เคยสงสัยกันไหมครับว่า ชื่อคอนโดหรือหมู่บ้านเดี๋ยวนี้มีมากมายเต็มไปหมด ซึ่งแต่ละชื่อก็จะมีการสื่อถึงลักษณะของตัวโครงการ รูปแบบ และระดับราคาแตกต่างกันไป แล้วแบรนด์ไหน เป็นอย่างไรบ้าง? วันนี้เราเลยลองนำมาลิสต์ให้ทำความรู้จักกัน เริ่มกันที่แบรนด์แรกที่หลายๆ คนน่าจะรู้จักกันเลยกับแบรนด์ Ananda Development หรือเรียกย่อๆ ว่า “อนันดา” นั่นเองครับ
สำหรับแบรนด์อนันดา หลายๆ คนน่าจะรู้จักกันดีกับคอนโดแบรนด์ IDEO ที่เน้นลูกค้ากลุ่มคนเมืองรุ่นใหม่ โดยเน้นที่ทำเลใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า มีหลายๆ โครงการที่แทบจะติดหรือติดกับบันไดรถไฟฟ้ากันเลย แถมรูปแบบตัวตึกก็ค่อนข้างที่จะดีไซน์โดดเด่นพอสมควร ด้วยความที่แบรนด์นี้เน้นกลุ่มคนรุ่นใหม่ ส่วนใหญ่เลยจะมากับขนาดห้องที่ไม่ได้ใหญ่มากจนเกินไป มียูนิตอาจจะมากนิดนึงแต่ก็มาพร้อมกับส่วนกลางที่ค่อนข้างมีให้ใช้แบบหลากหลาย เราจะได้เห็นความแปลกใหม่ในดีไซน์ไม่ว่าจะเป็นตัวตึก หรือพื้นที่ส่วนกลางจากค่ายนี้เสมอๆ
เราลองมาดูกันครับว่าจริงๆ แล้ว “อนันดา” มีแบรนด์ย่อยของคอนโดอะไรบ้าง แล้วแบรนด์ไหนเป็นแบบไหน
คอนโด
UNIO
เริ่มกันที่แบรนด์น้องเล็กสุดกับ UNIO สำหรับแบรนด์นี้เองจะไม่ได้พัฒนาโดยอนันดาโดยตรง แต่จะเป็นแบรนด์ที่พัฒนาโดย Helix บริษัทลูกของอนันดาอีกทีหนึ่ง โดย UNIO เองจะเป็นคอนโดราคาไม่แพงมาก เกาะทำเลรอบนอก เช่น แบริ่ง, เสรีไทย, ติวานนท์, จรัญฯ เป็นต้น ส่วนใหญ่เป็นอาคารแบบ low rise (ความสูง 8 ชั้น) ราคาเริ่มต้นประมาณล้านต้นๆ สำหรับห้องขนาด 20 กว่า ตร.ม. ราคาเฉลี่ยอยู่ระดับประมาณ 50,000-70,000 บาท/ตร.ม. ส่วนกลางมีมาให้พอใช้งานไม่น่าเกลียด (อาจจะเยอะกว่าคอนโดระดับเดียวกันด้วยซ้ำ)
กลับไปด้านบน
ELIO
สำหรับแบรนด์นี้ก็จะเริ่มเขยิบขึ้นมาจาก UNIO หนึ่งสเต็ป ทั้งทำเลที่เริ่มจะเขยิบเข้ามาในเมืองมากขึ้นอย่างเช่นปุณณวิถี, พหลโยธินช่วงเสนานิคม, BTS วุฒากาศ แต่ก็ไม่ถึงกับติดรถไฟฟ้าซะทีเดียว ส่วนใหญ่มีระยะห่างรถไฟฟ้าประมาณ 500 เมตรขึ้นไป แต่ก็แลกมากับการที่ ELIO แต่ละโครงการจะมากับส่วนกลางขนาดใหญ่ที่น่าจะหาไม่ได้ในโครงการระดับเดียวกัน ที่เห็นได้ชัดเลยคือสระว่ายน้ำ บางโครงการเกือบจะเป็นสวนน้ำเลยก็ว่าได้ บรรยากาศโครงการจะมีความเป็นรีสอร์ทเบาๆ
ในด้านราคา ELIO ก็ยังอยู่ในกลุ่มที่ไม่แพงมากนัก ราคาเริ่มต้นประมาณ 2-3 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยประมาณ 80,000-100,000 บาท/ตร.ม.
กลับไปด้านบน
IDEO
ถัดมาเป็นแบรนด์ IDEO แบรนด์นี้ทำเลจะเริ่มเขยิบมาติดสถานีรถไฟฟ้าแล้ว ด้วยระยะห่างส่วนใหญ่ที่ไม่เกิน 500 เมตร หรือบางโครงการก็ห่างเพียงแค่ 15-100 เมตรเท่านั้น แต่ก็ต้องเข้าใจก่อนว่าแบรนด์ IDEO จะยังอยู่ในแบรนด์ระดับกลางๆ ดังนั้นส่วนใหญ่ถ้าติดสถานีเลยก็อาจจะไม่ถึงกับอยู่ใจกลางเมือง เช่น BTS วงเวียนใหญ่, MRT ท่าพระ, BTS บางจาก เป็นต้น แต่ถ้าอยู่ใกล้เมืองขึ้นมา เช่นพระราม 9 หรือ สุทธิสารก็อาจจะมีระยะห่างจากสถานีขึ้นมาหน่อย แต่ก็ถือว่ายังอยู่ในระยะที่เดินได้
ราคาของแบรนด์นี้จะอยู่ที่ระดับประมาณ 100,000-150,000 บาท/ตร.ม. จะเริ่มมีส่วนกลางที่อัพเกรดความหรูดูดีขึ้นไปอีกขั้นนึง อย่างบางโครงการเราจะเริ่มเห็นสระว่ายน้ำที่ยกขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้าของอาคารให้ชมวิวได้ หรือพื้นที่ส่วนกลางเช่นล็อบบี้ก็จะเริ่มมีความโอ่อ่าขึ้นมา มีรายละเอียดต่างๆ ในการตกแต่งมากขึ้น สำหรับแปลนห้องเอง หลังๆ มาก็เริ่มที่จะมีแปลนที่เรียกว่าห้องไฮบริด ที่จะเป็นห้องเพดานสูง ภายในห้องมี 2 ชั้น เพิ่มความโปร่งของโซนห้องนั่งเล่น มาให้เลือกในหลายๆ โครงการ
เรียกได้ว่าเป็นโครงการที่ระดับราคาคนทำงานซักระยะนึงยังพอหาซื้อกันได้ เป็นแบรนด์ระดับกลางที่ราคาไม่สูงเกินไป ส่วนกลางดูดี ทำเลหลายๆ ที่ก็ถือว่าใช้ได้เลย
กลับไปด้านบน
IDEO MOBI
สำหรับ IDEO MOBI ก็จะเป็นแบรนด์ที่สูงขึ้นมาอีกหน่อย คอนเซปเดิม IDEO MOBI จะมาด้วยห้องขนาดเล็กมีให้เลือกตั้งแต่ 22 ตร.ม.เลย โดยเน้นการจัดพื้นที่ในห้องให้มีฟังก์ชั่นการใช้งานได้เหมือนห้องใหญ่ เน้นทำเลติดรถไฟฟ้า ซึ่งเมื่อห้องไม่ใหญ่มาก ทำให้ราคาคูณต่อตารางเมตรออกมาแล้วไม่สูงมากนัก โดยได้ทำเลที่ดี เช่น อ่อนนุช, พญาไท, พระราม 9 เป็นต้น แต่ในระยะหลัง โครงการใหม่ๆ ขนาดห้องเริ่มต้นก็ได้ปรับให้ใหญ่ขึ้น อยู่สบายขึ้นแล้ว
ซึ่งโครงการ IDEO MOBI ในยุคหลังๆ จะเริ่มเห็นหน้าตาตึกที่ดูล้ำมากขึ้น มีลูกเล่นต่างๆ โดยเน้นการออกแบบแนว Futuristic ที่มีเส้นสายของตึกแบบเน้นแนวนอนค่อนข้างเฉพาะตัว โดยการตกแต่งภายในพื้นที่ส่วนกลางของตึกก็จะมาในแนวหรู + ล้ำสมัยเช่นเดียวกัน
สำหรับวัสดุต่างๆ รวมถึงรูปแบบแปลนห้องก็จะถูกอัพเกรดให้มีอะไรมากขึ้นกว่าตัว IDEO ปกติ เช่นบางที่จะมีระเบียงแบบ double skin ที่เป็นระเบียงกึ่ง outdoor ที่มี 2 ชั้น เปิดเป็นห้องข้างในได้หรือใช้เป็นระเบียงก็ได้, บางที่ห้องขนาด 30 กว่าตร.ม.ก็มี walk-in closet มาให้ หรือในด้านสเปกของห้องบางโครงการก็เริ่มมีการใส่ home automation สั่งงานไฟ/แอร์ด้วยมือถือมาให้ด้วยเช่นกัน
ระดับราคาของ IDEO MOBI จะค่อนข้างกว้างมีตั้งแต่ 150,000 ไปจนถึง 200,000 กว่าบาท/ตร.ม.เลยทีเดียว
กลับไปด้านบน
IDEO Q
แบรนด์ IDEO Q เป็นคอนโดที่จัดอยู่ในระดับค่อนไปทางบนของอนันดาแล้ว แต่ละโครงการทำเลจะค่อนข้างอยู่ในใจกลางเมืองเลยครับ เช่น ราชเทวี, สามย่าน, ทองหล่อ, อนุสาวรีย์ชัยฯ เป็นต้น จุดที่โดดเด่นมากๆ ของ IDEO Q เลยก็หนีไม่พ้นหน้าตาของตัวตึก ที่ไม่ว่าไปตั้งอยู่ทำเลตำบลไหน ก็ค่อนข้างที่จะเท่และโดดเด่นในย่านนั้นๆ ยกตัวอย่างเช่น IDEO Q สามย่าน หรือที่คนชอบเรียกกันว่ายานแม่ ก็เป็นตึกที่หลายๆ คนชอบมาใช้เป็นโลเกชั่นประกอบฉากถ่ายรูปไปแล้วเพราะมองเห็นได้ชัดจากในจุฬา
ในยุคหลังๆ ของ IDEO Q จะมากับ design ของตึกที่เป็นทรงกระจกโค้ง ทำให้แปลนห้องของตึกจะมีห้องพิเศษที่อยู่ในส่วนโค้งของตึก ซึ่งก็จะได้วิวกว้างเป็นพิเศษเมื่อเมื่อมองจากภายในห้อง สำหรับงานส่วนกลางก็ค่อนข้างที่จะจัดเต็มมีอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ มาให้เห็น เช่นบางโครงการมีสระว่ายน้ำรอบตัวอาคารชั้นบน สามารถดูวิวได้จากทุกทิศ
แบรนด์นี้ก็จะเป็นแบรนด์ที่มีคาแรคเตอร์ของความเท่ ความหรูหราเพิ่มมากขึ้น พาคนอื่นมาเที่ยวได้แบบไม่อายใคร แต่ราคาก็ค่อนข้างที่จะสูงอยู่ มีตั้งแต่ 180,000 ไปจนถึง 230,000 บาท/ตร.ม.ครับ
กลับไปด้านบน
ASHTON
ตัวสุดท้ายนี่ถือว่าเป็นตัวท็อปสุดของแบรนด์อนันดาเลย โดยแบรนด์นี้อาจจะไม่ค่อยได้เปิดตัวโครงการใหม่มากนักเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ แต่ในการเปิดตัวแต่ละทีก็จะมีความว้าวอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น Ashton อโศก ที่สูง 50 ชั้น กับห้องมุมกระจกโค้งเปิด 3 ด้านที่คนแย่งกันจอง, Ashton จุฬา-สีลม ที่ยกสระว่ายน้ำขนาดใหญ่พร้อมบ่อออนเซนขึ้นไปไว้ชั้น 49 สามารถเห็นวิวจุฬา-สวนลุมได้ชัดเจน, Ashton Residence 41 อาคาร low rise ที่วางห้องแบบทำมุมเฉียงไม่ให้แต่ละห้องเห็นกันตรงๆ แต่เห็นสระว่ายน้ำตรงกลาง, Ashton สีลมที่ทำแปลนห้องแบบ interlock บนล่าง มีเล่นระดับพื้นห้องแบ่งโซนต่างๆ หรือล่าสุด Ashton พระราม 9 ที่ดีไซน์ตึกเป็นกระจกเหลี่ยมเข้ามุมแบบไล่ระดับ ทำให้ทุกห้องของตึกเป็นห้องมุม
จะเห็นได้ว่าแบรนด์นี้จะพยายามเอาอะไรใหม่ๆ เข้ามาตลอด สิ่งที่ Ashton อาจจะต่างจากคู่แข่งในระดับเดียวกันก็คือทำขนาดไซส์ห้องมาค่อนข้างจะเล็กกว่าพอสมควร ถ้าเทียบกับคอนโดที่เป็นระดับ Luxury ทำให้ราคาต่อห้องออกมาไม่สูงเกินไปมาก แลกมากับยูนิตที่ค่อนข้างจะเยอะกว่าพอควร แต่ก็ได้ส่วนกลางขนาดใหญ่ชดเชย
ระดับราคาของแบรนด์นี้จะอยู่ประมาณ 200,000 บาท/ตร.ม. ขึ้นไป
กลับไปด้านบน
บ้าน
นอกจากอนันดาจะทำคอนโดมิเนียมแล้ว จริงๆ อนันดาก็มีโครงการบ้านด้วยเช่นเดียวกัน อาจจะดังไม่สู้ฝั่งคอนโด แต่ก็มีหลายแบรนด์เลยครับ
UNIO Town
เช่นเดียวกับ UNIO ที่เป็นคอนโดมิเนียม โครงการ UNIO Town จะเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นของบริษัท Helix ที่เป็นบริษัทลูกของอนันดา ที่เน้นจับกลุ่มตลาดที่ไม่แพงมาก ราคาบ้านอยู่ในช่วง 2-3 ล้านบาทในทำเลรอบนอกเช่น รังสิต-คลอง 4, สุขสวัสดิ์, เพชรเกษม 110 หรือ บางนา เป็นต้น
Arden
สำหรับ Arden จะเป็นบ้านแบบทาวน์โฮมที่ทำเลค่อนข้างจะเขยิบเข้ามาในเมืองครับ เช่นทำเลพัฒนาการ, ลาดพร้าว 71 หรือ พระราม 3 แบบบ้าน 3.5-4.5 ชั้น ซึ่งจะมีขนาดใหญ่ขึ้นอยู่ที่ 180-330 ตร.ม. ราคาอยู่ในช่วง 8-18 ล้าน
คอนเซปของโครงการคือ Live Imagination จะเน้นเป็นส่วนตัวไม่วุ่นวายจากโลกภายนอก มีสวนและต้นไม้ผสมกับดีไซน์ของบ้านที่เน้นความอบอุ่น สบายตา ทำให้เป็นโครงการที่ค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
กลับไปด้านบน
Atoll
แบรนด์นี้เป็นแบรนด์นึงที่อยู่กับอนันดามาค่อนข้างนานเลยทีเดียว โดยจะเป็นแบรนด์ที่มีทั้งทาวน์โฮม, บ้านแฝดและบ้านเดียวที่อยู่ทำเลย่านชานเมืองโซนตะวันออก เช่น ร่มเกล้า, ลาดกระบัง, ถนนเลียบวงแหวน เป็นต้น โดยส่วนใหญ่จะไม่ค่อยอยู่ในถนนหลักซักเท่าไหร่ ดีไซน์ของโครงการจะมาในตีมบ้านกึ่งๆ รีสอร์ทริมทะเล ราคาของบ้านไม่แพงมาก อยู่ในระดับ 2-7 ล้านบาท
กลับไปด้านบน
AIRI
สำหรับ AIRI จะเป็นแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งมีมาไม่นานมาก เป็นบ้านเดี่ยวในระดับราคาประมาณ 10 ล้านบาท การออกแบบของโครงการนี้จะนำการออกแบบสไตล์ญี่ปุ่นเข้ามาผสมผสาน ดีไซน์ของตัวบ้านแบรนด์นี้เลยมีความเรียบง่าย
โครงการ AIRI ส่วนใหญ่จะมีจำนวน unit ไม่เยอะมาก ไม่ถึง 100 หลัง น่าจะเหมาะกับใครที่ชอบหมู่บ้านที่เน้นความสงบเป็นส่วนตัว สำหรับทำเลก็จะอยู่ชานเมืองที่ไม่ห่างจากเมืองมากครับ เช่น แจ้งวัฒนะ, พระราม 5 – ราชพฤกษ์ และ พระราม 2
กลับไปด้านบน
ARTALE
สุดท้ายแบรนด์ ARTALE จะเป็นแบรนด์บ้านระดับท๊อปสุดของอนันดาเลย ลักษณะของทำเลจะคล้ายๆ กับโครงการ Arden คือเป็นบ้านที่อยู่ค่อนข้างในเมือง เช่นทำเลเกษตร-นวมินทร์ หรือทำเลพัฒนาการ
ลักษณะของโครงการมีตั้งแต่บ้านแฝดพื้นที่ใช้สอย 250 ตร.ม. ไปจนถึงบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่ 450 ตร.ม. โดยจะเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านเป็นหลัก ส่วนพื้นที่สวนนอกบ้านอาจจะมีขนาดเล็กนิดนึง เนื่องจากแต่ละโครงการอยู่ในทำเลที่ราคาที่ดินค่อนข้างสูง
ราคาของโครงการนี้มีตั้งแต่ 17- 40 ล้านบาท
กลับไปด้านบน
และนี่ก็เป็นแบรนด์ของอนันดาที่ปกติเราน่าจะได้เห็นกันบ่อยๆ นะครับ น่าจะพอเห็นภาพคร่าวๆ มากขึ้นว่าแต่ละแบรนด์ลักษณะเป็นอย่างไร ซึ่งจริงๆ แล้วอนันดาก็มีแบรนด์อื่นๆ อีก ที่ปัจจุบันไม่ได้ทำตลาดแล้ว เช่น IDEO MIX, IDEO Bluecove หรือ IDEO Verve เราจึงขอข้ามไป
แล้วบทความ “แตกแบรนด์อสังหา” EP หน้า จะเป็นแบรนด์ไหน อย่าลืมติดตามกันที่เว็บไซต์ LivingPop.com นะครับ ^^