และแล้วไดโนเสาร์ก็ฟื้นคืนชีพอีกครั้ง แต่มาในรูปแบบต้นไม้ที่มีความเก่าแก่ แต่ไม่มีวันสูญพันธุ์แน่นอนฮะ วันนี้สวนหลังบ้านของเราจะพาเพื่อนๆ มารู้จักกับต้นไม้อีกสายพันธุ์หนึ่งที่มีชื่อว่า “ยูโฟเบียไดโนเสาร์” แค่ชื่อก็รู้สึกได้ถึงความลึกลับแล้วใช่มั๊ย แถมรูปทรงของเขายังมีความแปลกตาด้วยนะ รับรองว่าเพื่อนจะต้องหลงใหลกับเสน่ห์ของเจ้าต้นไม้ต้นนี้กันฮะ
ยูโฟเบียไดโนเสาร์คืออะไร? ใช่แคคตัสหรือเปล่านะ?
ก่อนอื่นต้องบอกก่อนเลยว่า “ยูโฟเบีย” ไม่ใช่แคคตัส แต่เป็นไม้อวบน้ำที่อยู่ในตระกูลยูโฟเบีย ซึ่งจะสังเกตง่ายๆ ว่าต้นไม้ตระกูลนี้จะมีน้ำยางสีขาวไหลออกมาเมื่อต้นมีแผล ชื่อสกุลยูโฟเบีย “Euphorbia” มาจากการตั้งชื่อเพื่อเป็นเกียรติให้กับ Euphorbus แพทย์ชาวกรีก ผู้นำยางจากพืชสกุลนี้มาใช้รักษาโรค ซึ่งสายพันธุ์นี้เป็นไม้อวบน้ำที่ก่อกำเนิดบนเกาะมาดากัสการ์ เติบโตในป่ากึ่งดิบแล้ง ทุ่งหญ้า ไปจนถึงลานหินครับ
- ชื่อวิทยาศาสตร์ของยูโฟเบีย ไดโนเสาร์ : Euphorbia decaryi Guillaumin var. spirosticha
- วงศ์ : Euphorbiaceae
- ความสูง : 20 – 25 เซนติเมตร
- ลักษณะลำต้น : ทรงพุ่มแผ่เตี้ย มีหนามสั้นๆ รอบต้น เมื่อเติบโตจะกระจายออกไปรอบทิศทาง
- ลักษณะใบ : มีทั้งใบหยัก และใบเรียวยาว ใบจะแตกออกจากลำต้น อาจมีสีแดงเข้มเมื่อโดนแดดมากเกินไปหรือขาดน้ำ และจะมีสีเขียวเมื่อได้รับแสงและน้ำที่เพียงพอ
- ลักษณะดอก : ช่อดอกแบบกระจุก รูปกรวยเชื่อมติดกันตรงโคนเป็นหลอดสั้นๆ ปลายแผ่กว้างออกดอกสีชมพูอมน้ำตาลรูปกรวย มีตุ่มรอบเกสรสีเหลือง ดอกห้อยย้อยจากปลายยอดคล้ายกระดิ่ง
วิธีการเลี้ยงดู
สำหรับยูโฟเบีย ไดโนเสาร์ มือใหม่ก็เลี้ยงได้ เพราะดูแลง่ายมากครับ
- ดิน : ปลูกด้วยดินแคคตัส หรือดินร่วนปนทราย ชอบดินที่มีความโปร่ง
- แสงแดด : เลี้ยงได้ทั้งแดดรำไร และแดดจัด (สำหรับแดดจัด ต้องรดน้ำบ่อยขึ้นและหมั่นดูเรื่องใบ ถ้าใบเริ่มสีแดง อาจจะเป็นใบไหม้ ให้นำมาหลบที่แดดรำไร)
- การรดน้ำ : รดน้ำให้เพียงพอเมื่อดินแห้ง แต่อย่ารดมากเกินไป เพราะเค้าไม่ชอบความแฉะ
- ข้อแนะนำ : ควรปลูกใส่กระถางปากกว้าง เพราะต้นเจริญเติบโตได้แบบรอบทิศทาง เวลามีกิ่งหัก ต้องระมัดระวังน้ำยางพิษที่เกิดจากไม้อวบน้ำชนิดนี้ด้วยนะครับ
- การขยายพันธุ์ : การปักชำ / เพาะเมล็ด / แยกหน่อ แต่ที่นิยมและรวดเร็วที่สุดคือ การปักชำกิ่ง เพียงแค่สังเกตว่ามีกิ่งใหม่งอกออกมีขนาดใหญ่พอสมควร ตัดแล้วรอแผลแห้ง 2 – 3 วันและนำปักลงดินได้ สามารถทาด้วยน้ำยาเร่งรากได้เช่นกัน
ยูโฟเบียที่นิยมเลี้ยงกันในบ้านเรา
ยูโฟเบีย แลคเทีย (Euphorbia lactea)
ยูโฟเบีย แลคเทีย มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Euphorbia lactea (lactea หมายถึง milk บ่งบอกถึงน้ำยางสีขาวข้น คล้ายน้ำนม บางคนอาจเขียนชื่อว่า ยูโฟร์เบีย, ยูฟอเบีย หรือยูฟอร์เบีย) ลักษณะเด่นคือ มีลักษณะฟอร์มแตกกิ่งก้านสวยงาม ตามลำต้นมีลวดลายแต้มสีเขียวอ่อนอมเทา เป็นที่มาของชื่อ Dragon Bones (ลายกระดูกมังกร) ซึ่งแตกต่างจากสลัดไดป่า ที่เป็นพรรณไม้พื้นเมืองของไทย ที่ลำต้นสีเขียวล้วนไม่มีลวดลาย สายพันธุ์นี้เมื่อกลายพันธุ์เป็นคริส (cristata) จะถูกเรียกว่าหยกนำโชคนั่นเองฮะ
วิธีการดูแล : ปลูกง่าย เลี้ยงง่าย ทนทาน ชอบแสงแดด สามารถปลูกลงดิน กลางแจ้ง ตากแดดตากฝนได้เลย ไม่จำเป็นต้องปลูกในโรงเรือน
ยูโฟเบีย สลัดได (Euphorbia Antiquorum)
สลัดได มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Euphorbia Antiquorum เป็นอีกหนึ่งสายพันธุ์ยูโฟเบียที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ออกใบเป็นใบเดี่ยวเรียงสลับ ใบมีขนาดเล็ก ส่วนใหญ่มักนำไปใช้เป็นยาสมุนไพรช่วยรักษาโรค แต่ก็มีข้อควรระวังคือ สลัดไดจะมียางที่ค่อนข้างมีพิษ จึงควรที่จะใช้อย่างถูกวิธี
วิธีการดูแล : ปลูกง่าย เลี้ยงง่าย ทนทาน ชอบแสงแดด สามารถปลูกลงดิน กลางแจ้ง ตากแดดตากฝนได้เลย ไม่จำเป็นต้องปลูกในโรงเรือน
ยูโฟเบียนักกล้าม (Euphorbia pseudo globosa)
นักกล้าม มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Euphorbia pseudo globosa มีลักษณะเหมือนกับสายพันธุ์กระบองเพชรมากที่สุดจนทุกคนคิดว่าเป็นกระบองเพชร (Cactus) แต่ที่จริงแล้วเป็นไม้อวบน้ำที่มีการแตกหน่อเป็นพุ่ม ซึ่งลักษณะที่ทำให้ดูเหมือนมีกล้าม ก็เพราะเกิดจากการน้องแตกหน่อนั่นเอง นักกล้ามสามารถแตกหน่อที่มีขนาดใหญ่ได้ถึง 8.5 เซนติเมตร มีความยาวได้ถึง 4.5 เซนติเมตร มีดอกสีเหลือง และเป็นดอกเดี่ยว ที่มีเกสรตัวผู้และตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน ซึ่งดอกจะงอกขึ้นมาบริเวณส่วนยอดของลำต้น น่ารักตะมุตะมิมากครับ
วิธีการดูแล : เหมือนยูโฟเบียไดโนเสาร์
ยูโฟเบีย เจปอนิก้า, ยูโฟเบียคนป่า, ยูโฟเบียสับปะรด หรือไม้โขด
(Euphorbia Japonica)
ยูโฟเบียสับปะรด มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Euphorbia Japonica บางคนอาจอ่านชื่อเป็น ยูโฟเบีย เจโปนิกาหรือยูโฟเบียจาโปนิก้า เรียกได้หลายชื่อมากครับ มีความน่ารักมุมิในแบบโขดๆ ต้นนี้เป็นลูกผสมระหว่าง E.Bupleurifolia X E.suzannae เป็นไม้โขดอวบน้ำลำต้นสั้นแคระ และมีหน้าตาคล้ายสับปะรดเลย
วิธีการดูแล : เหมือนยูโฟเบียไดโนเสาร์
รู้ได้อย่างไรว่าต้นไม้ที่เราปลูกเป็นตระกูลยูโฟเบีย?
เราสามารถทดสอบได้ง่ายๆ เพียงแค่เด็ดใบหรือกิ่งก้าน จะพบว่ามีน้ำยางสีขาวออกมา เช่นเดียวกับต้นโป๊ยเซียนที่เรารู้จัก ลักษณะไม้ที่มีน้ำยาง ส่วนใหญ่เป็นไม้ในตระกูล “ยูโฟเบีย” นั่นเองครับ
หากเพื่อนๆ กำลังหาต้นไม้น่ารักน่าสะสม ดูสวยงามแล้วก็มีเสน่ห์แปลกตา ผมขอแนะนำไม้อวบน้ำตระกูลยูโฟเบีย หรือเจ้า “ยูโฟเบียไดโนเสาร์” ลองหาซื้อติดบ้านไว้สักต้นดูฮะ รับรองว่าจะกลายเป็นจุดพักสายตาให้เรารู้สึกผ่อนคลายได้อย่างแน่นอนเลย