fbpx
สายพันธุ์แคคตัส

บอกทุกเรื่องของ “แมมมิลลาเรีย” แคคตัสยอดฮิตตลอดกาล!

เมื่อพูดถึงแคคตัสสายพันธุ์ยอดฮิต มีหนึ่งสายพันธุ์ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลย นั่นก็คือสายพันธุ์ “แมมมิลลาเรีย” ซึ่งมีมากมายกว่า 400 ชนิด ด้วยเอกลักษณ์ความสวยงามเฉพาะตัวต่างๆ ทำให้เจ้าแคคตัสอย่าง “แมมมิลลาเรีย” ขึ้นแท่นเป็นแคคตัสที่ได้รับความนิยมอย่างมากกกกก ในกลุ่มผู้เลี้ยงแคคตัส วันนี้สวนหลังบ้านของเราจะพาเพื่อนๆ ไปทำความรู้จักอย่างลึกซึ้งกับเจ้าแคคตัสสายน่ารักๆ หนามสวยๆ ขนฟูๆ ดอกสุดจิ้มลิ้มอย่าง “แมมมิลลาเรีย” กันครับ




“แมมมิลลาเรีย” ชื่อนี้มีที่มา

“แคคตัสแมมมิลลาเรีย (Mammillaria)” ชื่อเรียกเก๋ๆ นี้มาจากภาษาละตินว่า Mammilla ซึ่งแปลว่า เนินหนาม ในบ้านเราจะเรียกสั้นๆ ว่า “แมม” หรือ “แมมมิลลาเรีย” มีถิ่นกำเนิดมาจากทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐอเมริกา แม็กซิโก และในประเทศแถบหมู่เกาะแคริเบียน แมมมิลลาเรียมีหลากหลายสายพันธุ์มาก มากจนนับไม่ถ้วนกันเลยทีเดียวครับ เอกลักษณ์ของเจ้าแมมคือ มีหัวจุกที่เป็นตุ่มๆ เรียงรายอย่างเป็นระเบียบอยู่รอบลำต้น อาจมีหนาม ขนแข็งๆ หรือขนนุ่มๆ ที่ส่วนปลายของตุ่ม แล้วแต่สายพันธุ์ สายพันธุ์ส่วนใหญ่ลำต้นจะมีขนาดเล็กตะมุตะมิน่ารัก แต่บางต้นก็สามารถเติบโตและมีขนาดใหญ่เหมือนแคคตัสสายพันธุ์อื่นๆ ได้ครับ 

ความพิเศษของแคคตัสอย่างแมมมิลลาเรียคือ ดอกและตุ่มขนหนาม ซึ่งหนามมีหลายสีหลายรูปแบบ ทั้งเป็นขนหนามที่มีความนุ่ม และหนามแข็ง ซึ่งการเรียงตัวของหนามมีความเป็นระเบียบ และอัดแน่นคลุมลำต้น บางสายพันธุ์มีการจัดเป็นช่อแผ่ออก ดอกของแมมมิลลาเรีย จะออกมาตามซอกหนามที่ยอดของลำต้น ให้ดอกได้ครั้งละหลายดอกพร้อมกัน บางชนิดดอกบานพร้อมกันเป็นวงรอบต้น หรือที่เรียกกันว่า “มงลง” มักใช้ในการออกดอกของแมมมิลลาเรีย เลนต้า (Mammillaria Lenta)  ดอกมีหลายสี หลายขนาด ทั้งสีแดง ชมพู ขาว เหลือง ส้ม และม่วง บางชนิดมีกลิ่นหอม เช่น (Mammillaria Plumosa) หรือ แมมขนนกขาว

การเลี้ยงแมมมิลลาเรียสามารถเลี้ยงให้ได้หลายรูปทรง นอกจากการเลี้ยงแยกเป็นต้นแบบหัวเดี่ยวๆ แล้ว การเลี้ยงให้มีลักษณะแตกเป็นกอ ก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เรียกว่า “ไม้ฟอร์มกอ” ครับ



สายพันธุ์ยอดฮิต ขึ้นแท่น “ราชินีแห่งแมม”

“แมมมิลลาเรีย” เป็นแคคตัสที่ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้เลี้ยงไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือนักสะสม แมมมีความหลากหลายค่อนข้างสูง ไม่ว่าจะเป็นลักษณะลำต้น ขน ตุ่มหนาม และที่โดดเด่นสุดคือ ดอกของแมมครับ ในประเทศไทยมีการปลูกเลี้ยงกันมานานหลายปี จนแมมบางชนิดมีชื่อเรียกคุ้นหูเป็นภาษาไทย เช่น แมมแม่เฒ่า แมมขนนก แมมขนแกะ แมมนกฮูก แมมหนามพิกุล แมมขนนกเหลือง แมมเข็มเงิน แมมเม็ดพริก ฯลฯ  ซึ่งคนไทยจะมีการตั้งชื่อเรียกสั้นๆ ขึ้นมา ตามลักษณะพิเศษของแต่ละสายพันธุ์ เพื่อให้ง่ายต่อการจดจำ

แมมมิลลาเรีย เลนต้า (Mammillaria lenta) ถูกยกให้เป็น “ราชินีแห่งแมม” ด้วยลักษณะพิเศษของตุ่มหนามที่เรียงชิดกัน สานแน่นอยู่บนลำต้นกลมๆ และเมื่อแมมเลนต้าให้ดอก จะมีดอกที่สวยงามสมมาตร และที่โดดเด่นไปกว่านั้น คือหากมีการให้ดอกพร้อมๆ กันบนต้นเดียว จะมีการเรียงของดอกคล้ายมงกุฏดอกไม้ คนไทยมักเรียก “มงลง” ฮะ

นอกจากแมนเลนต้าแล้ว สายพันธุ์ที่ฮอตฮิตไม่แพ้กันเลยก็มี เช่น Mammillaria Humboldtii หรือคนไทยเรียกง่ายๆ ว่า “แมมลูกกอล์ฟ” ด้วยลักษณะพิเศษที่มีความกลมและสีขาวคล้ายลูกกอล์ฟ นิยมเลี้ยงให้เป็นกอ หรือเรียกว่าฟอร์มกอ เหมือนลูกกอล์ฟหลายๆ ลูกมากองรวมกัน

แมมมิลลาเรีย เพอร์เบลล่า หรือแมมนกฮูก (Mammillaria perbella) ด้วยลักษณะพิเศษในต้นเต็มวัย จะมีการแตกตาออกเป็นสองฝั่ง คล้ายเป็นดวงตาของนกฮูก

แมมมิลลาเรีย คามิเน่ (Mammillaria carmenae) อีกหนึ่งสายพันธุ์สุด Cute ที่มีความหลากหลายอยู่ในตัวเอง ลักษณะขนหนามที่เรียงอย่างเป็นระเบียบ จัดเป็นช่อๆสานชิดกัน มีขนหนามหลายสีให้เลือกสะสม ไม่ว่าจะเป็นสีขาว เหลือง หรือแดง เป็นที่นิยมสำหรับนักเลี้ยงแคคตัสมือใหม่ เพราะราคาไม่สูงมากและยังทนทานต่อทุกสภาพแวดล้อมด้วยครับ

อีกสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมมากในกลุ่มนักเล่นแคคตัสมือใหม่ คือ Mammillaria Plumosa หรือคนไทยเรียก “แมมขนนกขาว” ซึ่งเรียกตามลักษณะของตุ่มขนหนามที่อ่อนนุ่มสีขาวคล้ายกับขนของนก แมมขนนกขาว เป็นสายพันธุ์แมมที่เลี้ยงง่ายมาก โตเร็ว และที่สำคัญมีดอกที่หอมมากด้วยครับ


เลี้ยงอย่างไรให้รอด?

ด้วยตามธรรมชาติของแมมมิลลาเรียที่พบดั้งเดิม จะขึ้นตามพื้นที่แห้งแล้ง เลยค่อนข้างทนในสภาพอากาศที่แห้ง เป็นแคคตัสที่ชอบแสงแดดจัด อากาศถ่ายเทสะดวก และดินปลูกต้องระบายน้ำได้ดีพอสมควร  ข้อดีของแมมคือสามารถเลี้ยงแดด 100% ได้ (แดด 100% คือการวางไว้กลางแดดเลยครับ) ด้วยลักษณะพิเศษที่มีขนหนามปกคลุมลำต้นอย่างหนาแน่น ช่วยบดบังแสงอยู่แล้ว และแสงแดดถือเป็นอาหารชั้นดีของแมมก็ว่าได้ ผู้เลี้ยงแคคตัสหลายคนพบว่า การเลี้ยงแมมในสิ่งแวดล้อมที่แห้ง และแสงแดดเพียงพอ จะทำให้เจ้าแมมมีขนที่ปุกปุย ขนหนากว่าการเลี้ยงในที่ที่แสงแดดส่องน้อย

ข้อที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ และถือเป็นยาขมของเจ้าแมมเลย คือแมมมิลลาเรียไม่ค่อยชอบน้ำครับ การรดน้ำที่เยอะเกินไปจะทำให้ลำต้นฉ่ำน้ำ และเน่าตายในที่สุด การรดน้ำแมมมิลลาเรียที่เหมาะสม ควรรดน้ำ 5-7 วันครั้ง ก็เพียงพอครับ

การเลือกดินปลูก ควรเลือกดินที่มีส่วนผสมของเครื่องปลูกที่ให้ความโปร่งมากกว่าดินปลูกแคคตัสทั่วไป เมื่อซื้อดินปลูกแคคตัสทั่วไปมาแล้ว เพื่อนๆ สามารถเพิ่มความโปร่งของดินได้ง่ายๆ เพียงเติมเครื่องปลูกที่ให้ความโปร่ง เช่น หินภูเขาไฟเบอร์เล็ก เพอร์ไลท์ หรือ เวอร์มิคูไลท์ ลงไป เพื่อเพิ่มความโปร่งให้ดิน หากดินไม่โปร่ง จะทำให้น้ำที่รดระบายได้ช้า เกิดการอุ้มน้ำไว้ที่ดิน เจ้าแมมของเราจะเน่าทันที ซึ่งเวลาเน่าเราก็ดูไม่ค่อยออกครับ เพราะแมมมิลลาเรียมีขนปกคลุมลำต้นไว้ กว่าจะรู้อีกที แมมของเราก็ได้ฟีบลงและจากไปแล้วครับ 


วิธีการขยายพันธุ์แมมมิลลาเรีย

“แมมมิลลาเรีย” นิยมขยายพันธุ์อยู่ 2 วิธีหลักๆ คือ การเพาะเมล็ด และการแยกชำหน่อ ด้วยธรรมชาติของแมมที่สามารถให้ดอกได้ตลอดทั้งปี จึงสามารถขยายพันธ์ุได้ง่ายด้วยการผสมเกสร พิเศษไปกว่านั้นแมมมิลลาเรียสามารถผสมข้ามระหว่างสีดอกที่ต่างกันได้ครับ นักปรับปรุงพันธุ์จึงมีความสนุกกับการผสมเกสรข้ามสีดอกเพื่อให้ได้แมมมิลลาเรียมีสีดอกที่หลากหลาย เมื่อการผสมเกสรสำเร็จ เราจะได้เจ้าฝักของแมม ซึ่งฝักมีลักษณะสีเขียวหรือสีแดงโผล่พ้นต้นออกมา และเมื่อฝักโผล่ออกมาจนสุด ก็สามารถเด็ดฝักเพื่อนำเมล็ดข้างในไปทำการเพาะได้ ไม่ยากเลยใช่มั๊ยล่ะครับ  

ส่วนวิธีแยกชำหน่อ จะใช้เวลาน้อยกว่าการเพาะเมล็ด เมื่อแมมมิลลาเรียของเราให้หน่อรอบต้น ก็สามารถเด็ด หรือใช้มีดเล็กๆ เฉือนหน่อออกมา พักตากลมไว้ 2 – 3 วัน ให้แผลบริเวณที่ตัดออกแห้ง ก็สามารถนำไปชำในดินปลูกที่เตรียมไว้ หรือทำการล่อรากบนหินภูเขาไฟก็ได้ครับ เมื่อรากออกแล้วค่อยเอาไปชำลงดินฮะ


เป็นไงฮะ? แมมมิลลาเรียมีความหลากหลายอย่างที่ผมบอกรึเปล่า สายพันธุ์เยอะแยะมากมายจนนับไม่ถ้วน แถมยังได้รับความนิยมแบบสุด ด้วยความสวยงามของต้น ดอก ขน และหนามต่างๆ รวมไปถึงการเลี้ยงที่ทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี ชอบแดดเยอะๆ (เหมาะกับบ้านเรามากฮะ 5555) แถมยังเพาะพันธุ์เองได้ไม่ยาก ทำให้เหล่านักปลูกแคคตัสสนุกสนานกับการผสมพันธุ์แมมมิลลาเรีย ถือเป็นกิจกรรมที่จะทำให้เราผ่อนคลายความเครียดลงไปได้บ้างฮะ ส่วนบทความหน้าของสวนหลังบ้านจะมาแชร์อะไรให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันอีก รอติดตามกันได้เลยค้าบบบ 😁




Related posts
สายพันธุ์แคคตัส

ทำความรู้จัก "โคเปียโป" แคคตัส ชื่อแปลก หายาก

สายพันธุ์แคคตัส

ท่องโลกแคคตัสสีหวาน นามเพราะ "พิงค์ไดมอนด์" (Pink Diamond)

สายพันธุ์แคคตัส

แคคตัสนักกล้าม ชื่อน่าเกรงขามแต่ตัวจริงน่ารักนะ

สายพันธุ์แคคตัส

ท่องโลก"เฟรเลีย" แคคตัสชื่อแปลก