์ รูเฟสเซนส์ หรือ ลูกชุบ
(Anacampseros Rufescens)

“แอนนาแคมเซโรส์ รูเฟสเซนส์” เจ้าไม้อวบน้ำชนิดนี้ มีชื่อไทยน่ารักๆ ว่า “ลูกชุบ” ด้วยลักษณะพิเศษที่มีความหลากสีสันคล้ายขนมลูกชุบ จึงเป็นที่มาของชื่อนี้ครับ ลูกชุบมักจะมีสีชมพูแซมกับสีเขียวบริเวณใบ และที่พิเศษคือใบสามารถเปลี่ยนเป็นสีแดงอมชมพูได้เมื่อนำไปโดนแสงแดดเยอะๆ การดูแลก็ไม่ยากเลยครับ รดน้ำ 1-2 ครั้ง/สัปดาห์ก็เพียงพอแล้ว
9. สร้อยไข่มุก
( String of pearls)

“สร้อยไข่มุก” เป็นสกุลไม้อวบน้ำมีความพิเศษที่เลื้อยได้ นิยมปลูกเป็นพุ่มหรือปลูกในกระถางแล้วนำมาแขวนให้ใบย้อยลงมาคล้ายกับสายสร้อย ลักษณะใบจะมีความกลมคล้ายไข่มุก เรียงต่อๆ กัน นิยมปลูกประดับตกแต่ง ไม้อวบน้ำสกุลนี้นิยมปลูกในร่ม เพราะไม่ชอบแสงแดดโดยตรงครับ หากได้รับแสงเยอะเกินไป ใบจะพับเหี่ยว และให้รดน้ำวันละ 1 ครั้งฮะ
10. ฟัวคาเรีย
(Faucaria)

“ฟัวคาเรีย” อีกหนึ่งสกุลไม้อวบน้ำที่มีลักษณะพิเศษคือคล้ายกับเสือกำลังอ้าปาก เลยมีชื่อเรียกเก๋ๆ ในเมืองไทยว่า “กรามเสือ” ออกดอกสีเหลือง ตรงกลางบริเวณที่เสืออ้าปาก เท่มั๊ยล่ะครับ ฟัวคาเรียค่อนข้างชอบอากาศเย็นและชอบแสงแดดมาก แต่ไม่ชอบความชุ่มน้ำ ต้องระวังไม่ให้เจ้ากรามเสือโดนฝน เพราะจะทำให้เน่าได้ง่ายครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ “10 สายพันธุ์ไม้อวบน้ำยอดฮิต” นอกจากจะให้ความสวยงามแล้ว การดูแลก็ไม่ยากอย่างที่หลายคนเข้าใจเลยใช่มั๊ยล่ะครับ แถมยังประหยัดพื้นที่ในการปลูกด้วยนะ เพราะเจ้าไม้อวบน้ำเหล่านี้ต้นจะไม่ใหญ่โตมาก ที่สำคัญคือราคาไม่แพง หาซื้อมาเลี้ยงได้ง่ายๆ ตามท้องตลาดทั่วไปเลย ใครที่มีพื้นที่จำกัด แต่ก็ต้องการธรรมชาติและต้นไม้สีเขียว ลองไปหามาเลี้ยงกันได้ฮะ แล้วมาพบกับสวนหลังบ้าน LivingPop ได้ใหม่ในบทความหน้าน้าาาาา 😉
