เรื่องน่ารู้ของคนมีบ้าน

9 ทริค เก็บห้องอย่างมืออาชีพ ในแบบฉบับคนเป็นภูมิแพ้!!!

“ภูมิแพ้” เรียกได้ว่าเป็นอาการยอดฮิต ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะแวดล้อมของเมืองใหญ่ ที่เต็มไปด้วยมลภาวะ และปัจจัยกระตุ้นต่างๆ ทั้งฝุ่น ควัน ขยะ น้ำเสีย ซึ่งล้วนแล้วแต่คอยลดทอนภูมิคุ้มกันของร่างกายเราลง แต่การที่จะเปลี่ยนเมือง และขจัดมลภาวะต่างๆ ในวงกว้าง ก็อาจจะยากสักหน่อย วันนี้เราเลยมาชวนให้เพื่อนๆ เริ่มต้นกำจัดความเสี่ยงของการเกิดอาการภูมิแพ้ โดยเริ่มจาก “บ้าน” ของเราเองก่อนครับ

อาการของภูมิแพ้

อาการภูมิแพ้ที่พบมาก ได้แก่ อาการแพ้อากาศ อาการแพ้ฝุ่น (ยิ่งช่วงนี้ฝุ่น PM2.5 เยอะมากๆ ในกรุงเทพฯ ถึงจะมีวันที่หายไป แต่ก็กลับมาได้อีกเรื่อยๆ ไม่สามารถไว้วางใจได้เลย) อาการแพ้แสง อาการแพ้แมลง อาการแพ้อาหาร และอาการแพ้ขนสัตว์ เป็นต้น เราจะเห็นได้ว่า อาการแพ้ส่วนหนึ่งค่อนข้างเกี่ยวข้องกับการอยู่อาศัย เพราะฉะนั้นเราจะค่อยๆ มาดูกัน ว่าเราจะสามารถปรับเปลี่ยน ปรับปรุงการอยู่อาศัยของเรายังไง เพื่อที่จะลดอาการภูมิแพ้ของเราลงได้ เมื่ออยู่อาศัยในบ้าน


สาเหตุของภูมิแพ้

 อาการภูมิแพ้ในที่นี้เราจะโฟกัสที่การแพ้ฝุ่นและการแพ้อากาศ ซึ่งเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกัน แต่ก็จะมีสาเหตุหลักๆ ได้แก่

  • ตัวไรฝุ่น (Dust Mites)
  • แมลงสาบ
  • เชื้อรา
  • เกสรดอกไม้
  • ขนสัตว์ หรือเสื้อขนสัตว์

สำหรับคนที่แพ้ สิ่งเหล่านี้จะคอยกระตุ้นให้เกิดอาการไม่สบายตัว ซึ่งแล้วแต่ว่า บางคนอาการแพ้จะเกิดที่จมูก ที่ผิวหนัง หรือสำหรับบางคนก็เกิดขึ้นที่ตา โดยจะมีอาการจามบ่อย คันและมีการอักเสบบวมทั่วใบหน้า รอบดวงตา จมูก ปาก และลำคอ คัดจมูก น้ำมูกไหล มีเสมหะ หายใจไม่ออก หอบหืด ไอ เจ็บคอ หูอื้อ ตาแดง ประสาทรับกลิ่นทำงานได้แย่ลง และอาจมีไข้ด้วย จะเห็นได้เลยว่า เมื่อมีอาการแพ้เกิดขึ้นในแต่ละที ไม่สนุกแน่ๆ เพราะฉะนั้นเมื่อเรารู้ตัวว่ามีอาการภูมิแพ้หรือมีความเสี่ยงที่จะเป็น ต้องไม่รอช้า มาจัดบ้านช่องห้องหับให้สะอาดสะอ้าน มาดูกันเลย


เริ่มต้นลงมือกันเลย

เรามีคำแนะนำง่ายๆ ที่ทำไม่ยาก และไม่เฉพาะกับคนที่มีอาการภูมิแพ้เท่านั้น เพราะโดยหลักก็คือการจัดบ้านที่ช่วยลดความเสี่ยงเรื่องของภูมิแพ้ แต่ที่สำคัญก็คือ ทั้งหมดนี้ช่วยให้บ้านช่องมีระเบียบ ปลอดฝุ่น และการอยู่อาศัยมีสุขอนามัยที่ดีขึ้นครับ

1. ล้างแอร์ต้องมา

เริ่มกันที่ข้อสำคัญที่ห้ามพลาดมากๆ ซึ่งเวียนวนรายล้อมอยู่รอบๆ ตัวเราตลอดเวลาอย่าง ‘อากาศ’ นั่นเอง และวิธีทำให้อากาศในบ้านของเราสะอาด อย่างแรกที่ควรทำแม้จะไม่เป็นภูมิแพ้ ก็คือ “การหมั่นล้างแอร์” เพื่อให้การปรับอากาศในบ้าน สะอาดอยู่สม่ำเสมอ โดยจะแนะนำให้ล้างทุกๆ 6 เดือน นอกจากอากาศจะสะอาดแล้ว ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำความเย็นของแอร์ด้วยนะครับ


2. งานดูดฝุ่นต้องมี

“เครื่องดูดฝุ่น” น่าจะเป็นของที่จำเป็นมากๆ สำหรับคนที่มีอาการภูมิแพ้ ลำพังแค่การปัด กวาด เช็ดถู น่าจะยังไม่พอ เพราะนอกจากการทำความสะอาดบริเวณพื้นให้สะอาดหมดจดแล้วนั้น บนพรม ใต้เตียง ใต้โต๊ะ ใต้โซฟา แม้กระทั่งผ้าม่าน ก็ต้องชอนไชเครื่องดูดฝุ่น ไปให้ทั่ว ซึ่งของที่มีพื้นผิวจำพวกพรม และผ้าเป็นจุดที่เรามักมองข้าม ถึงแม้มันจะไม่ได้ดูสกปรก แต่ความเป็นจริงแล้วนั้นเป็นแหล่งกักเก็บฝุ่นชั้นดีเชียวละครับ


3. เก็บข้าวของต้องมิดชิด

การเก็บข้าวของให้มิดชิดในที่นี้คือ การหลีกเลี่ยงให้ข้าวของต่างๆ ของเรามีฝุ่นจับ และในคราวเดียวกันก็เป็นตัวจับฝุ่นอีกด้วย ฉะนั้นไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้ตู้ที่มีหน้าบานปิดหรือการเก็บของเข้าลิ้นชัก เข้ากล่องให้เป็นระเบียบ ก็ถือว่าลดการกระจายตัวของฝุ่นได้อย่างดีครับ


4. พรมเลี่ยงได้เลี่ยง

แม้ว่าพรมจะเป็นไอเทมที่ช่วยการตกแต่งบ้านให้สวยงาม ให้สัมผัสที่ดีบริเวณโซฟาในห้องนั่งเล่น แต่สำหรับคนแพ้ฝุ่นที่มีอาการ Sensitive ต่อฝุ่นมากๆ เราก็จะแนะนำให้เลี่ยงที่จะไม่ใช้พรมไปเลย เพราะพรมนี่แหละตัวดี เป็นตัวกักฝุ่นชั้นยอด และแม้ว่าเราจะไม่ใช้พรม แต่ก็ยังมีไอเทมอื่นที่เป็นทางเลือกอื่น ไม่ว่าจะเป็นเสื่อ ที่ปัจจุบันมีหลายแบรนด์ดีไซน์ออกมาค่อนข้างโมเดิร์นทันสมัย ซึ่งจะกักฝุ่นน้อยกว่าพรม แต่ก็ยังให้ฟังก์ชันในการกำหนดขอบเขตและสเปซต่างๆ ได้ดีเหมือนกัน


5. เฟอร์นิเจอร์ลอยๆ กันฝุ่นไปซ่อน

อีกเทคนิคคือเราสามารถเลือกเฟอร์นิเจอร์ชนิดที่ขาลอยสูงจากพื้น ซึ่งจะช่วยให้ไม่มีซอกที่ฝุ่นสามารถไปรวมตัวชุมนุมกันได้ ทำความสะอาดง่ายและทั่วถึง หรือถ้าไม่ใช้แบบขาลอยสูง ก็อยากให้ Built-in แบบพื้นจรดฝ้าไปเลย อย่าเหลือที่ว่างด้านบนหรือด้านล่างเอาไว้ ด้านล่างโล่งยังเอาไม้กวาดเข้าไปปัดได้ แต่ถ้าข้างบนเหลือช่องว่างเอาไว้ ฝุ่นเกาะแน่นอน แถมเราอาจจะทำความสะอาดลำบาก แขนไม่ถึงบ้าง ต้องต่อเก้าอี้ช่วยบ้าง ซึ่งเสียเวลา ไม่มีทางที่เราจะขยันปัดกวาดทุกวันแน่ๆ ดังนั้นเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ช่วยให้เราทำความสะอาดได้ง่าย ดีที่สุดครับ


6. คลุมทุกสิ่งที่คลุมได้

อีกวิธีในการกันฝุ่น และช่วยให้ข้าวของสะอาดอยู่เสมอคือ ควรจะมีผ้าสำหรับคลุมสิ่งต่างๆ ตั้งแต่เตียงนอน ที่แม้เราจะเลือกใช้หมอนกับเครื่องนอนที่กันไรฝุ่นแล้ว แต่หากเราไม่คอยช่วยกันฝุ่นให้เตียงอีกที ก็มีโอกาสที่ฝุ่นจะเข้าไปสะสมบนที่นอนได้ หรือเครื่องใช้ในครัวก็ตาม ควรคลุมไว้ดีจะที่สุด เพราะเมื่อเราหยิบข้าวของออกมาใช้ จะมั่นใจว่าสะอาดไร้ฝุ่นแน่ๆ


7. ถังขยะที่ดีต้องมีฝาปิด

ถังขยะโดยเฉพาะในครัวที่เอาไว้ทิ้งเศษอาหาร จำเป็นมากที่จะต้องมีฝาปิด ทั้งนี้ก็เพื่อกันกลิ่น ความชื้น และแมลง เพราะจากตอนต้นที่เราเกริ่น แมลงเองก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายๆ ดังนั้นอย่ามองข้ามนะครับ หาฝามาปิดกันไว้ด้วย


8. มินิมอลเข้าไว้

มินิมอลในที่นี้คือแนวคิดของการจัดเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย หรือแม้แต่เรื่องจำนวนก็ตาม ยิ่งน้อยชิ้น ยิ่งมีเฉพาะของที่จำเป็น เราก็จะยิ่งใส่ใจดูแลรักษาและเราเชื่อมากๆ ว่า ยิ่งของน้อย ฝุ่นก็ยิ่งน้อยครับ


9. เครื่องกรองอากาศ

เครื่องกรองอากาศเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ดี สำหรับคนที่มีอาการภูมิแพ้ โดยควรเลือกใช้เครื่องกรองอากาศคุณภาพสูง (HEPA Air Cleaner) ภายในห้อง ซึ่งจะช่วยกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กที่ลอยอยู่ในอากาศ ทำให้อากาศในห้องเราสะอาดขึ้นไปอีกครับ


และนี่ก็คือ 9 ทริคจากเรา สำหรับการจัดเก็บห้องเพื่อเลี่ยงปัจจัยต่างๆ ในการเกิดภูมิแพ้ และการดูแลบ้านให้สะอาด มีสุขอนามัยที่ดีอยู่เสมอ ยิ่งช่วงนี้ฝุ่น PM2.5 กลับมาหนาและมีค่าสูงในหลายๆ พื้นที่ เราต้องป้องกันทั้งบ้านและตัวเราเอง ออกไปข้างนอกก็อย่าลืมใส่หน้ากากอนามัยกันด้วยนะครับ ด้วยความห่วงใยจาก LivingPop ^^


Related posts
เรื่องน่ารู้ของคนมีบ้าน

พาไปดูเทคโนโลยีล่าสุด “AIS Fibre Home Network Solution” เดินสายไฟเบอร์โปร่งใสทั้งหลัง เน็ตแรง 1Gbps เท่ากันทั้งบ้าน

เรื่องน่ารู้ของคนมีบ้าน

12 ข้อที่ต้องรู้ก่อนจ้างบริษัท Built-in ตกแต่งห้อง!!!

เรื่องน่ารู้ของคนมีบ้าน

7 เทคนิค Life Hack เปลี่ยนห้องขนาดจำกัด ให้จัดพื้นที่ได้เยอะขึ้น

เรื่องน่ารู้ของคนมีบ้าน

สร้างบ้านแบบล้ำๆ ด้วยเทคโนโลยี 3D-PRINTED อยู่ได้จริงไม่จกตา!