fbpx
รีวิวเจาะลึก

รีวิวเจาะลึก : “Atmoz Palacio ลาดพร้าว-วังหิน” คอนโดใจกลางย่านลาดพร้าว ส่วนกลางเว่อ “วัง” ในราคาไม่ถึง 2 ล้าน

ถ้าพูดชื่อย่านที่มีคนอยู่อาศัยเยอะบนถนนลาดพร้าว ย่าน “โชคชัย 4 ลาดพร้าว-วังหิน” ก็น่าจะเป็นย่านแรกๆ ที่หลายๆ คนนึกถึงกันใช่ไหมครับ วันนี้เราจะพามาดูโครงการใหม่ล่าสุดจาก AssetWise จับทำเลใจกลางลาดพร้าววังหิน แหล่งชุมชนย่านนึงที่คึกคักและมีร้านของกินแบบเยอะสุดๆ กับโครงการ

“ATMOZ PALACIO ลาดพร้าว-วังหิน”

ซึ่งที่ตั้งเค้าก็ตามชื่อโครงการเลยครับ ไม่จกตา อยู่ติดกับถนนลาดพร้าววังหิน ใกล้คอมมูนิตี้มอลหลายแห่ง พร้อมส่วนกลางที่เยอะที่สุดในย่าน ไม่ใช่แค่เยอะแต่เค้ายังแต่งออกมาจัดจ้านสุดๆ ในราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านบาท ที่นี่จะเป็นอย่างไร เดี๋ยววันนี้เราจะพาไปรู้จักกับโครงการนี้กันให้มากขึ้นครับ

จุดเด่นโครงการ

ใจกลางย่านของกิน
ทะลุออกได้หลายเส้นทาง

ส่วนกลางจัดเต็ม เยอะที่สุดในย่าน
ที่มาในคอนเซปของความเป็นพระราชวัง

ห้องมีหลาย Type ให้เลือก
สำหรับแต่ละไลฟ์สไตล์



รัชดา-ลาดพร้าว ถิ่น AssetWise

สำหรับ AssetWise ต้องบอกว่าเป็นบริษัทหนึ่งที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความเชี่ยวชาญทำคอนโดแบบ Lowrise ครับ เป็นตลาดที่ AssetWise ทำค่อนข้างถนัดและเติบโตมากับคอนโดรูปแบบนี้เลย ก่อนที่บริษัทจะโตและขยายมาทำที่อยู่อาศัยที่หลากหลายรูปแบบอย่างในปัจจุบัน

โครงการในยุคแรกๆ ของทาง AssetWise เองก็จะเป็นคอนโด Lowrise ทำเลในซอยราคาจับต้องได้ ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในโซนรัชดา-ลาดพร้าว-พหลโยธินแถวๆ นี้แหละฮะ

ยิ่งในโซนรัชดา-ลาดพร้าวเอง ถือว่าเป็นย่านนึงที่มีความเป็นแหล่งชุมชน มี demand ด้านที่อยู่อาศัย ซึ่ง AssetWise ก็ค่อนข้างพิสูจน์มาแล้วกับจำนวนโครงการที่เปิดในย่านนี้ อย่างที่ผ่านมา 10 ปี ก็มีโครงการของ AssetWise รวมโครงการนี้ด้วย ก็ 8 โครงการแล้วครับ ซึ่งที่นี่ก็มาในทำเลรูปแบบโครงการที่ AssetWise ถนัดเช่นเดิมครับ แต่เพิ่มเติมคือการกลับมาครั้งนี้ เค้ามากับส่วนกลางที่เยอะและจัดเต็มที่สุดเท่าที่เคยทำมา

แต่ก่อนจะไปพูดถึงตัวโครงการ เราไปดูทำเลที่ตั้งกันก่อนครับ

ลาดพร้าววังหิน – โชคชัย 4

ย่านอยู่อาศัยใจกลางลาดพร้าว ที่เป็นชุมชนเก่าแก่

ความเป็นย่านที่อยู่อาศัยของโซนลาดพร้าว-รัชดา-พหลโยธินแถบนี้เนี่ย เรียกได้ว่ามีมาอย่างยาวนานมากๆ แล้วครับ เป็นหนึ่งในย่านที่อยู่อาศัยเก่าแก่เลยก็ว่าได้ จากการขยายตัวของเมืองตั้งแต่ยุค 30-40 ปีที่แล้ว ซึ่งในยุคช่วงประมาณปี 2520 ในตอนนั้น แถวนี้ยังมีที่ว่างขนาดใหญ่จำนวนมากครับ เลยทำให้มีหมู่บ้านต่างๆ มาสร้างโครงการโดยทะลุมาจากทั้งฝั่งพหลโยธินและฝั่งลาดพร้าวเข้ามาด้านใน แล้วมาเจอกัน ซึ่งหลายโครงการมีขนาดที่ใหญ่มากๆ อย่างหลายคนน่าจะรู้จักซอยเสนานิคม ตรงนี้ก็เป็นหมู่บ้านขนาดใหญ่ที่อยู่ด้านใน มีซอยย่อยไปจนถึงเสนานิคมร้อยกว่าเลยทีเดียว

และอีกซอยที่ค่อนข้างชื่อดัง นั่นคือหมู่บ้าน “โชคชัย 4” จะเป็นชื่อซอยโชคชัย 4 ที่เรียกกันในปัจจุบันนั้นเองครับ ซึ่งการทำหมู่บ้านในสมัยนั้น เค้าจะไม่ได้เป็นระบบปิดห้ามคนภายนอกเข้า เหมือนกับหมู่บ้านสมัยใหม่ และซอยต่างๆ ภายในย่านนี้เค้าก็ค่อนข้างทะลุหากันได้ครับ 

ดังนั้นเวลาผ่านไปจากหมู่บ้านขนาดใหญ่ มีคนอยู่อาศัยเยอะ ก็เริ่มเจริญขึ้นเรื่อยๆ เริ่มมีโรงเรียน โรงพยาบาล ตลาด ร้านค้า ร้านของกิน คอมมูนิตี้มอลมาเปิด ทำให้ย่านโชคชัย 4-ลาดพร้าววังหิน-เสนานิคม เป็น Block ที่มีความเป็นเมืองขนาดย่อมๆ อยู่ข้างในเลยครับ

ทำให้ที่นี่ ในปัจจุบันเราจะเห็นโครงการคอนโดมิเนียมมาเปิดกัน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เป็นย่านที่อยู่ติดถนนใหญ่ 6-8 เลน หรือเดินไปรถไฟฟ้าได้ แต่ตัวทำเลตรงนี้ก็มีคนต้องการที่อยู่อาศัยอยู่เรื่อยๆ ทั้งคนที่อยู่อาศัย-ทำงานในย่านนี้เอง หรือทำงานในย่านรัชดา-ลาดพร้าว-พหลโยธินที่ออกไปจากโครงการไม่ไกลมาก ซึ่งที่ดินสำหรับทำโครงการหมู่บ้านก็ต้องพูดตามตรงว่าไม่มีแล้วครับ หรือถ้าทำได้ก็ขนาดเล็กและราคาไปไกลมากๆ โดยคอนโดทำเลในย่านนี้ก็จะอยู่ในระดับหยิบจับได้ง่ายหน่อย ด้วยความที่เป็นย่านที่อยู่ในซอย ราคาอยู่ในช่วง 1-2 ล้านบาทครับ

แหล่งของกิน ร้านเยอะแบบตาแตก

เมื่อเป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ ร้านค้า ร้านของกินต่างๆ ก็เยอะตาม

ต้องบอกว่าย่านนี้จากความเป็นแหล่งชุมชน สิ่งที่ตามมาก็คือตลาดและร้านค้าต่างๆ นั่นเองครับ และยิ่งทั้งซอยเป็นหมู่บ้านทั้งหมดเลย คนอยู่เยอะ ของกินยิ่งเยอะตาม ซึ่งซอยโชคชัย 4 และลาดพร้าว-วังหินเองก็เป็นที่ขึ้นชื่อเรื่องของกินมานานแล้วครับ มีร้านแนว Streetfood ดังๆ เพียบ เย็นๆ ค่ำๆ ถ้าขับรถผ่านระหว่าง 2 ข้างทางก็จะเห็นพี่ Grab พี่ Lineman จอดรอกันเต็ม ตรงนี้เลยเป็นจุดเด่นของถนนสายนี้เลยก็ว่าได้

เราลองลิสต์ร้านดังๆ ของย่านนี้มา ก็จะเห็นว่ามีของกินตลอดทางจริงๆ ครับ นี่ยังไม่รวมร้านเล็กๆ ที่กระจายอยู่รอบๆ อีกนะ ส่วนใครที่มองหาเป็นห้าง เป็น Community Mall ย่านนี้ก็จะมีห้างขนาดย่อมๆ ตั้งอยู่หลายที่เช่นเดียวกัน อย่าง Plaza Lagoon และ The Jas อันนี้ก็เป็นอีก 2 ห้างที่จะใกล้กับโครงการด้วยครับ


บรรยากาศร้านอาหาร / Street Food ในย่านนี้


Community Mall / Supermatket

เชื่อมต่อถนน 5 สาย ทะลุออกได้หลายทาง

ลาดพร้าววังหินจะเชื่อมต่อกับซอยย่อยๆ หลายซอย ทำให้ทะลุออกได้หลายย่าน

อย่างที่บอกไปว่าย่านนี้เค้าเกิดจากการที่เป็นหมู่บ้านย่อยๆ มาก่อน ดังนั้นถนนในย่านนี้เค้าก็จะมีความเชื่อมต่อกันครับ คือถ้าเราดูเป็นภาพใหญ่ ถอยออกมา จะเป็นความเป็น Block ที่อยู่อาศัยที่ถูกล้อมรอบด้วยถนนหลักอย่าง “พหลโยธิน – รัชดา – ลาดพร้าว – เกษตรนวมินทร์ –  ประดิษฐ์มนูธรรม” ครับ

ซอยต่างๆ ของย่านนี้จะสามารถทะลุไปออกกันได้หมดเลย โดยแต่ละฝั่งก็จะมีซอยไปออกที่ต่างกัน อย่างฝั่งลาดพร้าวก็จะใช้เส้นทางโชคชัย 4 ฝั่งรัชดาจะออกทางซอยรัชดา 32 หรือฝั่งเกษตร-นวมินทร์ก็จะสามารถใช้ถนนลาดพร้าว-วังหินไปเชื่อมต่อออกได้ครับ แต่ละเส้นทางที่ไปออกก็จะมีระยะทางอยู่ประมาณ 1.9 – 4.8 กิโลเมตร ไม่ถึงกับไกลมากครับ

แต่ด้วยความที่ Block ที่อยู่อาศัยตรงนี้เป็น Block ขนาดใหญ่ แต่ไม่ได้มีถนนเส้นใหญ่ตัดผ่ากลางสักเท่าไหร่ ก็จะมีทั้งจุดเด่นและจุดด้อยครับ คือถ้าช่วงเวลาเร่งด่วน เลิกงาน เราจะเห็นบนถนนลาดพร้าวค่อนข้างติด เส้นทางด้านในตรงนี้ก็จะเป็นเหมือนทางเลี่ยงครับ บางคนเลือกใช้ไปทะลุด้านต่างๆ แทนการไปติดบนถนนสายหลัก ข้างในรถก็อาจจะรถติดน้อยกว่า (แต่ก็จะมีในบางซอยบางช่วงที่ก็อาจจะติดขัดช่วงเร่งด่วนเหมือนกัน) แต่ในการเดินทางปกติ การเดินทางแบบในซอยที่รถวิ่งช้า ซอกแซกหน่อย ก็อาจจะไม่ได้ขับได้เร็วเท่ากับการวิ่งบนถนนใหญ่ครับ

ซึ่งในปัจจุบัน ก็ต้องถือว่าย่านรัชดา-ลาดพร้าวตรงนี้ ก็เป็นย่านที่มีความเป็น “ย่านในเมือง” ประมาณนึงแล้วครับ จากเมืองที่ขยายตัวออกมาเรื่อยๆ ดังนั้นที่ตั้งตรงนี้พอทะลุออกได้หลายทาง ถึงจะไม่ได้ติดกับรถไฟฟ้าโดยตรง แต่ก็เป็นทำเลที่ราคาเบาลงมา และยังได้ความใกล้ใจกลางเมืองอยู่และไม่ไกลจากมากรถไฟฟ้าครับ ยิ่งถ้าใช้รถแปปเดียวออกรัชดา-ลาดพร้าว-พหลโยธินได้เลย

แต่ถ้าไม่ใช้รถส่วนตัว ก็จะมีพี่วินกระจายอยู่ตามจุดต่างๆ แอบไปส่องราคามา ถ้าไป MRT ลาดพร้าวก็จะอยู่ที่ 40 บาทครับ เหมาะกับตอนเวลารีบๆ แต่นอกจากนี้ก็จะมีรถสองแถวมินิ (รถกะป๊อ) สามารถนั่งไปออกปากซอยภาวนาได้ราคาไม่แพงครับ ก็จะต่อรถไฟฟ้าสายสีเหลืองได้ และนอกจากนี้ตัวโครงการเค้าก็จะมี Shuttle Service รับส่งที่สถานีรถไฟฟ้าให้ด้วยเช่นกัน

ตัวแหล่งงานรอบข้างก็จะมีหลายโซน

เริ่มจากในส่วนของตัวพื้นที่ลาดพร้าว-วังหิน-โชคชัย 4 เองก่อนเลย ในย่านนี้ก็จะมีความเป็นร้านค้า-Home Office มีกองปราบเก่าที่ปัจจุบันกำลังปรับปรุงเป็นกองบังคับการตำรวจมหาดเล็กฯ มีโรงพยาบาลเปาโล และถ้าขยับออกไปด้านนอกก็จะมีทั้งแหล่งงานโซนติดกับถนนลาดพร้าวตลอดสาย 

แหล่งงานโซนพหลช่วงต้นใกล้ 5 แยกก็จะมีทั้งห้าง, โปรเจค Mixed Use และอาคารสำนักงาน ส่วนถ้าถัดมาย่านเกษตรตรงนี้ก็จะมีหน่วยงานรัฐขนาดใหญ่เยอะครับ ส่วนฝั่งประดิษฐ์มนูธรรมก็จะเป็นออฟฟิศขนาดเล็ก/ธุรกิจ SME/ร้านค้าต่างๆ ส่วนรัชดานี่ก็อย่างที่เราทราบกันครับ เป็นแหล่งออฟฟิศไปจนถึงย่านอโศกเลยครับ

อนาคตรถไฟฟ้าล้อมรอบทิศ

5 สายรอบด้าน พร้อมเปิดใช้งานแล้ว 3 สาย

พูดถึงทำเลย่านนี้ในเรื่องของถนนที่เชื่อมต่อหลายทางไปแล้ว เรามาดูฝั่งของรถไฟฟ้ากันบ้างครับ

ในส่วนของรถไฟฟ้าก็จะคล้ายกันกับถนนที่พูดไปในหัวข้อที่แล้วเลยครับ คือด้วยที่ตั้งของย่าน ก็ต้องยอมรับว่าย่านลาดพร้าว-วังหิน-โชคชัย 4 ด้านใน จะไม่ได้มีรถไฟฟ้าผ่านครับ เพราะรถไฟฟ้าเค้าจะตั้งอยู่บนถนนใหญ่ ส่วนโซนนี้จะเป็นโซนในซอยที่ถัดเข้ามา 

แต่ต้องบอกว่าทุกถนนใหญ่รอบด้าน ทุกสายมีรถไฟฟ้า หรือไม่ก็มีแผนที่จะทำรถไฟฟ้าทุกด้านเลยครับ และอยู่ไม่ไกลจากโครงการด้วย ถึงจะไม่ได้เป็นระยะเดิน แต่ต่อรถ/ต่อวินแค่นิดเดียว ก็สามารถขึ้นใช้งานได้เลย อย่างสายล่าสุดที่เพิ่งเปิดให้บริการแบบสดๆ ร้อนๆ กับ

รถไฟฟ้า MRT สายสีเหลือง

สายนี้ก็จะเป็นอีกสายนึงที่ใกล้กับโครงการมาก สถานีที่ใกล้ที่สุดจะเป็นสถานีภาวนา ห่างจากตัวโครงการไปเพียงแค่ประมาณ 2.6 กิโลเมตรครับ เส้นนี้จะวิ่งจากทางแยกรัชดาลาดพร้าว เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน วิ่งบนเส้นลาดพร้าวทั้งเส้น และไปออกศรีนครินทร์ เชื่อมต่อกับสำโรงครับ

ก็จะมี Benefit กับตัวโครงการตรงที่หลายๆ คนที่อยู่ย่านลาดพร้าววังหิน-โชคชัย 4 ก็จะทำงานในแหล่งงานต่างๆ บนถนนลาดพร้าวนี่เช่นกันครับ ก็สามารถใช้รถไฟฟ้าสายนี้เพื่อไปบริเวณต่างๆ ของถนนลาดพร้าวได้ ทั้งโซนแยกรัชดา – ลาดพร้าว 71 – อิมพีเรียล – ช่วงซอยมหาดไทย – ลาดพร้าว 101 – โซนหน้าเดอะมอลล์ โดยที่เราไม่ต้องทนกับสภาพการจราจรอันขึ้นชื่อของถนนลาดพร้าวอีกต่อไปครับ 


แต่นอกจากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองบนถนนลาดพร้าว
เรามาดูกันครับว่าทำเลโครงการตรงนี้จะใกล้รถไฟฟ้าสายไหนอีก

รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน

สถานีที่ใกล้ที่สุด : ลาดพร้าว 
ระยะทางจากโครงการ : 3 กิโลเมตร

รถไฟฟ้าสายนี้ก็จะเป็นเส้นใต้ดินที่วิ่งอยู่ใต้ถนนรัชดานั่นเองครับ สายนี้ก็จะสามารถใช้งานเพื่อไปรัชดา – พระราม 9 – อโศก ได้ หรือถ้าขึ้นอีกทางก็จะสามารถไป 5 แยกลาดพร้าว – หมอชิต – บางซื่อได้ จริงๆ ต้องบอกว่าสายนี้เค้าเป็นสายวนรอบเมืองเลยครับ ถ้านั่งยาวก็จะสามารถเชื่อมต่อไปพระราม 4/สีลม/ฝั่งธนได้เช่นกัน

รถไฟฟ้า BTS สายเขียว (สายสุขุมวิท)

สถานีที่ใกล้ที่สุด : รัชโยธิน 
ระยะทางจากโครงการ : 4.3 กิโลเมตร

รถไฟฟ้าสายนี้จะเป็นรถสายหลักของกรุงเทพฯ เลยก็ว่าได้ครับ วิ่งอยู่บนถนนพหลโยธินและสุขุมวิทเป็นหลัก โดยสถานีที่ใกล้โครงการที่สุดจะอยู่ที่แยกรัชโยธิน สามารถใช้งานเพื่อไปเข้าย่านหมอชิต – อารีย์ – อนุสาวรีย์ชัยฯ – สยาม ได้ครับ หรือเลยไปอีกก็จะเป็นโซนสุขุมวิททั้งโซน ส่วนอีกฝั่งก็จะสามารถใช้ไปโซนม.เกษตร-สะพานใหม่ได้ ไปสุดที่ลำลูกกา


รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล

คาดว่าจะเปิดให้บริการ : 2571
สถานีที่ใกล้ที่สุด : คลองบางบัว
ระยะทางจากโครงการ :  3.5 กิโลเมตร

สำหรับสายนี้ กำลังอยู่ในช่วงรอครม.อนุมัติการก่อสร้างครับ โดยมีแนวเส้นทางจากแยกแคราย วิ่งมาตามถนนงามวงค์วาน ผ่านม.เกษตรและวิ่งมาตามถนนเกษตร-นวมินทร์เกือบตลอดทาง ก่อนที่จะเลี้ยวเข้าถนนนวมินทร์แล้วไปสุดที่แยกลำสาลีบนถนนศรีนครินทร์ครับ ตรงนี้สถานีก็จะใกล้กับบริเวณแยกที่ถนนลาดพร้าววังหินตัดกับถนนเกษตรนวมินทร์เลยครับ

รถไฟฟ้าสายสีเทา

คาดว่าจะเปิดให้บริการ : 2573
สถานีที่ใกล้ที่สุด : สังคมสงเคราะห์
ระยะทางจากโครงการ : 4.5 กิโลเมตร

สายนี้จะเป็นสายที่วิ่งจากย่านรามอินทรา-วัชรพล บนถนนเลียบด่วน แล้วตรงเข้าสู่สุขุมวิทผ่านทางซอยทองหล่อครับ เป็นสายที่มาช่วยให้ย่านนี้เข้าเมืองในฝั่งสุขุมวิท-ทองหล่อ-เอกมัยได้สะดวกขึ้น ปัจจุบันแผนงานนี้อยู่ในมือของกทม.ครับ แต่ผู้ว่ากทม.อยากย้ายโครงการเพื่อให้รฟม.(ที่ดูแลรถไฟฟ้าสายอื่นๆ) เป็นคนดูแล เลยอาจจะยังไม่ชัดเจนในเรื่องของกำหนดการต่างๆ ครับ แต่สถานีที่ใกล้ที่สุดกับตัวโครงการตามแผนเดิม ก็จะอยู่ที่บริเวณใกล้ๆ กับทางออกถนนสังคมสงเคราะห์ ก่อนถึง Central Eastville ครับผม


ที่ตั้งโครงการ

กลางย่านชุมชน ใกล้ Community Mall ใกล้แยก เลือกใช้ได้หลายทาง

ที่ตั้งของตัวโครงการ “ATMOZ PALACIO ลาดพร้าว-วังหิน” จะตั้งอยู่ติดกับถนนลาดพร้าว-วังหินเลยครับ เป็นถนน Main ของย่านมีขนาด 4 เลน อยู่ในช่วงที่ใกล้กับแยกใหญ่ของถนนนี้ ที่จะสามารถเลี้ยวไปได้หลายทางครับ ออกซอยรัชดา 32 และโชคชัย 4 ได้ และยังสามารถเชื่อมต่อถนนหลายสาย เช่น เลียบด่วน (ประดิษฐ์มนูธรรม), เกษตร-นวมินทร์(ประเสริญหนูกิจ) และพหลโยธิน พอที่ตั้งใกล้กับแยกที่ไปออกรัชดา 32 ได้ ตัวโครงการก็จะได้ทั้งเรื่องที่ตั้งที่อยู่ในย่านของลาดพร้าววังหิน และออกไปโซนรัชดาได้สะดวก ระยะห่างจากถนนรัชดาอยู่ที่ประมาณ 1.9 กิโลครับ

ซึ่งตรงนี้จะใกล้กับ Supermarket, Community Mall และร้านของกินหลายแห่งด้วยครับ เริ่มจากเอาแค่ “ระยะที่เดินได้” จากตัวโครงการก่อนเลยก็มีร้านอาหารเยอะมากแล้วครับ ทั้งก๋วยเตี๋ยวเรือ, กะเพราถาด, หมูกระทะ หรือถ้าร้านใหญ่หน่อยก็ “ย่างเนย” ที่อยู่ตรงข้ามโครงการ กับ “สุกี้ตี๋น้อย” ที่เดินไปนิดเดียว 

หรือถ้าเดินไปอีกหน่อย เลยแยกไปก็จะเป็น Community Mall ของ Plaza Lagoon ครับ ที่นี่จะเป็น Maxvalu ตั้งอยู่ มาซื้อของเข้าบ้านกันได้ รวมไปถึงเค้าก็จะมีร้านอาหารต่างๆ ด้านหลังเป็นโซนทะเลสาบตกค่ำๆ มาที่ร้านนั่งชิว/บาร์ในนี้ได้

หรือถ้าเลยไปหน่อยก็จะมี Community Mall อีก ทั้ง The JAS วังหิน, Green Plaza, Lotus’s, Makro Food Service สามารถเลือกใช้บริการได้เลยครับ


ซึ่งถ้าถามว่าทำเลที่ตั้งโครงการนี้เหมาะกับใคร

ก็จะเหมาะกับคนหลายกลุ่มเลยครับ กลุ่มแรกคือคนที่ทำงานอยู่ในย่านนี้อยู่แล้ว ด้วยความที่ลาดพร้าววังหิน-โชคชัย 4 เค้าก็มีแหล่งงาน/ธุรกิจขนาดย่อมๆ อยู่ในนี้ด้วยเช่นเดียวกัน ถ้ามองหาที่อยู่ใกล้ๆ ในย่านนี้ ตัวนี้ก็จะตอบโจทย์ครับ

และก็จะมีกลุ่มคนที่เดิมอาศัยอยู่ในย่านนี้อยู่แล้วครับ อาจจะอยู่กับครอบครัว เป็นบ้านในโซนนี้ อยากจะขยับขยายออกมาใช้ชีวิตส่วนตัว แต่ก็ยังไม่อยากเปลี่ยนทำเลที่อยู่ออกไปจากโซนที่คุ้นเคย ที่นี่ก็จะได้ที่ที่เป็นของตัวเอง โดยที่ทำเลยัง Connect กับบ้านเดิมได้ หรือก็มีบางบ้านที่มองว่าบ้านตัวเองในย่านนี้ไม่ได้มี Facility ต่างๆ มาให้ ซื้อคอนโดอยู่ใกล้ๆ แบบนี้เผื่อไว้มาอยู่ มาไว้ใช้ส่วนกลาง เก็บเป็น Asset ก็มีเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ก็เหมาะกับอีกกลุ่มที่อาจจะไม่ได้อยู่ย่านนี้มาก่อนครับ แต่มองหาคอนโดทำเลใกล้เมืองในราคาที่จับต้องได้ ที่นี่ก็จะไม่ไกลจากย่านรัชดาลาดพร้าวในราคาที่ยังจับต้องได้กว่าโครงการต่างๆ ที่อยู่ติดกับถนนใหญ่หรือติดรถไฟฟ้า โอเคกับการแลกว่าอาจจะมีระยะจากการใช้รถไฟฟ้านิดนึง ต่อรถหน่อยหรือใช้ Shuttle Bus ของโครงการ แต่ก็ไม่ได้ไกลจากรถไฟฟ้ามากครับ ยิ่งถ้าเป็นคนที่ใช้รถ อันนี้ก็ค่อนข้างสะดวก แปปเดียวไปถึงย่านต่างๆ ได้ ซึ่งก็ต้องบอกว่าถ้าลองดูจากทำเลที่ตั้งแล้ว มีโครงการที่อยู่ใกล้กับถนนใหญ่มากกว่านี้ไหม ก็ต้องบอกว่ามีครับ แต่ที่นี่เค้าจะ Balance มาระหว่างความใกล้ถนนใหญ่ กับความใกล้แหล่งชุมชนในย่านนี้ด้วย มีความคึกคัก มีของกิน ก็จะเป็นจุดเด่นของที่ตั้งโครงการนี้ครับ

ส่วนอีกกลุ่มก็จะเป็นในส่วนของการลงทุนครับ อย่างที่บอกไปว่าแหล่งงานรอบๆ ด้านแถวนี้มีพอประมาณดังนั้นก็จะมีบางส่วนที่ซื้อโครงการนี้เก็บไว้ปล่อยเช่าด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งในย่านนี้เราก็จะเห็นมีโครงการคอนโดต่างๆ รวมไปถึงอพาร์ทเม้นต์มาเปิด แต่โครงการที่เป็นโครงการใหม่ ช่วงนี้จะมีไม่ค่อยมาก และที่นี่ก็จะได้จุดเด่นในเรื่องของส่วนกลางที่เยอะที่สุดในย่านครับ

รูปแบบโครงการ

คอนโด Low Rise 4 อาคาร มาพร้อมการออกแบบสไตล์พระราชวัง

โครงการ Atmoz Palacio ลาดพร้าว – วังหิน เป็นคอนโดแบบ Low Rise ทั้งหมดเลยครับ โดยที่นี่จะมีทั้งหมด 4 อาคารด้วยกัน ขนาดที่ดินกว่า 5 ไร่กว่า ช่วงนี้ผมรีวิวคอนโดที่ได้ที่ดินตอนลึกเสียส่วนมาก การวางอาคารเลยต้องเรียงกันยาวเข้าไป แต่ที่นี่ไม่ใช่ฮะ เพราะเขาได้ที่ดินเป็นสี่เหลี่ยมที่ค่อนข้างกว้างเลย สามารถวางอาคารคู่กันแล้วเว้นช่องตรงกลางสำหรับเป็นพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ได้

แน่นอนว่าเป็นแบรนด์ Atmoz พื้นที่ส่วนกลางก็ต้องจัดเต็มอยู่แล้ว มีประมาณ 3,167 ตารางเมตร มี 2 สระว่ายน้ำ และ Facilities อีก 33 รายการ ต้องบอกว่าที่นี่เขาคุม Theme มากๆ ตั้งแต่สถาปัตยกรรม Landscape ไปจนถึงการตกแต่งภายใน ด้วยจุดแข็งที่ได้รับแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากพระราชวังฮะ ใน Concept แบบ Modern Classic Twist มีความหรูหราแบบสไตล์ยุโรป แต่ถูกปรับเพิ่มความมินิมอลบวกกับความโมเดิร์นเข้าไป ให้ดูทันสมัย เข้าเทรนด์ปัจจุบันมากขึ้น

แบบห้องพักอาศัยของที่นี่ก็จะมี 1 Bedroom, 1 Bedroom Exclusive, 1 Bedroom Extra และ 1 Bedroom Plus ครับ ไม่ได้เน้นห้องใหญ่มากมาย ด้านหน้าโครงการเองก็จะมีร้านค้าอีก 4 ยูนิตด้วย เดี๋ยวผมจะพาเพื่อนๆ ไปดูกันว่าพื้นที่ส่วนกลางของที่นี่จะเป็นยังไง การออกแบบสวยแค่ไหน ห้องตัวอย่างจะเป็นยังไง มีของอะไรให้บ้าง ตามไปเล้ยยยย


ข้อมูลโครงการ

ชื่อโครงการ :Atmoz Palacio ลาดพร้าว – วังหิน
Developer :บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน)
เนื้อที่โครงการ :5-3-45 ไร่
จำนวนห้องพักอาศัย : ห้องพักอาศัย 755 ยูนิต และร้านค้า 4 ยูนิต
รูปแบบโครงการ :Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร
ลิฟต์ :อาคารละ 2 ตัว
ที่จอดรถ : 34% หรือ 254 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
ค่าส่วนกลาง :57 บาท/ตารางเมตร/เดือน
ค่ากองทุน :500 บาท/ตารางเมตร
Facility :อาคาร A
The Emperor’s Lobby, Panoramic Co-Working, Premier Private Pod
และ The Royal Meeting Room

อาคาร B
Game Room, Play Room และ Edible Garden (ชั้นดาดฟ้า)

อาคาร C
Kid’s Club, The Culinary, The Royal Dining Area, The Royal Hall, Kid Pool,
Royal Palace Pool, The Palace Veranda, Water Courtyard Lounge,
Outdoor Jacuzzi, Sunken Seating, Pool Deck, Hydrotherapy Pool Seat และ
Sky Bridge

อาคาร D
Health Station, Fitness, Sauna, The Lord Private Jacuzzi, Sun Lounger,
Blue Lagoon Seating และ Grand Royal Palace Pool

Outdoor
The Emerald Terrace, The Front Yard Avenue, Tea Pavilion และ
Fontage Garden Terrace
แบบห้อง : 1 Bedroom ขนาด 24 – 24.80 ตารางเมตร
1 Bedroom Exclusive ขนาด 25.80 – 26.80 ตารางเมตร
1 Bedroom Extra ขนาด 28.40 – 29.10 ตารางเมตร

1 Bedroom Plus ขนาด 34 – 34.90 ตารางเมตร
ราคา :เริ่มต้น 1.79 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย : ประมาณ 86,500 บาท/ตารางเมตร
สถานะโครงการ :คาดว่าก่อสร้าง มกราคม 2567
คาดว่าจะแล้วเสร็จ : ช่วงเมษายน 2568

คอนเซปต์การออกแบบ

มาพร้อมกับแนวคิด “Your Place is Your Palace” ให้คุณใช้ชีวิตทุกวันเสมือนอยู่ในพระราชวังของคุณ

ที่ Atmoz Palacio ลาดพร้าว – วังหิน เป็นโครงการที่มีคอนเซปต์ชัดเจนมากๆ โครงการนึงเลยครับ โดย Theme หลักที่เขาใช้ในการออกแบบคือ Palace หรือพระราชวัง ซึ่งทางโครงการเองก็ได้เพิ่มลูกเล่นด้วยการใช้ภาษาสเปนในชื่อโครงการอย่างคำว่า Palacio ซึ่งก็คือพระราชวังนั่นเอง ดังนั้นการออกแบบ Facade สถาปัตยกรรม Landscape หรือแม้กระทั่ง Ineterior ก็จะมีความล้อไปกับ Theme พระราชวังนี้ด้วย

แต่เพื่อไม่ให้โครงการคอนโดดูเข้าถึงยาก ดังนั้นเขาเลยผสมผสานความ Modern Minimal เข้าไป ออกมาเป็น Modern Classic Twist ให้โครงการดูทันสมัย เข้าใจง่ายมากขึ้น อย่างผนังถ้าเป็นพระราชวังก็อาจจะมีขอบบัวอลังการ ดีเทลเยอะๆ ดูเป็นงานฝีมือ แต่พอมาอยู่ในโครงการ เค้าก็ลดทอนในเรื่องดีเทลลง และเพิ่มความร่วมสมัยเข้าไปด้วย Graffiti ต่างๆ ให้มีความ Street แต่ยังแฝงไปด้วยความหรูหราอยู่ อาจจะตัดกันด้วยเฟอร์นิเจอร์บ้าง โทนสีบ้าง หรือไม่ก็การตกแต่งบ้าง ให้ดูสมัยใหม่มากยิ่งขึ้น

ฟิลลิ่งที่โครงการตั้งใจทำออกมาก็คือจะให้เรารู้สึกว่าตอนที่เข้ามาในโครงการแล้ว เหมือนเราเดินอยู่บนถนน Champ-Elysées ที่ด้านนอกจากมาเป็นสถาปัตย์แบบยุโรปโมเดิร์น แต่พอเดินเข้ามาด้านในปุ๊บ ก็จะเจอกับ Interior ที่มีความเปรี้ยว มีความแรงของการใช้สีสัน เข้ากับยุคสมัย ได้แรงบันดาลใจจาก Shop แบรนด์เนมหรูๆ ฮะ ใครไปดู Sales Gallery ก็จะเห็นภาพว่าจะออกมาฟิลลิ่งประมาณไหนครับ

แล้วถ้าเพื่อนๆ ได้ดูข้อมูลโครงการด้านบนก็จะเห็นว่าชื่อของพื้นที่ส่วนกลางก็จะเกี่ยวกับพระราชวังทั้งหมดเลย เขาไม่ทิ้งคอนเซปต์แม้กระทั่งชื่อครับ 5555

การจัดวางผังอาคาร

อาคารทั้ง 4 โอมล้อมพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้ ด้านนอกก็จะมองไม่เห็นด้านในโครงการ ช่วยให้ลูกบ้านมีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

Master Plan ของโครงการก็จะมีทั้งหมด 4 อาคาร ด้านหน้าอาคาร A กับ B ก็จะเป็นคู่ขนานกัน ด้านนอกอาคารจะมีสวนสีเขียว เน้นความร่มรื่น ธรรมชาติต่างๆ แต่ถ้าเป็นอาคาร C กับ D ก็จะเน้นไปที่สระว่ายน้ำ กับพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ ซึ่งเราสามารถเดินตั้งแต่ทางเข้า เชื่อมสะพานไปยังอาคารต่างๆ ได้เลย โดยที่ไม่ต้องเข้าไปด้านในอาคารครับ ชั้น 1 ของที่นี่เขาจะทำเป็นลานจอดรถทั้งหมด มีที่จอดสำหรับ EV Charger ให้ 2 ที่ ส่วนด้านหน้าที่ติดกับถนนจะทำเป็นร้านค้า มี 4 ยูนิตฮะ


อาคาร A

อาคารหน้า ติดสวน และ Main Lobby

อาคารนี้จะมีลิฟต์ทั้งหมด 2 ตัวด้วยกันครับ ชั้นนึงจะมีประมาณ 31 ห้อง ซึ่งแปลนชั้น 3 – 8 จะเหมือนกันทั้งหมดเลย ห้องที่ได้วิวสระก็จะเป็นห้องใหญ่อย่าง 1 Bedroom Extra และ 1 Bedroom Plus มีบันไดหนีไฟทั้ง 2 ฝั่งหัวท้ายอาคารเลย

(กดที่รูปเพื่อดูรูปใหญ่)

อาคาร B

อาคารติดสวน Facility เยอะ

ตัวอาคาร B จะสั้นกว่าอาคาร A ทำให้ชั้นนึงเนี่ยมีห้องประมาณ 24 ห้อง เพราะด้านหน้าตัวอาคารต้องร่นระยะมาจากร้านค้าที่อยู่ติดถนนด้วย ได้ลิฟต์ 2 ตัวเหมือนเดิม และมีบันไดหนีไฟ 2 จุดครับ

(กดที่รูปเพื่อดูรูปใหญ่)

อาคาร C

วิวสระ + สวน Panorama

อาคารนี้แปลนจะต่างกับ 2 อาคารก่อนหน้าฮะ จะเป็นรูปตัว L แทน ชั้นนึงก็จะมีประมาณ 25 ห้อง มีลิฟต์ 2 ตัว และบันไดหนีไฟ 2 ฝั่งเหมือนกัน ส่วนใหญ่ห้องที่หันไปทางวิวสระก็จะเป็นห้องใหญ่ฮะ

(กดที่รูปเพื่อดูรูปใหญ่)

อาคาร D

วิว 2 สระ Infinity

อาคารนี้จะมีชั้นละ 31 ห้อง มีลิฟต์สองตัวอยู่ตรงกลาง ห้องริมสุดไม่ต้องเดินไกลมากครับ มีบันไดหนีไฟสองจุดเหมือนกัน ส่วนใหญ่จะเน้นไปที่ 1 Bedroom Exclusive B1 ขนาด 25.9 – 26.10 ตารางเมตร เป็นไทป์ห้องที่มีในโครงการค่อนข้างเยอะเลย

(กดที่รูปเพื่อดูรูปใหญ่)

พื้นที่ส่วนกลางอาคาร A

เน้นการทำงาน การประชุมเป็นหลัก เป็นกิจกรรมที่ใช้สมาธิ แต่ก็สามารถมานั่งเล่นได้

The Emperor’s Lobby

พื้นที่ส่วนกลางของที่นี่เขาก็จะกระจายไปตามแต่ละอาคารครับ จะมีทั้ง Indoor และ Outdoor เลย อย่างที่อาคาร A Lobby ของเขาจะค่อนข้างโดดเด่น ด้วยความที่มีความโอ่อ่าใหญ่โต เพดานแบบ Double Volume ดูสูงโปร่ง การออกแบบดูเรียบๆ แต่การตกแต่งค่อนข้างฉูดฉาดด้วย Chandelier ต่างๆ ผสมผสานเข้ากับผนังแบบ Street Art ดูเข้ากันได้ดีฮะ


Panoramic Co-Working

มุมทำงานที่นี่เขาจะรวม 3 โซนเข้าไว้ด้วยกันครับ คือส่วนที่เป็น Co-Working Space พื้นที่ใหญ่สุด อยู่ตรงกลาง มีที่นั่งทำงานหลากหลายรูปแบบเลย ทั้งนั่งแบบโซฟา นั่งทำงานเป็นคู่ หรือนั่งคนเดียวติดกระจก ส่วนที่เป็น Premier Private Pod ก็จะอยู่ด้านข้าง แบ่งออกเป็นห้องๆ เพื่อความเป็นส่วนตัว และส่วนที่เป็น The Royal Meeting Room จะเป็นห้องประชุมที่อยู่ติดกัน เหมาะกับคนที่ต้องการความเงียบ ทั้ง 3 ห้อง ถ้ามองออกไปนอกหน้าต่าง จะมองเห็นวิวสระว่ายน้ำและสวนสีเขียวด้านล่างครับ เป็นวิวที่เหมาะกับการพักสายตาระหว่างนั่งทำงานมากๆ


พื้นที่ส่วนกลางอาคาร B

เน้นไปที่ความสนุกสนาน และคลายเครียดเป็นหลัก เป็นกิจกรรมที่เราสามารถมาเล่นกับเพื่อนๆ ได้

Game room

ห้องนี้ก็จะมีเครื่องเล่นต่างๆ มาให้ มีมุมให้ได้นั่งชิวมองวิวด้านนอกด้วย การตกแต่งก็คือตัดกันยิ่งกว่า เห็นสีแดงก็คือร้อนแรงไม่ไหว ตัดด้วยลายทางขาวดำ เหมือนอยู่คนละโซนฮะ แต่จริงๆ โซนเดียวกันนะ


Play Room

ห้องนี้อยู่ติดกับ Game Room เลย ให้อารมณ์เหมือนมานั่งเล่นวิดีโอเกม มาดูหนังฟังเพลง ได้หมด การตกแต่งเหมือนกันเด๊ะฮะ ต่างกันตรงมีที่นั่งเยอะมาก ชวนเพื่อนมาเล่นกันเป็นกลุ่มได้เลย


Edible Garden

สวนบนชั้นดาดฟ้า ก็จะมีมุมนั่งเล่นต่างๆ ฮะ เผื่อใครอยากรับลม อยากหาที่เงียบๆ สงบๆ พักผ่อน จุดนี้ก็เป็นอีกจุดที่น่ามาพักผ่อนหย่อนใจ


พื้นที่ส่วนกลางอาคาร C

มีกิจกรรมให้ทำทั้งเด็กและผู้ใหญ่ สระว่ายน้ำกว้าง อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ มีพื้นที่พักผ่อนเยอะ

Kid’s Club

ห้องสำหรับเด็กๆ ครับ สีจะมาโทนพาสเทลๆ หน่อยๆ แต่ไม่ลืมที่จะใส่สีส้มและน้ำเงินเข้าไป ให้คุมโทนกับพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ ของโครงการ

The Royal Hall

ห้องนี้จะอยู่ใกล้กับสระว่ายน้ำครับ เป็นเหมือนห้องนั่งเล่นขนาดใหญ่ เน้นโทนสีน้ำเงินเป็นหลัก แทรกด้วยเฟอร์นิเจอร์สีขาว และมีสีส้มแซมเข้ามาหน่อยๆ ให้ดูตัดกัน แต่ไม่แย่งซีนกัน มานั่งรอลูกๆ เล่นน้ำที่ห้องนี้ได้นะฮะ


Royal Palace Pool

น่าจะเรียกได้ว่าเป็นมุมไฮไลต์ของตึกนี้เลยฮะ กับสระว่ายน้ำ ด้วยความที่มาเป็น Theme พระราชวัง จะมาทำสระยาวๆ ธรรมดาแค่สระเดียวก็ไม่ได้ใช่มั๊ยครับ เขาเลยออกแบบให้ตัวสระนี้มีลูกเล่น ในส่วนสระเด็กที่อยู่ด้านล่าง ก็จะรับน้ำล้นจากสระผู้ใหญ่ด้านบน เหมือนเป็นน้ำตกตกลงมา นอกจากนี้ก็จะมี Outdoor Jacuzzi ด้วย มาแช่ตัวได้ หรือจะมานั่งโซน Hydrotherapy Pool Seat ก็ได้

รอบๆ สระว่ายน้ำเขาทำที่นั่งให้เยอะมากครับ ถ้าดูในรูปเพื่อนๆ จะเห็นที่นั่งที่มีสระว่ายน้ำล้อมอยู่ ตรงนั้นเป็น Sunken Seating หรือถ้าอยู่ด้านข้างสระจะเป็น Water Courtyard Lounge มุมนี้ถ้าเรามองไปด้านข้าง สระว่ายน้ำจะอยู่ระดับสายตาของเราพอดีเลย


Sky Bridge

สะพานทางเชื่อมระหว่างอาคาร C กับอาคาร D จะได้ไม่เสียเวลาเดินเข้าออกอาคารไปมาครับ ถ้าเราใช้ส่วนกลางอยู่ก็สามารถเดินเชื่อมหากันได้เลย


พื้นที่ส่วนกลางอาคาร D

จะเน้นไปที่การออกกำลังกายเป็นหลัก แต่ก็ยังคงมีมุมพักผ่อน และพื้นที่สีเขียวอยู่

Grand Royal Palace Pool

สระว่ายน้ำของอาคาร D อาจจะไม่ได้มีลูกเล่นเท่าอาคาร C เพราะเน้นไปที่การออกกำลังกายมากกว่า แต่ก็มีพื้นที่พักผ่อนริมสระหรือ Sun Longer ด้วย ว่ายน้ำมาเหนื่อยๆ ก็นอนพักก่อนได้ฮะ หรือจะมานั่งด้านหลังที่เป็น Blue Lagoon Seating ก็ได้นะครับ เผื่อแช่น้ำจนตัวเปื่อยแล้ว แต่ยังไม่อยากกลับห้อง


Fitness

ห้องออกกำลังกายที่มาใน Theme สีส้ม มีอุปกรณ์ครบ เพดานสูง ได้วิวสวนด้านนอกด้วยครับ


The Lord Private Jacuzzi

สำหรับใครที่อยากแช่ Jacuzzi แต่ไม่อยากแช่ในสระ ชอบความเป็นส่วนตัวที่นี่เขาก็มีให้ครับ ปกติไม่ค่อยเห็นคอนโดไหนทำ Jacuzzi แบบ Indoor สักเท่าไหร่ ก็เป็นอีกส่วนกลางที่ค่อนข้างแปลกตาดีครับ


พื้นที่ Outdoor

มี Palace Court ที่เชื่อมทั้ง 4 อาคารเข้าด้วยกัน นอกจากจะมีทางเดินที่ใกล้ชิดกับธรรมชาติแล้ว ยังมีมุมพักผ่อนในสวนด้วย

Palace Gate

ประตูทางเข้าทางโครงการตั้งใจให้ลูกบ้านเดินเข้ามาแล้วไม่รู้สึกเหมือนอยู่ที่ไทยฮะ เหมือนอยู่ต่างประเทศ โซนยุโรป มีความพระราชวัง ความอลังการ แต่ไม่ดูเยอะฮะ เข้ากับต้นไม้และกำแพงรอบๆ ได้ดี


Fontage Garden Terrace

ถ้าเราเดินเข้า Palace Gate เข้ามา มุมแรกที่จะเจอก็คือ Fontage Garden Terrace นี้แหละครับ เป็นมุมที่เรานั่งอยู่นด้านใน แล้วมีต้นไม้ล้อมรอบด้านเลย

Tea Pavilion

ศาลากระจก มานั่งจิบน้ำชา ดื่มกาแฟกันได้ ให้อารมณ์เหมือนเราอยู่ในเรือนกระจกที่เต็มไปด้วยต้นไม้ครับ จะอยู่ติดกับ Fontage Garden Terrace เลย

The Front Yard Avenue

มุมนี้คือสวนสีเขียวตรงกลางเลยครับ ให้อารมณ์เป็นสนามหญ้า เดินเล่นได้ วิ่งเล่นได้ ข้างๆ มี The Emerald Terrace หรือที่นั่งเล่น ถ้าเพื่อนๆ ดูรูปก็จะเห็นว่าเราสามารถเดินขึ้นบันไดไป จะเจอกับสะพานที่ทำให้เราสามารถเดินเชื่อมต่อกับอาคาร C ได้เลย สะดวกมากฮะ หรือจะเดินยาวๆ ไปจนถึงอาคาร D ก็ได้นะ

Shop

ด้านหน้าจะเป็นร้านค้า มีทั้งหมด 4 ยูนิตด้วยกัน ตอนนี้ที่ตรงนี้ทางโครงการเขาทำเป็นสำนักงานขายอยู่นะครับ แต่ถ้าโครงการเสร็จเมื่อไหร่ ก็จะเปลี่ยนจากสำนักงานขาย มาเป็นร้านค้าแทน


มาดูห้องตัวอย่างกัน

คอนโด Low Rise 4 อาคาร มาพร้อมการออกแบบสไตล์พระราชวัง

สำหรับตัวโครงการยังอยู่ในช่วงเพิ่งเปิด Presale และยังไม่ได้เริ่มก่อสร้างนะครับ ดังนั้นเค้าก็เลยจะทำ Sales Gallery ไว้ที่ด้านหน้าของโครงการ สามารถมาดูตัว Model และห้องตัวอย่างกันได้ ซึ่งตัว Sales Gallery เค้าก็จะมีความจำลอง Mood&Tone การเล่นสีสันต่างๆ ของโครงการเอาไว้ด้วยเช่นเดียวกัน ด้านห้องพักอาศัยของที่นี่จะขายแบบ Fully Furnished ครับ คือจะได้ในส่วนของเคาน์เตอร์ครัวแบบ Built-in มีอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควันให้ มีตู้เก็บของเท้า โซฟาเบด และตู้วางทีวีที่ห้องนั่งเล่น ส่วนห้องนอนได้ฐานเตียงกับตู้เสื้อผ้า มุมกินข้าวก็มีโต๊ะกับเก้าอี้มาให้ ส่วนห้องน้ำเองก็ให้สุขภัณฑ์มาครับ มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ด้วย

มีแบบห้องพักอาศัยทั้งหมด 4 แบบ

  • 1 Bedroom ขนาด 24 – 24.80 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom Exclusive ขนาด 25.80. – 26.80 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom Extra ขนาด 28.40. – 29.10 ตารางเมตร
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 34. -34.90 ตารางเมตร

ห้องตัวอย่างจะมีทั้งหมด 3 ห้องด้วยกันนะครับ เดี๋ยวผมจะพาไปดูแต่ละห้องเลยว่า Layout จะเป็นยังไง ของที่ได้หน้าตาแบบไหน

1 Bedroom ขนาด 24.10 ตารางเมตร

ห้อง Type ขนาดเริ่มต้น ฟังก์ชั่นห้องขยับได้ตามการใช้งาน

สำหรับห้องนี้จะเป็นขนาดเริ่มต้นของโครงการเลยครับ เป็นห้องขนาดกระทัดรัด เหมาะกับการอยู่คนเดียว ได้ครัวปิดอยู่ด้านหน้าติดกับทางเข้า ส่วนโซน Living ก็จะรวมตั้งแต่มุมนั่งเล่น มุมเตียงนอน มุมทำงาน มุมแต่งตัวทั้งหมดมาไว้รวมกันเลย แต่ตัวห้องไม่แคบนะครับ ค่อนข้างโล่งเลย มีพื้นที่กลางห้องเยอะ ส่วนห้องน้ำก็เข้าจากโซน Living ห้องนี้ได้หน้าต่างกระจกบานใหญ่เลย แถมมีมุมระเบียงด้วย ระเบียงไม่ได้ใหญ่นะครับ แต่สามารถวางเครื่องซักผ้าได้

ห้องนี้เปิดเข้ามาก็เจอครัวก่อนครับ เคาน์เตอร์ครัวจะอยู่ทางขวามือ ส่วนตู้เก็บรองเท้าจะอยู่ซ้ายมือ บานประตูจะเป็นกระจก เอาไว้ส่องก่อนออกจากห้องได้ ส่วนด้านในเขาแยกเป็นช่องๆ ให้ ไม่ได้ใส่แค่รองเท้าได้อย่างเดียวนะครับ ยังเก็บของต่างๆ ในห้องได้ด้วย

ส่วนเคาน์เตอร์ครัวจะหน้าตาเหมือนห้องตัวอย่างเลย เอาจริงฟังก์ชันการใช้งานคล้ายๆ กับตัวที่เราทำไปก่อนหน้านี้อย่าง Atmoz Season ลาดกระบังครับ คือเขาจะมีลิ้นชักที่เปิดออกมาเป็นที่วางของได้ ช่วยเพิ่มพื้นที่ให้คอนโดที่จำกัดสามารถใช้สอยให้เยอะกว่าเดิม ส่วนไมโครเวฟไว้ด้านล่าง ชั้นบนก็เก็บของได้ทั้งหมด ส่วนเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจานเป็นของ Teka ฮะ

มาดูโซน Living กันบ้างฮะ ด้านในกว้างกว่าที่คิด สามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งได้ ระยะห่างระหว่างโซฟากับชั้นวางทีวีมีเยอะมากกกกก

ตู้เสื้อผ้าจะอยู่ติดกับชั้นวางทีวีเลย แต่ว่าทีวีอาจจะวางขนาดใหญ่ไม่ได้นะ เพราะว่าพื้นที่มีจำกัดพอสมควร แต่ก็แลกมากับการได้ตู้เสื้อผ้าใหญ่ครับ

มุมเตียงนอนก็วางเตียงประมาณ 5 ฟุตได้ ปลายเตียงเดินผ่านไปมาสะดวก พื้นที่ข้างเตียงก็มีพอสมควร สามารถวางโต๊ะทำงานติดกับหน้าต่างได้

มุมโต๊ะทำงานสามารถขยายให้ยาวขึ้นได้อีก หรือจะวางชั้น วางโซฟาเล็กๆ เพิ่มเติมได้ แล้วแต่เพื่อนๆ เลยครับ เพราะห้องจริงส่วนนี้ก็จะโล่งๆ ไม่ได้มีโต๊ะทำงานมาให้อยู่แล้ว

ห้องน้ำก็จะได้เหมือนกับห้องตัวอย่างเลยครับ อ่างล้างหน้ามาพร้อมกับช่องเก็บของเล็กน้อย ได้กระจกบานใหญ่ ห้องอาบน้ำมีประตูบานเลื่อนกระจก และด้านในเองก็มีชั้นวางของแบบเจาะผนัง


1 Bedroom Exclusive ขนาด 25.90 ตารางเมตร

ห้องนอนเป็นส่วนตัว ได้ครัวปิดติดระเบียง ห้องน้ำเข้าได้สองทาง

ห้องนี้ขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อยครับ มีการแบ่งห้องเป็นสัดส่วนมากขึ้น ห้องครัวจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจก อยู่ติดกับระเบียง ส่วนห้องนอนเป็นประตูบานทึบ โซน Living จะอยู่ด้านหน้า ห้องนี้ที่ได้เพิ่มเติมมาจากห้องที่แล้ว คือโต๊ะและเก้าอี้กินข้าวที่จะให้มากับตัวห้องด้วย ส่วนห้องน้ำสามารถเข้าออกได้สองทางครับ คือจากทางห้องนอนและโซน Living

โซน Living วางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งได้เหมือนเดิมฮะ แต่ข้อดีของห้องนี้คือชั้นวางทีวีที่กว้างขึ้น เราสามารถวางทีวีจอใหญ่ได้ละ

ซึ่งมุมกินข้าวก็จะอยู่ติดกับโซฟาเลย นั่งได้ประมาณ 2 คนครับ

ครัวก็จะเหมือนห้องก่อนหน้าเลย แต่คนละตำแหน่งกัน ห้องนี้จะอยู่ติดกับระเบียง ระบายควันและกลิ่นง่ายครับ ส่วนเครื่องซักผ้าก็สามารถวางที่ระเบียงได้เลย

ห้องนอนค่อนข้างกว้างเลย กว้างกว่าโซน Living อีกครับ สามารถวางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้ แต่จริงๆ ทางโครงการก็จะให้ฐานเตียงมาอยู่แล้วด้วย เราซื้อแค่ฟูกมาก็อยู่ได้แล้วฮะ


1 Bedroom Plus ขนาด 34.20 ตารางเมตร

ห้อง Type ใหญ่ มีห้อง Plus เชื่อมต่อกับทั้งห้องนั่งเล่นและห้องนอน ได้ครัวปิด

ห้องก็จะเป็นห้องไทป์ใหญ่ของโครงการครับ แต่ละโซนเขาก็จะแบ่งเป็นสัดเป็นส่วนชัดเจนเลย เขาจะเอาห้องนั่งเล่นกับมุมกินข้าวไว้ด้านหน้า ห้องอเนกประสงค์จะมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นเอาไว้ให้ ส่วนห้องนอนเป็นประตูบานทึบ ห้องน้ำกับห้องครัวจะอยู่ปีกซ้ายของห้อง ครัวฟังก์ชันค่อนข้างดีเลย ได้เคาน์เตอร์รูปตัว L ด้วยฮะ

โซน Living สามารถวางโซฟายาวๆ ได้เลย หรือจริงๆ เราจะ Built-in ยาวตั้งแต่โซฟา ไปจนถึงมุมกินข้าว ให้เป็นโซนที่เชื่อมกันทั้งหมดก็ได้นะครับ โทนสีห้องของเราก็จะเป็น Theme เดียวกันมากๆ

มุมชั้นวางทีวีขนาดไม่ใหญ่ฮะ

มุมกินข้าววางโต๊ะขนาด 2 ที่นั่งได้

ห้องครัวที่ผมบอกไปข้างต้นว่าได้เคาน์เตอร์รูปตัว L ทำให้เรามีพื้นที่เก็บของเยอะขึ้น ด้านล่างวางเครื่องซักผ้าได้ วางไมโครเวฟได้ ด้านบนมีอ่างล้างจาน เตาไฟฟ้า และเครื่องดูดควัน ส่วนตู้ด้านบนใช้เก็บของได้แบบจุกๆ เลยครับ ห้องนี้จะเหมาะมากๆ สำหรับคนที่ชอบทำอาหาร เพราะมีพื้นที่ในการปรุงอาหารมากกว่าห้องอื่นๆ เยอะเลย

ส่วนห้องอเนกประสงค์จะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกแบบเข้ามุมครับ เขากั้นให้สองทางเลย คือจากโซน Living กับห้องนอน ผมว่าประตูเยอะไปนิด แต่ข้อดีที่ได้คือความสว่างที่ส่องเข้ามาได้ทั้งสองทาง ทำให้ทะลุไปยังโซน Living ได้ ไม่ทึบจนเกินไป

ห้องนอนค่อนข้างกว้างเลย จากรูปเพื่อนๆ จะเห็นว่าพื้นที่ปลายเตียงเหลืออยู่พอสมควรเลย ก็จะทำเป็นชั้นวางทีวี ตู้เก็บของ หรือมุมแต่งตัวเพิ่มก็ได้ฮะ

เจาะลึก Spec ห้อง

ราคาไม่ถึงสองล้าน กับทำเลลาดพร้าว-วังหิน ที่แต่งห้องมาให้เกือบครบ

มาดูกันครับว่าคอนโดราคาล้านปลายๆ – สองล้านกว่าๆ ในย่านลาดพร้าว-วังหิน เขาจะให้อะไรบ้าง

ห้องครัว

ในส่วนของครัวเขาจะให้เคาน์เตอร์มาฮะ อย่างห้องนี้เป็นห้องใหญ่สุดของโครงการ ก็เลยได้เคาน์เตอร์ใหญ่ตามไปด้วย จะเห็นว่ามีที่เก็บของเยอะมากกกกกก ทั้งข้างล่างและข้างบน สามามารถวางเครื่องซักผ้าได้ มีเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควันแบบหมุนวนของ Teka และอ่างล้างจานติดตั้งมาให้ ชุดครัวที่นี่จะมีชั้นสามารถดึงออกมาเป็นที่วางของเพิ่มเวลาทำอาหารได้ด้วยครับ


ห้องน้ำ

ได้อ่างล้างหน้าที่มีช่องเก็บของด้านล่าง ส่วนกระจกก็สูงเต็มผนังเลยครับ ห้องอาบน้ำจะมีประตูบานเลื่อนกระจกติดตั้งมาให้ ส่วนด้านในก็มีชั้นวางของแบบเจาะผนัง พวกก๊อกน้ำ ฝักบัว และสายชำระ ก็จะเป็นสีเงินทั้งหมด ส่วนสุขภัณฑ์ต่างๆ จะเป็นสีขาว เป็นของ Cotto ครับ


ระเบียง

ถ้าไม่ใช่ห้องใหญ่ ตรงเคาน์เตอร์จะไม่มีช่องสำหรับใส่เครื่องซักผ้านะครับ แต่เราสามารถวางเครื่องซักผ้าที่ระเบียงได้ เพราะเขาก็ติดตั้งก๊อกน้ำกับปลั๊กไว้ให้เหมือนกัน


เฟอร์นิเจอร์ครบทั้งห้อง

สำหรับโครงการจะมีเฟอร์นิเจอร์ให้ครบทั้งห้องด้วยครับ แทบไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเลย ซึ่งบางชิ้นจะเป็นแบบบิ้วด์อินด้วยครับ อย่างชุดตู้เก็บรองเท้า/เก็บของหน้าห้อง และตู้เสื้อผ้าครับ ซึ่งห้องแต่ละ Type ก็จะอาจจะได้เฟอร์นิเจอร์ต่างกันเล็กน้อย ขึ้นอยู่กับขนาดครับ


อื่นๆ

มี Digital Door Lock กับ Bluetooth Sound System มาให้ด้วย สามารถเปิดเพลงในห้องได้ จะมีลำโพงฝังอยู่ตามจุดต่างๆ ที่โครงการเขาติดตั้งมาให้ฮะ เราก็จะได้ยินเสียงเพลงไปทั่วทั้งห้องเลย


สรุป

คอนโดทำเลใจกลางย่านอยู่อาศัย ที่มาพร้อมกับส่วนกลางแบบจัดเต็มสุดๆ

สำหรับย่านลาดพร้าววังหิน ก็ต้องบอกว่าเป็นย่านที่อยู่อาศัยชื่อดังย่านนึงของแถบลาดพร้าวครับ แน่นอนว่าถ้าเมื่อก่อน 20-30 ปีที่แล้วเราอาจจะยังหาซื้อบ้านในราคาที่หยิบจับได้ แต่ด้วยความเจริญต่างๆ ที่เข้ามา ไม่ว่าจะเป็นในลาดพร้าววังหิน-โชคชัย 4 เอง หรือถนนรอบๆ ข้างอย่างลาดพร้าว-รัชดา-พหลโยธิน ที่กลายเป็นย่านธุรกิจ มีรถไฟฟ้าเข้ามา มีห้างขนาดใหญ่มาเปิด ที่อยู่อาศัยในรูปแบบของบ้านก็ราคาไปไกลมากๆ แล้ว เราจึงเห็นย่านนี้มีโครงการคอนโดมิเนียมมาเปิดกัน กระจายอยู่ตามซอยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นลาดพร้าววังหินเองหรือโชคชัย 4

ซึ่งพอเป็นโครงการในรูปแบบของคอนโด ราคาที่ทำออกก็จะยังหยิบจับได้ง่ายกว่าคอนโดที่ติดถนนใหญ่ครับ ส่วนใหญ่ก็จะเริ่มต้นอยู่ในหลักล้านกลาง-ล้านปลาย ก็จะตอบโจทย์ทั้งคนที่มองหาที่อยู่อาศัยในย่านลาดพร้าววังหิน-โชคชัย 4 เอง หรือใครที่มองหาคอนโดทำเลใกล้เมือง เดินทางสะดวก แต่คอนโดติดถนนใหญ่หรือติดรถไฟฟ้าอาจจะเกินงบไป หรือไม่อยากไปอยู่คอนโดติดรถไฟฟ้าที่ไกลเมือง

ซึ่งความเป็นซอยที่เป็นแหล่งชุมชนขนาดใหญ่ ทำให้บรรยากาศรอบข้างของโครงการก็ค่อนข้างมีชีวิตชีวาครับ มีร้านค้า มีห้าง เรื่องของกินต่างๆ ตรงนี้ก็ถือว่ายืนหนึ่งในย่านไม่แพ้ใคร ตัวทำเลโครงการที่ตั้งอยู่ใกล้แยกที่ทะลุออกรัชดา 32 ได้ เลยเป็นเหมือนการเวทน้ำหนักกันระหว่างความใกล้ถนนใหญ่ฝั่งรัชดา กับความใกล้แหล่งชุมชนครับ

คือก็อาจจะมีคอนโดที่ใกล้ถนนใหญ่อย่างถนนลาดพร้าวหรือใกล้รัชดามากกว่า แต่ที่นี่ก็จะได้จุดเด่นในเรื่องของความที่ใกล้ชุมชน ใกล้ มี Community Mall ในระยะที่เดินจากโครงการได้เลยครับ ทำเลแต่ละแบบก็จะตอบโจทย์ที่ต่างกันออกไป อยู่ที่ว่ามองหาที่อยู่แบบไหนครับ 

ส่วนที่นี่จะมีระยะห่างจากถนนรัชดาประมาณ 1.9 กิโลเมตรด้วยกัน เป็นทางออกที่ถนนใหญ่ที่ใกล้ที่สุด แต่ก็จะสามารถไปทะลุทางอื่นได้เช่นกัน อย่างถ้าไปลาดพร้าวก็สามารถไปออกทางโชคชัย 4 ได้ครับ หรือถ้าไปเกษตร-นวมินทร์ก็ตรงไปตามทางลาดพร้าววังหิน ออกได้เลย ระยะอยู่ที่แค่ประมาณ 2-3 กิโลเมตรเช่นกัน 

นอกจากนี้ถนนรอบนอกที่ล้อมโซนลาดพร้าววังหิน-โชคชัย 4 ปัจจุบันก็มีรถไฟฟ้าเปิดให้บริการทั้ง 3 สายแล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นสายสีเหลือง-เขียว-น้ำเงิน และในอนาคตมีแผนกำลังจะมาอีก 2 สาย ในเรื่องการใช้รถไฟฟ้าก็สามารถเลือกใช้งานได้เลย ขึ้นอยู่กับว่าเราจะไปที่โซนไหน เพียงแต่ว่าอาจจะต้องมีการต่อรถออกไปปากซอยนิดนึงครับ

คอนโดในโซนลาดพร้าววังหิน-โชคชัย 4 ส่วนใหญ่ก็จะเป็นโครงการขนาดไม่ใหญ่มาก เน้นทำราคามาหยิบจับได้ง่าย ส่วนกลางมีพอใช้พอประมาณ แต่โครงการ ATMOZ PALACIO ลาดพร้าว – วังหิน จะทำออกมาค่อนข้างแตกต่างเลยครับ คือที่นี่เหมือนอัพเกรดขึ้นมาอีก Step ไม่ได้เป็นแค่โครงการคอนโดเน้นแค่อยู่อาศัยธรรมดาทั่วไปแล้ว แต่จะพยายามใส่ Facility ต่างๆ มาให้ มีตีมการตกแต่งที่ค่อนข้างชัดเจน

มาในตีมพระราชวัง ตามชื่อทำเลลาดพร้าว “วัง” หิน Concept ต่างๆ ในการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ของโครงการเลยค่อนข้างชัด เอาความ Modern Classic และสถาปัตยกรรมในรูปแบบของวังยุโรปมาใช้ แต่ Twist อีกทีให้มีความฉูดฉาด ฟีลแบบร้านแฟชั่น มีความทันสมัยตามกลุ่มวัยลูกค้าที่ส่วนใหญ่น่าจะเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่

โดยก็ทำออกมาค่อนข้างสวยและแปลกตามากๆ ครับ อย่างพื้นที่ส่วนกลางห้องต่างๆ ก็จะมีการออกแบบที่ยึดตีมหลักมี Arc โค้ง มีดีเทลต่างๆ แต่ใช้สีจัดๆ เข้ามาผสม ซึ่งนอกจากเรื่องของการออกแบบ อีกเรื่องที่ต้องพูดถึงก็คือ “จำนวน” ของส่วนกลางที่มีมาให้ครับ ที่จัดว่าเยอะที่สุดในย่าน 33 กิจกรรม ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ 2 สระ ห้องสำหรับเด็ก, ห้อง Jacuzzi ส่วนตัว, ห้องรับประทานอาหาร, Co-working Space, Game Room และห้องอื่นๆ อีก ที่จะกระจายอยู่ในแต่ละตึก 

ซึ่งเค้าสามารถใส่ส่วนกลางเข้ามาเยอะได้จากการที่เค้ามีพื้นที่โครงการค่อนข้างใหญ่ มากับพื้นที่เกือบ 6 ไร่ จำนวน 755 ยูนิตครับ ก็ถือว่าเป็นข้อดีของคอนโดที่มีขนาดไซส์ประมาณนี้ ดังนั้นที่นี่เลยเป็นเหมือนกับคอนโดที่อัพเกรดขึ้นมา มีเรื่องของงาน Design ยก Facility แบบดีๆ มาใส่แบบจัดเต็ม มีความเสมือนอยู่พระราชวังตามที่โครงการบอกเอาไว้ โดยที่นี่ก็จะเริ่ม 1.79 ล้านบาท เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 8 หมื่นกว่าบาท/ตร.ม.ครับ

ในส่วนของตัวห้อง ก็ให้ของมาครบตามสไตล์ AssetWise ครับ คือจะได้ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์+ฉากกั้น, ชุดครัวตามที่เห็นในห้องตัวอย่าง, แอร์, บานกระจกกั้นห้องสำหรับบาง Type, หน้าต่างห้องบานใหญ่, Digital Doorlock, Bluetooth Sound System พร้อมลำโพงฝังบนเพดาน และมีเฟอร์นิเจอร์มาให้ค่อนข้างครบครัน เป็นห้องที่ซื้อมาราคาไหน ก็ค่อนข้างที่จะจบได้ราคานั้น บานปลายกับการแต่งห้องไม่มาก ซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้านิดหน่อย+ฟูกที่นอนก็สามารถเข้าอยู่ได้แล้วครับ 


สำหรับใครที่มองหาโครงการย่านลาดพร้าววังหิน-โชคชัย 4 หรือมองหาคอนโดทำเลใกล้เมืองที่ราคายังหยิบจับได้ไม่สูงเกินไป ได้ส่วนกลางมาแบบแน่นๆ สามารถแวะมาชมโครงการ ATMOZ PALACIO กันได้ Sales Gallery เปิดให้ชมทุกวันครับ และในวันที่ 1-2 กรกฎาคมนี้ เตรียมเปิดตึกใหม่วิวสระว่ายน้ำ เริ่ม 1.79 ล้านบาท พร้อมส่วนลดสูงสุด 200,000 บาท และจองในงานรับเพิ่ม iPhone 14 ด้วยครับ

*ราคาเดือนมิถุนายน 2566

Related posts
รีวิวเจาะลึก

เจาะจุดเด่น “MILFORD เอกมัย-ลาดพร้าว” บ้าน Private Luxury Townhome ติดทาวน์อินทาวน์

รีวิวเจาะลึก

รีวิวเจาะลึก : "SUPALAI TYME เจริญนคร" คอนโดวิวเจ้าพระยาในราคาจับใจ สเปกและส่วนกลางจัดเต็ม เริ่ม 2.59 ล้าน

รีวิวเจาะลึก

รีวิวเจาะลึก : "SUPALAI BLU สาทร - ราชพฤกษ์" คอนโดใหม่ใกล้สาทรและรถไฟฟ้า 2 สาย ในราคาจับต้องได้ เริ่ม 1.89 ล้าน*

รีวิวเจาะลึก

รีวิวเจาะลึก : "dconco calm รามคำแหง 40" คอนโดใหม่จากแสนสิริ ใจกลางย่านราม ใกล้รถไฟฟ้า ราคาจับต้องได้