เคยรู้สึกแบบนี้กันไหมครับ? “หยุดเสาร์อาทิตย์ไม่รู้จะไปเที่ยวไหนดี จะเที่ยวในกรุงเทพฯ ก็เบื่อแล้ว แต่จะให้เดินทางไปต่างจังหวัดก็ใช้เวลานาน” วันนี้ Living Pop เลยอยากชวนเพื่อนๆ มาเปิดประสบการณ์ใหม่ กับการไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า ศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านนิเวศวิทยาและสิ่งแวดล้อมที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน จะเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถมาสนุกกันได้ผ่านภาพ เสียง และสัมผัสที่หลากหลาย แต่ละโซนจะเป็นยังไง ตามไปดูกันเลยครับ

เริ่มต้นเที่ยวกันเลยครับ รูปทางด้านซ้ายจะเป็นด้านหน้าทางเข้าพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า เมื่อเข้ามาแล้วจะเจอกับแผนผังหลักของพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า ซึ่งประกอบไปด้วย 2 ชั้น แบ่งออกเป็น 3 โซนหลัก ได้แก่ โซนบ้านของเรา (Our Home), โซนชีวิตของเรา (Our Life) และโซนในหลวงของเรา (Our King) ที่นี่จะมี Visitor’s Guide Map หรือแผนที่ช่วยเดินเที่ยวภายในพิพิธภัณฑ์ มีข้อมูลแนะนำแต่ละโซนอย่างคร่าวๆ ซึ่งจะได้รับหลังจากลงทะเบียนเรียบร้อยแล้วครับ
“โซนบ้านของเรา (Our Home)”
เริ่มต้นที่โซนแรกกับ “โซนบ้านของเรา (Our Home)” โซนนี้จะอธิบายเรื่องราวก่อนกำเนิดโลก ซึ่งรูปที่เห็นจะเป็นภาพที่ถูกฉายภายในโดม มีเนื้อหาเกี่ยวกับปรากฏการณ์ Big Bang จุดกำเนิดโลกที่เราอาศัยอยู่ในปัจจุบัน บอกเลยว่ายิ่งใหญ่อลังการมาก! Human Odyssey : อันนี้เป็นเป็นรูปจำลองมนุษย์ในยุคโบราณ ทำให้เราเข้าใจว่ามนุษย์มีวิวัฒนาการและมีการปรับตัวอย่างไร ถึงดำรงเผ่าพันธุ์อยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ (รูปขวาล่าง) และ Evolution and Mass Extinction: ด้านนี้แสดงเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตที่ต้องพยายามปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดได้ ผ่านวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตในแต่ละช่วงเวลาครับ (รูปซ้าย)
“โซนชีวิตของเรา (Our Life)”
ต่อไปโซนที่ 2 “โซนชีวิตของเรา (Our Life)” โซนที่บอกเล่าเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและการปรับตัวของสิ่งมีชีวิตตามชีวนิเวศ (Biome) ต่างๆ ได้แก่ Antarctica, Arctic, Tundra, Taiga, Desert, Temperate และ Tropical รวมถึง Ecoregion ของดิน น้ำ และ Ecosystem ในประเทศไทยครับ
เริ่มกันด้วยชีวนิเวศแบบ Arctic ที่มีการจัดแสดง “Igloo” หรือ ที่พักอาศัยชั่วคราวจากก้อนน้ำแข็งของชาวอินูอิท (Inuit) บอกเล่าเกี่ยวกับชีวนิเวศที่เต็มไปด้วยน้ำแข็่ง รวมถึงที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตหลากหลายสายพันธุ์ ทั้งวาฬ หมีขาว วอลรัส แมวน้ำ รวมถึงมนุษย์ ส่วน Taiga ความโดดเด่นของชีวนิเวศเขตนี้ คือแนวป่าสนขนาดใหญ่ เป็นชีวนิเวศบนบกที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีความเปลี่ยนแปลงของภูมิอากาศแบบสุดโต่ง
มาต่อกันที่ชีวนิเวศแบบ Desert สังเกตได้จากสภาพภูมิอากาศที่เต็มไปด้วยความแห้งแล้ง สิ่งมีชีวิตต่างๆ ทำให้มีการปรับตัวเพื่อความอยู่รอด เช่น การเปลี่ยนใบให้เป็นหนามของต้นกระบองเพชร เมื่อเดินมาพบกับพื้นที่ทะเลทราย ก็จะเจอกับอูฐด้วยครับ ต่อไปชีวนิเวศแบบ Temperate ความโดดเด่นของชีวนิเวศเขตนี้ คือการมี 4 ฤดูกาล ได้แก่ ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ถ้าใครได้ไปชมของจริงจะเห็นการจำลองการเปลี่ยนแปลงฤดูกาล มีการจำลองผ่านต้นโอ๊กยักษ์ขนาดใหญ่ ที่มีเครื่องเล่นให้ได้สัมผัสจริงๆ ผ่านการปีนตาข่ายและสไลเดอร์
ต่อไปเป็นชีวนิเวศแบบ Tropical เป็นชีวนิเวศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง มีการจัดแสดงผ่านคนจำลองที่มีวิถีชีวิตแตกต่างกันออกไป การดำรงชีวิตในแต่ละถิ่น มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นในทุกลำดับตั้งแต่พื้นดินไปจนถึงบนยอดต้นไม้
“Thailand Ecosystem Service”
มาดูโซนของ Thailand Ecosystem Service กันครับ ส่วนนี้จะนำเสนอเรื่องราวของน้ำ ซึ่งภาพที่เห็นจะเป็นการสะท้อนเล่าเรื่องราวในยุคปัจจุบัน ที่มีขยะอยู่เต็มไปหมด และบอกแนวทางที่เราจะช่วยให้โลกนี้น่าอยู่อีกครั้งผ่านมือเล็กๆ ของทุกคน มีแบบจำลองให้เรียนรู้เกี่ยวกับการใช้น้ำ การประหยัดน้ำ สามารถดูได้ทั้งไทยและอังกฤษเลยครับ ส่วนนี้จะนำเสนอเรื่องราวของน้ำ ผ่านรูปแบบการจำลองวัฏจักรการเกิดน้ำในประเทศไทย ตั้งแต่น้ำที่อยู่ตามลำคลอง มหาสมุทร รวมไปถึงการเกิดฝน
“Thailand Ecoregion”
ต่อไป Thailand Ecoregion ส่วนจัดแสดงนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนจัดแสดงสำหรับการอธิบายแนวคิด ความหมายของคำว่าเขตภูมินิเวศ (Ecoregion) และส่วนที่เป็นการจำลองป่า ในรูปด้านขวาบนจะเป็นทางเข้าถ้ำเพื่อขึ้นไปดูน้ำตกจำลอง ส่วนรูปด้านขวาล่างเป็นภาพวิวจากด้านบนของน้ำตกครับ
“โซนในหลวงของเรา (Our King)”
และมาถึงโซนสุดท้ายกับ “โซนในหลวงของเรา (Our King)” ที่หลักๆ จะเล่าถึงคำสอน วิธีการทำงาน และพระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร หรือ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งภาพนี้จะเป็นรถที่ใช้ทรงงานจำลองครับ ส่วนรูปทางขวาเป็นภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติ และบรรยากาศในห้องทรงงานของท่าน
จบไปแล้วกับการไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า เพื่อนๆ รู้สึกยังไงกันบ้างครับ? ส่วนตัวผมรู้สึกว่านี่เป็นการเปิดโลกการเข้าชมพิพิธภัณฑ์ที่ดีมากๆ ถ้ามีโอกาสต้องไปให้ได้นะครับ มีกิจกรรมให้ทำได้ทั้งครอบครัว ถ้าเพื่อนๆ สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ เว็บไซต์ www.nsm.or.th หรือทาง Facebook: พิพิธภัณฑ์พระรามเก้า อพวช. RAMA9 MUSEUM ครับ