fbpx
รีวิวเจาะลึก

รีวิวเจาะลึก : “Vay Amata” คอนโดติดนิคมอมตะซิตี้ชลบุรี ส่วนกลางครบ ในราคาเริ่มต่ำล้านจากแสนสิริ

ถ้าพูดถึงแหล่งงานในภาคตะวันออก แน่นอนว่าหลักๆ ก็คงจะคิดถึงงานในภาคอุตสาหกรรมกันใช่ไหมครับ และถ้าให้ลองนึกชื่อนิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยที่ดังๆ ชื่อแรกๆ ที่หลายคนน่าจะนึกถึงน่าจะมีชื่อของนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี (หรือชื่อเดิม “อมตะนคร”) กันแน่ๆ

ซึ่งช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา นอกจากกลุ่มคอนโดทำเลใจกลางเมืองที่ตั้งอยู่ตามแนวรถไฟฟ้า มีคอนโดอีกกลุ่มที่มาแรงเช่นกัน ซึ่งจะเป็นกลุ่มที่กระจายตัวอยู่ในโซนแหล่งงาน, โซน Sub District รอบนอก หรือโซนมหาลัยต่างๆ ที่ค่อนข้างจะเป็นตลาดที่ Local ขึ้น มาในราคาที่ยังไม่สูงมาก จับต้องได้ แต่ก็มี Demand ความต้องการอยู่อาศัยในพื้นที่ที่ค่อนข้างชัดเจน หลายๆ โครงการขายดี Soldout ปิดโครงการไปได้แบบไม่ยากเย็น 

วันนี้เราเลยจะพาไปรู้จักกับอีกหนึ่งคอนโดใหม่ ที่จับทำเลติด “นิคมอมตะชลบุรี” ในทำเลหน้าทางเข้าเลย กับโครงการ

“Vay Amata”

ที่นี่จะเป็นคอนโดเปิดใหม่สร้างเสร็จก่อนขาย ที่มาในราคาเริ่มต้นต่ำล้าน แต่ได้แบรนด์ Sansiri พร้อมส่วนกลางมาเต็ม ในทำเลติดแหล่งงานขนาดใหญ่ ค่อนข้างน่าสนใจสำหรับคนทำงานในย่านนี้ แล้วอยากขยับขยายมองหาที่อยู่เป็นของตัวเอง หรือซื้อเป็นบ้านหลังที่สองใกล้ที่ทำงาน รวมไปถึงกลุ่มซื้อลงทุนปล่อยเช่า 

แล้วในความเป็นแสนสิริแต่มาในราคาเริ่มต้นต่ำล้าน ที่นี่จะทำออกมาเป็นยังไง น่าสนใจแค่ไหน เดี๋ยววันนี้เราจะพาไปรู้จักที่นี่กันแบบเจาะลึกเลยครับ

จุดเด่นโครงการ

อยู่ติดทางเข้านิคมอมตะ
ริมถนนใหญ่ “บ้านเก่า”

Facility มีมาให้ครบ
ดีไซน์ดูดีตามสไตล์แสนสิริ

ราคาเริ่มต้นต่ำล้าน
สร้างเสร็จพร้อมอยู่



นิคมอุตสาหกรรม “อมตะซิตี้ ชลบุรี”

นิคมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย บนเนื้อที่กว่า 27,800 ไร่

ก่อนจะไปเจาะลึกตัวโครงการ ขอพาทุกคนมารู้จักกับนิคมอมตะ ซึ่งเป็นแหล่งงานหลักที่อยู่ติดกับโครงการกันก่อนครับ

“นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี” ตั้งอยู่ที่ถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) กม.57 ในเขตอำเภอเมือง และอำเภอพานทอง จังหวัดชลบุรี ที่นี่ถือเป็นนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2532 ในชื่อแรก “นิคมอุตสาหกรรมบางปะกง 2” ต่อมาในปี 2541 เปลี่ยนชื่อเป็น “นิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร” ซึ่งน่าจะเป็นชื่อที่คุ้นหูคนทั่วไปมากที่สุด ขนาดว่าชื่อปัจจุบันเปลี่ยนมาแล้วตั้งแต่ปี 2561 ก็ยังคงมีคนส่วนใหญ่เรียกชื่อเก่ากันอยู่

ด้วยความที่นิคมนี้ตั้งขึ้นมาในช่วงปี 2532 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการขยายตัวของอุตสาหกรรมญี่ปุ่นมาลงหลักปักฐานในเมืองไทย ทำให้กลุ่มธุรกิจที่มาลงทุนสร้างโรงงานในนิคมแห่งนี้เป็นเจ้าแรกๆ ก็จะเป็นบริษัทญี่ปุ่นเป็นส่วนใหญ่ เช่น Singer, Asahi Glass, Hitachi, Daikin, Mitsubishi Electric ซึ่งหลายๆ บริษัทก็ยังตั้งอยู่มาจนถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายบริษัทที่ตามมา เช่น Denso, Bridgestone, Hino, Kubota, BASF เป็นต้น ก็ถือว่าเป็นบริษัทที่มีความมั่นคงในระดับหนึ่ง และหลายๆ ที่ก็ขึ้นชื่อว่ามีฐานเงินเดือน โบนัส และสวัสดิการที่ดีตามสไตล์บริษัทข้ามชาติ

โดยในช่วงเริ่มแรก นิคมแห่งนี้มีเนื้อที่อยู่ 750 ไร่ ซึ่งก็จัดว่าใหญ่มากในตอนนั้น แต่เมื่อเวลาผ่านไปก็มีการขยับขยายออกไปเรื่อยๆ ซึ่งข้อมูลล่าสุดบอกว่าปัจจุบันนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี มีเนื้อที่มากถึง 27,828 ไร่ หรือประมาณ 44.5 ตารางกิโลเมตรเลยทีเดียวครับ (ใหญ่มากกก) จากแผนที่ด้านบนจะเห็นว่าถึงแม้นิคมอมตะจะมีทางเข้าหลักอยู่ที่ถนนบางนา-ตราดก็จริง แต่พื้นที่ของนิคมนั้นกินขอบเขตลึกเข้าไปจนข้ามถนนมอเตอร์เวย์ ข้ามทางรถไฟ ไปถึงเกือบสุดเขตเส้นแบ่งระหว่างอำเภอพานทองกับพนัสนิคม ถ้าวัดระยะทางก็ลึกราวๆ 13 กิโลเมตรเลยครับ

จากข้อมูลของ บ.อมตะ คอร์ปอเรชัน ในรายงานประจำปี 2566 บอกว่าปัจจุบันนิคมแห่งนี้มีจำนวนโรงงานและผู้เช่า 819 ราย มีจำนวนพนักงานที่ทำงานอยู่ในนิคมประมาณ 210,000 คน โดยมีกลุ่มอุตสาหกรรมหลายประเภทไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ทั้งน้ำมันและไฟฟ้า อาหาร สินค้าอุปโภคบริโภค ยา เทคโนโลยีดิจิทัลและหุ่นยนต์ เป็นต้น

ซึ่งด้วยความใหญ่โตของนิคมอมตะชลบุรี ทำให้นอกจากภายในนิคมจะมีโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ แล้ว ก็ยังมีทั้งโรงเรียน โรงพยาบาล โรงแรม สวนสาธารณะ สนามกอล์ฟ รวมถึงพื้นที่ค้าขายอย่างตลาดหรือห้างค้าปลีกใหญ่ๆ อย่าง Lotus’s ก็มีอยู่ในนี้ด้วยเหมือนกันครับ เป็นเหมือนเมืองเมืองนึงเลย

นิคมอมตะ เชื่อมสองฝั่ง ทั้งกรุงเทพและภาคตะวันออก

เชื่อมต่อเมืองใหญ่ ท่าเรือ สนามบิน ด้วยถนนสายหลัก ทางด่วน และมอเตอร์เวย์

ซึ่งจริงๆ ความเป็นย่านอุตสาหกรรมของชลบุรีก็ไม่ได้อยู่แค่จุดนี้จุดเดียวครับ แต่กระจายและขยายตัวออกไปในโซนต่างๆ ตลอดตามแนวชายฝั่งทะเล ไม่ว่าจะเป็นโซนแหลมฉบัง, ศรีราชา, พัทยา, ไปจนถึงอู่ตะเภา-สัตหีบ หรือถัดเข้าไปโซนด้านในอย่างโซนบ้านบึง 

นอกจากตัวชลบุรีแล้ว จังหวัดรอบข้างเราก็จะเห็นความเป็นย่านอุตสาหกรรมเช่นกัน อย่างถ้าฝั่งที่มาจากกรุงเทพเอง ก็จะเห็นโซนนิคมต่างๆ เรียงตามแนวมาเลยไม่ว่าจะเป็นนิคมแพรกษา, นิคมลาดกระบัง, นิคมบางพลี, นิคม TFD, นิคมเวลโกรว์ และยังไม่รวมโรงงานที่ตั้งอยู่เดี่ยวๆ นอกนิคมในย่านสมุทรปราการอีก

หรือจังหวัดข้างเคียงอื่นๆ อีกอย่างระยอง ฉะเชิงเทรา และปราจีนบุรีก็มีนิคมดังๆ อีกหลายนิคมเช่น มาบตาพุด, อมตะซิตี้ระยอง, อีสเทิร์นซีบอร์ด หรือนิคมชื่อคุ้นหูหลายๆ คนกันอย่างโรจนะ, WHA, เหมราช, นิคม 304

ภาพรวมทำให้ภูมิภาคนี้เป็น Hub ด้านอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เรียกได้ว่าคนในย่านนี้ก็อยู่ด้วยการทำงานเกี่ยวกับภาคอุตสาหกรรมกันเป็นหลักเลยก็ว่าได้ ซึ่งทางภาครัฐก็เลยจะมีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ด้านการคมนาคมในย่านนี้ให้ค่อนข้างดี ไม่ว่าจะเป็นถนน มอเตอร์เวย์ ทางด่วนบูรพาวิถี ทางรถไฟไปจนถึงสนามบินและท่าเรือต่างๆ ที่เชื่อมกันเป็นระบบ

ซึ่งที่ตั้งของนิคมอมตะซิตี้ชลบุรี จะอยู่กึ่งกลางระหว่างกรุงเทพ-สมุทรปราการ และเมืองฝั่งชลบุรีและภาคตะวันออกครับ เลยเป็นจุดที่สามารถเชื่อมต่อด้านคมนาคมไปได้ทั้งสองฝั่ง อย่างที่นี่จะห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิประมาณ 50 กิโล หรือเชื่อมต่อท่าเรือแหลมฉบังก็ห่างกันแค่ประมาณ 40 กว่ากิโล เป็นจุดเด่นในเรื่องของที่ตั้งของนิคมแห่งนี้ที่ไม่ไกลทั้งจากการนำเข้า/ส่งออกสินค้า-วัตถุดิบและไม่ไกลจากกรุงเทพครับ

EEC เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

พื้นที่เขตอุตสาหกรรมที่ครอบคลุม 3 จังหวัดในภาคตะวันออก (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง)

ปัจจุบันพื้นที่แถบนี้ยิ่งมีความสำคัญเพิ่มขึ้นอีกจากการที่ภาครัฐประกาศให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษ นั่นก็คือ Eastern Economic Corridor หรือ EEC นั่นเอง โดยครอบคลุมพื้นที่ 3 จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง

ซึ่งการประกาศให้เป็นเขตพัฒนาพิเศษก็ทำให้มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานหลายอย่าง โดยมีโครงการที่กำลังดำเนินการ และที่อยู่ในแผนกว่า 100 โครงการ รวมมูลค่าการลงทุนจากทั้งภาครัฐและให้สัมปทานร่วมทุนกับเอกชนกว่า 750,000 ล้านบาท ซึ่งพอจะสรุปได้ประมาณนี้ครับ

  • การขยายถนนหนทาง พัฒนาถนนสายหลักสายรองที่มีอยู่แล้ว และตัดถนนใหม่
  • พัฒนามอเตอร์เวย์เชื่อมภูมิภาค ที่นอกจากจะมีมอเตอร์เวย์สาย 7 เป็นเส้นทางหลักแล้ว ยังมีโครงการมอเตอร์เวย์สายอื่นๆ อีก เช่น สาย 71 กรุงเทพฯ-อรัญประเทศ สาย 72 ชลบุรี-ระยอง-ตราด และสาย 61 แหลมฉบัง-ปราจีนบุรี-นครราชสีมา
  • เส้นทางรถไฟทางคู่ ที่จะต่อขยายจากปลายทางสัตหีบ ไปถึงระยอง-จันทบุรี-ตราด และรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา)
  • การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นสนามบินนานาชาติแห่งที่ 3 ของกรุงเทพฯ และพัฒนา “เมืองการบิน” รองรับการเป็นศูนย์ซ่อมบำรุงสำหรับอุตสาหกรรมการบินในภูมิภาค
  • การขยายขีดความสามารถของท่าเรือแหลมฉบังและมาบตาพุดให้สามารถรองรับการขนส่งได้มากขึ้น 

โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน

โครงการเมืองการบินอู่ตะเภา

โครงการท่าเรือแหลมฉบัง เฟส 3

โครงการท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3

นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงกฎหมายข้อบังคับต่างๆ ให้เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจมากขึ้น และเปิดพื้นที่การพัฒนาเขตอุตสาหกรรมใหม่ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ก็จะเห็นได้ว่าโซนตะวันออกตรงนี้ค่อนข้างมีภาพที่ชัดเจนในเรื่องของความแข็งแกร่งด้านการเป็นเมืองอุตสาหกรรม ทั้งจากในอดีตรวมไปถึงการลงทุนจากภาครัฐที่จะมีต่อในอนาคตครับ

ภาพรวมคอนโดในย่านอมตะ

ย่านแหล่งงานขนาดใหญ่ ที่ยังมีคอนโดขึ้นไม่เยอะมาก

กลับมาดูภาพรวมของคอนโดในย่านอมตะซิตี้ชลบุรีกันครับ ด้วยความเป็นนิคมที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่มาก ดังนั้นคอนโดก็จะกระจายไปอยู่ในโซนต่างๆ หลายโซนครับ แต่ภาพรวมของตลาดคอนโดในนี้ ก็ยังถือว่ามีคอนโดขึ้นไม่เยอะมาก อย่างถ้าเราลองนึกถึงคอนโดรอบมหาลัยบางแห่ง อย่าง ม.กรุงเทพ หรือ ม.ธรรมศาสตร์ ที่รอบๆ ข้างมีคอนโดแตะ 1-2 หมื่นยูนิตกันเลยครับ

แต่สำหรับที่อมตะซิตี้ชลบุรีเองที่มีพื้นที่ 43 ตารางกิโลเมตร มีคนทำงานกว่า 200,000 คน (ข้อมูล official จากเว็บไซต์อมตะซิตี้) ดังนั้นคอนโดที่มีในย่านนี้ก็ถือว่าไม่เยอะมากเลยครับ

โดยแต่เดิมคนทำงานในละแวกนี้ก็จะนิยมอยู่หอพักหรืออพาร์ตเมนต์กันเป็นส่วนใหญ่ หรือถ้าคนทำงานระดับบนขึ้นมาก็อาจจะเริ่มขยับขยายไปเป็นหมู่บ้านที่อยู่ห่างออกไปจากตัวนิคมหน่อยครับ โดยในยุคหลังๆ ถึงจะเริ่มมีกลุ่มคอนโดทำเลนิคมอมตะเข้ามา

ซึ่งราคาคอนโดในย่านนี้ก็จะอยู่ในช่วงที่ไม่สูงมาก Segment จะเป็น Economy เป็นหลัก เน้นกลุ่มคนทำงานในย่าน มีตั้งแต่หลัก 7 แสนจนถึงล้านต้นๆ ครับ เป็น Range ราคาที่พอผ่อนต่อเดือนหรือปล่อยเช่าอาจจะสูงกว่าหอพักเล็กน้อย แต่ไม่มาก กลุ่มคนทำงานเงินเดือนแถวๆ 2-3 หมื่นอัพก็สามารถซื้อได้ครับ

จากการสำรวจ คอนโดในย่านนี้จะเป็นคอนโด Local Brand ซะเป็นส่วนใหญ่ มีตั้งแต่ขนาดเล็กหลักไม่ถึงร้อยยูนิต ไปจนถึงหลักพันยูนิตก็มีเช่นกัน เพิ่งจะมามีช่วงหลัง ที่ Developer เจ้าใหญ่ๆ สนใจมาในตลาดนี้เช่นกันครับ อย่างแสนสิริก็เพิ่งจะมาเปิดโครงการคอนโดที่นิคมอมตะเป็นครั้งแรก

ที่ตั้งโครงการ

ติดถนนใหญ่ “บ้านเก่า” ตรงข้ามกับทางเข้านิคมอมตะ

สำหรับที่ตั้งของโครงการ Vay Amata จะอยู่บนถนนบ้านเก่าครับ โดยจะอยู่ตรงข้ามกับแยกบ้านเก่า 5 ที่เป็นทางเข้านิคมอมตะเลย จุดเด่นของที่ตั้งโครงการก็จะเป็นเรื่องของการที่อยู่ตรงข้ามเป็นทางเข้านิคมเลย ซึ่งไม่ใช่หมายถึงทางเข้าที่อยู่บนถนนบางนา-ตราดนะครับ แต่เป็นจากทางเข้าด้านในของถนนบ้านเก่าที่ทะลุเข้ากลางนิคมเลย ถือว่าค่อนข้างสะดวกสำหรับคนทำงานในย่านนี้

“ไม่กี่ร้อยเมตรจากโครงการก็เข้าพื้นที่นิคมแล้วครับ”

โดยที่ตัวถนนบ้านเก่าตรงนี้จะเป็นถนนใหญ่ขนาด 4 เลนด้วยกัน ด้วยความที่ไม่ได้อยู่ในซอยเล็ก ถนนตรงนี้การจราจรก็จะค่อนข้างคล่องตัวพอสมควรในช่วงเข้างาน/เลิกงาน ส่วนในการเชื่อมต่อออกถนนใหญ่ด้านนอก ตัวโครงการจะมีระยะเข้ามาจากถนนบางนา-ตราด (เทพรัตน) ประมาณ 2.9 กิโลเมตรครับ 

ซึ่งการมาโครงการ ถ้ามาจากทางด่วนบูรพาวิถีให้ลงก่อนที่ทางลงบางปะกงนะครับ ถ้าลงที่ทางลงชลบุรีปลายทางจะเลยทางเข้าถนนบ้านเก่าไปนิดนึงครับ แต่ถ้าเลยมาถึงทางลงชลบุรีแล้วก็ยังสามารถเข้าทางถนนนิคมอมตะแล้วเชื่อมต่อเข้ามาที่โครงการได้เหมือนกันครับ

“ใกล้ 2 ทางด่วน บูรพาวิถี – มอเตอร์เวย์สาย 7”

นอกจากถนนเทพรัตนและทางด่วนบูรพาวิถีแล้ว อีกทางด่วนนึงจะเป็นถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 โดยจากหน้าโครงการวิ่งตรงไปทางถนนบ้านเก่า 5 ก็จะเจอกับจุดขึ้นลงมอเตอร์เวย์ด่านพนัสนิคมครับ โดยจะห่างจากโครงการประมาณ 5.6 กม.

สิ่งอำนวยความสะดวกในย่าน

ย่านนิคมขนาดใหญ่ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกเยอะตาม

สำหรับย่านที่โครงการตั้งอยู่ จะเป็นเหมือนกับย่านชุมชนหน้านิคมครับ ดังนั้นละแวกใกล้ๆ ก็จะมีทั้งหอพัก, คอนโด, หมู่บ้าน, ตึกแถว, ร้านค้า และตลาดครับ ดังนั้นสิ่งอำนวยความสะดวกในระยะไม่ไกลจากตัวโครงการก็จะมีค่อนข้างเยอะทีเดียว

อย่าง 800 ม.จากโครงการจะเป็นตลาดนัดวัดศรี และระยะไม่กี่กิโลจากโครงการก็จะมีตลาดนัดลุงชัย, ตลาดรัตนากร, ตลาดนินจา ส่วนร้านสะดวกซื้อที่ใกล้กับโครงการจะเป็น Mini Big C อยู่ห่างออกไป 250 ม.ครับ

ในส่วนของห้างและ Community Mall ใกล้ๆ กับโครงการก็จะมีหลายแห่งเช่นกัน อย่างที่ทราบกันว่าย่านนี้มีคนค่อนข้างเยอะ ก็เลยจะมีห้างตามมาเยอะเหมือนกัน ทั้งโลตัสหน้าอมตะนคร, แจสวิลเลจ อมตะ, อมาติโอ ชิลล์ ปาร์ค และโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ ชลบุรี ก็จะมีความหลากหลายทั้งรูปแบบของร้านและหลายระดับราคาให้เลือกครับ

นอกจากนี้ในย่านก็จะมีทั้งโรงเรียน, โรงพยาบาล มีไปจนถึงสนามกอล์ฟในนิคมเลย และไม่ไกลจาก ม.ศรีปทุม วิทยาเขตชลบุรีด้วยครับ

รูปแบบโครงการ Vay Amata

ปกติถ้าเราพูดถึงแสนสิริ บางคนอาจจะคิดถึงคอนโดหรู บ้านหรู ราคาแพง ดีไซน์สวย วัสดุพรีเมียม คอนเซปต์ที่แตกต่างและโดดเด่นจากเจ้าอื่นๆ ในตลาด ทั้งในเมืองและรอบๆ แต่นอกจากคอนโดในกรุงเทพฯ และปริมณฑลแล้ว แสนสิริก็ยังเป็นผู้นำในตลาดอสังหาฯ ในหัวเมืองใหญ่อย่างหัวหินด้วยครับ แต่รอบนี้โครงการที่เราจะพาเพื่อนๆ ไปดู เป็นโครงการของแสนสิริที่อยู่ชลบุรี ซึ่งก็เป็นเมืองที่สำคัญติดชายฝั่งทะเลเช่นกัน โดยคราวนี้เขาไปบุกโซนที่อยู่ใกล้กับแหล่งโรงงานอย่างอมตะ ชลบุรี

แน่นอนว่าโซนนี้ก็มี Developer รายอื่นๆ อยู่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเจ้าท้องถิ่น ยังมี Developer เจ้าใหญ่ๆ เข้ามาไม่เยอะมาก ซึ่งหลายๆ โครงการในย่านนี้ บางที่ด้วยความเป็นคอนโดขนาดเล็กมาก หรือบางที่เป็นคอนโดระดับ Economy ที่เน้นทำราคา ในหลายๆ โครงการส่วนใหญ่เลยจะไม่ได้เน้นพื้นที่ส่วนกลาง Facility ต่างๆ หรือว่าเน้นงานดีไซน์อะไรมากนักครับ การที่แสนสิริเข้ามาในโซนนี้ เลยค่อนข้างจะแตกต่างพอสมควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของดีไซน์ การออกแบบ พื้นที่ใช้สอยของห้อง รวมไปถึงพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ที่จัดมาให้ดูดีน่าใช้เลย โดยที่ราคาก็อาจจะสูงกว่าบางเจ้าเล็กน้อย แต่ก็ยังเกาะกลุ่มล้าน-ล้านต้นๆ อยู่ครับ

ซึ่งแบรนด์ “Vay” หรือ “เวย์” ก็จะเป็นแบรนด์คอนโดที่เน้นกระจายตามแหล่งงานต่างๆ อย่างก่อนหน้านี้ก็จะมี เวย์อยุธยา ที่อยู่ใกล้กับ Central อยุธยา และกำลังจะมี เวย์โพธิสาร ที่อยู่ที่พัทยา ซึ่งราคาของแบรนด์เวย์ก็จะอยู่ในช่วงล้านต้นๆ ครับ เป็นแบรนด์ของแสนสิริที่อยู่สูงขึ้นมาจาก Condo Me สเต็ปนึง มาพร้อมขนาดโครงการที่ใหญ่กว่า มีส่วนกลางมี Facility ต่างๆ ให้ใช้งานมากขึ้น

โดยรูปแบบอาคารของที่นี่จะเป็นอาคารแบบ Low-Rise 2 อาคารอยู่ตรงข้ามกัน มีพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางครับ เป็นสระว่ายน้ำ กับสวนสีเขียวยาวขนานไปกับตัวอาคาร มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 552 ยูนิต ซึ่งเขาแต่งห้องมาให้แบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ มีเครื่องใช้ไฟฟ้า คือเอาจริงขาดแค่ฟูกกับผ้าม่าน ที่เหลือก็พร้อมเข้าอยู่ได้เลยฮะ


ข้อมูลโครงการ

ชื่อโครงการ :Vay Amata (เวย์ อมตะ)
Developer : แสนสิริ
เนื้อที่โครงการ :ประมาณ 4 ไร่
จำนวนห้องพักอาศัย :552 ยูนิต
รูปแบบโครงการ :Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร
ลิฟต์ :อาคารละ 2 ตัว
ที่จอดรถ :170 คัน (31% ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
ค่าส่วนกลาง :33 บาท/ตารางเมตร/เดือน
Facility :– พื้นที่โถงต้อนรับ และพื้นที่ทำงานส่วนกลาง
– ห้องออกกำลังกายพร้อมอุปกรณ์
– สระว่ายน้ำ
– สวนสีเขียวพร้อมพื้นที่พักผ่อน
– เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง
– กล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง
– จุดบริการ EV Charger
แบบห้อง : 1 Bedroom (S) ขนาด 23.25 ตารางเมตร
1 Bedroom (M) ขนาด 25 – 26.25 ตารางเมตร
2 Bedroom ขนาด 43.25 ตารางเมตร
ราคา :เริ่มต้น 999,000 บาท
ราคาเฉลี่ย : ประมาณ 55,000 บาท/ตารางเมตร
สถานะโครงการ :สร้างเสร็จแล้ว

มาดูพื้นที่ส่วนกลาง

เรื่อง Facility ถือว่าเป็นจุดเด่นอย่างนึงของโครงการเลยนี้ก็ว่าได้ครับ อย่างที่บอกไปว่าคอนโดในย่านอมตะเองเองส่วนใหญ่อาจจะไม่ได้เน้นพื้นที่ส่วนกลางมากเท่าไหร่ ดังนั้นผมว่าจุดเด่นหลักๆ ของที่นี่เลยก็คือ มีพื้นที่ส่วนกลาง ที่ถือว่าให้มาดีสำหรับคอนโดระดับ Economy ที่มีราคาอยู่ในช่วงล้าน-ล้านต้นๆ สิ่งที่ให้แทบไม่ได้ต่างจากคอนโดในกรุงเทพหรือปริมณฑลเลยครับ

ซึ่งที่นี่ก็ให้ Facility ต่างๆ ที่ควรจะมีมาครบ โดยจะอยู่ที่พื้นที่ของชั้น 1 เป็นหลัก ถ้าอยู่ในตัวอาคารจะมี Gym, Lobby and Co-working Area และ Laundry Room ส่วนด้านนอกอาคารที่อยู่ใจกลางโครงการจะมีสระว่ายน้ำ สวนสีเขียว และพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ นอกจากนี้ด้านหน้าทางเข้าที่ติดกับถนนจะมีสวนขนาดย่อมด้วยเหมือนกัน เผื่อเบื่อด้านในแล้ว ก็ออกมานั่งด้านนอกกันได้ฮะ

เดี๋ยวผมจะพาเพื่อนๆ ไปดูพื้นที่ส่วนกลางแต่ละจุดของที่นี่กันเลย


ทางเข้าโครงการ

ทางเข้าโครงการจะอยู่ติดกับถนนใหญ่ ใกล้กับ 3 แยกไฟแดง จะมีป้าย Vay Amata โดดเด่นอยู่ด้านหน้าเลยฮะ เพื่อนๆ สามารถขับรถเข้ามาได้เลย โดยที่ถนนตรงนี้ช่วงด้านหน้าจะเป็นถนนภาระจำยอมนอกโครงการนะครับ แต่ก็สร้างโดยโครงการนี่แหละ เพื่อที่ใช้เป็นทางเข้าออกร่วมกับโครงการในอนาคตที่จะอยู่ลึกกว่า แต่บรรยากาศของถนนต่างๆ ก็จะมีต้นไม้ตลอดทาง เหมือนเราเข้ามาในโครงการแล้วครับ

เข้ามาหน่อยก็จะเจอกับป้อมยามและประตูทางเข้าหลัก จริงๆ แล้วทางโครงการจะมีไม้กั้นเข้าออกด้วยนะครับ แต่วันที่ผมไปถ่ายเขายังติดตั้งไม่เสร็จฮะ


สวนด้านหน้าโครงการ

นอกจากทางเข้าที่เป็นถนนของรถยนต์แล้ว โครงการนี้จะมีสวนที่จะอยู่ติดกับถนนใหญ่และใช้เป็นทางเข้าของโครงการอีกทางนึงสำหรับคนเดิน โดยมีประตูเข้าออกให้ สามารถเดินไปด้านนอกได้ มีพื้นที่นั่งรอ ปูด้วยพื้นหิน และรายล้อมไปด้วยต้นไม้ต่างๆ เพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วยรั้วระแนงสีขาว

เป็นสวนที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่เลยครับ ฟังก์ชันตรงนี้เป็นเหมือนสวนต้อนรับก่อนที่เราจะเดินเข้ามาถึงกับโครงการ ซึ่งตรงนี้ไม่ใช่แค่สวนเดียวที่โครงการมีนะครับ ยังมีพื้นที่สวนที่อยู่ระหว่างตึกอีกจุดหนึ่งที่เดี๋ยวเราจะพาไปดู


พื้นที่จอดรถ

ที่จอดรถของที่นี่จะมีทั้ง Indoor ที่อยู่ใต้อาคาร A กับอาคาร B และ Outdoor ที่อยู่ด้านนอกอาคาร นอกจากนี้เขายังทำพื้นที่จอดรถสำหรับผู้พิการ และที่จอดสำหรับมอเตอร์ไซค์ด้วย แบ่งเป็นโซนชัดเจนเลยฮะ โดยที่จอดรถยนต์จะมีทั้งหมด 31% ด้วยกันไม่รวมจอดซ้อนคันครับ ซึ่งด้วยรูปแบบที่จอดที่เป็นแนวยาว และเดินรถทางเดียว ถ้าหากต้องจอดซ้อนคันก็จะมีที่จอดเพิ่มได้อีกประมาณนึงเลยครับ

พื้นที่จอดรถสำหรับผู้พิการ และที่จอดสำหรับมอเตอร์ไซค์

ที่จอดรถสำหรับ EV Charger จะอยู่ติดกับทางเข้าอาคาร A เลย


Lobby and Co-working Area

ในส่วนของ Lobby หลักจะอยู่ที่อาคาร A นะครับ อาคาร B จะเป็นแค่โถงลิฟต์เฉยๆ ซึ่ง Lobby ของอาคาร A จะถูกทำออกมาเป็น 2 ฟังก์ชันการใช้งาน ทั้งเป็น Lobby สำหรับรับแขกและก็จะมีพื้นที่สำหรับพักผ่อนและนั่งทำงานเป็น Co-Working Area ได้ด้วย ห้องนี้มองออกไปด้านนอกก็จะได้วิวสระว่ายน้ำฮะ

โดยจะมีพื้นที่โซฟาสำหรับนั่งพักผ่อน และพื้นที่โต๊ะสูงสำหรับนั่งทำงานแบบจริงจังครับ การตกแต่งก็จะออกมาในแนวสีเอิร์ธโทนวัสดุเป็นไม้ บรรยากาศสบายๆ ครับ ในบริเวณของตึก A ใกล้ๆ กันจะเป็นห้องทำงานของนิติด้วยครับ


Gym Room

ห้องออกกำลังกายอยู่ตรงข้าม Lobby เลยครับ มีอุปกรณ์มาให้ทั้งลู่วิ่ง จักรยาน และโซน Weight Training ต่างๆ ห้องขนาดกำลังพอดี มีหน้าต่างกระจกแบบเต็มบาน ทำให้ห้องดูกว้างขึ้น และสามารถมองออกไปด้านนอก เห็นสวนสีเขียวเพลินๆ ระหว่างออกกำลังกายได้เช่นเดียวกับห้อง Lobby ตกแต่งออกมาในโทนไม้ๆ เป็นอีกห้องที่ดูสวยดีครับ


สระว่ายน้ำ

ออกมาด้านนอกจะเจอกับสระว่ายน้ำที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้ครับ เป็นสระที่บรรยากาศค่อนข้างดีเลย ด้วยความที่ระยะห่างระหว่างสองตึกไม่ได้ใกล้กันมากจนเกินไป ทำให้สามารถวางสระขนาดค่อนข้างใหญ่ได้ โดยที่รอบข้างทั้ง 2 ฝั่งก็ยังมีพื้นที่ปลูกต้นไม้ได้อยู่ ที่ริมสระว่ายน้ำก็จะมี Daybed ให้นอนอาบแดด นอนเล่นชิวๆ กันได้ บรรยากาศค่อนข้างผ่อนคลายเลย แล้วด้วยความที่ตัวอาคารอยู่ถัดออกมาจากถนนใหญ่เล็กน้อย เสียงข้างนอกก็เลยจะไม่ได้ดังเข้ามารบกวนให้รู้สึกรำคาญครับ เป็นมุมที่เหมาะกับการพักผ่อนมากๆ

มุมนี้น่าจะเป็นจุดขายของโครงการเลย เลยขอใส่รูปให้ดูหลายมุมหน่อยครับ

ที่ล้างตัวก็จะอยู่หลัง Daybed ครับ

รอบๆ สระว่ายน้ำเองก็จะมีพื้นที่นั่งเล่นหลากหลายแบบให้เลือกครับ ทั้งเตียง Daybed และเก้าอี้ อยู่ตามมุมต่างๆ เลย


ห้องน้ำส่วนกลางข้างสระ

ห้องน้ำส่วนกลางจะอยู่ใกล้กับสระว่ายน้ำและฟิตเนสครับ เขาออกแบบมาค่อนข้างดีเลยครับ มีแยกห้องน้ำสำหรับผู้พิการ ห้องน้ำชายหญิงจะแยกกัน แต่การตกแต่งเหมือนกันเลยครับ มีการใช้ลายหินขัดเข้ามาทำให้ห้องน้ำดูมีสีสัน ตัดกับกำแพงสีขาวแล้วดูมีมิติมากขึ้น ในนี้จะมีทั้งห้องอาบน้ำและห้องสุขา มีพื้นที่ล๊อกเกอร์สำหรับเปลี่ยนชุดมาว่ายน้ำ


สวนขนาดใหญ่กลางโครงการ

ถัดจากสระว่ายน้ำมาหน่อยก็จะเป็นสวนสีเขียวขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกันเลย ซึ่งเป็นสวนขนาดใหญ่จริงๆ นะครับ มีต้นไม้ลงมาให้ค่อนข้างเยอะ แต่ด้วยความที่โครงการเพิ่งเสร็จใหม่ๆ เราอาจจะยังไม่เห็นความเขียวชอุ่มขนาดนั้น แต่ถ้ารอให้เหล่าต้นไม้ ไม้พุ่มต่างๆ ได้โต ก็จะมีความร่มรื่นมากขึ้นฮะ โดยเฉพาะต้นไม้ต้นตรงกลางที่เป็นประธานของสวน ต้นนี้ฟอร์มค่อนข้างจะสวยมาก ถ้าแตกกิ่งแตกใบออกมาหลังจากอยู่ไปสักสองสามปีน่าจะสวยมากทีเดียว และก็จะมีโซนสนามหญ้าเป็นพื้นที่เปิดโล่งตรงกลางของสวน ซึ่งนอกจากสวนแล้ว เขาก็ยังทำเป็นมุมพักผ่อนอีกหลายจุด ให้เราได้มานั่งเล่น มาผ่อนคลายได้อีกมุม ค่อนข้างน่าใช้งานในช่วงเย็นๆ ที่แดดไม่แรงครับ


สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ

ตรงลานจอดรถอาคาร A ใกล้ๆ กับห้องซักผ้าจะมีตู้กดอัตโนมัติอยู่ครับ เผื่อใครหิวก็มีทั้งขนมและเครื่องดื่มให้มากดได้ตลอดทั้งวัน และจะมีห้องซักผ้าอีก 2 จุด อยู่ที่อาคาร A 1 จุด และอาคาร B อีก 1 จุด มีทั้งเครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าเลย

แปลนอาคารและ Layout ห้อง

อย่างที่บอกว่าที่นี่เขาจะแบ่งออกเป็น 2 อาคารที่อยู่ตรงข้ามกัน แล้วทางโครงการเขาก็ออกแบบแปลนอาคารมาให้หน้าตาเหมือนกันเลยครับ เหมือนอาคารสองอาคารที่สะท้อนกันอยู่ ชั้น 1 จะเป็นพื้นที่จอดรถกับ Facilities ต่างๆ ตั้งแต่ชั้น 2 – 8 ถึงจะเป็นห้องพักอาศัยครับ

ชั้นพักอาศัยจะแบ่งห้องออกเป็น 2 ฝั่ง มีโถงทางเดินตรงกลาง แปลนอาคารแต่ละชั้นจะเหมือนกันเลย แบบห้องที่มีเยอะที่สุดคือ 1 Bedroom (M) ชั้นละประมาณ 25 – 29 ห้อง ซึ่งห้องไทป์นี้มีการกั้นเป็นสัดเป็นส่วน ทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องน้ำ ส่วน 1 Bedroom (S) จะมีเยอะรองลงมา ประมาณ 10 ห้อง จัดอยู่ในตำแหน่งหันออกด้านนอกโครงการ ไทป์นี้จะไม่มีห้องวิวสวนด้านในนะ รูปแบบจะเหมือนห้อง Studio ครับ เป็น Open Space ที่รวมห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องน้ำไว้ในพื้นที่เดียวกัน ส่วน 2 Bedroom จะมีแค่ชั้นละห้องเท่านั้นเองฮะ เรียกได้ว่าเป็นห้อง Rare Item ของโครงการเลย

แปลนอาคาร A

แปลนอาคาร B


แปลนห้อง

ห้องนี้จะเป็นห้องเริ่มต้นของโครงการครับ ถึงจะไม่ได้กั้นห้อง แต่ก็ดูเป็นสัดเป็นส่วนนะ ด้านหน้าห้องจะเป็นครัว มีเคาน์เตอร์ มีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าด้วย ตรงข้ามสามารถวางตู้เก็บรองเท้าได้ เวลาเข้าห้องมาจะได้ไม่วางรองเท้าเกะกะทางเดินฮะ ขยับมาด้านในจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นทั้งหมด วางโซฟาได้ มีช่องว่างระหว่างโซฟากับเตียงนอนอยู่ ฝั่งตรงข้ามเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะอเนกประสงค์ ที่สามารถวางทีวีได้ ได้ระยะดูทีวีกว้าง เป็นโต๊ะทำงานได้ แล้วก็ยังเป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้อีก ส่วนห้องน้ำก็จะอยู่ติดกับตู้เสื้อผ้าเลย จริงๆ จุดเด่นของห้องนี้ก็จะเป็นเรื่องขนาดที่ค่อนข้าง Compact แต่สามารถขยับปรับเปลี่ยนพื้นที่การใช้งานภายในห้องได้พอสมควร

และที่นี่เขาให้หน้าต่างบานใหญ่ แสงสามารถส่องเข้ามาได้ทั่วทั้งห้องฮะ สำหรับห้องนี้ค่อนข้างเหมาะกับการอยู่คนเดียว กำลังสบาย มีความคล่องตัว โปร่งโล่ง หรือถ้าอยากอยู่สองคนก็ได้ฮะ ยังมีพื้นที่ให้เดินไปมาอยู่บ้าง แต่อาจจะไม่เน้นความเป็นส่วนตัวมาก


ห้องนี้จะใหญ่ขึ้นมาไม่มาก แต่ที่จะต่างกันชัดเจนเลยคือฟังก์ชันการใช้งานครับ มีการกั้นห้องนอน ให้เราได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มเข้ามา ครัวจากที่อยู่ด้านหน้า ก็เอาไว้ด้านข้าง ติดกับระเบียงแทน สามารถทำเป็นครัวปิดได้ ใครที่ชอบทำอาหารแปลนนี้ก็จะตอบโจทย์มากขึ้น

เมื่อเปิดเข้ามาในห้องด้านหน้าก็จะเป็นพื้นที่นั่งเล่น และพื้นที่กินข้าวครับ ส่วนประตูห้องนอนเขากั้นเป็นบานเลื่อนกระจกนะครับ ดังนั้นแสงจากด้านนอกก็ยังส่องเข้ามาด้านในอยู่ ไม่ทำให้ห้องมืดจนเกินไป ห้องนี้ถ้าอยู่คนเดียวคือสบายเลย หรือถ้าอยู่สองคนก็จะมีพื้นที่ส่วนตัวให้กับแต่ละคนมากขึ้นครับ


ห้องนี้จะเป็นไทป์ขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการ มีแค่ชั้นละห้อง และจะอยู่มุมอาคารพอดี ได้พื้นที่นั่งเล่นและพื้นที่กินข้าวขนาดใหญ่ ห้องนอน 2 ห้องจะอยู่ติดกัน ข้อดีของห้องนี้คือ แต่ละพื้นที่ แต่ละโซนกว้างขวางหมด วางโซฟาขนาดใหญ่ 3 ที่นั่งได้ โต๊ะกินข้าวก็เป็นแบบ 4 ที่นั่งได้ ห้องนอนเล็ก ก็ไม่ได้เล็กไปกว่าห้องนอนใหญ่เท่าไหร่เลยครับ วางเตียง 5 ฟุตได้สบาย ส่วนครัวก็ยังได้ฟังก์ชันครัวปิดเช่นเดียวกันและเป็นไทป์เดียวที่ติดตั้งเตาไฟฟ้าติดตั้งเพิ่มมาให้ด้วยครับ ข้อเสียก็มีเล็กน้อย ด้วยความที่ห้องนอนใหญ่เป็นประตูทึบ แสงเลยส่องเข้ามาในห้องนั่งเล่นได้ไม่เยอะ ทำให้ดูมืดเล็กน้อยฮะ ดีที่ห้องนอนเล็ก เป็นประตูบานเลื่อนกระจก ช่วยให้แสงส่องเข้ามาตรงโซนกินข้าว โดยรวมของห้องก็เลยไม่ได้มืดนะ

ห้องนี้สามารถอยู่เป็นครอบครัวได้เลย ไม่ว่าจะมีลูกหรือไม่มีลูก ก็มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ ให้เราสามารถตกแต่งเพิ่มเติมได้ตามความต้องการ เป็นห้องขนาด 43 ตร.ม.ที่จัดออกมาได้ค่อนข้างลงตัวเลยครับ

1 Bedroom (S) ขนาด 23.25 ตารางเมตร

ห้องตัวอย่างของที่นี่ก็จะมีให้ดูทั้งหมด 3 ห้อง 3 ไทป์เลยครับ ไทป์แรกที่เราจะพาเพื่อนๆ ไปดู เป็นห้องขนาดเริ่มต้นของโครงการ คือ 1 Bedroom (S) ขนาด 23.25 ตารางเมตร ห้องนี้ด้านหน้าจะเป็นพื้นที่ครัวแบบเปิด ถ้าเพื่อนๆ อยากจะกั้นห้องครัว ก็สามารถติดตั้งประตูบานเลื่อนกระจกเพิ่มเติมเองได้นะครับ แต่สำหรับใครที่ไม่ได้ติดว่าห้องจะเป็นครัวเปิด ไม่ได้เน้นการทำอาหารมากมาย ก็ไม่จำเป็นต้องติดตั้งเพิ่มฮะ

ด้วยความที่ขนาดห้องไม่ได้ใหญ่ เขาเลยทำให้ Living Area มีความกว้าง ไม่ต้องกั้นห้องเพิ่ม จะได้ดูไม่อึดอัด ให้ห้องดูโล่ง บวกกับได้หน้าต่างบานใหญ่ ทำให้แสงจากทั้งหน้าต่างและประตูระเบียง ส่องเข้ามาในห้องได้อย่างทั่วถึง ทำให้ค่อนข้างดูโปร่ง ก็ถือว่าอยู่ได้แบบสบายๆ เลย


พื้นที่ครัว

เคาน์เตอร์ครัวที่นี่จะได้เหมือนกันทุกห้องเลยนะครับ เคาน์เตอร์จะมีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้ามาไว้ให้แล้ว เราจะได้ไม่ต้องเอาไปวางที่ระเบียงฮะ ด้านล่างอ่างล้างจานก็เป็นตู้ที่สามารถเก็บของได้ ส่วนไมโครเวฟจะไว้ด้านบนที่เป็นชั้นวางของ เครื่องดูดควันก็จะติดตั้งมาให้เช่นเดียวกัน แต่ไม่มีเตาไฟฟ้าติดตั้งมาให้นะครับ สามารถหาเตาไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กมาใช้งานได้ เวลาจะใช้ก็ค่อยยกมาวาง จะได้มีพื้นที่เอาไว้เตรียมอาหารครับ

ตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวจะเป็นตู้เก็บรองเท้าที่ขนาดพอดีกับช่องผนังที่เหลือ เป็นห้องที่ได้ตู้เก็บรองเท้ากว้างกว่าห้องอื่นๆ ฮะ ด้านบนยังบิ้วด์ชั้นเก็บของเพิ่มได้อีกนะครับ


Living Area

เข้ามาด้านในอย่างแรกที่เราจะเจอก็คือมุมนั่งเล่นครับ โซฟากับโต๊ะกาแฟที่เพื่อนๆ เห็นก็จะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่โครงการให้มาด้วย ขนาดกำลังพอเหมาะกับห้องฮะ ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป จริงๆ พื้นที่ด้านข้างเหลือพอสมควร เราสามารถซื้ออาร์มแชร์ หรือ Bean Bag มาวางเพิ่มได้

สำหรับเตียงนอนจะอยู่ติดกับหน้าต่างเลย ทางโครงการจะให้เตียงขนาด 5 ฟุตมาด้วย ถ้าเพื่อนๆ ดูในรูปจะสังเกตเห็นว่าผนังหัวเตียงไม่ได้มีขนาดเท่ากันทั้งหมดใช่มั๊ยครับ แต่ทางโครงการเองเขาจะตกแต่งมาให้มันพอดีกัน ไม่มีช่องว่างเหลือ และเผื่อที่สำหรับเสียบปลั๊กไฟมาให้แล้ว เราสามารถชาร์จอุปกรณ์ต่างๆ และวางไว้ที่หัวเตียงได้ หรือจะใช้เป็นพื้นที่ตกแต่ง วางของกระจุกกระจิกของเราก็ได้ครับ

มุมนี้เราจะได้ทั้งตู้เสื้อผ้า โต๊ะทำงาน ที่เป็นโต๊ะอเนกประสงค์ ทำได้ทุกอย่างฮะ ทั้งทำงาน กินข้าว แต่งหน้า วางทีวี แถมมีเก้าอี้มาให้ 1 ตัวด้วย ถ้าใครคิดว่าการวางทีวีไว้บนโต๊ะมันกินพื้นที่ อยากเอาโต๊ะไปทำอย่างอื่นมากกว่า ก็สามารถแขวนติดผนังได้นะ จะทำให้โต๊ะเราโล่งมากขึ้น


ห้องน้ำ

ทางเข้าห้องน้ำจะอยู่ติดกับตู้เสื้อผ้าเลย ที่นี่เขาก็ให้สุขภัณฑ์มาครบ ไม่ว่าจะเป็นอ่างล้างหน้า กระจก ชักโครก สายชำระ ฉากกั้นอาบน้ำที่เป็นประตูบานเลื่อนกระจก ฝักบัว พัดลมดูดอากาศ แถมโปรตอนนี้ยังมีเครื่องทำน้ำอุ่นติดตั้งมาให้ด้วย คือพร้อมใช้งานได้เลยฮะ

1 Bedroom (M) ขนาด 25.75 ตารางเมตร

ห้องนี้ขนาดจะใหญ่ขึ้นเล็กน้อยครับ แต่ได้ฟังก์ชันเพิ่มหลายอย่าง ด้านหน้าจะเป็นพื้นที่นั่งเล่นกับมุมกินข้าว ขยับมาหน่อยจะเป็นห้องนอน ที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก แสงจากด้านนอกจะได้ส่องเข้ามาถึงด้านใน ส่วนห้องครัวจะอยู่ด้านหลัง ไม่ได้มีประตูกั้นนะครับ แต่สามารถติดตั้งเพิ่มเองได้ ถ้าเพื่อนๆ อยากจะกั้นประตูครัว ตัวครัวเองก็จะอยู่ติดกับระเบียง เวลาเราทำอาหารก็จะช่วยระบายกลิ่นและระบายอากาศได้ดี ส่วนห้องน้ำก็จะอยู่ติดกับห้องครัวเลย


มุมนั่งเล่น

มุมนั่งเล่นค่อนข้างกว้างครับ มีพื้นที่ระหว่างชั้นวางทีวีกับโซฟาเยอะ เดินผ่านไปมาได้สบาย ถ้าเป็นห้องนี้ชุดเฟอร์นิเจอร์ที่โครงการแถมเราจะได้ชั้นวางทีวีเพิ่มเข้ามา แต่จะไม่มีโต๊ะทำงาน ความสูงของฝ้าที่นี่จะอยู่ที่ 2.5 เมตรฮะ


มุมกินข้าว

ทางโครงการจะได้ให้โต๊ะกินข้าวมาครบชุดเลย มีทั้งโต๊ะและเก้าอี้ 2 ตัว เวลาที่ไม่ได้กินข้าวก็ใช้เป็นโต๊ะทำงานได้ครับ


ห้องนอน

ห้องนอนจะได้ฐานเตียงขนาด 5 ฟุต กับตู้เสื้อผ้า ผนังปลายเตียงยังมีพื้นที่พอสำหรับติดตั้งทีวีแบบแขวนด้วย โดยที่แอร์ของห้องนี้ทางโครงการจะให้มา 1 เครื่องครับ


ห้องครัว

ห้องครัวของ Plan นี้ก็จะเป็นสัดเป็นส่วนขึ้น ครัวอยู่ติดกับระเบียง สามารถระบายอากาศต่างๆ ได้ดีขึ้น และทำรกได้โดยที่เวลาอยู่ในห้องโซน Living ก็จะไม่ค่อยเห็นครับ 😜 ทางโครงการจะมีตู้เย็นกับไมโครเวฟมาให้ด้วยนะครับ สำหรับโปรโมชั่นในช่วงนี้


ระเบียง

ระเบียงขนาดไม่ได้ใหญ่ แต่ด้วยความที่เราเอาเครื่องซักผ้าไปไว้ด้านใน ทำให้เราสามารถตกแต่งระเบียงเพิ่มเติมได้ มีพื้นที่เหลือสำหรับใช้งาน

2 Bedroom ขนาด 43.25 ตารางเมตร

ห้องสุดท้ายจะเป็นไทป์ที่ใหญ่ที่สุดของโครงการครับ มี 2 ห้องนอน หรือจริงๆ เราจะเปลี่ยนอีกห้องให้เป็นห้องอเนกประสงค์ก็ได้เหมือนกันนะ ห้องนี้จะได้ Living Area ที่กว้างมากครับ แบ่งเป็น 2 โซน คือมุมนั่งเล่นกับมุมกินข้าว จะได้โต๊ะแบบ 4 ที่นั่งเลย ส่วนครัวก็จะอยู่ติดระเบียงและห้องน้ำอยู่ติดกับห้องครัว เหมือนกับห้องก่อนหน้าเลย


มุมนั่งเล่น

ห้องนี้ก็ได้โซฟา โต๊ะข้าง และชั้นวางทีวีเหมือนเดิมครับ ระยะห่างโซฟากับชั้นวางทีวีเยอะ ทำให้เราสามารถวางทีวีจอใหญ่ได้ โดยที่โซฟาที่โครงการแถมจะเป็นขนาด 2 ที่นั่ง แต่ถ้าอยากได้ใหญ่กว่า พื้นที่ของห้องก็รองรับเป็น 3 ที่นั่ง หรือจะใส่โซฟารูปตัว L ได้ครับ

ติดกับประตูจะมีตู้เก็บรองเท้ามาให้ ใส่รองเท้าได้พอสมควรเลย มีพื้นที่เหลือวางของตกแต่งได้อีก


มุมกินข้าว

ห้องนี้จะได้โต๊ะขนาดใหญ่ มาพร้อมเก้าอี้ 4 ตัวเลยครับ อยู่ใกล้กับห้องครัวด้วย เวลาทำอาหารเสร็จก็ไม่ต้องยกไปไหนไกลฮะ