ปีที่ผ่านมาหลายคนคงได้มีโอกาส Work From Home กันมามากบ้างน้อยบ้างพอสมควร เป็นยังไงกันบ้างครับกับการทำงานที่บ้าน ซึ่งพื้นที่ กิน นอน ดูหนัง ทำงาน เบลนด์กลายเป็นพื้นที่เดียวกัน ปัญหาที่ผมเห็นหลายคนมักประสบพบเจอ คือ อาการสุดโต่ง คนบางกลุ่มทำงานในครัว ห้องนอน ห้องนั่งเล่นจนพักไม่เต็มที่ ส่วนอีกกลุ่มมีอาการ “ไหล” สบายเกินจนขี้เกียจทำงาน ยิ่งคนที่มีโต๊ะทำงานในห้องนอน เตียงอยู่ติดกับโต๊ะแค่คืบ ถ้าไม่ระวังอาจเกิดอาการเตียงดูด โซฟาดูดได้ง่ายๆ จนงานการไม่ได้ทำ วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ มาดู 4 ไอเดียที่จะช่วยให้ทั้งการทำงานและการพักผ่อน เบลนด์เข้ากันได้ลงตัวในทุกๆ วันฮะ

ไม่ว่าคุณจะเป็นคนสายบ้างานหรือขี้เกียจ เราต่างเป็นพวกเดียวกันที่ต้องปรับสมดุลพื้นที่ทำงาน-พักผ่อนกันสักหน่อย ให้เอื้อกับไลฟ์สไตล์ที่บ้านกลายเป็นโฮมออฟฟิศไปโดยปริยาย มาดู 4 ไอเดียช่วยให้ทำงานเปี่ยมพลังอยู่บ้านแบบชิคๆ และพักผ่อนได้เต็มอิ่มกันเลย
1. พื้นที่ต่างระดับ-ต่างกิจกรรม

…ก็เรานั้น มันคนละชั้น จะทำเช่นไร ให้มองเห็นกัน… ใช่แล้วครับ การมีโซนทำงานและพักผ่อนอยู่คนละชั้นเป็นวิธีหนึ่งที่แบ่งพื้นที่ได้อย่างชัดเจนที่สุด
สามารถออกแบบการใช้พื้นที่ให้แตกต่างกันง่าย แต่คนละชั้นในที่นี้ไม่ได้มีแค่ชั้น 1 กับชั้น 2 อาจเป็นแค่การยกพื้นแค่ 2 – 3 ขั้นบันไดก็ได้ วิธีนี้ค่อนข้างเหมาะกับห้องแบบเปิดโล่ง (open floor plan) หรือ ห้องกว้างขวางหน่อย มักนิยมวางเฟอร์นิเจอร์หลักบริเวณยกพื้นต่างระดับ เช่น ทำพื้นยกระดับเป็นโซนพักผ่อนสำหรับเตียงโดยเฉพาะ จัดโต๊ะประชุมที่พื้นยกระดับ โดยพื้นที่ห้องที่เหลือเป็นส่วนพักผ่อน เชื่อมไปยังห้องนั่งเล่นและห้องครัว
2. แบ่งอาณาเขตให้ชัดด้วยพรมและฉากกั้น
สำหรับใครที่มีพื้นที่น้อยต้องใช้สอยอย่างประหยัด มีวิธีแบ่งอาณาเขตอย่างง่ายๆ ที่ไม่เสียตังค์เยอะ และไม่จำเป็นต้องสร้างกำแพงกั้นเสมอไป แค่ตกแต่งเพิ่มเติมนิดหน่อยก็เอาอยู่
- พื้น – ปูพรมเฉพาะส่วนที่โซฟาตั้งอยู่ หรือ มุมนั่งเล่นในห้อง พรมช่วยเน้นให้โซนนั่งเล่นเอกเขนก แตกต่างจากมู้ดส่วนอื่นๆ ของห้องแม้โต๊ะทำงานอาจตั้งอยู่ใกล้ๆ หรือในทางกลับกันปูพรมเฉพาะใต้โต๊ะทำงานก็ได้เหมือนกัน แค่ต้องสร้างรายละเอียดของขอบเขตพื้นที่ให้มีบรรยากาศแตกต่างกันให้ได้เท่านั้นครับ
- ผนัง (ที่ไม่ใช่กำแพง) – ทั้งม่าน มู่ลี่ ฉากกั้นที่พับเปิด-ปิดได้ สิ่งเหล่านี้อาจเวิร์คกว่ากำแพงในหลายครั้งด้วยซ้ำ เพราะขยับเปลี่ยนที่ทางได้ตลอด ถ้าห้องแคบก็ไม่ทำให้รู้สึกอึดอัดเกินไป เพราะยังเห็นบรรยากาศห้องส่วนที่เหลืออยู่ แค่ต้องมีโซนกั้นกันไม่ให้เถลไถลได้เท่านั้น
หากบางคนไม่อยากซื้อม่าน หรือ ฉากกั้นโดยตรง อาจลองประยุกต์ตั้งฉากกั้นแบบสร้างสรรค์ เช่น นำชั้นหนังสือหรือชั้นวางของมาวางเป็นฉากกั้นแทน คั่นโซนห้องได้และยังใช้วางของได้อีก แต่งห้องให้สวยขึ้นไปอีกแบบเหมือนกันฮะ
3. สร้างโซนด้วยสีที่เหมาะกับกิจกรรมในห้อง

“สี” เป็นส่วนสำคัญที่มีผลกับอารมณ์และระดับพลังงานของเราอย่างมากเลยล่ะครับ การเลือกสีให้เหมาะกับกิจกรรมที่เรากำลังทำช่วยสนับสนุนการเปิด-ปิดโหมดทำงาน-พักในตัวให้ง่ายขึ้น ตามหลักทางการออกแบบแล้ว สีฟ้าเหมาะสำหรับพื้นที่พักผ่อนมากกว่าครับ เพราะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย เหมาะที่สุดกับห้องนอน ส่วนสีที่เหมาะกับการทำงาน คือ สีโทนกลางๆ ที่เห็นแล้วสบายตา มองแล้วไม่หักเหความสนใจจากงาน เช่น สีขาว เทา ครีม สีที่โดดเด่นเตะตาอย่างเหลืองและแดงกระตุ้นความกระตือรือร้นและพลังบวก แต่เหลืองจัดและแดงจัดก็กระตุ้นความเครียดด้วยเช่นกัน จึงเหมาะสำหรับเบลนด์ไปกับสีอื่นมากกว่าทาทั้งห้อง
สำหรับสีโทนกลางๆ อย่างสีเขียวที่สื่อถึงธรรมชาติ เหมาะกับทั้งพื้นที่ทำงานและพักผ่อน ช่วยให้ผ่อนคลายเหมือนล้อมรอบด้วยต้นไม้ รวมทั้งทำให้สงบและมีสมาธิในขณะเดียวกัน เมื่อเลือกสีในแต่ละโซนได้แล้ว หากพื้นที่ทำงานและพักผ่อนอยู่ติดกัน หรือ อยู่ในห้องเดียวกัน แต่จำเป็นต้องแบ่งโซนสามารถแบ่งขอบเขตสองพื้นที่ออกจากกันได้ง่ายๆ ด้วยการใช้คู่สีตรงกันข้ามเพื่อกำหนดอาณาเขตของโฮมออฟฟิศหรือการทำงานที่บ้านให้ชัดเจน
4. แยกพื้นที่ทำงานด้วยการหลบมุม
พื้นที่ทำงานที่มีประสิทธิภาพควรมีความเป็นส่วนตัวและเงียบมากกว่าพื้นที่พักผ่อนจริงไหมครับ จะได้ทำงานอย่างมีสมาธิได้ เชื่อว่าไม่ว่าบ้านของคุณจะเล็กหรือใหญ่แค่ไหน อย่างน้อยต้องมีมุมเงียบๆ ในบ้านสัก 1 – 2 มุมแน่นอน เช่น โซนใต้บันได มุมหันหน้าเข้าหน้าต่าง ด้วยเลย์เอาท์ของพื้นที่เหล่านี้ที่หลบมุมและมักแยกส่วนจากพื้นที่สังสรรค์และจอแจในบ้าน จะช่วยให้เราเก็บตัว มีสมาธิจดจ่อกับงานโดยไร้สิ่งรบกวนได้มากขึ้น ลองมองหามุมเด็ดๆ เหล่านี้ที่ซ่อนตัวอยู่ ไม่แน่อาจไม่ได้แค่โต๊ะทำงานประจำ แต่อาจเจอหลายมุมที่น่าแปลงโฉมเป็นโซนทำงาน สำหรับเปลี่ยนบรรยากาศคิดงานหลายๆ มุมในบ้านก็ได้ครับ
ถึงแม้เราควรจะแบ่งโซนทำงานกับพักผ่อนออกจากกัน แต่ก็อย่าลืมเหมือนกันนะครับว่า การตกแต่งห้องทำงานที่ดีไม่จำเป็นว่าต้องจริงจังหรือมีบรรยากาศเครียดเกินไป เราสามารถมีโซนทำงานแบบ Casual สบายๆ ที่ประดับของตกแต่งบ้านที่เป็นตัวเอง ไม่ต่างจากโซนพักผ่อนเหมือนกัน หลายครั้งการใส่กิมมิคตกแต่งบ้านที่ทำให้สบายใจและทำงานสบาย ก็ช่วยให้เราทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยซ้ำ การทำงานและพักผ่อนต้องทำอย่างเต็มที่ทั้งคู่ ลองเอาไอเดียการออกแบบวันนี้ไปใช้ที่บ้านกันดูนะครับ
ที่มา : Apartmenttherapy Entrepreneur.com