นอกจากรายละเอียดการออกแบบภายในและภายนอกบ้านแล้ว การเลือกแสงไฟให้เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ภายในบ้านก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแสงไฟสามารถสร้างบรรยากาศ อารมณ์และความรู้สึกที่ดีให้กับบ้านได้ ซึ่งการเลือกแสงไฟให้เหมาะกับบ้านก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ตามไปดูกันเลยครับ
โทนสีของแสงไฟมีแบบไหนบ้าง?
Warm White
แสงวอร์มไวท์ จะให้แสงสีเหลืองนวล สีโทนอุ่น ไม่เข้มจัดและสว่างมากนัก เป็นแสงที่สบายตา ผ่อนคลาย โรแมนติก เป็นแสงที่ใช้สร้างบรรยากาศมากที่สุด
Cool White
แสงคูลไวท์ เป็นแสงที่ให้สีขาวนวลแต่ไม่จัด มีความสว่างมากกว่าแสงวอร์มไวท์ เรียกได้ว่าเป็นแสงกลางๆ ที่สามารถนำมาใช้ได้กับหลายพื้นที่ ทำให้มองเห็นสิ่งรอบตัวได้ชัดเจนมากขึ้น
Daylight
แสงเดย์ไลท์ เป็นแสงสีขาวโทนฟ้า ให้ความสว่างชัดเจน ทำให้มองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ดี และเป็นแสงที่ช่วยให้รู้สึกตื่นตัวอีกด้วย
เลือกแสงไฟยังไงให้เข้ากับบ้านเรา?
1. แสงไฟหน้าบ้านและประตูทางเข้า
บริเวณหน้าบ้านและบริเวณประตูทางเข้าถือเป็นจุดแรกของบ้านที่สามารถสร้างความประทับใจให้ทั้งกับคนอยู่เองและแขกที่มาเยือน ดังนั้น การใช้แสงไฟเสริมบรรยากาศ จะทำให้บ้านน่าอยู่และเพิ่มเสน่ห์ให้กับตัวบ้านมากยิ่งขึ้น
เทคนิคการใช้แสงไฟสร้างบรรยากาศให้กับหน้าบ้านและประตูทางเข้า
แนะนำให้มีโคมไฟติดผนังหรือโคมแขวนบริเวณประตูทางเข้าของบ้านเพื่อเน้นทางเข้าหลัก โดยใช้แสงไฟ Warm White เพื่อสร้างบรรยากาศ เพิ่มมิติมุมมองให้กับตัวบ้าน และติดตั้งโคมไฟบริเวณกำแพงบ้านเป็นระยะๆ หรือใช้ไฟ Downlight ติดตั้งใต้ชายคาของบ้าน เพื่อให้เห็นรอบบ้านชัดเจน และให้ความรู้สึกที่ปลอดภัย ซึ่งไฟรอบบ้านจะใช้แสงไฟ Warm White หรือ Cool White เพื่อทำให้แสงละมุนตา ไม่จ้าจนเกินไปครับ
2. แสงไฟกับห้องนั่งเล่น
ห้องนั่งเล่นเป็นพื้นที่ที่ใช้ทำกิจกรรม พักผ่อน และรับแขกซึ่งถือเป็นพื้นที่ส่วนกลางของบ้านที่ใช้สอยแบบอเนกประสงค์ แสงไฟที่ใช้จึงควรปรับเปลี่ยนได้หลากหลายตามความต้องการของผู้ใช้งาน และกิจกรรมนั้นๆ
เทคนิคการใช้แสงไฟสร้างบรรยากาศให้กับห้องนั่งเล่น
เลือกใช้หลอดไฟที่สามารถปรับเปลี่ยนโทนสีของแสงหรือความเข้มของแสงได้เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของการใช้งานแต่ละกิจกรรม จะเป็นแบบไฟฝังฝ้าเพดานหรือแบบไฟซ่อนหลืบก็ได้ และเสริมด้วย Direct light โดยเลือกใช้แสง Warm White ให้แสงสว่างเฉพาะจุดที่อยากเน้น เช่น ตู้โชว์ รูปภาพ เพื่อเพิ่มลูกเล่นให้กับมุมรับแขก
3. แสงไฟกับห้องนอน
ห้องนอนเป็นพื้นที่แห่งการพักผ่อนในยามนอนหลับ เป็นพื้นที่ที่เราใช้ผ่อนคลายจากสิ่งต่างๆ ถือเป็นห้องที่เราใช้เวลาอยู่ด้วยมากที่สุดห้องหนึ่งในบ้าน ดังนั้น การสร้างบรรยากาศห้องนอนให้มีความสงบ อบอุ่น พร้อมแก่การนอนหลับจึงเป็นสิ่งที่เราต้องให้สำคัญ
เทคนิคการใช้แสงไฟสร้างบรรยากาศให้กับห้องนอน
ควรหลีกเลี่ยงการใช้แสงไฟที่จะส่องเป็นแสงตรง เลี่ยงแสงรบกวนโดยวิธีการตกแต่งไฟแบบ Indirect Lighting หรือ ไฟซ่อน สามารถใช้ทั้งแบบซ่อนฝ้าเพดานหรือซ่อนบริเวณหัวเตียง โดยเลือกใช้แสงไฟ Warm White เนื่องจากเป็นแสงที่สบายตา ไม่จ้าจนเกินไป เป็นแสงที่พร้อมสำหรับการนอนหลับพักผ่อน นอกจากนั้น การใช้โคมไฟลอยตัวอย่างโคมไฟหัวเตียงหรือโคมไฟตั้งโต๊ะข้างเตียง ก็เป็นอีกหนึ่งพร๊อบที่นิยมใช้เพิ่มบรรยากาศสุนทรีย์ให้กับห้องนอนอีกด้วยครับ
4. แสงไฟกับห้องน้ำ
โดยปกติการออกแบบห้องน้ำ จะต้องมีช่องสำหรับระบายอากาศและเพื่อให้แสงธรรมชาติในเวลากลางวันเข้ามาสู่ตัวห้องน้ำเพื่อลดความอับชื้นอยู่แล้ว แต่สาวๆ หรือหนุ่มๆ หลายคนอาจจะใช้พื้นที่ห้องน้ำเป็นพื้นที่แต่งหน้า ทาครีม โกนหนวดด้วย ดังนั้น แสงไฟที่ใช้ควรให้โทนสีของแสงมีความชัดเจน ถูกต้องครับ
เทคนิคการใช้แสงไฟสร้างบรรยากาศให้กับห้องน้ำ
แนะนำให้ใช้แสงไฟ Cool White หรือ Daylight ที่ให้แสงไฟที่มีความสว่างชัดเจน และแนะนำให้ติดตั้งแบบฝังฝ้าเพดาน เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำกระเด็นจนเกิดอันตรายครับ ส่วนถ้าอยากทำให้ห้องน้ำมีลูกเล่นมากขึ้น อาจจะใช้ไฟเส้น LED แสง Warm White ซ่อนหลังกระจก ใต้อ่างล้างหน้า หรือชั้นวางของในห้องน้ำ ก็จะช่วยให้ห้องน้ำมีมิติและบรรยากาศดีมากยิ่งขึ้น
5. แสงไฟกับห้องครัว
โดยปกติการออกแบบห้องครัวจะมีหน้าต่างเพื่อระบายอากาศและให้แสงธรรมชาติเข้ามาเพื่อลดความอับชื้นและช่วยฆ่าเชื้อโรคเช่นเดียวกับห้องน้ำอยู่แล้ว แต่จะต่างตรงที่ห้องครัวสามารถออกแบบให้ช่องแสงหรือหน้าต่างใหญ่กว่าห้องน้ำ ดังนั้น ในเวลากลางวันเราอาจจะไม่ต้องเปิดไฟเลยก็ได้ ส่วนในเวลากลางคืนที่ต้องการความชัดเจนของแสงก็สามารถเลือกใช้ได้ทั้งแสง Daylight และ Cool White ครับ
เทคนิคการใช้แสงไฟสร้างบรรยากาศให้กับห้องครัว
การตกแต่งไฟเฉพาะจุด เช่น ไฟเหนือเคาน์เตอร์ครัว เหนือโต๊ะอาหาร ด้วยการใช้แสงไฟ Warm White เป็นการเสริมบรรยากาศ ทำให้ละมุนตาและทำให้อาหารดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น ส่วนบริเวณที่ทำอาหารถ้าต้องการแสงที่ค่อนข้างชัดเจนแต่ไม่จ้าเกินไปก็สามารถเลือกใช้แสง Cool White ได้ครับ
6. แสงไฟกับห้องทำงาน
เชื่อว่าหลายๆ บ้านในปัจจุบัน ต้องมีการจัดสรรให้มีห้องทำงานภายในบ้านอย่างแน่นอน เนื่องจากการต้อง Work From Home หรือทำงานที่บ้านมากขึ้น ซึ่งห้องทำงานนอกจากใช้ทำงานแล้ว บางคนยังใช้สำหรับการประชุมออนไลน์อีกด้วย ดังนั้น ห้องทำงานก็เป็นอีกห้องที่ต้องสร้างบรรยากาศให้สวยดูดี มีความสงบ เพื่อให้มีสมาธิ พร้อมสำหรับทั้งการทำงานและการประชุม
เทคนิคการใช้แสงไฟสร้างบรรยากาศให้กับห้องทำงาน
แนะนำให้ใช้ไฟ Daylight เพื่อให้แสงสีที่ได้มีความถูกต้อง ชัดเจน โดยเลือกใช้เป็นไฟ Downlight ติดฝ้าเพดานและโคมไฟตั้งโต๊ะเพื่อเพิ่มแสงสว่าง ช่วยลดอาการปวดกระบอกตาในเวลาที่เราทำงานและต้องจ้องจอคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ตเป็นเวลานานๆ ส่วนถ้าใครอยากเพิ่มมิติให้ห้องทำงาน ให้ใช้ไฟแสง Warm White เป็นไฟซ่อนบริเวณชั้นวางหนังสือหรือตู้โชว์ จะช่วยทำให้บรรยากาศของห้องทำงานดูนุ่มนวลสบายตามากขึ้น
บ้านนับเป็นสถานที่พักผ่อนที่เราใช้เวลาอยู่ด้วยค่อนข้างมาก ทั้งในยามหลับและตื่น การเลือกไฟที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ใช้สอยในบ้าน จะทำให้บรรยากาศภายในบ้านน่าอยู่ ปลอดภัยและทำให้ความรู้สึกที่มีต่อบ้านเป็นไปในเชิงบวกมากขึ้น นอกจากแสงไฟประดิษฐ์แล้ว ก็ไม่อยากให้ลืมการใช้ประโยชน์จากแสงธรรมชาติด้วยนะครับ เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดพลังงานแล้ว แสงธรรมชาติโดยเฉพาะยามเช้าตรู่และยามเย็น เป็นแสงที่โรแมนติกและสร้างบรรยากาศได้ดีที่สุดนั่นเองครับ