เมื่อเร็วๆ นี้ ทาง AP เพิ่งแถลงข่าวเตรียมเปิดตัวบ้านในกลุ่มทาวน์โฮมและบ้านแฝด 21 โครงการ วันนี้เรามีข้อมูลของโครงการ “บ้านกลางเมือง” ที่จะเปิดใหม่ทั้ง 5 ที่ เลยจะขอพาไปดูกันครับว่าบ้านกลางเมืองที่เตรียมจะเปิดรอบนี้ เค้าตั้งอยู่ที่ไหน ทำเลแต่ละที่เป็นอย่างไร แล้วแต่ละโครงการมีจุดเด่นอะไรกันบ้าง
แบรนด์บ้านกลางเมือง
พูดถึงชื่อแบรนด์ “บ้านกลางเมือง” น่าจะเป็นชื่อหมู่บ้านที่หลายๆ คนคุ้นเคยกันดี กับแบรนด์เก่าแก่ของ AP Thailand ที่ประสบความสำเร็จ และสร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี จากจุดเริ่มต้นในการเป็นบ้านทาวน์โฮม 3 ชั้น ทำเลใจกลางเมืองโซนลาดพร้าว-รัชดาในอดีต จุดเด่นอยู่ที่ความพรีเมี่ยมของโครงการที่มากกว่าทาวน์โฮมทั่วไป แต่ก็ยังมีความคุ้มค่า ราคาจับต้องได้ ได้พื้นที่เยอะในแบบทาวน์โฮม 3 ชั้นอยู่ครับ
มาถึงปัจจุบัน แบรนด์บ้านกลางเมืองก็มีการแตกไลน์โครงการออกมา มีทั้งแบรนด์บ้านกลางเมืองที่จะอยู่ในระดับราคา 5-7 ล้านบาท, บ้านกลางเมือง The Edition เป็นแบรนด์ที่ยกระดับขึ้นมา มาพร้อมบ้านที่ขนาดพื้นที่ใช้สอยใหญ่ขึ้น เน้นเป็นกลุ่มบ้านแฝดในโครงการครับ ราคาอยู่ในช่วง 7-20 ล้านบาท และแบรนด์ระดับท๊อปสุดของกลุ่มอย่างบ้านกลางเมือง คลาสเซ่ จะเป็นบ้าน Luxury Villa ระดับหรู ในราคาช่วง 15-35 ล้านบาท
5 โครงการใหม่ “บ้านกลางเมือง”
ซึ่งมาในรอบนี้ ทาง AP Thailand ก็ได้ส่งบ้านกลางเมืองมาอีก 5 โครงการใหม่ จับทำเลรอบกรุงเทพ ได้แก่
📍 บ้านกลางเมือง North ราชพฤกษ์
📍 บ้านกลางเมือง The Edition โยธินพัฒนา
📍 บ้านกลางเมือง The Edition บางนา
📍 บ้านกลางเมือง รามคำแหง 174 สเตชั่น
📍 บ้านกลางเมือง Classe รัชดา-ลาดพร้าว
แต่ละโครงการจะเป็นอย่างไรบ้าง วันนี้เราเอาข้อมูลของแต่ละที่มาฝากกันแล้วครับ
บ้านกลางเมือง North ราชพฤกษ์
ใกล้แหล่ง Lifestyle ย่านราชพฤกษ์ เชื่อมต่อสองถนนสายหลัก ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วง
เริ่มกันที่โครงการแรก “บ้านกลางเมือง North ราชพฤกษ์” โครงการนี้จะเป็นบ้านทาวน์โฮม 3 ชั้น และบ้าน 2 ชั้นครับ ราคาอยู่ในช่วง 4.59 – 8 ล้านบาท จุดเด่นคือแบบบ้านทั้ง 2 แบบของโครงการนี้ จะเป็นแบบใหม่ล่าสุดของทาง AP ประจำปี 2024 เลยครับ ที่ตั้งของโครงการจะอยู่ใกล้กับถนนราชพฤกษ์และรัตนาธิเบศร์ และใกล้รถไฟฟ้า สถานีอยู่แค่หน้าปากซอย!!
ใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง เชื่อมต่อถนนหลัก 2 สาย ราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์
ที่ตั้งของโครงการจะอยู่บนถนนท่าอิฐ หมู่ 5 ครับ เข้ามาจากถนนราชพฤกษ์ไม่ลึก ประมาณ 1 กิโลก็จะถึงกับตัวโครงการ ซึ่งซอยนี้สามารถทะลุไปออกฝั่งถนนรัตนาธิเบศร์ได้ด้วยเช่นเดียวกันครับ โดยที่ฝั่งถนนรัตนาธิเบศร์จะเป็นที่ตั้งของรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง สถานีบางรักน้อยท่าอิฐ ดังนั้นที่นี่ก็จะเป็นโครงการบ้านแนวราบที่ค่อนข้างสะดวกสำหรับใครที่ใช้รถไฟฟ้าเดินทางไปทำงาน สามารถเชื่อมต่อเข้าเมืองได้
ส่วนในการใช้รถ จากที่ตั้งโครงการที่อยู่ใกล้ถนนเส้นเมนหลักสองสายใหญ่อย่างราชพฤกษ์-รัตนาธิเบศร์ ก็จะสะดวกสำหรับคนที่ทำงานในย่านใกล้ๆ นี้อย่างแถวนนทบุรี, ปากเกร็ด, แจ้งวัฒนะ ที่มีแหล่งงานต่างๆ ในย่านค่อนข้างเยอะ หรือใครที่ทำงานในเมืองก็สามารถเชื่อมต่อเข้าโดยใช้ถนนราชพฤกษ์ตรงเข้าสู่สาทร หรือใช้ถนนรัตนาธิเบศร์ ข้ามสะพานพระนั่งเชื่อมต่อจตุจักร ลาดพร้าวได้ ซึ่งตรงนี้ก็จะมีทางด่วน สามารถใช้เข้าย่านใจกลางเมืองได้เช่นกันครับ
ซึ่งละแวกราชพฤกษ์ตรงนี้ก็จะเป็นโซนที่มีหมู่บ้านจัดสรรมาเปิดกันเยอะอยู่แล้ว ดังนั้นสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในย่านนี้เอง แบบระยะใกล้ๆ ก็ค่อนข้างเยอะครับ ไม่ว่าจะเป็น Lotus’s North ราชพฤกษ์ที่เพิ่งเปิดใหม่, โรบินสัน ราชพฤกษ์, HomePro, Design Village, Chic Republic และสัมมากรเพลส ถนนราชพฤกษ์ช่วงนี้ก็ค่อนข้างจะเป็นศูนย์รวมแหล่ง Lifestyle ของย่านนี้เลย หรือถ้าถัดออกไปหน่อยก็จะมี Central WestVille ที่อยู่บนถนนราชพฤกษ์เช่นกัน และมี Central WestGate/IKEA บางใหญ่ ที่สามารถขึ้นรถไฟฟ้าไปถึงได้ครับ
รูปแบบโครงการ
โครงการนี้พื้นที่โครงการประมาณ 15 ไร่ จัดออกมาเป็นบ้าน 136 หลัง มีให้เลือกทั้งบ้านทาวน์โฮม 3 ชั้นแบบ TULLIA หน้ากว้าง 5.5 เมตร จอดรถได้ 2 คัน พื้นที่ใช้สอย 144.88 ตร.ม. ก็จะเป็นแบบบ้านที่ได้ความคุ้มค่าในเรื่องของขนาดพื้นที่ใช้สอย มีพื้นที่ให้กับทุกคนในครอบครัว ในราคาที่จับต้องได้ ชั้น 3 ทำออกมาเป็น Master Bedroom แบบเหมาฟลอร์ได้พื้นที่กว้าง ส่วนชั้น 2 จะเป็น 2 ห้องนอนที่สามารถปรับเป็นห้องอเนกประสงค์ใช้งานรูปแบบอื่นได้ครับ
แต่ถ้าใครชอบบ้านสไตล์บ้านเดี่ยว ที่นี่ก็จะมีบ้านแฝดแบบ Jasper ที่ให้ฟังก์ชันการใช้งานแบบเดียวกับบ้านเดี่ยวเช่นกัน โดยจะเป็นบ้านแฝดหน้ากว้าง 13.9 เมตร ที่มีส่วนที่ติดบ้านข้างๆ แค่โรงจอดรถครับ ได้ช่องแสงและพื้นที่สวนรอบบ้านแบบเดียวกับบ้านเดี่ยว มาพร้อมขนาดพื้นที่ 152 ตร.ม. 4 ห้องนอน โดยมีห้องนอนที่ชั้นล่างเพิ่มเติมเข้ามาอีก 1 ห้อง ซึ่งตัวห้องนี้สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นการใช้งานตามไลฟ์สไตล์ได้ครับ
ส่วนพื้นที่ส่วนกลางของโครงการก็จัดมาให้ครบครับ ไม่ว่าจะเป็นฟิตเนส 24 ชั่วโมง, สระว่ายน้ำระบบเกลือ, สนามเด็กเล่น, Jogging Track และสวนในโครงการ
รูปแบบบ้าน
JASPER : บ้านแฝด 2 ชั้น หน้ากว้าง 13.9 ม. 152 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
TULLIA : ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.5 ม. 144.88 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
JASPER
TULLIA
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
บ้านกลางเมือง The Edition โยธินพัฒนา
ใจกลางย่านเลียบด่วน โซนหมู่บ้านระดับ Super Luxury ใกล้แหล่ง Lifestyle ทั้ง Central EastVille และ CDC
สำหรับ “บ้านกลางเมือง The Edition” จะเป็นแบรนด์บ้านกลางเมืองที่ถูกยกระดับขึ้นมาอีก step นึง ทั้งในส่วนของตัวบ้านและทำเลครับ อย่างที่ทำเลโยธินพัฒนาตรงนี้ จะอยู่ในย่านเลียบด่วนใจกลางย่านเอกมัย-รามอินทรา จัดออกมาเป็นบ้านแฝด 3 ชั้นทั้งโครงการ มีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างเยอะครับ อยู่ในช่วง 241-307 ตารางเมตรเลยทีเดียว ใครที่มองหาบ้านขนาดใหญ่ ในทำเลใจกลางเอกมัย-รามอินทรา ที่นี่ค่อนข้างตอบโจทย์ครับ เริ่ม 13.9-16 ล้านบาท
“เลียบด่วนรามอินทรา” โซนหมู่บ้านระดับ 50-100 ล้าน
สำหรับย่านเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา ก็จะเป็นอีกย่านที่เป็นทั้งแหล่ง Lifestyle และเป็นโซนที่มีความพิเศษตรงที่หมู่บ้านระดับ Super/Ultra Luxury มาเปิดกันเยอะ เรียกได้ว่าในย่านนี้ บ้านระดับ 50-100 ล้านบาทหาได้ไม่ยากเลย จากตัวทำเลที่เชื่อมต่อตรงเข้าสู่ย่านใจกลางเมืองอย่างเอกมัย-ทองหล่อ มีทางด่วนเชื่อมต่อเข้าสู่ในเมือง รวมไปถึงบรรยากาศของถนนประดิษฐ์มนูธรรมที่ค่อนข้างร่มรื่น สิ่งอำนวยความสะดวกในย่านครบ ทำให้ย่านนี้เป็นอีกย่านที่ค่อนข้างน่าอยู่ครับ
ที่ตั้งของโครงการ “บ้านกลางเมือง The Edition โยธินพัฒนา” จะอยู่ในซอยโยธินพัฒนา เลี้ยวเข้ามาในซอยโพธิ์แก้ว 3 ไม่ไกลจาก CDC เลียบด่วนครับ
ตัวซอยนี้สามารถทะลุออกได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบด่วน), ถนนลาดพร้าว, ถนนนวมินทร์ และถนนประเสริฐมนูกิจ (เกษตร-นวมินทร์) ก็ได้เช่นกัน โดยสถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดปัจจุบันจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีลาดพร้าว 101 บนถนนลาดพร้าวครับ ส่วนในอนาคตจะมีรถไฟฟ้าสายสีเทาและสายสีน้ำตาลที่ใกล้กับโครงการเช่นกัน
ที่ตั้งของโครงการก็จะอยู่บนถนนเลียบด่วนช่วงที่ห้างค่อนข้างเยอะเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น CDC, Central Eastville, The Crystal, Lotus’s, HomePro และ Chic Republic ครับ
ซึ่งความสะดวกของทำเลนี้อยู่ที่เป็นย่านที่มีความเป็นเมืองอยู่แล้วครับ ไม่ว่าจะเป็นโซนใกล้ๆ อย่างรามอินทรา, ลาดพร้าว, รัชดา แถบนี้ก็จะเป็นย่านที่ถูกพัฒนารถไฟฟ้าเข้าถึงกันหมดแล้ว หรือถ้าขับตรงเข้ามาหน่อย ก็จะเชื่อมต่อเข้ากับย่านสุขุมวิทชั้นใน และย่านพระราม 9-อโศกได้ทันที
รูปแบบโครงการ
สำหรับโครงการนี้ ทั้งโครงการจะมีบ้านเพียงแค่ 46 หลังเท่านั้นครับ ถือว่าค่อนข้าง Private มากๆ ทำออกมาเป็นบ้านแฝด 3 ชั้นทั้งหมด โดยที่มีพื้นที่ใช้สอยค่อนข้างเยอะ เริ่มต้นมาก็ 241 ตารางเมตรแล้ว และมีให้เลือกถึง 307 ตารางเมตร โดยตัวบ้านจะเน้นในเรื่องพื้นที่ภายในที่ปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ ก็จะตอบโจทย์กับคนที่มองหาบ้านที่ได้พื้นที่เยอะ แต่ยังได้ทำเลที่ดีอยู่ใกล้ใจกลางเมือง ในงบ 14-20 ล้าน โดยที่ไม่ต้องออกไปอยู่โซนรอบนอกครับ
อย่างตัวแบบบ้าน DAELYN ที่เป็นแบบบ้านใหญ่สุดของโครงการ จะเป็นบ้าน New Design ของปี 2024 ด้วยครับ ได้ 4 ที่จอดรถ ด้านล่างได้ครัวปิด มีห้องแม่บ้าน ชั้น 2 มี 3 ห้องนอน ส่วนชั้นบนสุดจะเป็นไฮไลท์ห้อง Penthouse Master Bedroom แบบเหมาทั้งชั้น ที่ในห้องนอกจากพื้นที่ห้องนอน จะมีพื้นที่ Living พื้นที่ห้องทำงานในตัว รวมถึงยังมีพื้นที่ทำ Walk-in Closet แบบเหลือๆ และได้ห้องน้ำขนาดใหญ่พร้อมอ่างอาบน้ำ เหมือนเป็น Penthouse ห้องนึงจริงๆ ครับ
ส่วนพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ ก็มีมาให้ครบเช่นเดียวกันครับ ทั้ง Clubhouse 2 ชั้น ฟิตเนส 24 ชั่วโมง สระว่ายน้ำ พื้นที่สวนและสนามเด็กเล่นก็ยังมีมาให้ครับ ถึงแม้ว่าโครงการจะมีเพียงแค่ 46 หลัง
รูปแบบบ้าน
NOE : บ้านแฝด 3 ชั้น หน้ากว้าง 9.80 ม. 241 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
CHEYDAN : บ้านแฝด 3 ชั้น หน้ากว้าง 9.80 ม. 241 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 3 คัน
DAELYN : บ้านแฝด 3 ชั้น หน้ากว้าง 12.80 ม. 307 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 4 คัน
NOE
CHEYDAN
DAELYN
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
บ้านกลางเมือง The Edition บางนา
ใกล้เมกาบางนาด้วยถนนตัดใหม่ ใกล้จุดตัดทางด่วน 2 สาย เชื่อมต่อทำเล CBD สุขุมวิท
โครงการถัดมา “บ้านกลางเมือง The Edition บางนา” โครงการนี้ก็จะคล้ายกันกับที่โยธินพัฒนาครับ ทำออกมาในรูปแบบสไตล์เดียวกันรวมไปถึงแบบบ้านที่มีให้เลือก แต่มาตั้งอยู่บนทำเลหลังเมกาบางนา ที่เป็นถนนหลังเมกาบางนาจริงๆ เริ่ม 12 ล้านบาท เป็นโครงการที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูงสุดเมื่อเทียบกับคู่แข่งโดยรอบ เพียง 38 ครอบครัวเท่านั้น
5 นาทีถึงเมกาบางนา ใกล้ทางด่วน 2 สาย
สำหรับโซนบางนา ต้องบอกว่าเป็นโซนที่มีการขยายตัวของเมืองค่อนข้างเยอะในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมาครับ เป็นย่านที่มีการพัฒนาสูงขึ้นมาก จากการมาของรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายที่วิ่งไปสุดที่สมุทรปราการ บวกกับสุขุมวิทชั้นในเดิม ที่ที่ดินในการพัฒนาต่างๆ ค่อนข้างเต็มแล้ว เราเลยจะเห็นโครงการ Mega Project รวมไปถึงตึกออฟฟิศต่างๆ มาเปิดบนถนนสุขุมวิทตอนปลายในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาเป็นจำนวนมาก
ไม่ว่าจะเป็น True Digital Park, Cloud 11, ไบเทคส่วนต่อขยาย+ตึกภิรัช, ตึกออฟฟิศต่างๆ รวมไปถึงห้างใหญ่ที่กำลังก่อสร้างอย่างบนหัวมุมแยกบางนาอย่าง Bangkok Mall
ซึ่งโปรเจคต่างๆ ไม่ได้หยุดอยู่แค่บนถนนสุขุมวิทเช่นเดียวกัน บนถนนบางนา-ตราด (เทพรัตน) ก็มีความเจริญขึ้นตามด้วยเช่นเดียวกัน เราจะเห็นว่าเริ่มมีโครงการก่อสร้างตึกออฟฟิศ รวมไปถึงโปรเจคใหญ่ๆ อย่าง The Forestias ก็อยู่บนถนนเส้นนี้ หรืออย่างเมกาบางนาเอง ก็มีโปรเจคจะขยายใช้พื้นที่ที่เหลือเป็นโครงการ Mixed-Use สร้างเป็นโซนสำนักงานและที่พักอาศัย รวมไปถึงโปรเจคระดับภาคอย่าง EEC ทำให้ภาพรวมย่านสุขุมวิท-บางนาเป็นย่านที่มีการเติบโตมากทีเดียว
ทีนี้กลับมาดูในฝั่งที่อยู่อาศัยครับ โซน “เมกาบางนา” ก็เป็นอีกย่านนึงบนถนนบางนา-ตราดที่มีหมู่บ้านมาเปิดกันเยอะ จากความที่เป็นห้างใหญ่ของย่านนี้ เป็นแหล่งกินแหล่งช้อป รวมถึงที่ตั้งของห้างที่ติดแยกใหญ่ ถนนกาญจนาภิเษกตัดถนนบางนา-ตราด และเป็นแยกที่ทางด่วนตัดกันอีก 2 สาย
ทำให้เป็นแยกที่เชื่อมต่อไปได้หลายทิศทาง ทั้งการเข้าเมืองย่านสุขุมวิท-พระราม 4 หรือจะเชื่อมต่อไปโซนลาดกระบัง-มีนบุรี, เทพารักษ์-สมุทรปราการ หรือออกไปโซนสุวรรณภูมิ-สนามบิน-ฉะเชิงเทรา จากแยกนี้ ก็ตรงไปได้หมดครับ
ซึ่งโครงการ “บ้านกลางเมือง The Edition บางนา” จะตั้งอยู่หลังเมกาบางนาแบบใกล้จริงๆ ครับ อยู่บนถนนตัดใหม่เลียบใต้ทางด่วนกาญจนาภิเษกที่เพิ่งเปิดใช้ ที่สามารถทะลุมาออกเมกาบางนาได้ทันที ใช้เวลาไม่ถึง 5 นาทีครับ ใกล้ถนนบางนา-ตราดและจุดขึ้นลงทางด่วนหลายด้าน สะดวกทั้งกับคนที่ทำงานในย่านสมุทรปราการ-สุวรรณภูมิ และคนที่ทำงานในเมือง โดยที่ได้จุดเด่นในเรื่องของความใกล้ห้างด้วยครับ
รูปแบบโครงการ
สำหรับ “บ้านกลางเมือง The Edition บางนา” ก็จะเป็นอีกโครงการที่ค่อนข้าง Private มากๆ มาพร้อมกับบ้านจำนวน 38 หลังด้วยกันครับ ซึ่งโซนตรงนี้จะเป็นโซนที่มีหมู่บ้านของ AP มาเปิดเยอะจากการได้ที่ดินขนาดรวมๆ ค่อนข้างใหญ่ บ้านกลางเมือง The Edition ก็จะเป็นทางเลือก สำหรับคนที่มองหาบ้านที่ได้พื้นที่ใช้สอยเยอะขึ้นมาหน่อยครับ กับแบบบ้านที่มีให้เลือกตั้งแต่ 241-307 ตารางเมตร
รูปแบบของโครงการจะเป็นบ้านแฝด 3 ชั้นทั้งโครงการครับ ซึ่งบ้านเริ่มต้นก็จะมาเป็น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถแล้วครับ แต่ถ้าอยากได้ที่จอดรถเพิ่ม อยู่เป็นครอบครัวหรือวางแผนเผื่ออนาคต ก็จะมีบ้านไซส์กลางที่มี 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถให้เลือกเช่นกัน
ส่วนบ้านขนาดใหญ่สุดจะมีถึง 307 ตารางเมตร 4 ที่จอดรถเลย ทั้ง 3 แบบบ้าน จะเหมือนกับที่บ้านกลางเมือง The Edition โยธินพัฒนาเลยครับ รองรับครอบครัวหลาย Generation ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางก็จะมี Clubhouse สองชั้น ฟิตเนส 24 ชม.และสระว่ายน้ำ แต่จุดที่เพิ่มเข้ามาคือที่โครงการบางนา จะมีสวนและพื้นที่ Jogging Track ขนาดใหญ่เป็นพื้นที่สีเขียวในโครงการอีกด้วยครับ
รูปแบบบ้าน
NOE : บ้านแฝด 3 ชั้น หน้ากว้าง 9.80 ม. 241 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
CHEYDAN : บ้านแฝด 3 ชั้น หน้ากว้าง 9.80 ม. 241 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 3 คัน
DAELYN : บ้านแฝด 3 ชั้น หน้ากว้าง 12.80 ม. 307 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 4 คัน
NOE
CHEYDAN
DAELYN
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
บ้านกลางเมือง รามคำแหง 174 สเตชั่น
บ้านทาวน์โฮมราคาจับต้องได้ ในย่านรามคำแหง ใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้ม
มากันที่ฝั่งโซนรามคำแหงกันบ้างครับ โซนนี้ก็เป็นอีกหนึ่งย่านที่โครงการบ้านและคอนโดมาเปิดกันค่อนข้างคึกคักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา จากการมาของรถไฟฟ้าสายสีส้ม โดยพื้นที่ติดถนนใหญ่ตรงนี้ก็จะกลายเป็นทำเลคอนโดกันไปหมดแล้ว ราคาที่ดินค่อนข้างสูงจนขึ้นบ้านแนวราบค่อนข้างยาก แต่ถ้าถัดเข้ามาในซอยหน่อย ก็ยังมีบ้านให้เลือกอยู่ครับ ที่นี่ก็จะเหมาะสำหรับใครที่มองหาที่อยู่ทำเลแนวคอนโด แต่อยากได้พื้นที่ใช้สอยที่เยอะขึ้น
ทำเลรามคำแหง 1.8 กิโลจากรถไฟฟ้าสายสีส้ม และใกล้จุดตัด interchange สายสีชมพู
สำหรับโครงการนี้ จะอยู่ในซอยรามคำแหง 174 ครับ เป็นช่วงที่เลยถนนวงแหวนมา แต่อยู่ก่อนถึง Big C รามคำแหง จุดเด่นของโครงการ “บ้านกลางเมือง รามคำแหง 174 สเตชั่น” ก็จะหนีไม่พ้นเรื่องของความเป็นบ้านที่อยู่ใกล้รถไฟฟ้าสายสีส้มครับ ซึ่งจะมีระยะห่างจากโครงการประมาณ 1.8 กิโลเมตร
ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้ติดในระยะเดินได้แบบคอนโดตามแนวรถไฟฟ้า แต่ก็ถือว่าใกล้มากสำหรับโครงการบ้านแนวราบครับ สามารถต่อรถได้ในระยะนิดเดียวถึง ซึ่งถ้าเทียบกับกลุ่มคอนโด บ้านที่เขยิบออกมาหน่อยก็จะได้ในเรื่องของพื้นที่ใช้สอยที่เยอะกว่ากันพอสมควรเลยครับ
ซึ่งในย่านรามคำแหงช่วงตรงนี้ จะเป็นช่วงที่ยังพอมีที่ดินและราคาที่ดินยังไม่สูงมากจนเกินไป เลยยังทำบ้านในราคาที่จับต้องได้ออกมาได้อยู่ครับ ถ้าในอนาคตรถไฟฟ้าเปิดใช้งานคาดว่าน่าจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของราคาที่ดินอีก
ซึ่งสำหรับรถไฟฟ้าสายสีส้มคาดว่าจะเปิดใช้งานในอีกประมาณ 2-3 ปีที่จะถึงนี้แล้วครับ จุดเด่นอยู่ที่เป็นสายที่ตัดตรงเข้าเมือง ผ่านย่านรัชดา และในอนาคตจะมีส่วนต่อขยายที่สร้างเพิ่มให้นั่งต่อเดียวไปถึงราชเทวี-เมืองเก่า-ฝั่งธนได้
นอกจากนี้ตัวโครงการก็จะอิงตามแนวถนนรามคำแหง เข้าซอยมาไม่ลึกมาก ถนนเส้นนี้ก็เป็นอีกถนนสายหลักของย่านครับ เชื่อมต่อย่านมีนบุรี-หัวหมาก-ศรีนครินทร์-บางกะปิ-พระราม 9 และสามารถตัดตรงเข้าสู่เมืองด้วยสะพานข้ามแยกและสะพานบริเวณต้นถนนรามคำแหง แปปเดียวถึงย่านพระราม 9 – เพชรบุรี – สุขุมวิทครับ หรือสำหรับใครที่ทำงานฝั่งลาดกระบัง-สุวรรณภูมิก็สามารถใช้ถนนวงแหวนไปออกได้เช่นเดียวกัน ที่นี่ก็จะค่อนข้างใกล้ครับ
รูปแบบโครงการ
สำหรับโครงการ “บ้านกลางเมือง รามคำแหง 174 สเตชั่น” จะเป็นบ้านแบบทาวน์โฮม 3 ชั้นทั้งหมดครับ มีให้เลือก 2 แบบด้วยกันคือ LAPIS กับ TULLIA ซึ่งตัวแบบบ้าน TULLIA จะเป็นแบบบ้านใหม่ในปี 2024 ของ AP ด้วย
ฟังก์ชันของบ้านทั้ง 2 แบบค่อนข้างใกล้เคียงกันมากครับ เริ่มจาก LAPIS ที่เป็นบ้านหน้ากว้าง 5 เมตร 2 ที่จอด พื้นที่ใช้สอย 143 ตร.ม. มีพื้นที่ชั้น 2 เป็น 2 ห้องนอน และได้ห้องนอนใหญ่เหมาชั้น 3
ส่วนแบบบ้าน TULLIA จะขยับหน้ากว้างของบ้านขึ้นมาเป็น 5.5 เมตร พื้นที่ใช้สอย 144.88 ตร.ม. ฟังก์ชัน 2 ห้องนอนที่ชั้น 2 จะปรับเปลี่ยนการใช้งานได้เยอะขึ้น ส่วนชั้น 3 จะได้ห้องนอนเหมาทั้งชั้นเช่นกัน โครงการนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่ครับ เลยจะมีทั้ง Clubhouse, Jogging Track, สนามเด็กเล่น และพื้นที่สวนขนาดเกือบ 1 ไร่
รูปแบบบ้าน
TULLIA : ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.50 ม. 144.88 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
LAPIS : ทาวน์โฮม 3 ชั้น หน้ากว้าง 5.00 ม. 143 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 2 คัน
ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษ
บ้านกลางเมือง Classe รัชดา – ลาดพร้าว
บ้านระดับ Luxury ที่มาในสไตล์ Modern Classic กับทำเลที่เชื่อมต่อได้หลายเส้นทาง
มาถึงโครงการสุดท้าย เป็นโครงการระดับบนสุดของแบรนด์บ้านกลางเมืองครับ ที่นี่ก็จะมีความ Luxury มีดีเทลต่างๆ ในงานออกแบบ และอยู่ในทำเลที่ค่อนข้างใกล้เมือง ตัวบ้านมีให้เลือกทั้งแบบทาวน์โฮม 3.5 ชั้น และบ้านแฝด 3 ชั้น ราคาเริ่มต้น 20-35 ล้าน
เชื่อมต่อ 4 ถนนสายหลัก รัชดา, ลาดพร้าว, เลียบด่วน, เกษตร-นวมินทร์
ที่ตั้งของโครงการ “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่ รัชดา-ลาดพร้าว” จะอยู่บนถนนโชคชัย 4 ใกล้กับถนนลาดพร้าวครับ เป็นทำเลที่ค่อนข้างใกล้ใจกลางเมืองย่านรัชดา-พระราม 9 พอสมควร จุดเด่นของถนนโชคชัย 4 ตรงนี้คือจะสามารถทะลุออกไปได้หลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นลาดพร้าว, รัชดา, เลียบด่วน และเกษตรนวมินทร์ ทั้งหมดอยู่ในระยะที่ไม่ไกลมาก
จุดเด่นอีกอย่างของทำเลนี้คือจะใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองด้วยครับ โดยตัวโครงการจะห่างเพียงแค่ 1.6 กิโลเมตร จากสถานีโชคชัย 4 ที่อยู่ปากทางเข้า สามารถใช้รถไฟฟ้าเพื่อเชื่อมต่อเข้าสู่กรุงเทพชั้นในด้วยรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ใช้เวลาแปปเดียวถึงครับ ไปได้ทั้งย่านพระราม 9, อโศก, พระราม 4, ห้าแยกลาดพร้าว, จตุจักร
ส่วนการใช้รถ ก็สามารถออกไปขึ้นทางด่วนได้ทั้งทางด่วนฉลองรัชที่ถนนเลียบด่วน (ประดิษฐ์มนูธรรม), ทางด่วนโทลเวย์ที่ถนนวิภาวดี หรือทางด่วนศรีรัชที่ถนนรัชดาครับ
นอกจากนี้อย่างที่ทราบกันว่าโชคชัย 4 และถนนลาดพร้าววังหินก็จะเป็นย่านที่มีของกินต่างๆ อุดมสมบูรณ์มากทีเดียว หรือถ้าไปห้างย่านใกล้ๆ โครงการก็จะมี Central EastVille ที่ห่างออกไปประมาณ 10 นาที และไม่ไกลจาก Central ลาดพร้าวครับ
รูปแบบโครงการ
สำหรับโครงการนี้จะเป็นบ้านระดับ Luxury สไตล์ Modern Classic ให้ความ Timeless ในงานออกแบบครับ มีจำนวนบ้าน 38 หลัง มีให้เลือกทั้งบ้านแฝดและบ้านทาวน์โฮม ซึ่งถ้าใครมองหาบ้าน แบบที่มีพื้นที่ดินรอบบ้าน มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ตัวบ้านแฝดก็จะตอบโจทย์ครับ
บ้านแฝดแบบ GARNET จะมีพื้นที่ 234 ตารางเมตร จอดรถได้ 2-3 ครับ ได้ 4 ห้องนอน โดยที่จะมีห้องนอนอยู่ที่ชั้น 1 ด้วยเช่นกัน ส่วนที่ชั้น 2 จะจัดออกมาเป็นห้อง Master Bedroom ขนาดใหญ่ โดยที่มีในชั้นอีกส่วนนึงเป็นพื้นที่ Living Room กลางของบ้าน เป็นพื้นที่ให้คนในบ้านมาใช้เวลาร่วมกันครับ ส่วนที่ชั้นบนสุดจะเป็นพื้นที่ของห้องนอนอีก 2 ห้อง พร้อมห้องน้ำในตัว
แต่ถ้ามองหาบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ ทางโครงการก็จะมีแบบบ้านทาวน์โฮม 3.5 ชั้น PYROPE เป็นบ้านทาวน์โฮมที่มาในที่ดินเริ่มต้น 38.6 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยรวม 364 ตารางเมตรเลยทีเดียวครับ ค่อนข้างใหญ่มากๆ จัดออกมาเป็น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องอเนกประสงค์ พร้อมจอดรถได้ 3 คัน
มาพร้อม Classe Society ที่เป็น Clubhouse ของตัวโครงการ ตกแต่งในสไตล์ Modern Classic เช่นเดียวกันกับตัวบ้าน พร้อมสระ Infinity Edge Pool ที่ชั้น 2 ของอาคาร รับวิวสวนและพื้นที่สีเขียวที่อยู่ด้านล่างครับ
รูปแบบบ้าน
GARNET : บ้านแฝด 3 ชั้น หน้ากว้าง 13.6 ม. 234 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น ที่จอดรถ 2-3 คัน
GRAND PYROPE : ทาวน์โฮม 3.5 ชั้น หน้ากว้าง 8 ม. 364 ตร.ม. 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องนั่งเล่น 1 ห้องอเนกประสงค์ ที่จอดรถ 3 คัน