การปลูกแคคตัส

มาทำความรู้จัก “ตอ” สำหรับ “การกราฟต์แคคตัส” กัน!

การเลี้ยงแคคตัสหรือกระบองเพชร อย่างที่เราทราบกันดีแล้วว่ามีอยู่ 3 ประเภท คือ ใช้เมล็ด (เพาะเมล็ดและมีรากใช้หาอาหารเอง) ไม้ชำหน่อ (เด็ดหน่อแคคตัสจากต้นแม่มาชำราก) และกราฟต์ (การนำแคคตัสมาต่อบนยอดของตออีกต้น) ซึ่งการเลี้ยงแต่ละอย่างจะมีวิธีที่แตกต่างกัน วันนี้ LivingPop เลยจะพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับการกราฟต์ให้มากยิ่งขึ้น



เริ่มจาก “ตอ” คือ แคคตัสชนิดหนึ่งที่มีความสามารถต่างๆ เช่น เติบโตเร็ว เพราะรากของตอสามารถหาและดูดสารอาหารมาเลี้ยงต้นได้เก่งกว่าแคคตัสทั่วไป จากความสามารถของตอที่กล่าวมานั้น จึงทำให้ผู้เลี้ยงแคคตัสนำมาใช้ต่อยอดกับแคคตัสที่มีสายพันธุ์หายากและมีมูลค่า ด้วยการนำแคคตัสมากราฟต์บนตอ เพื่อช่วยเร่งการเจริญเติบโตให้ออกหน่อและดอก เพื่อนำไปใช้ขยายพันธุ์ได้เร็วมากขึ้นครับ

ตอที่นำมาใช้กราฟต์นั้น สามารถกราฟต์แคคตัสได้หลากหลายชนิด เดี๋ยวเราจะมาดูกันฮะว่าเจ้าตอเนี่ยหน้าตาแบบไหน เป็นยังไง มีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง รับรองว่าเพื่อนๆ ทั้งมือใหม่และนักเลี้ยงแคคตัสทั้งหลายจะเลือกตอที่เหมาะกับความต้องการของตัวเองได้แน่นอนฮะ



ชนิดของ “ตอ”

ตอที่คนเลี้ยงแคคตัสใช้กราฟต์นั้นมีอยู่หลายชนิด แต่ที่นิยมนำมาใช้กันก็จะมีตอสามเหลี่ยม, ตอลูกผสม, ตอหนามดำ, ตอเปเรสเกีย, ตอแก้วมังกร ซึ่งในแต่ละชนิดจะมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างต่างกันครับ

1. ตอสามเหลี่ยม

ถึงแม้ว่าจะชื่อ “ตอสามเหลี่ยม” แต่ลักษณะเฉพาะไม่ได้มีแค่สามเหลี่ยมเท่านั้นนะ ในบางต้นจะมีรูปร่างเป็นสี่เหลี่ยม, ห้าเหลี่ยม, ตอเต้า (ลำต้นจะเป็นคลื่น หนามยาวกว่าปกติ) และตอซีดลิ่ง (กลมเรียวและเล็ก) ในแต่ละรูปแบบนั้นจะสามารถนำไปปรับใช้ในการกราฟต์ หรือความชอบของผู้เลี้ยงได้ นอกจากนี้ลำต้นจะมีหนามที่ยาวและคมทำให้เพื่อนๆ หลายคนอาจจะมีแผลจากหนามของตอสามเหลี่ยมกันบ้าง ถือเป็นประสบการณ์ฮะ 5555

ข้อดี ช่วยในการร่นระยะเวลาการเติบโตของไม้ เน้นเร่งหน่อ เร่งดอก เพราะดูดและส่งสารอาหารไปเลี้ยงลำต้นและหัวไม้ได้ดีมาก ทำให้ขยายพันธุ์ได้รวดเร็วกว่าตอชนิดอื่น เหมาะสำหรับนำไปทำในเชิงการค้าที่เพิ่มจำนวนเพื่อขายสร้างรายได้ครับ

ข้อเสีย จากข้อดีของตอสามเหลี่ยมที่สามารถดูดและส่งอาหารไปเลี้ยงหัวไม้ได้เร็วนั้น อาจกลายเป็นดาบสองคม ที่ทำให้หัวไม้พอได้รับสารอาหารมากและเร็วเกิน รูปทรงของหัวไม้จะผิดแปลกไปจากสายพันธุ์หรือรูปร่างเดิม ลำต้นจะยืดสูง เช่น ยิมโนที่ยืดสูงขึ้น เป็นต้น นอกจากนี้อายุการใช้งานของตอจะสั้นเป็นพิเศษ หากเลือกตอสามเหลี่ยมที่ไม่สมบูรณ์ (แต่ก็ยังมีตอบางชนิดที่มีอายุการใชังานที่สั้นกว่า) สุดท้ายตอสามเหลี่ยม จะมีโรคและศัตรูร้ายที่จะมาทำให้ตอเราตายหรือป่วยได้ เช่น เพลี้ยหอย, ทาก, แคงเกอร์ หรือตอเน่า

การขยายพันธุ์ การเพิ่มจำนวนที่ได้รับความนิยมนั้น จะเป็นการนำตอแม่พันธุ์มาชำราก เพื่อรอให้หน่อของตอออกมาตามตุ่มหนาม พอหน่อที่งอกมานั้นได้ขนาดตามที่เราต้องการ ก็สามารถตัดเพื่อนำไปกราฟต์ หรือขยายพันธุ์เป็นต้นแม่ต่อไปได้อีกด้วย นอกจากนี้ผมขอแชร์เทคนิคเล็กๆ ที่จะทำให้ตออวบอ้วน คือถ้าตอได้ขนาดความยาวที่ต้องการแล้ว ให้เราทำการขลิบ (ตัด) ตรงปลายยอดและคอยตัดหน่อที่งอกออกมาใหม่ เพื่อให้รากส่งอาหารมาเลี้ยงลำต้นมากขึ้นครับ


2. ตอเปเรสเกียร์

ลักษณะคล้ายกิ่งไม้เรียวลำต้นมีขนาดเล็ก (ขนาดไม่ถึง 1 cm.) ผู้เลี้ยงแคคตัสนิยมนำตอเปเรสเกียร์มาใช้กราฟต์ต้นอ่อนและหน่อที่มีขนาดเล็ก เพื่อเร่งโตหรือพัฒนาสายพันธุ์ พอขนาดหัวไม้ประมาณ 3 – 4 cm. ก็จะทำการตัดลง (เด็ดออกจากตอ) เพื่อนำไปชำรากหรือรีกราฟต์ (นำหัวไม้ไปกราฟต์ที่ตอใหม่) ในตอชนิดอื่นเพื่อเลี้ยงให้หัวไม้โตต่อไป

ข้อดี ตอเปเรสเกียร์มีราคาถูก จึงเหมาะกับมือใหม่ที่กำลังต้องการฝึกกราฟต์ได้ดี นอกจากนี้ยังส่งอาหารเลี้ยงหัวไม้ได้ไว นำตอไปชำรากแล้วรากออกไว เหมาะกับนำไปกราฟต์ต้นอ่อน เช่น เมล็ดที่เพาะขนาดเล็กๆ และที่สำคัญคือทนต่อโรคและแมลง

ข้อเสีย ตอชนิดนี้ต้องระวังหนามที่อยู่ที่ลำต้น เนื่องจากมีหนามอันใหญ่ยาว นอกจากนี้ยังมีหนามอันเล็กๆ เป็นฝอยๆ ถ้าไม่สังเกตุจะมองไม่เห็น หากเราเผลอเอามือไปโดนหนามเล็กๆ มันอาจจะติดมือเรามาแบบไม่รู้ตัว นอกจากเรื่องหนามแล้ว การกราฟต์โดยใช้ตอเปเรสเกียร์อาจจะติดยาก เพราะเนื้อตอน้อยฮะ แถมมีกิ่งก้านงอกออกมาตามลำต้นอย่างรวดเร็ว เราจะต้องคอยตัดแต่งกิ่งเป็นระยะๆ ด้วย

การขยายพันธุ์ การเพิ่มจำนวนสำหรับตอเปเรสเกียร์นั้น ทำโดยการตัดส่วนยอดนำมาชำราก เนื่องจากตอนี้ออกรากและกิ่งใหม่โตไว ทำให้ใช้ระยะเวลาการเพิ่มจำนวนไม่นาน


3. ตอลูกผสม

ลักษณะจะมีลำต้นเป็นสามหรือสี่เหลี่ยม แต่จะไม่เหมือนกับตอสามเหลี่ยม นอกจากนี้ตอลูกผสมจะมีรูปทรงเรียวสูง เนื้อของตอจะมีมากกว่าตอสามเหลี่ยม และมีหนามสั้นตามลำต้น

ข้อดี เนื้อตอลูกผสมมีเนื้อตอมากเหมาะสำหรับไม้ที่มีขนาดใหญ่ และง่ายต่อการกราฟต์ มีลำต้นที่ดูดและส่งอาหารไปเลี้ยงหัวไม้ได้ดี ที่สำคัญทนทานต่อโรคและแมลงต่างๆ

ข้อเสีย ตอลูกผสมจะซูบลงได้ ต้องรื้อตัดรากใหม่ เนื่องจากตอมักจะสร้างโขดรากใหญ่ๆ เป็นปมรากขึ้นมา ทำให้ตอเหี่ยว เราจึงจำเป็นต้องขุดขึ้นมาตัดแต่งรากใหม่แล้วลงปลูกถึงจะฟื้น ถ้าไม่นำมาตัดแต่งรากแล้วทิ้งไปเรื่อยๆ จะส่งผลทำให้หัวไม้ไม่เจริญหรือชะงักการเจริญเติบโตไปเลยก็เป็นได้ 

การขยายพันธุ์ เพาะจากเมล็ดได้ สามารถตัดครึ่งต้น เพื่อนำส่วนบนไปชำราก ส่วนครึ่งล่างนั้นหากเลี้ยงไปเรื่อยๆ ก็จะแตกหน่อใหม่แล้วยาวขึ้นมา พอยาวได้ที่ก็สามารถนำไปใช้หรือไปขยายพันธุ์ต่อได้ครับ


4. ตอหนามดำ

ตอนหนามดำ มีลักษณะลำต้นทรงกระบอง เนื้อตอเยอะ มีหนามเล็กๆ แต่ไม่คมมาก เหมาะกับนำมากราฟต์แคคตัสที่ขนาดใหญ่และราคาแพง

ข้อดี ตอหนามดำมีความทนต่อโรคและแมลงมากกว่าตอชนิดอื่นๆ หัวไม้ที่กราฟต์โดยใช้ตอหนามดำจะโตด้วยความเร็วปานกลาง ไม่เร็วหรือช้าเกินไป จึงทำให้หัวไม้มีฟอร์มเหมือนกับต้นแม่หรือไม้เมล็ด

ข้อเสีย กราฟต์ติดยาก เนื่องจากตอชนิดนี้มียางค่อนข้างเยอะ ก่อนจะกราฟต์ควรจะทำความสะอาดด้วยการเช็ดยางออกก่อน แถมราคาตอหนามดำจะสูงกว่าตอชนิดอื่นๆ ด้วยนะ

การขยายพันธุ์ สามารถเพาะจากเมล็ดได้ หรือตัดเพื่อนำส่วนบนไปชำให้รากออกมาหาอาหาร ส่วนครึ่งล่างนั้นหากเลี้ยงไปเรื่อยๆ ก็จะแตกหน่อใหม่แล้วยาวขึ้นมา นักเลี้ยงบางคนทำการหั่นตอหนามดำเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปกราฟต์บนตอสามเหลี่ยม โดยตอหนามดำ 1 ต้น สามารถนำไปกราฟต์ได้ถึง 10 ต้น ช่วยให้ขยายพันธ์ุได้เร็วมากยิ่งขึ้น


5. ตอ-บลู

ตอ-บลู มีลำต้นทรงกระบอก สีเขียวอมฟ้า มีสันพูประมาณ 5-6 พู ใบเป็นหนามสีดำขนาดเล็ก มี 3-4 อันต่อหนึ่งตุ่มเนินหนาม มีดอกเดี่ยวสีขาว ออกบริเวณตุ่มเนินหนาม และมีเมล็ดขนาดเล็กสีน้ำตาลจำนวนมาก

ข้อดี ตอนี้เหมาะกับมือใหม่ เพราะโอกาสกราฟต์ติดสูง เพราะเนื้อตอค่อนข้างเยอะ และมียางเหนียวๆ ทำให้ผิวประกบได้นาน ตอส่งอาหารช้า จึงทำให้ทรงไม้เหมือนไม้เมล็ด หรือถ้าเป็นหน่อที่เด็ดมากราฟต์จะมีทรงเหมือนต้นแม่

ข้อเสีย ส่งอาหารไปเลี้ยงหัวไม้ช้า จึงทำให้หัวไม้ใช้ระยะเวลาโตช้ากว่าตอชนิดอื่นๆ ไม่เหมาะกับผู้เลี้ยงที่เน้นการเพิ่มจำนวนหรือพัฒนาสายพันธุ์

การขยายพันธุ์ ไม่ได้แตกต่างกับตอชนิดอื่นๆ ตอ-บลูสามารถเพิ่มจำนวนด้วยการเพาะเมล็ด ปาดที่ลำต้นเพื่อให้ตอบลูแตกหน่อใหม่ออกมา หรือถ้าต้องการเพิ่มจำนวนให้ไวมากขึ้นสามารถนำไปกราฟต์บนตอสามเหลี่ยมได้เช่นกัน


6. ตอแก้วมังกร

มีลักษณะใกล้เคียงกับตอสามเหลี่ยม แต่จุดที่แตกต่างกันคือ ตอแก้วมังกรจะมีหนามตรงปลายยอดอ่อน เป็นเส้นๆ โค้งตุ่มหนามแก้วมังกรก็จะชี้เฉียงๆ ตั้งขึ้นไม่ได้ชี้ออกข้างตอ ขอบพลูก็จะคมบางกว่า ส่วนตอสามเหลี่ยมจะมีหนามที่ชี้ออกด้านข้าง แล้วตอแก้วมังกรก็จะมีเนื้อตอน้อยกว่าตอสามเหลี่ยมด้วยครับ

ข้อดี ส่งอาหารไปเลี้ยงหัวไม้ได้ดี ทำให้หัวไม้โตไว ตอแก้วมังกรหาได้ง่าย ราคาตอไม่แพง ทำให้เหมาะกับผู้เลี้ยงที่เน้นการเพิ่มจำนวนเพื่อนำไปขายเพื่อสร้างรายได้

ข้อเสีย เนื้อตอมีน้อยทำให้กราฟต์ติดยาก อายุการใช้งานสั้น และการที่ตอส่งอาหารไปเลี้ยงหัวได้ไวเกิน จะทำให้หัวไม้มีรูปทรงที่ไม่ปกติ จึงไม่เหมาะกับการกราฟต์หัวไม้ที่มีราคาแพงมากนัก แถมยังเสี่ยงต่อการโดนสัตว์อย่างพวกหอยทาก หนู มากินยอด รวมทั้งโรคต่างๆ ด้วย

การขยายพันธุ์ การขยายพันธุ์นิยมเพาะเมล็ด และรอต้นโตก็สามารถตัดเอาส่วนลำต้นมาปักชำเพื่อให้รากออก พอต้นแข็งแรงได้ที่ สามารถตัดหน่อที่แตกออกมานำไปขยายพันธุ์ต่อได้


การเลือกใช้ “ตอ” แต่ละชนิด

จากที่เพื่อนๆ ได้ทำความเข้าใจข้อดีและข้อเสียของแต่ละตอไปแล้ว เราจะมาสรุปการเลือกใช้เป็นข้อๆ ให้อีกครั้ง เวลาหาตอไปกราฟต์จะได้เลือกให้เหมาะสมกับความต้องการ ดังนี้ครับ

  1. ถ้าเป็นมือใหม่อยากหัดกราฟต์ แนะนำให้กราฟต์กับตอ-บลู, ตอสามเหลี่ยม และตอหนามดำ (หากงบน้อยเลือกตอสามเหลี่ยม) เพราะเนื้อตอมีมาก ทำให้มีพื้นที่ในการกราฟต์
  2. หากต้องการเร่งหัวไม้ให้โตไว แต่ไม่อยากให้หัวไม้เสียทรง ต้องเลือกตอหนามดำ
  3. ถ้าต้องการเน้นโตไว หรือเพิ่มจำนวนเพื่อนำไปขายหรือพัฒนาสายพันธุ์ ควรใช้เป็นตอเปเรสเกียร์กราฟต์ตอนต้นขนาดเล็ก พอโตขึ้นมา 3 – 4 cm. ให้นำมารีกราฟต์ที่ตอสามเหลี่ยมเพื่อเร่งโตต่อ
  4. ไม้กราฟต์ที่หัวไม้ใหญ่และตอกำลังใกล้หมดอายุขัย จำเป็นต้องรีกราฟต์ สามารถเลือกตอหนามดำหรือตอลูกผสมก็ได้ครับ

นอกจากการเลือกชนิดของตอที่จะใช้ในแต่ละวัตถุประสงค์แล้ว การเลือกขนาดตอก็สำคัญ คือตอที่เลือกมานั้นจะต้องแข็งแรง มีเนื้อตอเยอะ (ตอแก้วมังกร,ตอสามเหลี่ยม,ตอหนามดำ,ตอบลู) ไม่ฟีบเหี่ยว มีสีเข้มๆ ถ้าลองจับตอจะรู้สึกถึงความแน่นของเนื้อ (แต่อย่าไปจับตอเปเรสเกียร์นะจ๊ะ) ส่วนความสูงสำหรับตอแต่ละประเภทนั้น ผู้เลี้ยงส่วนใหญ่จะเลือกใช้ตอ (บลู,สามเหลี่ยม,หนามดำ) ที่มีขนาดประมาณ 10 นิ้วขึ้นไป ถ้ากราฟต์ครั้งแรกไม่ติด สามารถนำตอมากราฟต์แคคตัสหน่อใหม่ได้อีกครั้ง และการใช้ตอยาวช่วยเพิ่มสง่าราศีได้ด้วยนะ ส่วนความสูงขอตอเปเรสเกียร์ และแก้วมังกร ส่วนมากผู้เลี้ยงจะใช้ความสูงไม่เกิน 7-10 นิ้ว เรานำไปปรับใช้ตามความชอบหรือตามที่สามารถหาตอมาใช้ก็ได้นะครับ แล้วก็อย่าลืมใส่ใจดูแลบำรุงตอกันด้วยนะ


สร้างรายได้จากการเลี้ยงตอ

“ตอ” ยังเป็นวัสดุในการเลี้ยงที่สำคัญในการขยายพันธุ์ จึงทำให้ตลาดมีความต้องการสูงอยู่ ถึงแม้ในบางช่วงราคาของตอจะลดลง แต่ความต้องการยังไม่ลดตาม ทำให้มีคนหันมาปลูกเพื่อตัดตอตัดสด (ตัดหน่อที่แตกออกมาที่ยังไม่มีราก) และนำไปชำให้รากออก เพื่อนำขายเพื่อสร้างรายได้ เราเองก็สามารถนำแคคตัสมากราฟต์บนตอ แล้วนำไปขาย จะสามารถเพิ่มมูลค่าต่อตอสูงขึ้นกว่า 50% กันเลยทีเดียว

ยกตัวอย่างเช่น หากขายตอสามเหลี่ยมแบบตัดสดราคา 30 – 50 บาท แต่หากนำไปกราฟต์โดยเลือกแคคตัสที่เป็นที่ต้องการของตลาด จะสามารถขายได้ขั้นต่ำ 150 บาทขึ้นไปเลยนะ (ราคาขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ที่นำมากราฟต์ และกระแสความต้องการในช่วงนั้น) ดังนั้นหากเพื่อนๆ สามารถจับกระแสและเลือกสายพันธุ์ที่นิยมได้จะสามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่องเลยแหละครับ


เป็นไงบ้างฮะกับการหารายได้อีกทางหนึ่งในการเลี้ยงแคคตัสของเรา เจ้าตอก็ถือว่ามีประโยชน์และสรรพคุณเยอะมาก เหมาะอย่างยิ่งที่จะนำไปขยายสายพันธุ์ หรือเร่งโตให้ได้จำนวนเยอะๆ มาขายต่อ เพื่อนๆ สามารถนำข้อมูลที่ได้จากบทความนี้ไปปรับใช้ในการเลี้ยงแคคตัสและไม้กราฟต์ ให้เติบโต แข็งแรง และสร้างรายได้ให้เราได้เยอะๆ เลยนะครับ เฮงๆ รวยๆ แล้วมาพบกันใหม่ในตอนถัดไปของสวนหลังบ้านน้า 😍




Related posts
การปลูกแคคตัสเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับแคคตัส

“ไอเดียจัดสวนถาดแคคตัสแบบสวยเก๋”

การปลูกแคคตัส

รวมหลากหลายเทคนิคการล่อราก/ชำหน่อ ทำอย่างไรให้อัตรารอดสูงสุด

การปลูกแคคตัส

11 ไอเทมสามัญประจำบ้าน สำหรับชาวไม้หนาม

การปลูกแคคตัส

3 Trick ฟื้นคืนชีพผิวเหี่ยว โคนยุบของแคคตัส ให้กลับมาสดใสอีกครั้ง