“ย่านเพชรเกษม” ถือเป็นย่านที่มีคอนโดใหม่ๆ ขึ้นเยอะ ซึ่งแต่ละโครงการ เป็นโครงการไซส์ใหญ่ๆ ทั้งนั้น อย่าง The Livin เพชรเกษม ที่เราเคยรีวิวไปแล้วก็มีถึง 2,167 ยูนิต ซึ่งมากกว่าโครงการที่เราจะไปรีวิววันนี้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นครับ โดยโครงการที่เราพาไปชมวันนี้คือ “Supalai Veranda สถานีภาษีเจริญ” ที่มีห้องพักอาศัย 1,810 ยูนิต นอกจากจะอยู่ไม่ไกลจาก MRT สถานีภาษีเจริญแล้ว ยังอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆ กับ The Livin เพชรเกษมด้วย
— รู้หรือไม่? —
รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน เป็นระบบขนส่งมวลชนสายหลักที่วิ่งผ่านย่านสำคัญๆ ทั่วเมือง มีสถานี interchange มากที่สุด สามารถไปได้ทั่วกรุงเทพฯ โดยแทบจะไม่ต้องเปลี่ยนขบวนเปลี่ยนสายเลย…
ถ้าเพื่อนๆ กำลังมองหาคอนโดราคาไม่แรง ไม่ต้องอยู่ในเมือง เขยิบออกมาหน่อย แต่ได้ห้องที่ใหญ่ขึ้น ก็มีโครงการนึงที่น่าสนใจครับ คือ “Supalai Veranda สถานีภาษีเจริญ” เป็นคอนโด High-rise 2 อาคาร มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 1,810 ยูนิต ถือว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่ทีเดียว แถมภายในโครงการยังมีร้านค้าอีก 8 ยูนิตด้วย เท่าที่รู้ตอนนี้คือเป็น 7-11 ไปแล้วหนึ่ง ส่วนที่เหลืออีก 7 ร้านยังไม่แน่ใจ แต่ก็มีคนซื้อไปครบหมดแล้วนะ
โครงการนี้ยังสร้างไม่เสร็จนะครับ คาดว่าจะเสร็จประมาณกลางปีหน้า (เสร็จก่อน The Livin เพชรเกษม แต่ก็เสร็จหลัง The Parkland เพชรเกษม 56 โครงการที่อยู่ห่างกันไม่กี่เมตรเท่านั้น) อยู่ห่างจาก MRT สถานีภาษีเจริญเพียง 150 เมตร อยู่ในระยะที่เดินสบายๆ เลย ซึ่งถ้าเราเดินไปยัง MRT แล้ว แค่เดินผ่านทางเชื่อมก็เข้าห้างซีคอนบางแคได้เลย เรียกได้ว่าศูนย์รวมความบันเทิงอยู่ไม่ไกลจากโครงการเลย
ไฮไลต์ของโครงการ
เรียกได้ว่าแทบทุกโครงการของศุภาลัย ราคามาเป็นอันดับหนึ่งในเรื่องของความถูกที่แข่งกับใครก็ชนะ แต่สำหรับโครงการนี้ไม่ได้มีดีแค่ราคานะครับ ในส่วนของ Facilities ก็ให้มาค่อนข้างครบ อาจจะไม่ได้ให้เยอะเท่าโครงการรอบข้าง (ก็ทั้ง Parkland และ The Livin เค้าจัดเต็มส่วนกลางกันจริงๆ นะ) แต่ว่าสิ่งที่จำเป็นหรือพื้นที่ส่วนกลางที่ผู้พักอาศัยมักจะต้องการและได้ใช้ประโยชน์ก็จัดเตรียมไว้ให้อย่างครบครันแล้ว ไปดูกันดีกว่าครับว่าไฮไลต์ของที่นี่จะน่าสนใจแค่ไหน
ทำเลที่ว่าเด่นยังต้องแพ้ราคาที่เด่นกว่า
ขึ้นชื่อว่าเป็นโครงการจาก “ศุภาลัย” ยังไงราคาก็ถูกกว่าเจ้าอื่นๆ แน่ๆ โดยราคาจะเริ่มต้นที่ 1.9 ล้านบาท เป็นห้องขนาด 28 ตารางเมตร ซึ่งราคาของห้องแต่ละขนาดไม่ได้โดดกันมาก ถ้าเราเพิ่มเงินอีกนิดหน่อยก็จะได้ห้องที่ใหญ่ขึ้น ถ้าจะไปซื้อตอนนี้ขอบอกเลยว่า 2 Bedroom ขายหมดแล้วนะครับ ที่เหลือขายตอนนี้จะเป็น Studio กับ 1 Bedroom เราทำตารางราคาคร่าวๆ สำหรับห้องที่มีขายตอนนี้มาให้ เผื่อใครกำลังสนใจโครงการนี้อยู่
ขนาดห้อง | Type | พื้นที่ (ตร.ม.) | ราคา (ล้านบาท) |
---|---|---|---|
Studio | Veranda Suite | 29 – 30.5 | 2.05 – 2.30 |
Phetkasem Suite | 32 – 33 | 2.22 – 2.49 | |
1 Bedroom | Executive Suite | 35 | 2.42 – 2.49 |
Deluxe Suite | 41.5 – 42.5 | 2.73 – 3.02 | |
Imperial Suite | 45 – 47 | 3.06 – 3.46 | |
ที่นี่จะมี Package อยู่ 2 แบบ จะเลือกเฟอร์นิเจอร์+ส่วนลดก็ได้ หรือจะเลือกส่วนลดอย่างเดียวในราคาประมาณ 110,000 – 200,000 บาทก็ได้
Facilities ให้มาแบบพอดีๆ
เวลาเราเลือกคอนโดมักจะมีหลายปัจจัยในการตัดสินว่าจะเลือกที่ไหนดี อย่างถ้าเราเน้นการอยู่อาศัย ชอบใช้เวลาในห้อง ไม่ได้ต้องการใช้ส่วนกลางเยอะ ที่นี่ก็ถือว่าตอบโจทย์ โดยจะมี สนามหญ้าอเนกประสงค์และสนามเด็กเล่น เป็นพื้นที่ให้มาวิ่งเล่น พักผ่อน ทำกิจกรรมแบบฟรีสไตล์ หรือจะวิ่งบน Jogging Track ออกมาหายใจนอกห้องแอร์บ้าง นอกจากนี้ยังมีฟิตเนส, Infinity Edge Swimming Pool สระว่ายน้ำยาว 26 เมตร, Jacuzzi, Sauna, Pocket Garden, Lifestyle Space เป็นห้องเล่นเกม มีโต๊ะปิงปองด้วย, Meeting Room, Kid’s Room, Co-living Space, Street Basketball Court และ Rooftop Garden
จะเห็นได้ว่ามีพื้นที่ทั้งในร่มและกลางแจ้งให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย เพื่อรองรับความต้องการของลูกบ้านได้ทุกเพศทุกวัย อาจจะไม่ได้จัดเต็มสวยงามอลังการมาก แต่ก็จัดมาให้ครบสำหรับการใช้งานจริงครับ
อยู่ใกล้ MRT สถานีภาษีเจริญเพียง 150 เมตร
อย่างที่บอกไปข้างต้นว่า 150 เมตร เป็นระยะที่เดินได้สบายๆ เลย แถมทางเท้าก็กว้างใหญ่ เดินง่าย ไม่ต้องหลบรถมอเตอร์ไซค์ให้วุ่นวายด้วย ที่สำคัญคือ ข้ามฝั่งนิดเดียวเราก็ถึงซีคอนบางแคแล้ว เวลาอยู่คอนโดเบื่อๆ จะไปเดินเล่นเมื่อไหร่ก็ได้ หรือจะดูหนังรอบดึกแค่ไหนก็ได้ เพราะคอนโดเราก็อยู่แค่นี้ จะซื้อของเยอะๆ ขนแปบเดียวก็ถึงคอนโดแล้ว คือสะดวกสบายทั้งการเดินทางและการใช้ชีวิตมากๆ
ข้อมูลโครงการ (Fact Sheet)
เนื้อที่โครงการ : | 10-3-46 ไร่ |
จำนวนห้องพัก : | 1,810 ยูนิต (เป็นห้องพักอาศัย 1,802 ยูนิต และร้านค้าอีก 8 ยูนิต) |
รูปแบบโครงการ : | High Rise 2 อาคาร Tower A สูง 34 ชั้น / Tower B สูง 30 ชั้น |
ลิฟต์ : | Tower A 4 ตัว / Tower B 5 ตัว |
ค่าส่วนกลาง : | 35 บาท/ตารางเมตร/เดือน |
ค่ากองทุน : | 350 บาท/ตารางเมตร |
Facility : | Lobby, Multi-purpose Lawn, Playground, Pocket Garden, Jogging Track, Street Basketball Court, Infinity Edge Swimming Pool&Jacuzzi, Fitness, Lifestyle Space, Meeting Room, Kid’s Room, Sauna, Co-living Space และ Rooftop Garden |
แบบห้อง : | Studio ขนาด 28 – 33 ตารางเมตร 1 Bedroom ขนาด 35 – 47.5 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 51 – 69.5 ตารางเมตร |
ราคา : | ราคาเริ่มต้น 1.9 ล้านบาท |
ทำเล
ทำเลโครงการค่อนข้างเดินทางง่าย ถ้าเรามาจาก MRT เวลาออกจากสถานี ฝั่งขวาของเราจะเป็นซีคอนบางแค ให้เราเดินออกทางฝั่งซ้ายเลยครับ ไม่ต้องเข้าซีคอนนะ เดินตามทางเท้าไปทางหลักสอง ไม่ต้องเดินย้อนขึ้นไปทางบางหว้า เพียง 150 เมตร เราก็จะถึงคอนโดแล้ว มันจะสะดวกมากๆ สำหรับใครที่ใช้ MRT เป็นประจำอยู่แล้ว เพราะไปอีกแค่ 2 สถานีก็ถึงบางหว้า เราสามารถเปลี่ยนเส้นทางไป BTS ได้ หรือจะนั่ง MRT ต่อก็ได้เหมือนกัน ที่สำคัญคือ ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในเมือง แต่ห้างสรรพสินค้าครบครัน ตั้งแต่ซีคอนบางแค, The Mall บางแค, Big C, Tesco Lotus, HomePro หรือตลาดบางแคเองก็มีให้เราได้ไปเดินเลือกซื้อของ ซื้ออาหารเข้าห้องได้อย่างจุใจเลย แถมตรงข้ามกับโครงการก็มีโรงพยาบาลเพชรเกษม 2 ด้วย ทางเข้าโครงการก็อยู่ติดถนนใหญ่เพชรเกษมเลย ใครใช้รถยนต์ส่วนตัวก็เข้าออกสะดวก ไม่ต้องเข้าซอยให้เสียเวลา ถือว่าครบวงจรในการใช้ชีวิตอยู่นะครับ
แปลนอาคารและแบบห้องในโครงการ
มาดูที่แปลนอาคารกันก่อน ที่นี่จะมีอาคารพักอาศัย 2 อาคาร วางในแนวเหนือ-ใต้ โดยที่ทางเข้าออกของโครงการจะอยู่ทางทิศใต้ ติดกับถนนเพชรเกษมครับ ส่วนทิศตะวันออกจะติดกับคลองสาธารณะ (คลองยายเพียร) ทิศเหนือติดกับคลองสาธารณะอีกเช่นกัน (คลองบางจาก) โดยคลองด้านหลังจะกว้างกว่าด้านข้างโครงการครับ
จะถูกเพื่อนบ้านอย่าง Parkland บังวิวมากแค่ไหน?
คำถามยอดฮิตที่เพื่อนๆ น่าจะอยากรู้กันก็คือ โครงการนี้อยู่ติดกับ “The Parkland เพชรเกษม 56” แบบแค่ข้ามฝั่งคลอง จะบล็อกวิวกันมากน้อยแค่ไหน? อันนี้ต้องยอมรับเลยว่าวิวจากทั้งคู่ที่หันเข้าหากัน ก็จะไม่ได้เปิดโล่งมองได้ไกลจริงๆ ครับ แต่ถ้าถามว่าบล็อกวิวแบบใกล้กันมั้ย? ต้องมาวางทาบแปลนอาคารกันดูครับ จะเห็นว่าตัวอาคาร B ของศุภาลัย กับอาคาร B ของ Parkland จะอยู่ตรงกัน และมีความสูงที่ไล่เลี่ยกัน แต่ศุภาลัยจะวางตัวอาคารให้เป็นแนวเฉียง โดยจุดที่ใกล้ที่สุดของทั้งสองอาคาร จะห่างกันอยู่ประมาณ 40 เมตรครับ ซึ่งพออาคารของศุภาลัยวางเฉียงๆ แบบนี้ วิวจากหน้าต่างห้องก็จะมองไปทางตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ได้ประจันหน้ากับ Parkland ตรงๆ
ภาพจำลองเพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้นเท่านั้น ความสูงของอาคารเป็นการประมาณ (not-to-scale) ห้ามนำไปใช้อ้างอิงอย่างเป็นทางการนะครับ >_<
ผังอาคาร
โครงการนี้จัดอาคารออกมาเป็น 2 อาคาร โดยส่วนพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 7 เป็นต้นไป โดยที่อาคาร A ติดถนนเพชรเกษม จะสูง 34 ชั้น (ชั้น 34 เป็นห้องสกายเลาจ์และ Rooftop Garden) ส่วนอาคาร B สูง 30 ชั้น โดยที่ครึ่งนึงจะเป็นส่วนพักอาศัย และอีกครึ่งจะเป็น Rooftop Garden ครับ โดยทั้งสองอาคารจะใช้ที่จอดรถร่วมกันที่ชั้น P1-P6 และจะมีส่วนกลางที่เดินเชื่อมถึงกันที่ชั้น 7 ครับ
แผนผังชั้น 7 (ชั้นส่วนกลาง)
สำหรับชั้นพักอาศัยทั่วไป ในส่วนของอาคาร A จะมีลิฟต์โดยสารมาให้ 3 ตัว และลิฟต์ขนของ 1 ตัว อัตราส่วนลิฟต์โดยสารต่อยูนิตพักอาศัย 1:224 ส่วนอาคาร B มีลิฟต์โดยสาร 4 ตัว และลิฟต์ขนของ 1 ตัว อัตราส่วนลิฟต์โดยสารต่อยูนิตพักอาศัย 1:282 ครับ
แผนผังชั้นพักอาศัยทั่วไป
แปลนห้อง
ส่วนแบบห้องในโครงการที่นี่ค่อนข้างเยอะ เราจะคัดมาให้ดูบางแปลนนะครับ (อันไหนที่แค่สลับซ้ายขวา หรือขนาดพื้นที่ซ้ำกันเราไม่ได้ใส่มานะ เพราะว่ามันจะเยอะมากๆ เลย TT) และถึงแม้ว่า 2 Bedroom จะขายหมดไปแล้ว เราก็จะนำแปลนมาให้ดูกันด้วยว่าหน้าตาเป็นยังไง ทำไมคนถึงชอบกันนะ
ห้องตัวอย่าง
จากห้องหลายสิบ Type ที่ทางโครงการมีให้เลือกเนี่ย ที่ Sale Gallery จะมีห้องตัวอย่างทั้งหมด 2 ห้องด้วยกันครับ คือ Studio ขนาด 29 ตารางเมตร และ 1 Bedroom ขนาด 47 ตารางเมตร มาดูกันว่าแต่ละห้องจะเป็นยังไงบ้าง
Studio ขนาด 29 ตารางเมตร
ห้องนี้แปลนจะเป็นตอนลึกเข้าไป ครัวอยู่ด้านหน้า ไม่ได้มีประตูเลื่อนเพื่อทำเป็นครัวปิด แต่ถ้าเราอยากจะต่อเติมเพิ่มเองก็ได้นะครับ ส่วนครัวจะ Built-in มาให้จาก Modernform มีเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน (เดินท่อออกนอกอาคาร) และอ่างล้างจาน ส่วน Backsplash จะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ ด้านข้างมีช่องเหลือสำหรับวางตู้เย็นด้วย ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัว จะเป็นตู้เก็บรองเท้า เลยครัวไปก็จะเป็นชั้นวางทีวี โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้า ทุกอย่างพอ Built-in มาแล้ว ทำให้ดูเข้ากัน มีพื้นที่ทางเดินเหลือค่อนข้างกว้าง และด้วยความสูงจากพื้นถึงฝ้าอยู่ที่ 2.55 เมตร ก็ทำให้ห้องดูกว้างขึ้นด้วยเช่นกัน
นอกจากจะวางเตียงขนาดใหญ่ได้แล้ว ยังมีพื้นที่เหลือสำหรับโซฟา Daybed เอาไว้เป็นมุมนั่งเล่นได้ หรือถ้าเราอยากจะทำเป็นมุมทำงาน ก็ค่อนข้างเป็นมุมที่ดี เพราะระหว่างที่ทำงานเราก็สามารถมองวิวด้านนอกไปพร้อมกันได้ เปลี่ยนบรรยากาศที่จำเจในออฟฟิศ มาเจอวิวเมืองสวยๆ ก็ให้อารมณ์และแรงบันดาลใจที่แตกต่างได้ ส่วนห้องน้ำก็มีสุขภัณฑ์ครบ ไม่ว่าจะเป็นอ่างล้างหน้า กระจก โถสุขภัณฑ์ และห้องอาบน้ำที่มาพร้อมฉากกั้น แถมโครงการยังให้เครื่องทำน้ำอุ่นด้วยนะ
1 Bedroom ขนาด 47 ตารางเมตร
ห้องนี้ขนาดใหญ่กว่าห้องแรกเยอะครับ ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยแบบเหลือๆ จะอยู่คนเดียวหรืออยู่สองคนก็สบาย แถมยังได้ครัวปิดด้วย จากในรูปเหมือนครัวจะแคบ แต่ก็ไม่ได้แคบนะครับ นอกจากจะวางเตาไฟฟ้าได้แล้ว ยังวางอ่างล้างจานได้แบบพอดี หากเรากลัวว่าจะมีพื้นที่เตรียมอาหารไม่พอ แนะนำให้ Built-in เคาน์เตอร์ครัวเพิ่มเลย นอกจากจะมีที่วางของเยอะขึ้นแล้ว ยังมีพื้นที่เก็บของมากขึ้นด้วย ครัวค่อนข้างอยู่ห่างจากห้องนอน มั่นใจได้เลยว่าถ้าไม่เปิดประตูตอนทำอาหาร กลิ่นและควันไม่มีทางเข้าไปแน่ๆ ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอน ง่ายต่อผู้อยู่เวลาอาบน้ำเสร็จก็ออกมาแต่งตัวได้เลย แต่เวลามีแขกมาที่ห้องอาจจะต้องเข้าผ่านห้องนอนของเรา ซึ่งก็แอบลดความเป็นส่วนตัวอยู่เล็กๆ แต่ถ้าไม่ได้ซีเรียสจุดนี้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร
โซนนั่งเล่นกว้างมากๆ วางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งไปแล้วฝั่งที่ติดระเบียงยังมีพื้นที่เหลืออยู่เลยครับ ส่วนพื้นที่ข้างชั้นวางทีวีเองก็ยังเหลือ ใครที่ของเยอะ ต้องการพื้นที่เก็บของเยอะๆ แนะนำให้ซื้อตู้หรือ Built-in ตู้เก็บของเพิ่ม จะทำให้เป็นเนื้อเดียวกับชั้นวางทีวีก็ได้ ห้องก็จะดูเป็นไปในโทนเดียวกันครับ และถึงแม้ว่าเราจะวางโต๊ะเล็กๆ หน้าโซฟาไป ก็ยังมีช่องว่างให้เดินไปมาได้แบบบสบายๆ เอาจริงก็ดูเป็นห้องที่กว้างมากๆ แถมยังได้ระเบียงยาวด้วย ห้องนั่งเล่นก็คือรับแสงเต็ม แถมยังมีพื้นที่เหลือสำหรับวางโต๊ะทานอาหารอีก คือถ้าเราอยากจะต่อเติม หรือออกแบบอะไรในห้องเพิ่มก็ยังทำได้อีกเยอะเลย ที่เหลือเฟือครับ
ขนาดของห้องนอนก็คือ ห้องนั่งเล่น มุมทานอาหาร และระเบียงรวมกัน มีความกว้างและยาวมาก นอกจากจะวางเตียงขนาดใหญ่แล้ว ยังวางโซฟา Daybed ได้อีก แถมช่องว่างระหว่างปลายเตียงกับผนังห้องก็ยังเหลือให้เราเดินได้แบบไม่ต้องกลัวชนขอบเตียง อย่างที่บอกว่าห้องนี้จะอยู่ 2 คนก็ไม่อึดอัด เพราะแม้แต่ตู้เสื้อผ้าก็มี 2 ตู้ เป็นเหมือน Walk-in Closet ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป เรียกได้ว่าเป็นห้องที่ครบครันและเหมาะสำหรับการใช้ชีวิตมากๆ
โปรโมชั่น
โปรโมชั่นตอนนี้ แถมฟรี! เครื่องปรับอากาศ วอลเปเปอร์ ชุดเฟอร์นิเจอร์ครัว เครื่องทำน้ำอุ่น ฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัย พิเศษ! ให้คุณได้เลือกเอง จะเอาส่วนลด+เฟอร์นิเจอร์ หรือ ส่วนลดพิเศษ 110,000 – 2000,000 บาท (เฉพาะยูนิตที่บริษัทกำหนด) ราคาเริ่มต้นห้อง Studio ราคา 1.9 ล้านบาท หากเพื่อนๆ สนใจ สามารถเข้าไปดูห้องตัวอย่าง หรือสอบถามรายละเอียดจากเซลล์ก่อนได้ที่สำนักงานขายเลย หรือโทร 1720 ก็ได้ครับ