กินเที่ยวในกรุงเทพ

“SAHA Omakase” ยกระดับเนื้อไทยในรูปแบบโอมากาเสะ 16 คอร์สปังๆ ในราคา 1900++

ไปพบกับ “SAHA Omakase” เจ้าแรกที่ยกระดับเนื้อไทยมาอยู่ในรูปแบบของ Omakase ราคา 1900++ มีทั้งหมด 16 คอร์ส เฉลี่ยคอร์สละร้อยกว่าบาทเอง อิ่มฟินแบบ SAHA กับเนื้อส่วนต่างๆ ที่แสดงให้เห็นว่าเนื้อไทย ไม่แพ้เนื้อที่ไหนในโลก โดยฝีมือเชฟไทย ในโรงแรมบันยันทรี สาทรนั้น มีห้องอาหารหลากหลายแบบมากๆ ทั้งอาหารจีน อาหารไทย หรือจะเป็นการทานอาหารชมวิวบนชั้นดาดฟ้าก็ตาม แต่ในวันนี้เราจะพาชาว LivingPop แวะไปกันที่ชั้น 53 ของโรงแรมบันยันทรี สาทร กันครับ


จุดเริ่มต้นของโอมากาเสะคอร์สนี้มาจากร้าน SAHA ที่ลาดพร้าว 101 ซึ่งเป็นร้านเนื้อไทย Dry-Aged คุณภาพดี โดยร้านจะใช้เนื้อไทยทั้งหมดที่โดดเด่นในด้านการปรุงบวกความชำนาญของเชฟรังสรรค์ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม จากนั้นก็ขยับขยายมาทำเป็นรูปแบบของคอร์สโอมากาเสะ ซึ่งมีจำนวน 16 คอร์ส ที่ราคา 1,900++ ซึ่งเมื่อเทียบกับปริมาณก็ทำให้อิ่มกำลังดีเลยครับ ซึ่งในคอร์สนี้ก็จะใช้เนื้อหลายๆ ส่วน ตั้งแต่เนื้อสันใน เนื้อสันนอก เนื้อริบอาย เนื้อไทยโนมิ และที่ขาดไม่ได้เลยคือลิ้นวัวนั่นเอง ซึ่งเมนูที่เป็นลิ้นวัวก็จะผ่านการซูวีออกมาในหลายๆ คอร์ส ถ้าหากเราไม่รับประทานลิ้นวัว ก็สามารถแจ้งทางเชฟได้ ทางเชฟก็จะเปลี่ยนเป็นเนื้อสันในแทนให้ครับ

เมนูทั้ง 16 คอร์ส จะมีดังนี้ครับ

  1. Gyu Tan With Lemon Wrap in Cucumber
  2. Gyu Tataki
  3. Chawan Muchi with Foie Gras and Black Truffle Sauce
  4. Gyu Shabu in Ponzu
  5. Goma Tofu with Yuzu Miso Sauce
  6. Uni Gyu Maki in Tare Sauce
  7. Mini Hamburg & Homemade Sauce
  8. Daily Selected Cut of Yaki Gyu
  9. Ribeye Steak with Rossini Sauce
  10. Gyu Tan Stew
  11. Yaki Gyu Shabu Served in Tsukimi Sauce
  12. Tomato Compote
  13. Gyu Tan Katsu Sando
  14. Gyu Tan Butter Katsu
  15. Donabe Gyu Hire Gohan
  16. Daily Dessert

เดี๋ยวเราจะพาเพื่อนๆ ไปชิมแต่ละเมนูกันเลย ว่าเนื้อไทยจะอร่อยแค่ไหนกัน (ถ้าใครเปิดบทความนี้ตอนกลางคืน อาจจะเกิดอาการหิวได้นะครับ แต่ถ้าใครอิ่มแล้วก็รอดไปนะ 55555) รูปด้านล่างจะเป็นบรรยากาศห้องอาหารโอมากาเสะที่ผมไปทานครับ

1. Gyu Tan With Lemon Wrap in Cucumber

เมนูนี้ คือลิ้นวัวที่ผ่านการซูวีกว่า 48 ชม. พันรอบๆ ด้วยแตงกวาฝานบางๆ ครับ


2. Gyu Tataki

เนื้อสันใน ไทยวากิวสไลด์บาง ราดน้ำพอนซึ พร้อมโรยเกลือทรัฟเฟิล มีหอมหัวใหญ่สไลด์บางๆ ด้วย


3. Chawan Muchi with Foie Gras and Black Truffle Sauce

ไข่ตุ๋นฟัวกราส์ทอปด้วยอูนิและทรัฟเฟิล


4. Gyu Shabu in Ponzu

เนื้อริบอายสไลด์ นำไปทำในรูปแบบชาบู ในน้ำซุปเนื้อ โดยเชฟจะให้ทานเนื้อก่อนแล้วทานน้ำซุปตามไปทีหลังครับ


5. Goma Tofu with Yuzu Miso Sauce

เต้าหู้งาขาวที่เชฟทำเอง โดยราดยูซูมิโซะและผสมข้าวบาร์เล่ย์ โดยน้ำซุปก็เป็นน้ำซุปเนื้อฮะ


6. Uni Gyu Maki in Tare Sauce

เนื้อสันนอกด้านบนท็อปด้วยอูนิ วาซาบิดอง และคาเวียร์ เพิ่มรสชาติด้วยซอสเทริยากิที่ทำมาจากเนื้อ


7. Mini Hamburg & Homemade Sauce

มินิแฮมเบิร์กที่ทำจากเนื้อไทยโนมิ ผ่านการ Dry-Aged มา 7 วัน ซึ่งเนื้อส่วนนี้จะอยู่ใกล้ๆ กับเนื้อเทนเดอร์ลอย (Tenderloin)
นอกจากนี้ยังมีมีฟัวกราส์ และซอสเนื้อ พร้อมรากบัวทอดและมันหวานด้วย


8. Daily Selected Cut of Yaki Gyu

เนื้อส่วนริบแคท พร้อม Puree บล๊อคโคลี่ และวาซาบิดอง พร้อมด้วยซอสที่ผสมด้วยหัวหอม ซึ่งกินแล้วเข้ากันได้อย่างลงตัวมากๆ


9. Ribeye Steak with Rossini Sauce

เนื้อส่วนริบอาย มาพร้อมซอสที่ช่วยเพิ่มรสชาติให้นุ่มละมุนลิ้นได้เป็นอย่างดีครับ


10. Gyu Tan Stew

สตูว์ลิ้นวัวที่ผ่านการซูวีมากว่า 12 ชม. ซึ่งน้ำซอสสีขาวๆ นั้น จะมีนมสดเป็นส่วนผสมสำคัญอยู่ฮะ


11. Yaki Gyu Shabu Served in Tsukimi Sauce

เนื้อสันนอกที่ทำเป็นสไตล์ชาบูโดยมีครีมที่ทำจากไข่ขาวและไข่แดง มาพร้อมน้ำซอสสูตรพิเศษ
ซึ่งตอนที่กินเชฟจะแนะนำให้คนให้เข้ากันแล้วกินทีเดียวเลยครับ


12. Tomato Compote

มะเขือเทศดองกับไวน์แดง ซึ่งพอได้กินแล้วจะมีความชุ่มฉ่ำมากๆ


13. Gyu Tan Katsu Sando

แซนวิสลิ้นวัว เนื้อนุ่มมากๆ หลังจากกินเมนูนี้ผมติดใจขนมปัง จนเชฟทำออกมาให้เพิ่มเลย ทำได้กรอบกำลังดีมากๆ ครับ


14. Gyu Tan Butter Katsu

ลิ้นวัวอีกเมนูนึงที่มาในรูปแบบทงคัตสึ มีเลมอนและเกลือ มาพร้อมแตงกวาดอง ซึ่งเชฟจะแนะนำว่าให้จิ้มกับเกลือชิ้นนึงและอีกชิ้นให้บีบเลมอนแทน


15. Donabe Gyu Hire Gohan

ข้าวอบซุปเนื้อ มีเนื้อสันในสเต๊กที่นำมาคลุกกับข้าวด้วย โดยจะไปเจียวกับมันเนื้อ และใส่วาซาบิลงไปเล็กน้อย
จากนั้นก็จะราดน้ำซุปแล้วค่อยกินทีเดียว


16. Daily Dessert

ของหวานเป็นไอศครีมยูสุ ที่ปิดท้ายคอร์สได้อย่างสดชื่นครับ


โดยรวมผมค่อนข้างชอบครับ เชฟสามารถปรุงเนื้อออกมาได้พอดีในแต่ละเมนู ประกอบกับความเข้าใจของเชฟในการรังสรรค์เนื้อต่างๆ ได้อย่างลงตัว ถ้าอยากเปิดประสบการณ์ในการลิ้มรสเนื้อไทยว่ามีดีขนาดไหน ก็ไม่ควรพลาดเลยครับ มาลองกันได้ที่ “SAHA Omakase” ในโรงแรมบันยันทรี ชั้น 53 ครับ

ช่องทางการติดต่อ

  • SAHA Omakase (www.facebook.com/SAHAOmakase)
  • Location: โรงแรม บันยันทรี กรุงเทพฯ สาทร ชั้นที่ 53
  • รอบละ 8 ที่นั่ง 12.00 / 17.30 / 20.00 หยุดทุกวันจันทร์
  • สามารถจองล่วงหน้าได้ที่: 089-202-1900

Related posts
กินเที่ยวในกรุงเทพ

พาไปดูทุกสาขาของ "PACAMARA Coffee Roasters" ร้านกาแฟ Specialty ชื่อดังของคนไทย

กินเที่ยวในกรุงเทพ

พาไปเช็กอินที่ "hint 힌트 🔍" คาเฟ่สไตล์มินิมอล สวยเหมือนอยู่เกาหลี!!!

กินเที่ยวในกรุงเทพ

รีวิวศูนย์อาหารเกาหลี "K-StrEAT" ชั้น 4 สามย่านมิตรทาวน์ กับ 10 ร้านที่สายเกาต้องมาลอง!!!

กินเที่ยวในกรุงเทพ

ตะลุยร้านดังย่าน "เยาวราช" เที่ยว-กิน-ดื่ม เช้าจรดค่ำ