หากย้อนกลับไปก่อนปี 1990 ยุคนั้นวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยยังไม่เติบโตเท่าปัจจุบัน เทคโนโลยีการก่อสร้างในยุคนั้นก็ยังไม่ได้ทันสมัยมาก วัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างโครงสร้างหลักของบ้านจัดสรรเกือบทั้งหมดใช้ ‘อิฐแดง’ ก่อขึ้นมาแล้วเอาปูนฉาบ
ปัจจุบันนวัตกรรมที่ถูกใช้ในการสร้างบ้านเป็นหลักไม่ใช่อิฐแดงอีกต่อไป
แต่เป็น 2 วัสดุที่เกือบทุกโครงการทั่วประเทศเลือกใช้คือ ‘อิฐมวลเบา’ และ ‘พรีคาสท์’ ซึ่งทำให้งานเสร็จไวขึ้นมาก ราคาถูก และทนทานมากกว่าอิฐแดง
โดย ‘คอนโด’ ส่วนใหญ่ จะใช้ ‘พรีคาสท์’ ในการทำผนังเปลือกนอกอาคารเกือบทั้งสิ้น เนื่องจากสะดวก ประหยัดต้นทุน แข็งแรง และง่ายในการก่อสร้าง ลองคิดดูว่าคอนโดเป็นพันยูนิต จะมาก่ออิฐมวลเบาแล้วฉาบปูน จะเสียเวลามากแค่ไหน
พรีคาสท์ เลยเป็นทางออกที่เวรี่กู้ดมากๆ ครับ รวมไปถึงทาวน์โฮม ส่วนใหญ่ก็จะใช้พรีคาสท์ด้วยเหตุผลเดียวกันกับคอนโดเช่นกัน ก็คือรวดเร็ว แข็งแรง ประหยัดเวลาเนื่องจากง่ายต่อการก่อสร้าง
ส่วนบ้านเดี่ยว แม้ว่าหลายโครงการจะเลือกใช้ ‘อิฐมวลเบา’ ในการก่อสร้างเป็นหลัก เวลาไปดูโครงการเราก็จะเห็นบ้านที่กำลังสร้างมีอิฐก่อขึ้นมาเป็นบล็อคให้เห็น แต่ก็มีแบรนด์ใหญ่อีกหลายแบรนด์ที่เลือกใช้พรีคาสท์ ในการสร้างบ้านเดี่ยว อย่างเช่น ภัสสร มัณฑนา เศรษฐสิริ หรือบางกอกบูลเลอวาร์ดบางโครงการ เซลก็ให้ข้อมูลผมมาว่าผนังของบ้านทำด้วยพรีคาสท์
ถ้าดูในเชิงของการก่อสร้าง จะเห็นว่า 2 วัสดุนี้ก็ดูแข็งแรงดีนี่ และไม่น่าจะมีความต่างอะไร แต่ในความเป็นจริง ทั้งสองวัสดุก็มีความต่างให้เห็นอยู่บ้าง ซึ่งก็มีผลต่อการเลือกที่อยู่อาศัยมากๆ แล้วความต่างมีอะไร ผมจะสรุปมาให้ดูกันทีละประเด็นครับ
ผนังทุบได้ไหม?
หากบ้านเป็นพรีคาสท์ ผนังไม่สามารถทุบได้ครับ ย้ำว่าทุบไม่ได้ อย่าหาทำครับ เนื่องจากผนังเป็นตัวรับน้ำหนักของคานและเสาบ้าน หากไปทุบอาจทำให้โครงสร้างมีปัญหา แม้ผนังพรีคาสท์ จะแข็งแรง แต่ถ้าไปทุบความแกร่งจะหายไป
ขณะที่บ้านที่สร้างด้วยอิฐมวลเบา ถ้าเจ้าของบ้านอยากจะทุบเพื่อต่อเติม เปลี่ยนแปลนบ้านก็ทุบไปเลยจ้า แต่ก็ต้องใช้ช่างที่ชำนาญการทุบอิฐมวลเบามาดูแลนะ ทุบมั่วๆ งานจะงอกเหมือนกัน เพราะก็ไม่ได้ทนทานขนาดอิฐแดง
กันเสียงได้ดีแค่ไหน?
เรื่องนี้เป็นการวัดกันและชนะแบบเฉียดฉิว โดยพรีคาสท์ จะสามารถกันเสียงได้ดีที่สุด โอกาสที่เสียงข้างบ้านจะเล็ดออกมายังบ้านเรามีค่อนข้างน้อย แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลยนะครับ
ถ้าข้างห้องเปิดนาฬิกาปลุกเสียงดัง หรือเด็กร้องไห้ แล้วบ้านเราเงียบมากๆ ยังไงก็ได้ยินครับ แต่อิฐมวลเบาจะได้ยินเสียงเด็กข้างบ้าน หรือนาฬิกาปลุกได้ชัดกว่า ดังนั้นทาวโฮมน์ที่ใช้พรีคาสท์ อย่างน้อยก็เบาใจได้ว่าเสียงจะไม่ทะลุออกมาเต็มที่นัก
ความแข็งแรง?
ต้องบอกว่าพรีคาสท์ แข็งแรงกว่าทุกวัสดุในการทำผนังไม่ว่าจะอิฐมอญแดง หรืออิฐมวลเบา ความแข็งแกร่งของผนังเป็นจุดขายที่ต้องยกให้พรีคาสท์ เขาเลยแหละครับเพราะพรีคาสท์ ถูกออกแบบเพื่อรับน้ำหนักด้วย ดังนั้นจึงแข็งมาก
ขณะที่อิฐมวลเบา มีความเบา และความพรุนของพื้นผิวมากกว่า ความแข็งแกร่งจึงไม่เทียบเท่าพรีคาสท์ แต่ก็ถือเป็นวัสดุที่แข็งแรง และเหมาะกับการสร้างบ้านเช่นกันนะ เพียงแต่ถ้าเทียบกับพรีคาสท์ แล้ว ก็ต้องยอมเขาครับ
การระบายความร้อน?
อิฐมวลเบา มาวินในข้อนี้ครับ เนื่องจากพื้นผิววัสดุที่มีความพรุนนี่แหละ ทำให้ระบายอากาศได้ดีกว่าพรีคาสท์ที่มีมวลแน่นหนาของผนังที่ออกแบบมาเพื่อรับน้ำหนัก แต่ระบายความร้อนได้ไม่ดี
ดังนั้นถ้าอยากได้บ้านที่ระบายความร้อนได้ดี ก็ต้องเป็นอิฐมวลเบาจะดีกว่า ถ้าคุณมองหาบ้านเย็น ก็ต้องเป็นอิฐมวลเบา ซึ่งอากาศภายในบ้านก็มีผลต่อการใช้แอร์ ถ้าระบายความร้อนได้ไว ค่าไฟก็น้อย และบ้านไม่ร้อน
อันที่จริงแล้ว ต้องบอกว่าบทความนี้ไม่ได้โจมตีวัสดุชิ้นไหนเลย แต่เรามาให้ความรู้เปรียบเทียบกัน เพื่อที่ผู้บริโภคจะได้ตัดสินใจว่าสุดท้ายแล้วจะเลือกบ้านที่สร้างด้วยโครงสร้างชนิดไหน
หรือจริงๆ การเลือกบ้านจากวัสดุอาจง่ายกว่านั้นคือ — ถ้าอยากทุบบ้านเพื่อต่อเติมในอนาคต ไปอิฐมวลเบา — ถ้าเป็นสายไม่ต่อเติม ไม่อยากทุบแล้ว ก็พรีคาสท์ไปเลยครับ
อย่างไรก็ขอให้ได้บ้านในฝัน และผ่านโควิดไปด้วยกันนะครับ 😀