สวัสดีเพื่อนๆ ชาวแคคตัสที่เฝ้ารอการเติบโตของแคคตัสในทุกๆ วัน ยิ่งแบบด่างงามๆ สีสดๆ บางครั้งเราซื้อมาตั้งแต่หน่อน้อยๆ ก็อยากให้เค้าโตไวๆ และอยากขยายพันธุ์ทำจำนวนเพื่อสร้างรายได้ วันนี้ LivingPop ขอแนะนำวิธีการขยายพันธุ์อีกรูปแบบหนึ่งที่สามารถเร่งโต และทำจำนวนให้เยอะได้อย่างแน่นอน ซึ่งก็คือ “การกราฟต์” นั่นเองฮะ

โดยทั่วไปการเพาะเลี้ยงแคคตัสแบ่งออกได้หลายประเภท ได้แก่ ไม้เมล็ด คือการที่เราเพาะแคคตัสที่มาจากเมล็ดที่ได้จากผสมเกสร ไม้ชำหน่อ คือการเด็ดหน่อที่โตจากต้นแม่แล้วนำมาปลูกในดินจนแคคตัสเริ่มมีรากออกมาหาอาหารเองได้ และไม้กราฟต์ (Grafting) เป็นการเลี้ยงและขยายพันธุ์แคคตัส ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่นักเพาะเลี้ยงทั่วโลก ดังนั้นเรามาทำความรู้จักกับ “ไม้กราฟต์และการกราฟต์แคคตัส” กันเลยครับ
ทำความรู้จัก ไม้กราฟต์และการกราฟต์

การกราฟต์ที่เราเรียกกัน คือการนำแคคตัสของเราที่ต้องการกราฟต์มาต่อไว้ด้านบนเรียกว่า “หัวไม้” และนำมาต่อกับตอหรือแคคตัสอีกต้นหนึ่ง ไว้ด้านล่างเพื่อใช้เป็น “ฐาน” ซึ่งตัวตอที่เป็นฐานจะทำหน้าที่ดูดสารอาหารจากในดิน โดยใช้รากทำการลำเลียงน้ำและสารอาหารที่ได้ ส่งผ่านลำต้นไปยังหัวไม้ของเราที่อยู่บนยอด โดยตอที่นิยมนำมากราฟต์มีอยู่หลายประเภท เช่น ตอแก้วมังกร, ตอสามเหลี่ยม, ตอหนามดำ, ตอริทเทอโร, ตอเปเรสเกีย หรือตอลูกผสม เป็นต้น นอกจากการใช้ตอเป็นฐานแล้วคนเลี้ยงบางท่านยังใช้แคคตัสมาเป็นฐานในกราฟต์อีกด้วย รายละเอียดของตอที่นิยมใช้ในแต่ละประเภท LivingPop จะมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้อ่านกันแบบละเอียดในบทความถัดๆ ไปนะครับ
กราฟต์ทำไมกันนะ?

เป็นคำถามยอดนิยมสำหรับเพื่อนๆ มือใหม่ที่พึ่งเข้าวงการ หรือยังไม่เคยกราฟต์ มักจะสงสัยว่า กราฟต์แล้วช่วยอะไรได้ แล้วทำไมต้องกราฟต์ด้วย วัตถุประสงค์ของการกราฟต์มีหลากหลายเหตุผล เช่น เพื่อการขยายพันธุ์เพิ่มจำนวนแคคตัสของเรา เนื่องจากไม้กราฟต์จะโตเร็วกว่าแคคตัสที่ใช้รากตัวเองในการหาอาหารเอง (เพาะลงกระถางหรือชำราก) หลังจากกราฟต์ไม้ไปได้ซักพัก หัวไม้จะเริ่มออกหน่อและดอก เราสามารถเด็ดหน่อมาชำราก หรือผสมเกสรเพื่อขยายพันธุ์ต่อไปได้ นอกจากนี้การกราฟต์สามารถช่วยชีวิตแคคตัสที่เจอปัญหาโรคต่างๆ เช่น รากหรือลำต้นเน่าได้ด้วยฮะ
จะกราฟต์ทั้งทีต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้าง?

อุปกรณ์ที่ต้องเตรียมนั้นสามารถหาได้ทั่วไปเลย โดยสิ่งต้องเตรียมมีดังนี้
- หน่อแคคตัสที่จะนำมาเป็นหัวไม้ หน่อที่จะเลือกมานั้นควรจะเป็นหนอที่มีขนาดประมาณ 3 เซนติเมตร เป็นขนาดกำลังพอดี และรูปทรงไม่บิดเบี้ยว เนื่องจากความสมบูรณ์ของหน่อนั้นเป็นปัจจัยสำคัญของการกราฟต์เหมือนกันนะครับ
- คัตเตอร์หรือมีด ต้องคมและสะอาด ความยาวของใบมีดควรจะยาวกว่าขนาดของตอ และมีด้ามจับที่ถนัดมือ เพราะจะช่วยให้ตัดตอได้ง่ายและเรียบ
- แอลกอฮอล์และสำลี ใช้สำหรับเช็ดทำความสะอาดใบมีด
- เทปหรือยางรัดของ ไว้ใช้ยึดหัวไม้กับตอหลังจากที่กราฟต์
- ตอ ควรจะเลือกตอที่มีความสมบูรณ์ ไม่เป็นโรคต่างๆ โดยจะใช้ตอที่ตัดสด (ตอที่ยังไม่มีราก) หรือตอที่ชำรากมาแล้วก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเพื่อนๆ มีตอแบบไหนอยู่ ถ้าจะเพิ่มโอกาสในการกราฟต์ติด ควรนำตอตัดสดไปชำรากก่อนมากราฟต์ เนื่องจากรากตอจะดูดอาหารมาเลี้ยงลำต้นให้สมบูรณ์มากขึ้นครับ
ขั้นตอนและวิธีการกราฟต์


สิ่งสำคัญในการกราฟต์ที่จะช่วยให้โอกาสหัวไม้ของเรารอด คือความสะอาดและความคมของมีดที่เรานำมาใช้สำหรับหัวไม้กับยอดตอกราฟต์ เพราะหากมีดเราไม่คมจะทำให้รอยตัดนั้นไม่เรียบ ส่งผลให้กราฟต์ติดยากครับ
เริ่มต้นการกราฟต์
- นำหน่อแคคตัสมาตัดส่วนล่างของหน่อ เพื่อให้เห็นท่อน้ำเลี้ยงของหน่อ
- หลังจากนั้นตัดส่วนยอดของตอสำหรับกราฟต์ให้เห็นท่อน้ำเลี้ยงของตอเช่นกัน นำแคคตัสที่ตัดมาวางไว้บนตอไม้ โดยให้ท่อน้ำเลี้ยงของทั้ง 2 ต้นประกบกัน
- ใช้เทปหรือยางรัดของ ยึดหัวไม้และตอไม้ให้แน่นและแนบสนิทกัน ในขั้นตอนนี้มีข้อควรระวัง ตอนยึดติดกับหัวไม้แล้วหัวไม้อาจเกิดการขยับได้
- หลังจากนั้นนำไม้กราฟต์ไปวางไว้ ในที่ที่ไม่โดนแดดและห้ามโดนน้ำเด็ดขาด เพื่อป้องกันหัวไม้เน่า
กราฟต์ติดไหมสังเกตยังไง? และวิธีการเลี้ยงไม้กราฟต์

หลังจากกราฟต์เสร็จ รอจนกว่าหัวไม้และตอไม้แนบสนิทกัน ประมาณ 7 วัน แล้วค่อยทำการแกะเทปหรือยางที่ยึดไว้ออก ในช่วงนี้เราจะพบว่าไม้กราฟต์ต้นไหนบ้างที่ต่อติดหรือแห้งตายไป หลังจากนั้นให้นำไม้กราฟต์ที่ไม่มีรากนำไปลงปลูกในดิน ในการรับแดดนั้นให้ไว้ที่มีแดด แต่ต้องมีสแลนคลุมนะครับ เราสามารถเลี้ยงตอกราฟต์เหมือนต้นไม้ทั่วไป รดน้ำได้ทุกวันหรือวันเว้นวัน ในระหว่างนี้เพื่อนๆ อาจจะพบว่ามีไม้กราฟต์บางต้นแห้งตายไป อาจจะเกิดจากท่อน้ำเลี้ยงตอนเรากราฟต์ต่อไม่ตรงหรือไม่แนบสนิท
วิธีการสังเกตว่าไม้กราฟต์ต้นนี้กราฟต์ติดแล้วหรือยัง? สังเกตได้จากขนาดลำต้นที่เริ่มขยายใหญ่ขึ้น หรือเริ่มมีการงอกส่วนใหม่ออกมาจากลำต้น เช่น หนามใหม่ที่หัวไม้, มีหน่อเล็กๆ และมีตุ่มดอกออกมา เป็นต้น ซึ่งจะเห็นการเปลี่ยนแปลงในส่วนนี้อาจจะต้องใช้ระยะเวลาพอสมควร ขึ้นอยู่กับความสมบูรณ์ของหัวไม้และตอไม้ครับ

ข้อดีของไม้กราฟต์
- ช่วยทำให้แคคตัสเราโตไวกว่าไม้เมล็ดหรือไม้ชำหน่อที่ใช้รากตัวเองในการหาอาหารหลายเท่า
- ลดระยะเวลาการเลี้ยงได้มากทำให้เราสามารถขยายพันธุ์ได้เร็วขึ้น
- ทำให้เกิดโอกาสออกหน่อใหม่หรือดอกได้เร็วขึ้น เพื่อนำไปชำหรือผสมเกสรต่อไปได้ง่ายกว่า
ข้อเสียของไม้กราฟต์
- เมื่อหัวไม้โตเร็วกว่าปกติส่งผลทำให้รูปทรงของไม้ไม่เหมือนเดิม รูปทรงไม้ขยายและยืดยาวขึ้น ซึ่งผิดปกติไปจากเดิมที่ควรจะเป็น
- ตอไม้ที่นำมากราฟต์ก็มีอายุการใช้งานที่จำกัด หากตอเริ่มผอมหรือเป็นโรคก็จำเป็นต้องนำมารีกราฟต์ (นำมากราฟต์บนต่อใหม่) หรือต้องเลี้ยงเป็นไม้ตัดลง (ตัดตอไม้แล้วนำหัวไม้มาชำราก) ซึ่งจะมีความเสี่ยงว่าหัวไม้จะรอดหรือไม่รอด
จากข้อเสียเหล่านี้ทำให้ผู้เลี้ยงแคคตัสที่ชอบรูปทรงแบบปกติจึงไม่นิยมเลี้ยงไม้กราฟต์นั้นเองครับ แต่ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบของเพื่อนๆ แต่ละคนด้วยนะฮะ
การสร้างรายได้จากไม้กราฟต์

การกราฟต์ที่ช่วยทำให้แคคตัสเติบโตเร็วมากขึ้น ทำให้สามารถเพิ่มจำนวนได้ไวขึ้น ด้วยการนำหน่อจากไม้กราฟต์ต้นแม่ออกมากราฟต์ใหม่ ทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนมีปริมาณไม้กราฟต์เป็นจำนวนมาก เพื่อให้มีไม้กราฟต์มาขายในช่องทางต่างๆ สามารถสร้างรายได้ โดยราคาของไม้กราฟต์นั้นมีตั้งแต่หลัก 100 บาท สูงไปถึงหลัก 10,000 บาทเลยนะ ซึ่งราคาจะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย เช่น ชนิคของแคคตัส, ขนาดของหัวไม้, หน้าไม้ (รูปทรง,สีสัน) ซึ่งหัวไม้ชนิดเดียวกันแต่ราคาอาจจะต่างกันก็เป็นได้ สุดท้ายคือเทรนด์ของแคคตัสช่วงนั้นว่ากำลังนิยมต้นแบบไหน หรือต้นไหนที่เป็นที่ต้องการในท้องตลาดนั่นเองฮะ
อ่านมาถึงตรงนี้หลายๆ คนเริ่มสนใจอยากจะลองเอาหน่อที่บ้านมาลองกราฟต์กันแล้วใช่ไหมละครับ ลองทำตามวิธีที่ทาง LivingPop แนะนำกันดู ไม่แน่ว่าอาจจะกลายเป็นงานอดิเรกสนุกๆ หรือกลายเป็นงานที่สร้างเงินให้กับเราก็เป็นได้ สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าเพื่อนๆ จะเลี้ยงเป็นแบบไม้กราฟต์ ไม้เมล็ด ไม้ชำหน่อ ผมก็ขอให้เพื่อนๆ ใส่ใจดูแลแคคตัสของเราอย่างสม่ำเสมอ เพียงแค่นี้ก็จะทำให้แคคตัสของเราเจริญเติบโตและสวยงามได้อย่างแน่นอนฮะ บทความหน้าเราจะนำเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย หรือเคล็ดลับอะไรดีๆ มาแชร์ให้ได้อ่านกันอีก อย่าลืมติดตามนะค้าบบบ 😉