วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปดูคอนโดในย่านสุขุมวิทตอนปลายกันครับ เป็นคอนโดใหม่ของทาง Risland กับโครงการ “Skyrise Avenue Sukhumvit 64” จริงๆ แล้วโครงการมีพื้นที่ใหญ่กว่า 22 ไร่ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 เฟส เฟสแรกจะมี 4 อาคาร เป็นอาคาร High Rise ทั้งหมด ด้านหน้าโครงการจะเป็นตึกแถว ด้านล่างทำเป็นร้านค้าและด้านบนเป็นออฟฟิศ จะมีร้านกาแฟอย่าง Casa Lapin ด้วย โครงการนี้มีการออกแบบที่น่าสนใจครับ มีการผสมผสานระหว่าง Modern กับความเป็น Minimal มีความเรียบง่าย ไม่เยอะ เน้น Space และการใช้งานเป็นหลัก
Risland คือใคร?
Risland เป็นกลุ่มพัฒนาอสังหาฯ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยพัฒนาโครงการในด้านที่อยู่อาศัย อาคารพาณิชย์ และการบริหารจัดการอาคาร แต่ไม่ได้ลงทุนในฮ่องกงอย่างเดียวนะครับ ยังมีสหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ อินเดีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และไทยด้วย ถ้าหากยังไม่คุ้นชื่อกับ Risland ก็ไม่ต้องแปลกใจ เพราะว่าทาง Risland Thailand เพิ่งจะเปิดตัวหลายๆ โครงการไปในปี 2018 จนตอนนี้ 2020 มีโครงการในมือทั้งหมด 8 โครงการด้วยกัน คือ Artisan รัชดา, Lake Serene Rama ll, CLOUD ทองหล่อ-เพชรบุรี, The Livin เพชรเกษม, CLOUD Residence สุขุมวิท 23, Skyrise Avenue สุขุมวิท 64 และ The Livin รามคำแหง
จุดเด่นของโครงการ
จากการที่ได้ไปร่วมงานเปิดตัว ฟังแนวคิดของโครงการ และดูห้องตัวอย่าง โดยส่วนตัวค่อนข้างประทับใจ และเห็นถึงความน่าสนใจหลายอย่างเลยครับ ถือว่าเป็นโครงการนึงที่มีความแตกต่างจากคอนโดใหม่ที่เปิดตัวในช่วงนี้พอสมควร เรียกได้ว่ามีเอกลักษณ์ และ Character มากๆ
ยกที่จอดรถลงไปไวใต้ดิน
ส่วนใหญ่โครงการ High Rise ที่มีพื้นที่จำกัดจะสร้างลานจอดรถไว้รวมกับอาคารที่พักอาศัยใช่มั๊ยครับ หรือถ้าบางโครงการมีพื้นที่เหลือก็จะสร้างอาคารจอดรถเพิ่ม แต่สำหรับ “Skyrise Avenue สุขุมวิท 64” จะย้ายที่จอดรถเอาไปไว้ใต้ดินทั้งหมด มี 2 ชั้น ซึ่งทั้ง 4 อาคาร ที่จอดรถไม่เชื่อมต่อกัน แต่ละอาคารก็จะมีพื้นที่ของใครของมัน โดยทั้งโครงการสามารถจอดรถได้ทั้งหมด 46% (ไม่รวมซ้อนคัน) มีพื้นที่จอดบนดินบ้างเล็กน้อย เผื่อผู้ที่มาใช้บริการร้านกาแฟของ Casa Lapin และพนักงานออฟฟิศ สำหรับการย้ายที่จอดรถลงไป เพราะทาง Risland ต้องการเน้นความสวยงามของตัวอาคาร จะเห็นได้เลยว่าไม่ต้องออกแบบในส่วนของพื้นที่จอดรถให้สวยหรือกลืนไปกับตัวอาคาร ไม่ต้องมีไม้ระแนงมากั้น ไม่ต้องมีกำแพงต้นไม้มาทำให้ดูเขียว ซึ่งมันทำให้อาคารดูเป็นแท่งเดียวกันที่มีดีไซน์ลื่นไหลไปตั้งแต่ชั้นล่างจรดดาดฟ้า จากรูปด้านล่างจะเห็นว่ามีอาคารทั้งหมด 7 อาคารด้วยกัน แต่เฟสแรกจะสร้าง 4 อาคารด้านใน ส่วน 3 อาคารด้านหน้ายังไม่สร้างครับ
Facilities และพื้นที่ส่วนกลางอยู่บนดินทั้งหมด
ปกติโครงการ High Rise ก็จะมี Facilities ต่างๆ อยู่บนอาคาร จะอยู่ชั้นไหนก็ว่าไป แต่ว่าที่นี่แยกอาคารพักอาศัยกับพื้นที่ส่วนกลางชัดเจนเลยครับ โดยอาคารพักอาศัยที่แบ่งเป็น 4 อาคาร จะมี Lobby ที่เป็นพื้นที่ส่วนกลาง มาชั้นแรกก็มีห้องพักอาศัยแล้ว ถ้าอยู่ชั้น 1 ที่นี่จะได้วิวสวน วิวต้นไม้ เป็นวิวพื้นที่สีเขียวที่อยู่ระนาบเดียวกับเราพอดี ส่วน Facilities ทั้งหมดนั้นจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับอาคารที่พักอาศัย อารมณ์เหมือนสวนสาธารณะที่มีทั้งสวน และยิม โดยโครงการจะแบ่งออกเป็น 4 โซนตามจำนวนอาคารที่พักอาศัยครับ Facilities ของที่นี่จะมี Co-working Space, Co-kitchen Space, Podcast Station, Laundry Room, Fitness, Family Area, Sauna&Steam, Basketball Court (แบบครึ่งสนาม), Library Room และสระว่ายน้ำ
การออกแบบของที่นี่แทบไม่มีเหลี่ยมแหลมๆ เลย ทุกสิ่งอย่างล้วนแต่โค้งมน แถมพื้นที่สวนก็ไม่ได้ออกแบบมาเป็นระนาบเดียว มีการเพิ่มขั้นบันไดเข้าไป ทำให้ลูกบ้านได้มีพื้นที่นั่งเล่นเยอะขึ้น
ที่นี่ค่อนข้างให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียว เพราะชั้นล่างก็เปรียบเสมือนกับสวนสาธารณะที่ลูกบ้านได้มาทำกิจกรรมต่างๆ ให้ความรู้สึกเหมือนเราออกจากบ้านมาเพื่อพบพื้นที่สีเขียว เมื่อเราดื่มด่ำกับกิจกรรมต่างๆ แล้ว ก็กลับเข้าห้องที่เดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึง ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางเพื่อไปหาสวนสาธารณะที่อื่นเลยครับ
สระว่ายน้ำค่อนข้างเปิดโล่ง มีสระเด็กอยู่ข้างๆ ถ้าชอบนั่งแบบ Outdoor ก็จะมีเก้าอี้ริมสระให้ด้วย แต่ถ้าชอบนั่งแบบ Indoor อยู่ในห้องแอร์ก็มีพื้นที่ให้นั่งเล่นด้านในเช่นกัน
ยิ่งมองภาพจากมุมสูงยิ่งเห็นได้ชัดเลยว่าการออกแบบตัวอาคารพื้นที่ส่วนกลางยาวไปจนถึงสวน มีแต่ขอบของความโค้งมน ให้ความรู้สึกนุ่มนวลและอ่อนโยน
ข้อมูลโครงการ
| เนื้อที่โครงการ : | ประมาณ 22 ไร่ |
| จำนวนห้องพัก : | 1,961 ยูนิต |
| รูปแบบโครงการ : | High Rise 4 อาคาร เป็นอาคาร 46 ชั้น 1 อาคาร / 48 ชั้น 2 อาคาร / 49 ชั้น 1 อาคาร |
| ลิฟต์ : | ลิฟต์โดยสารอาคารละ 3 ตัว และเซอร์วิสลิฟต์อาคารละ 1 ตัว |
| ค่าส่วนกลาง : | 60 บาท/ตารางเมตร/เดือน |
| ค่ากองทุน : | 600 บาท/ตารางเมตร |
| ที่จอดรถ : | จอดชั้นใต้ดิน 46% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) |
| Facility : | Lobby, Co-working Space, Co-kitchen Space, Podcast Station, Laundry Room, Fitness, Family Area, Suana&Steam, Basketball Court (Half Court), Swimming Pool และ Library Room |
| แบบห้อง : | 1 Bedroom ขนาด 28-35 ตารางเมตร 2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 45 ตารางเมตร 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 55 ตารางเมตร 3 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 73 ตารางเมตร 3 Bedroom 3 Bathroom ขนาด 87 – 100 ตารางเมตร Loft ขนาด 35 – 55 ตารางเมตร |
| ราคา : | ราคาเริ่มต้น 2.49 ล้านบาท |
| ราคาเฉลี่ย : | ประมาณ 100,000 บาท/ตารางเมตร |
| คาดว่าจะแล้วเสร็จ : | ไตรมาสที่ 2/2567 |
ทำเลโครงการ
ตัวโครงการจะอยู่ห่างจาก BTS สถานีปุณณวิถีประมาณ 450 เมตร ไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่ แต่ก็เข้าซอย 64/2 มาเล็กน้อย เป็นซอยที่อยู่ตรงข้ามกับ Wizdom 101 True Digital Park พอดี อยู่ห่างกันประมาณ 200 เมตร ใครทำงานที่นี่ก็เดินทางง่ายมากครับจากโครงการมา ข้ามสะพานลอยก็ถึงแล้ว เป็นทั้งแหล่งทำงาน แหล่งของกิน แหล่งพบปะสังสรรค์กับเพื่อน แถมยังใกล้ไบเทค บางนาด้วย ในอนาคตก็จะมี Bangkok Mall อยู่ตรงข้ามไบเทค หรือจะขับรถไป Mega บางนา, Central บางนา, Century The Movie Plaza, Tesco Lotus อ่อนนุช หรือ Gateway เอกมัยก็ไม่ไกลครับ แม้ว่าจะไม่ได้อยู่ในเมืองมากนัก แต่สิ่งแวดล้อมโดยรอบก็มีครบครันไม่แพ้กัน
แปลนโครงการ
จากแปลนโครงการจะเห็นว่าห้องพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 เลย ห้องสไตล์ Loft ก็จะอยู่ที่ชั้นนี้ด้วย ห้องแบบนี้ไม่ได้มีเยอะนะครับ เพราะไม่ได้เน้นเท่าไหร่ ตั้งแต่ชั้น 3 – 45 จะมีห้องพักอาศัยชั้นละ 11 ยูนิต ส่วนชั้น 46 – 48 จะมีชั้นละ 5 ยูนิต (3 ชั้นบนสุดของแต่ละตึกจะมีชั้นละ 5 ยูนิตเหมือนกันหมด)
แปลนห้อง
แปลนห้องของโครงการจะมีหลายแบบ แต่จะมี 4 แบบหลักๆ ให้เลือก คือ Type A 1 Bedroom ขนาด 28 ตารางเมตร Type B 1 Bedroom ขนาด 35 ตารางเมตร Type C 2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 45 ตารางเมตร และ Type D 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 55 ตารางเมตร โดยทั้ง 4 ห้องที่กล่าวมานั้นมีห้องตัวอย่างให้ดู และแน่นอนว่าทาง LivingPop ก็ได้เก็บภาพมาฝากเพื่อนๆ ทั้ง 4 ห้องด้วยเช่นกัน
Type A
1 Bedroom 28 ตารางเมตร
Type C
2 Bedroom 1 Bathroom
45 ตารางเมตร
Type B
1 Bedroom 35 ตารางเมตร
Type D
2 Bedroom 2 Bathroom
55 ตารางเมตร
ห้องตัวอย่าง
สำหรับห้องตัวอย่างจะมีให้ดู 4 ห้องด้วยกัน คือ 1 Bedroom ขนาด 28 ตารางเมตร, 1 Bedroom ขนาด 35 ตารางเมตร, 2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 45 ตารางเมตร และ 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 55 ตารางเมตร ทุกห้องจะขายแบบ Fully Fitted โดยจะให้ชุดครัว พร้อมเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจาน ส่วนห้องน้ำก็มีอ่างล้างหน้า กระจกบานโค้ง โถสุขภัณฑ์ ห้องอาบน้ำพร้อมฉากกั้นกระจก Digital Door Lock ตู้เสื้อผ้า และตู้รองเท้า ที่สำคัญคือให้ผนังฉาบเรียบทาสีทุกห้องด้วย
1 Bedroom ขนาด 28 ตารางเมตร
ห้องนี้จะเป็นห้องขนาดเล็กที่สุดของโครงการ แต่สัดส่วนที่ออกแบบมานั้น ไม่ได้ทำให้ห้องดูเล็กเลย แถมยังได้ครัวปิดด้วยนะ ถ้าเปิดประตูเข้ามาเราก็จะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน เป็นห้องนั่งเล่นที่ค่อนข้างกว้างนะครับ สามารถวางโซฟาขนาดยาวได้เลย ความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.65 เมตร เป็นความสูงที่ทำให้ห้องดูโปร่ง ไม่อึดอัด
ห้องนอนวางเตียงขนาดใหญ่ได้ ด้านข้างจะเป็นตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการ Built-in มาให้แล้ว แต่พื้นที่สำหรับโต๊ะเครื่องแป้งอาจจะไม่พอนะครับ
โต๊ะเครื่องแป้งสามารถนำมาวางไว้ตรงนี้แทนได้ครับ เป็นช่องว่างตรงกลางระหว่างห้องน้ำกับห้องครัว
1 Bedroom ขนาด 35 ตารางเมตร
ห้องนี้ขนาดจะใหญ่ขึ้นมาหน่อย บานตู้ที่เปิดเข้ามาแล้วเจอ ห้องจริงจะไม่ได้ให้มานะครับ เป็นช่องโล่งๆ เราสามารถมา Built-in เพิ่มเองได้ ส่วนตู้รองเท้าและตู้เก็บของจะอยู่ด้านซ้ายมือเรา ซึ่งจะอยู่ติดกับครัวเป็นชุดเดียวกันเลย สำหรับห้องนี้จะได้เป็นครัวเปิด พื้นที่ครัว ทานอาหาร และนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกันทั้งหมด แถมห้องนั่งเล่นยังอยู่ติดกับระเบียงด้วย ทำให้แสงด้านนอกสามารถสาดส่องเข้ามาด้านในได้แบบเต็มๆ ทำให้ห้องดูสว่างไปถึงครัวเลยครับ
พื้นที่ห้องนั่งเล่นค่อนข้างกว้าง ไม่ได้ติดกับโต๊ะทานอาหาร มีระยะห่างพอสมควร จะวางตู้ หรือวางต้นไม้เพิ่มสีเขียวให้กับห้องก็ได้ครับ
ห้องนอนค่อนข้างกว้าง เพราะทางโครงการ Built-in ตู้เสื้อผ้าให้เนียนไปกับผนังห้อง ทำให้ห้องดูโล่งขึ้น มีพื้นที่เหลือเฟือสำหรับการวางโต๊ะเครื่องแป้ง หรือจะวางเป็นโต๊ะทำงานก็ได้ ห้องน้ำจะเข้าออกได้ 2 ทาง ทั้งในห้องนอนและด้านหน้าประตูทางเข้า
2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 45 ตารางเมตร
สำหรับห้องนี้จะเป็น 2 ห้องนอน ที่มีห้องน้ำเดียว โดยห้องนอนจะอยู่แยกคนละฝั่ง เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน โดยด้านหน้าจะเป็นพื้นที่ครัว อยู่ติดกับห้องน้ำ ถ้าเพื่อนๆ สังเกตจะเห็นว่าห้องก่อนหน้านั้น จะใช้เคาน์เตอร์ครัวสีขาว แต่เมื่อเป็นห้องจริงๆ เคาน์เตอร์ครัวที่ได้จะเป็นสีเทาเหมือนกับห้องนี้ครับ
ความพิเศษของห้องนี้คือได้กระจกใหญ่เต็มผนัง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับระเบียง ซึ่งระเบียงจะโค้งมนตามแนวอาคาร ทำให้ห้องนี้ค่อนข้างสว่างและสามารถชมวิวได้ แม้จะนั่งอยู่ในห้อง นอกจากจะเป็นโซนนั่งเล่นแล้ว ยังมีมุมทานอาหารเล็กๆ ที่ทางโครงการจัดวางมาให้เป็นไอเดียในการแต่งห้องด้วย
ในห้องนอนมีตู้เสื้อผ้า Built-in มาให้ทั้ง 2 ห้อง ที่นี่ให้หน้าต่างค่อนข้างใหญ่นะครับ ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนหรือห้องนั่งเล่น ดังนั้นไม่ว่าเราจะอยู่มุมไหนของห้อง จะดูทีวีที่ห้องนั่งเล่น หรือนอนไถมือถืออยู่บนเตียงก็มองเห็นวิวด้านนอกได้ชัดเจน
ห้องน้ำจะมาในโทนสีดำเทา ไม่ค่อยได้เห็นโครงการไหนให้กระจกที่มีขอบโค้งมนแบบนี้เท่าไหร่นะครับ ค่อนข้างสวยเลย แถมยังคุม Theme ตามความโค้งมนของตัวอาคารด้วย
2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 55 ตารางเมตร
ห้องนี้เป็น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องนี้ค่อนข้างให้ความสำคัญกับพื้นที่ห้องนอนมากกว่ามุมอื่นๆ คือเราเข้าห้องมาก็เห็นหมดแล้วว่าครัว โต๊ะทานอาหาร และห้องนั่งเล่นอยู่ตรงไหน ซึ่งมันเชื่อมต่อกันทั้งหมด แต่ด้วยขนาดห้องที่กว้างขึ้น ก็ทำให้ได้ครัวและโต๊ะทานอาหารใหญ่กว่าห้องอื่นๆ
โซนนั่งเล่นอยู่ติดกับระเบียง สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้ แถมพื้นที่ระหว่างชั้นวางทีวีกับโซฟาก็เยอะ เดินสวนกันไปมาได้สบายๆ
สำหรับโซนห้องนอนจะแบ่งออกเป็น 3 ห้องใหญ่ๆ ครับ โดยประตูฝั่งซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ตรงกลางเป็นห้องนอนเล็ก และฝั่งขวาเป็นห้องนอนใหญ่ ความพิเศษของห้องนอนใหญ่ คือจะได้ห้องน้ำแบบ Sexy Bath ด้วยครับ แช่น้ำไปชมวิวไป วันไหนทำงานมาเหนื่อยๆ การแช่น้ำในอ่างพร้อมกับเปิดเพลงคลอเบาๆ ก็ช่วยให้เราผ่อนคลายได้เหมือนกันนะ
ห้องนอนใหญ่จะได้กระจกโค้งมนด้วย เพราะอยู่มุมอาคาร ทำให้ได้กระจกกว้างกว่าห้องอื่นๆ ถ้าอยู่ชั้นสูงๆ มองออกไปก็เป็นวิวเมือง แต่ถ้ามองลงไปด้านล่างก็จะเห็นสวนสีเขียว Facilities และพื้นที่ส่วนกลางของโครงการครับ
แต่ละห้องมีความพิเศษที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการห้องขนาดไหน ต้องการพื้นที่ใช้สอยเท่าไหร่ ห้องตัวอย่างของ “Skyrise Avenue สุขุมวิท 64” แต่งออกมาค่อนข้างสวย เป็น Modern Minimal ที่กำลังพอเหมาะ ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์หรือสีที่เลือกใช้ ล้วนแต่เข้ากับห้องและบอกตัวตนของโครงการได้เป็นอย่างดี
โปรโมชั่น
ถ้าเพื่อนๆ สนใจโครงการ “Skyrise Avenue สุขุมวิท 64” สามารถเข้าไปชมห้องตัวอย่าง พร้อมพูดคุยรายละเอียดกับพนักงานขายได้ที่ Sale Gallery ครับ ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.49 ล้านบาท เฉลี่ยทั้งโครงการ 100,000 บาท/ตารางเมตร อยู่ห่างจาก BTS ปุณณวิถีเพียง 450 เมตร สามารถลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่ https://bit.ly/33n0s3A
ช่องทางการติดต่อ
โทร : 0 2026 6888 ต่อ 7
Facebook : Skyrise Avenue Sukhumvit 64
Line : @Skyrise_Skv64