ใครว่าคอนโดทำเลดีต้องติดรถไฟฟ้าเสมอไป? วันนี้ LivingPop จะพาไปดูคอนโดติดห้าง กลางย่านบางนาครับ ซึ่งคำว่ากลางของที่นี่ ต้องบอกว่าอยู่กลางจริงๆ คืออยู่ตรงกลางระหว่าง Central บางนาและ Big C บางนาเลย กับโครงการ
Nue Noble Centre Bangna
สำหรับแบรนด์ Nue จาก Noble เป็นแบรนด์ที่เปิดมาได้ซักระยะนึงแล้วครับ กับทำเลในโซนรอบนอกหน่อย เน้นราคาไม่สูงมาก หยิบจับง่าย อย่างเช่นโครงการที่ผ่านๆ มาก็ที่แจ้งวัฒนะ, ศรีนครินทร์–ลาซาล, งามวงศ์วาน, รัชดา-ลาดพร้าว, ไฟฉาย-วังหลัง ล่าสุดทาง Noble ก็ได้เปิดอีกหนึ่งโครงการ Nue ใหม่ มาในทำเลย่านบางนา โครงการนี้จะเป็นอย่างไร มีอะไรน่าสนใจบ้าง วันนี้เราเลยจะพาไปดูผ่านจุดเด่นแต่ละด้านของโครงการนี้ครับ
จุดเด่นแรก : ที่ตั้งโครงการ
จุดเด่นของโครงการนี้อย่างแรกคือทำเลครับ ไม่ใช่บางนาที่รอบข้างไม่มีอะไร หรือไปไกลเกือบถึงบางบ่อ แต่เป็นบางนาที่อยู่ติดกับเซ็นทรัลบางนาและ Big C บางนาเลย
“10 ก้าวจากเซ็นทรัลบางนา 10 ก้าวจริงๆ”
โดยโครงการจะอยู่ในซอยบางนา-ตราด 23 เข้าซอยมาประมาณ 100 กว่าเมตร แปลงนี้จะเป็นที่ดินแปลงสุดท้ายที่ใกล้ปากซอยที่สุดเท่าที่จะหาได้แล้วครับ (เพราะถัดจากโครงการก็จะเป็น Big C แล้ว ถ้าจะใกล้ปากซอยกว่านี้ก็ต้องทุบ Big C แล้วหล่ะ) บรรยากาศในซอยนี้ก็จะมีอพาร์ทเม้นท์และก็คอนโดต่างๆ มาตั้งอยู่ จากการที่ปากซอยนี้มีทั้งห้างและตึกออฟฟิศ ถือว่าคึกคักมากทีเดียว ทั้งคนเดินและรถต่างๆ ที่สัญจร และซอยนี้นอกจากจะออกถนนบางนา-ตราด (ถนนเทพรัตน์) ได้แล้ว ยังสามารถใช้เป็นทางไปออกทะลุศรีนครินทร์ และ อุดมสุขได้ด้วยครับ
ทางเลือกในการเดินทาง
ลองถอยออกมาดูภาพกว้างขึ้นหน่อย จะเห็นว่าซอยนี้เชื่อมต่อไปได้หลายทางครับ สำหรับการใช้รถยนต์ ก็จะใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนบูรพาวิถี, ทางด่วนวงแหวนกาญจนาภิเษก และสำหรับการเข้าเมืองก็จะใกล้กับทางด่วนขั้นที่ 1 และทางด่วนฉลองรัชด้วย เป็นย่านที่มีทางด่วนให้เลือกหลายเส้นทางเลยครับ
ส่วนการเดินทางด้วยขนส่งมวลชน ปากซอยโครงการ ห่างไป 100-200 เมตร ก็จะมีป้ายรถเมล์บนถนนบางนา-ตราดอยู่ จุดนี้ด้วยความเป็นหน้าห้าง ก็จะมีทั้งรถตู้ รถแท็กซี่ และวินมอเตอร์ไซค์อยู่ด้วย สามารถเลือกใช้บริการได้
หรือถ้าจะใช้รถไฟฟ้า สถานีที่ใกล้ที่สุดในปัจจุบันจะเป็น BTS สถานีอุดมสุข ที่ห่างออกไป ประมาณ 4 กิโลเมตร เชื่อมต่อเข้าสุขุมวิทและในเมืองได้
และในอนาคตอีกไม่นาน ปีหน้ารถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่ถนนศรีนครินทร์ ก็จะเปิดให้บริการครบทั้งสายเช่นกัน พอดีกับที่โครงการสร้างเสร็จ ก็สามารถใช้งานเพื่อไปย่านรัชดา-ลาดพร้าว-ลำสาลี-เทพารักษ์-สำโรงได้สะดวกมากขึ้นฮะ สถานีที่ใกล้ที่สุดก็คือสถานีศรีเอี่ยม ซึ่งจะอยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1.3 กิโลเมตร ก็จะใกล้กว่า BTS ครับ
สถานีศรีเอี่ยมของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองจะมีอาคารจอดแล้วจร สาามารถขับรถมาจอดนี่ที่เพื่อขึ้นรถไฟฟ้าได้ด้วยครับ
จากทำเล ก็จะเห็นว่าที่นี่ไม่ได้ติดกับรถไฟฟ้าโดยตรงนะฮะ จะเน้นจุดเด่นที่ติดห้างเน้นกลุ่มคนทำงานใกล้แถวนี้ หรือคนที่คุ้นชินทำเลแถวบางนาเป็นหลัก ด้วยตัวบริเวณ Central บางนาและ Big C ที่ก็เป็นย่านห้าง-ออฟฟิศและมีชุมชนที่คึกคักด้วยตัวเองพอประมาณอยู่แล้ว แต่ถ้าวันไหนต้องการใช้รถไฟฟ้าเข้าเมืองก็สามารถต่อรถ/เรียกวินมอไซค์ไปได้ ไม่ไกลครับ
สถานที่ใกล้เคียง
อนาคตของย่านบางนา
ย่านบางนาเป็นอีกย่านนึงที่ได้รับอิทธิพลของการขยายตัวของกรุงเทพครับ และหลังจากที่รถไฟฟ้า BTS ซึ่งเป็นรถไฟฟ้าเส้นหลักได้ขยายไปถึงสมุทรปราการ และพื้นที่สุขุมวิทชั้นในเริ่มเต็ม โปรเจคต่างๆ ก็ขยายมาด้านนี้พอสมควร จะเห็นได้จากช่วงสุขุมวิทตอนปลายที่ก็มีทั้งออฟฟิศใหม่ๆ มาเปิดหลายตึก หรือรวมไปถึงห้างใหม่ๆ เราเลยรวมรวมโปรเจคที่เตรียมจะมาในอนาคตของย่านบางนามาฝากสั้นๆ ครับ
ส่วนต่อขยายสนามบินสุวรรณภูมิ
สนามบินสุวรรณภูมิมีแผนที่จะเปิดส่วนต่อขยายอีกหลายส่วนครับ เริ่มจากอาคารเทียบเครื่องบินหลังใหม่ ที่กำลังจะสร้างเสร็จและเปิดให้บริการในปีหน้า สามารถรองรับผู้โดยสารได้มากขึ้นจาก 45 ล้านคนในปัจจุบัน ให้เพิ่มขึ้นเป็น 60 ล้านคน และยังอยู่ในช่วงเตรียมที่จะสร้างอาคาร Terminal 2 เพื่อรองรับผู้โดยสารเพิ่มอีกครับ
Bangkok Mall
เป็นห้างขนาดใหญ่ที่พูดถึงมานานมาก อยู่หัวมุมแยกบางนาเลย ด้วยขนาดที่ดิน 100 ไร่ เป็นโปรเจค mixed-use ที่มีทั้งห้าง พี่พักอาศัย และ arena พื้นที่รวมกว่า 8 แสนตารางเมตร เมื่อเสร็จแล้วก็น่าจะทำให้ย่านนี้คึกคักขึ้นกว่าเดิมครับ (ปัจจุบันเริ่มก่อสร้างแล้ว)
The Forestia
เป็นอีกหนึ่งโครงการ Mixed Use ขนาดใหญ่ บนถนนบางนา ที่มีทั้งอาคารสำนักงาน และที่พักอาศัย ปัจจุบันอยู่ในช่วงก่อสร้างครับ
True Digital Park
สำหรับ True Digital Park ก็จะเป็น Project Mixed-use ขนาดใหญ่อีกแห่งนึงที่อยู่บนถนนสุขุมวิท ใกล้กับ BTS สถานีปุณณวิถีครับ ปัจจุบันโครงการสร้างเฟส 1 เสร็จเรียบร้อยแล้ว กำลังสร้างเฟส 2 ที่อยู่ข้างๆ ต่อ
Mega Bangna ส่วนต่อขยาย
สำหรับ Mega Bangna ถ้าใครจำกันได้ตั้งแต่ยุคแรกที่เปิดห้าง มาจนถึงวันนี้ก็เปลี่ยนไปมากทีเดียวในเวลาไม่ถึง 10 ปี มีการสร้างส่วนต่อขยายโซนใหม่ๆ หลายโซนเลย ซึ่งปัจจุบัน Mega บางนาก็ยังมีที่เหลือ และยังมีโปรเจคสร้างตึกใหม่ๆ อยู่อีกครับ
AIA East Gateway
โครงการ AIA East Gateway จะเป็นอาคารสำนักงานบนถนนบางนา-ตราด กม.4.5 ก่อนถึง Index Living Mall สูง 33 ชั้นมีพื้นที่กว่า 160,000 ตารางเมตร บนพื้นที่ 10 ไร่ครับ ปัจจุบันเริ่มก่อสร้างแล้ว
รถไฟฟ้า
ปัจจุบัน รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวที่เปิดไปถึงสมุทรปราการได้เปิดให้บริการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่เชื่อมต่อ รัชดา-ศรีนครินทร์-สำโรง จะเปิดให้บริการในปลายปีหน้า นอกจากนี้บนถนนเส้นบางนา-ตราดเอง ก็มีแผนรถไฟฟ้าสายสีฟ้าอ่อน ที่จะเชื่อมบางนา – สนามบินสุวรรณภูมิฝั่งใต้ ซึ่งเส้นนี้ยังเป็นแค่แผนอยู่ครับ แต่ถ้าสร้างก็จะผ่านหน้าเซ็นทรัลบางนาเลย
ข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ : | NUE NOBLE CENTRE BANGNA |
เนื้อที่โครงการ : | 2-0-95 ไร่ |
จำนวนห้องพัก : | 204 UNITS |
Developer : | NOBLE DEVELOPMENT |
จำนวนที่จอดรถ : | 76 คัน ไม่รวมซ้อนคัน (ประมาณ 37%) |
สถานะโครงการ : | Pre-Sale กำหนดการแล้วเสร็จพฤศจิกายน 2022 |
Facility : | – Lobby และ Mail Room – ห้อง Vending Machine – ห้อง Washing Machine – สระว่ายน้ำ – สวน + สนามเด็กเล่น อาคารส่วนกลาง – ชั้น 1 : Lobby & Co-Working Area – ชั้น 2 : Gym & Boxing Zone – ชั้นดาดฟ้า : สวน & BBQ Corner – ชั้นใต้ดิน : Entertainment Area, Game Space, Sunken Courtyard |
ความปลอดภัย : | – ระบบรักษาความปลอดภัยด้วยคีย์การ์ด – กล้องวงจรปิด 24 ชม. – รปภ. 24 ชม. |
แบบห้อง : | 1 Bedroom 24.30 – 24.80 ตร.ม. (60 Units) 1 Bedroom 29.30 – 29.80 ตร.ม. (72 Units) 1 Bedroom Plus 34.80 ตร.ม. (48 Units) 1 Bedroom Plus 37.50 ตร.ม. (12 Units) 2 Bedroom Plus 52.00 ตร.ม. (12 Units) |
ราคา : | เริ่มต้น 2.19 ล้านบาท |
จุดเด่นที่ 2 : ยก spec แบบกลางสุขุมวิทมาไว้ที่บางนา
เรามาดูภาพรวมของโครงการกันครับ โครงการนี้จะเป็นโครงการขนาดไม่ใหญ่มาก บนพื้นที่ประมาณ 2 ไร่นิดๆ ครับ ตัวโครงการ Nue Noble Centre Bangna จะแตกต่างกับโครงการอื่นๆ ในย่านนี้พอสมควรด้วย spec ของทั้งตัวตึก ส่วนกลาง ที่ค่อนข้างสูง ตัวห้องเป็นห้องหน้ากว้าง น่าจะเป็นหนึ่งในโครงการที่ spec ดีที่สุดในย่านนี้เลยครับ เดี๋ยวเราค่อยๆ มาดูกันทีละจุดว่าทาง Noble เค้าพยายามใส่อะไรมาในโครงการบ้าง
เริ่มจากรูปแบบตึกครับ ที่นี่จะจัดออกมาเป็นอาคาร Low Rise สองอาคาร ซึ่งปกติอาคาร Low Rise ทั่วไปจะจัดออกมาได้ตามความสูงของกฎหมายได้ 8 ชั้น แต่ที่นี่จะจัดออกมาอยู่ที่ 7 ชั้นครับ ทำให้ความสูงของเพดานแต่ละชั้นสูงขึ้น เป็น 2.6 เมตร ถือว่าค่อนข้างสูงสำหรับคอนโดแบบ Low Rise
นอกจากนี้ที่ชั้น 1 ของทั้ง 2 อาคารจะจัดเป็นพื้นที่จอดรถ ห้องพักอาศัยจะมีอยู่แค่ชั้น 2-7 และเป็นห้อง plan แบบหน้ากว้างทั้งหมด ทำให้ห้องพักอาศัยของที่นี่จะมีไม่เยอะมาก เพียงแค่ 204 unit แบ่งตึกละ 102 unit เท่านั้นเองครับ
ดีไซน์ของตัวโครงการจะทำออกมาแบบสมมาตรกันเมื่อมองเข้ามาจากด้านนอก สีตึกมาในสี Sand ออกโทนเหลืองแบบสีของทราย นอกจากนี้ยังได้กระจกหน้าต่างบานใหญ่แบบพื้นถึงฝ้าทุกห้องอีกครับ
จุดเด่นที่ 3 : ส่วนกลางจัดเต็ม 3 ชั้น + ดาดฟ้า
อย่างที่บอกไปว่าที่นี่จะเน้น spec ที่ค่อนข้างดี ส่วนกลางที่จัดมาให้ของที่นี่ก็เรียกได้ว่าให้มาเต็มที่ครับ ถึง unit ของที่นี่จะมีแค่ 204 ห้อง แต่ส่วนกลางก็ให้มาครบเกินจำนวนไปพอตัวเลยครับ เริ่มจากพื้นที่โครงการด้านหน้า เข้ามาจะเจอกับ Drop off รับส่งก่อนครับ ถัดมาจะเจอกับอาคารส่วนกลาง ที่ชั้น 1 ของที่นี่ จะเป็น Centre Lobby ใช้ร่วมกันสองอาคาร เป็น Lobby สำหรับรับแขกหรือมานั่งทำงานได้ จุดเด่นคือการตกแต่งจะเน้นออกมาในโทนสว่าง พร้อมกระจกเต็มบานรอบด้านทำให้ดูโปร่งครับ
บริเวณชั้น 2 จะเป็นห้องฟิตเนส ที่จะมีทั้งลู่วิ่ง machine ต่างๆ รวมไปถึงโซนชกมวยครับ ชั้นนี้ก็ยังเป็นห้องกระจกรอบด้านเช่นเดียวกัน สามารถชมสวนตอนออกกำลังกายได้
ดาดฟ้าของอาคารส่วนกลางจะจัดออกมาเป็นสวน สามารถขึ้นมาใช้งานได้ด้วยเช่นเดียวกัน
ไฮไลท์ของอาคารส่วนกลางก็คือนอกจากชั้น 1 ชั้น 2 และดาดฟ้าแล้ว เค้ายังมีชั้นใต้ดิน ทำเป็นห้องนั่งเล่น มีโต๊ะพูล รวมไปถึงมี Terrace เล็กๆ สามารถไปนั่งพักผ่อนได้ครับ ซึ่งบริเวณ Terrace ตรงนี้ก็จะเป็นช่องเปิดให้แสงส่องลงไปถึงชั้นใต้ดินได้
มาถึงสวนและสระว่ายน้ำกันบ้างครับ สระของที่นี่จะถูกจัดไว้ตรงกึ่งกลางระหว่าง 2 อาคารที่ชั้นหนึ่ง สระว่ายน้ำจะมีขนาดพอตัวไม่ใหญ่ไม่เล็กสำหรับคอนโดไซส์นี้ครับ ที่บริเวณด้านข้างของสระก็จะมีสวนตลอดแนวเพิ่มความร่มรื่น และมีศาลาพร้อม day bed อยู่ริมสระ มานั่งพักผ่อนได้
ตรงนี้ทางโครงการยังแอบแบ่งพื้นที่เล็กๆ มาทำเป็นสนามเด็กเล่นด้วยนะครับ เพิ่มความหลากหลายในการใช้งาน พื้นที่จอดรถของที่นี่ถึงแม้จะอยู่ชั้น 1 เช่นเดียวกับสวนและสระ แต่จะมีการแบ่ง zone พร้อมกั้นรั้ว/กำแพงต้นไม้ เพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับการใช้งานส่วนกลาง
ผังตึก
ผังของโครงการที่ชั้น 1 ใต้อาคารทั้งหมดก็จะเป็นที่สำหรับจอดรถครับ สามารถจอดได้ 76 คันหรือ 37% ไม่รวมซ้อนครับ โดยใช้การวน One Way แล้วไปออกอีกทางนึง ก็จะสามารถจอดรถซ้อนคันได้อีกจำนวนนึงครับ ที่ Lift lobby ของแต่ละตึกอาจจะไม่ได้มีขนาดใหญ่มาก เพราะจะใช้ Lobby ที่ตึกกลางเป็น Lobby ต้อนรับแล้ว จุดนี้ก็จะเป็นห้องจดหมาย และมีห้องสำหรับ Vending Machine ด้วยครับ
ถัดมาส่วนของชั้นพักอาศัย ลิฟต์ที่นี่จัดมาแบบเหลือๆ ครับ โดยมี 4 ตัว แบ่งเป็นตึกละ 2 ตัว ตึกนึงก็มีแค่ 102 ห้องเท่านั้นเอง ดังนั้นความหนาแน่นในการใช้ลิฟต์ค่อนข้างน้อยเลยครับ การจัดผังห้องที่นี่ส่วนใหญ่จะนำเอาห้องไซส์ 1 Bedroom ขนาด 24.30 และ 29.80 ตารางเมตรไว้รับวิวด้านนอก ส่วนห้อง 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom Plus จะเน้นเป็นวิวส่วนกลางด้านในครับ หน้า 2 Bedroom Plus จะค่อนข้างพิเศษตรงที่ชั้นนึงของแต่ละตึกจะมีเพียงแค่ห้องเดียวเท่านั้นเอง
คลิกเพื่อดูผังเป็นรูปใหญ่ได้ครับ
จุดเด่นที่ 4 : แปลนห้องหน้ากว้างทั้งโครงการ ที่คิดมาแล้ว!!
จุดเด่นอีกอย่างของ Nue Noble ในหลายๆ โครงการที่ผ่านมาคือผังห้องที่ทำมาในแนวหน้ากว้าง สำหรับโครงการนี้ก็เช่นเดียวกันครับ ห้องทุกห้องของที่นี่จะทำมาเป็นห้องแบบหน้ากว้างหมดเลย
แล้วห้องหน้ากว้างคืออะไร
ห้องหน้ากว้าง ถ้าว่าง่ายๆ ที่สังเกตได้คือก็จะเป็นห้องที่เปิดเข้ามาแล้วไม่เจอกับห้องนอนครับ มีพื้นที่หน้ากว้าง ที่กว้างพอที่จะเอาห้องนอนจัดเป็นสัดส่วนไว้อีกฝั่งนึงด้านข้างของห้องได้
ซึ่งห้องหน้ากว้างนี่เราก็อาจจะไม่ได้เห็นได้เยอะนักเพราะการทำห้องแบบหน้ากว้างจะมีต้นทุนการก่อสร้างที่สูงกว่าครับ นึกภาพสมมุติตึกมีโถงทางเดินยาว 20 เมตร ห้องกว้างแค่ห้องละ 4 เมตรก็จะมีจำนวนห้องได้ 5 ห้อง แต่ถ้าหน้าห้องกว้าง 6 เมตร ก็จะสร้างแค่ 3 ห้องกว่าๆ เอง
ถ้าจะทำให้ได้ 5 ห้องเท่ากัน ก็ต้องเพิ่มโถงทางเดินยาวไป 30 เมตรเลยทีเดียว เป็นการเพิ่มต้นทุนตึกอีกอย่างนึง
แล้วห้องหน้ากว้างดียังไง
ข้อดีของห้องหน้ากว้างคือ ห้องจะมีพื้นที่ติดกับด้านนอกอาคารมากกว่า ทำให้สามารถใส่หน้าต่างมาได้เยอะกว่า มีช่องแสงที่มากกว่า นึกภาพ plan ห้องที่เป็นห้องนั่งเล่น ต่อด้วยห้องนอน แล้วต่อด้วยหน้าต่าง แสงก็จะส่องเข้ามาห้องนั่งเล่นได้ไม่ดีเท่ากับห้องที่ทุกห้องมีหน้าต่างเป็นของตัวเองนั่นเองครับ ซึ่งพอทุกห้องมีหน้าต่างของตัวเอง ก็จะทำให้ห้องดูไม่อุดอู้ และแสงจากหน้าต่างก็จะช่วยให้ห้องดูโปร่งขึ้นแบบรู้สึกได้ ดังนั้นต่อให้ห้องที่พื้นที่เท่ากัน แต่พอเป็นห้องแบบหน้ากว้างก็จะดูกว้างกว่านั่นเองครับ
บวกกับการให้หน้าต่างแบบพื้นถึงฝ้า และความสูงเพดานที่ 2.6 เมตร ยิ่งทำให้ห้องของที่นี่จะดูโปร่งขึ้นไปอีก นอกจากนี้ห้องก็จะดูเป็นสัดเป็นส่วนกว่าห้องแนวลึก ห้องนอนก็จะเป็นห้องนอนที่มีประตูปิดจริงๆ เหมาะกับคนที่ชอบความเป็นส่วนตัวสำหรับห้องนอนครับ
แปลนห้องที่คิดมาให้แล้ว
นอกจากแปลนห้องที่นี่จะชูจุดเด่นที่เป็นแปลนห้องหน้ากว้างแล้ว จุดเด่นอีกอย่างคือเค้าจะคั้นพื้นที่ใช้สอยทุกตารางเมตรมาให้ใช้ประโยชน์ได้จริงครับ ทำให้พื้นที่ห้องถึงแม้จะเริ่มต้นที่ 24.30 ตารางเมตร แต่ก็สามารถจัดออกมาเป็นห้องแบบ 1 Bedroom มีห้องนอนปิดได้ แถมยังไม่รู้สึกอึดอัด จะเป็นยังไงเดี๋ยวเราลองมาดูแปลนจากห้องตัวอย่างแต่ละห้องที่เค้าทำออกมากันครับ
1 Bedroom ขนาดเริ่มต้น 24.30 ตร.ม.
เริ่มกันที่ห้องแรก ขนาด 24.30 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 2.19 ล้านบาท ถ้าเป็นทั่วไป ห้อง size นี้ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นห้องแนว studio หรือห้องที่เปิดเข้ามาแล้วเห็นห้องนอนอยู่ถัดจากห้องนั่งเล่นเป็นประตูบานเลื่อนปิด แต่ห้องนี้ด้วยความเป็นห้องหน้ากว้าง 5 เมตรนิดๆ พื้นที่ประมาณ 24 ตร.ม. เท่ากันเลยสามารถจัดห้องนอนเป็นห้องนอนแบบปิดได้ครับ
โดยเมื่อเราเข้ามาในห้องก็จะเจอกับส่วนครัวก่อน ห้องนี้จะจัดเคาท์เตอร์ครัวไว้ด้านซ้ายและขวาของตัวห้อง และใช้ทางเดินตรงกลางร่วมกันกับทางเดินเข้าห้อง ทำให้ได้พื้นที่ใช้งานครัวขนาดใหญ่ ไม่เสียฟังก์ชั่น แต่ครัวก็ไม่กินขนาดพื้นที่ห้องมากเกินไป
ครัวของที่นี่จะมีกระจกบานเลื่อนกั้นมาให้ด้วยครับ ข้อดีคือจะแบ่งโซน กันกลิ่นต่างๆ เวลาทำอาหารได้ ข้อดีอีกข้อที่เสริมเข้ามาคือช่วยกันเสียงในห้อง เวลาเปิดทีวีหรือทำอะไรเสียงก็ไม่ดังออกไปข้างนอก และเสียงข้างนอกก็เข้ามารบกวนได้น้อยลง
ห้องนั่งเล่น ก็จัดฟังก์ชั่นการใช้งานออกมาได้สมส่วนครับ สามารถวางชั้นวางทีวีพร้อมโซฟา 2 ที่ และวางโต๊ะกินข้าวหรือโต๊ะทำงานเล็กๆ ได้อีกหนึ่งตัวห้องนั่งเล่นจะมีประตูออกไปทางระเบียงได้ครับ เป็นช่องแสงขนาดใหญ่สำหรับห้องนั่งเล่น
ถัดมาที่ห้องนอนครับ ห้องนี้ก็จะสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ ที่บริเวณข้างเตียงจุดนี้ก็จะเป็นอีกจุดที่จัดการใช้พื้นที่ร่วมกันออกมาได้ดีฮะ คือเค้าจะเอาพื้นที่เดินขึ้นเตียง รวมกับพื้นที่ใช้แต่งตัว รวมกับพื้นที่ใช้งานโต๊ะเครื่องแป้ง ทำให้ห้องนอนมีฟังก์ชั่นครบ
ส่วนห้องน้ำของที่นี่ก็จะให้มาขนาดมาตรฐานเลยครับ ไม่ได้ถูกเบียดพื้นที่ไปแต่อย่างใด สังเกตว่าทั้งห้องแทบไม่มีพื้นที่ไหนที่เสียไปแบบเปล่าประโยชน์เลย และแบ่ง % ให้กับการใช้งานแต่ละส่วนค่อนข้างดี อันนี้ก็เป็นจุดขายของห้องที่นี่ที่ไม่ได้เน้นขนาดห้องใหญ่ แต่เน้นการจัดสรรและการให้ความรู้สึกในการอยู่อาศัยในห้องที่ดีแทนครับ
นอกจากนี้ห้องขนาด 24.30 ตารางเมตร จะมีมาให้เลือก 2 แบบครับ สำหรับใครที่เน้น Living ก็จะเป็นห้องนั่งเล่นติดระเบียง ส่วนใครที่เน้นทำอาหาร เค้าก็มีผังที่สลับเอาห้องครัวย้ายไปอยู่ติดกับระเบียง เพื่อให้ระบายอากาศได้ดีขึ้นแทนครับ
1 Bedroom ขนาด 29.30 ตร.ม.
ลองมาดูกันว่า ห้องนี้ที่เพิ่มพื้นที่มา 5 ตารางเมตร จากห้องแรก จะได้พื้นที่ทำอะไรขึ้นมาเพิ่มบ้างครับ ลองมาดูผังห้องในภาพรวมกันก่อน รูปแบบจะไม่ต่างกับ 24.30 ตารางเมตร ที่เป็นห้องครัวติดระเบียงมากครับ (ห้องไซส์ 29.30 ตารางเมตรจะเป็นห้องแบบครัวติดระเบียงทั้งหมด) หน้ากว้างของห้องจะอยู่ประมาณ 5 เมตรกว่าเช่นกัน
เข้ามาในห้องนี้จะพบกับพื้นที่นั่งเล่นก่อน แน่นอนว่าก็ยังใช้พื้นที่ร่วมกันระหว่างโซนตู้เก็บรองเท้าและโซน living ให้ไม่เสียพื้นที่เปล่าๆ มากเกินไปครับ ห้องนี้จะวางโซฟาที่ขนาดกว้างขึ้นได้มากกว่าเดิม
แต่จุดที่เด่นที่ต่างเลยของห้องนี้คือเป็นห้อง 29.30 ตารางเมตรที่สามารถวางโต๊ะกินข้าวแบบนั่งกินจริงจังได้ 4 คนพร้อมกันแบบไม่อึดอัด ก็จะสะดวกเวลามีแขกไปใครมา หรือจัดปาร์ตี้เล็กๆ ที่ห้องครับ ส่วนห้องครัวก็จะถูกจัดออกมาเป็น 2 ฝั่ง ขนาดเช่นเดียวกันกับห้องไซส์ 24.30 ตารางเมตร
ส่วนของห้องนอน สิ่งที่เพิ่มเข้ามาคือห้องนี้จะมีพื้นที่ สามารถทำเป็น Walk-in Closet แบบกั้นเป็นห้องปิดได้เลยครับ มีพื้นที่มากพอ อย่างในห้องตัวอย่างทำมาให้ดูเป็นไอเดีย ส่วนของจริง เราจะได้เป็นชุดตู้เสื้อผ้ามาครับ
1 Bedroom Plus หน้ากว้างงงง 34.80 ตารางเมตร
ห้องนี้จะเป็นอีกขั้นของห้องหน้ากว้างครับ กับความกว้างถึง 7.6 เมตร เลยสามารถจัด Plan ห้องมาแบบ 1 Bedroom Plus ที่เกือบจะเป็น 2 Bedroom ได้ ในพื้นที่มาแค่ 34.80 ตารางเมตร ห้องนี้ก็เป็นอีกห้องที่จัดผังออกมาลงตัว หลายคนพูดถึงตั้งแต่ใน Nue Noble โครงการก่อนหน้าแล้ว เราลองมาดูกันว่า 34.80 ตารางเมตรของที่ Nue Noble เค้าทำอะไรได้บ้าง
เปิดเข้ามาจะเจอกับโซนโต๊ะกินข้าวขนาดใหญ่ครับ ซึ่งห้องนี้ก็เช่นกัน สามารถจัดออกมาเป็นโต๊ะกินข้าวขนาด 4 ที่นั่งได้แบบสบายๆ
ชุดครัวของห้องนี้จะทำออกมาเป็นแบบตัว U ครับ ซึ่งมีขนาดใหญ่มากๆ คือต้องบอกว่าขนาดห้องครัวจริงๆ ของห้องนี้ก็อาจจะไม่ได้ใช้พื้นที่มากกว่าห้องครัวของห้อง 34.80 ตารางเมตรปกติทั่วไปครับ แต่พอออกแบบมาเป็นตัว U ที่มีพื้นที่ให้คนยืนตรงกลาง แล้วทำเคาน์เตอร์โอบล้อมคน ตรงนี้เป็นจุดที่ทำให้เพิ่มพื้นที่ใช้สอยของชุดครัวออกมาได้เยอะทีเดียว แถมยังมีพื้นที่ที่เชื่อมโยงกันระหว่างส่วนเตรียมอาหาร และโต๊ะรับประทานอาหารด้วยครับ
ห้องนี้จะมีโซน Living อยู่กึ่งกลางของตัวห้อง แยกห้องนอนแต่ละห้องไปอยู่ที่คนละปีกกัน เพิ่มความเป็นส่วนตัว ห้องนั่งเล่นขนาดพอดีๆ ไม่ใหญ่มากครับ
ห้องนอน Plus ห้องนี้จะเป็นห้องอเนกประสงค์ สามารถทำเป็นห้องนอน วางเตียง 3.5 ฟุตพร้อมตู้เสื้อผ้าได้ หรือใครที่อยู่ 1-2 คนก็สามารถปรับห้องนี้เป็นห้องทำงานได้ครับแล้วค่อยปรับการใช้งานในอนาคตเผื่อครอบครัวขยายขึ้น ถึงจะเป็นห้อง Plus แต่ก็มีแอร์มาให้ในห้องนี้ด้วยนะครับ เท่ากับว่าห้อง Plan นี้จะได้แอร์ 3 ตัวเลย
ถัดมาเป็นห้องนอนใหญ่ครับ ห้องนี้ก็จะสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ มีโซนโต๊ะเครื่องแป้งกับตู้เสื้อผ้าใช้พื้นที่ร่วมกัน
จุดเด่นของห้อง plan นี้อีกอย่างคือเค้าจะทำประตูห้องน้ำให้สามารถเข้าออกได้ 2 ด้านครับ สามารถเข้าจากทางห้องนั่งเล่นก็ได้ หรือเข้าจากทางห้องนอนใหญ่ก็ได้เช่นกัน เป็นการเพิ่มความเป็นส่วนตัวในการใช้งาน แขกก็ไม่ต้องเดินเข้าห้องนอน แต่ก็ยังไม่เสียพื้นที่ไปกับการต้องมีห้องน้ำหลายห้อง
จุดเด่นที่ 5 : Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ครบ
ชุดครัว
ที่นี่ให้ของมาเต็มที่ครับ เรามาดูกันว่ามีอะไรบ้าง เริ่มจากชุดครัว ชุดครัวจะได้ตามห้องตัวอย่างเลย สำหรับห้องแบบ 1 Bedroom จะเป็นครัวแบบ 2 ฝั่งทุกห้อง ส่วนห้องที่เป็น 1 Bedroom Plus ขึ้นไป ก็จะอัพเกรดเพิ่มขึ้นไปเป็นครัวรูปแบบตัว U ครับ
ชุดครัวมีพื้นที่เตรียมไว้ให้สำหรับติดตั้งเตาไฟฟ้า, ตู้เย็น, และเครื่องซักผ้าได้ (แต่ไม่ได้ให้มาด้วยนะครับ)
รายการเฟอร์นิเจอร์และของที่ให้มา
สำหรับหน้าตาเฟอร์นิเจอร์ที่ให้มากับโครงการนั้น หน้าตาจะเหมือนกันกับที่อยู่ในห้องตัวอย่างทั้ง 3 ห้องเลยครับ รายละเอียดของเฟอร์นิเจอร์ในแต่ละห้องจะต่างกันเล็กน้อย ตามขนาดและพื้นที่ที่ได้มา
ห้อง 1 Bedroom 24.30 ตารางเมตร :
1. โซฟา 2 ที่นั่ง
2. โต๊ะกลางโซฟา
3. ชั้นวางทีวี
4. โต๊ะรับประทานอาหาร
5. เก้าอี้รับประทานอาหาร 2 ตัว
6. เคาท์เตอร์ครัว
7. เตียง (ไม่รวมฟูก)
8. โต๊ะข้างเตียง
9. ตู้เสื้อผ้า
10. โต๊ะเครื่องแป้ง (ไม่รวมเก้าอี้สตูล)
11. ชั้นวางของบิ้วท์อินในห้องน้ำ
12. แอร์ 2 เครื่อง
ห้อง 1 Bedroom 29.30 ตารางเมตร :
สิ่งที่เพิ่มจากห้อง 24.30 ตารางเมตร
1.โซฟาใหญ่ขึ้นพร้อมที่วางขารูปตัว L
2. โต๊ะรับประทานอาหารใหญ่ขึ้น
3. เก้าอี้รับประทานอาหารเพิ่มเป็น 4 ตัว
4. ตู้เสื้อผ้าใหญ่ขึ้นแบบ Walk-in Closet แต่ plan นี้จะไม่ได้ให้โต๊ะเครื่องแป้งมาครับ
ห้อง 1 Bedroom Plus 34.80 ตารางเมตร :
สิ่งที่เพิ่มจากห้อง 24.30 ตารางเมตร
1. โต๊ะรับประทานอาหารใหญ่ขึ้น
2. เก้าอี้รับประทานอาหารเพิ่มเป็น 4 ตัว
3. ชุดครัวรูปตัว U
4. เตียงห้องนอนเล็ก
5. ตู้เสื้อผ้าห้องนอนเล็ก
6. แอร์เพิ่มเป็น 3 เครื่อง
ห้องน้ำ
มาดูห้องน้ำที่ทางโครงการจัดมาให้บ้างครับ ขนาดถือว่าพอดีๆ ไม่เล็กครับ ทุกห้องจะได้ห้องน้ำ Spec แบบเดียวกัน สุขภัณฑ์จะเป็นของ Nahm ส่วนพวกก๊อกต่างๆ จะใช้เป็นของ Kohler ครับ ชุดอ่างล้างหน้าพร้อมชั้นวางของจะได้แบบนี้เลย
ห้องตัวอย่างจะมีไฟซ่อนหลังกระจกกับหลังตู้มาให้ แต่ห้องที่ได้จริงจะไม่มีไฟนะครับ แต่ยังได้กระจกขนาดใหญ่ติดผนัง และชุดตู้บิวด์สำหรับเก็บของในส่วนแห้งอยู่
วัสดุที่ให้ค่อนข้างดูดีเป็นกระเบื้องแกรนิโต้แผ่นขนาดใหญ่ มีระบบพัดลมระบายอากาศดูดออกไปข้างนอกให้ด้วย เสียดายที่ตัวฉากกันอาบน้ำอันนี้ ทางโครงการไม่ได้ให้มาด้วยครับ
แบบห้อง Plan ทั้งหมดที่มีให้เลือก
สำหรับ Plan หลักๆ ของที่นี่ก็จะเป็นห้องที่นำมาทำเป็นห้องตัวอย่างให้ดูทั้ง 3 ห้องแล้วครับ แต่ก็จะมีที่ต่างออกไปบ้าง เช่นแปลนที่เป็นการสลับห้องครัวของห้อง 24.30 ตารางเมตรไปอยู่ติดระเบียง หรือใครที่ต้องการห้องสำหรับครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น ที่นี่ก็ยังมีห้องขนาด 2 Bedroom Plus ขนาด 52 ตารางเมตร ที่จริงๆ ก็เรียกได้ว่าแทบจะเป็น 3 ห้องนอน มาให้เลือกอีก 1 ไซส์ครับ
คลิกเพื่อดูผังเป็นรูปใหญ่ได้ครับ
สรุป
สำหรับโซนบางนาในปีนี้ก็ต้องบอกว่าเป็นโซนที่ค่อนข้างร้อนแรงเลยหล่ะครับ ถึงจะเป็นทำเลรอบนอก แต่ในเรื่องของความเจริญ ย่านนี้เค้าก็มีความเจริญในตัวของเค้าเองอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว บวกกับโครงการที่เตรียมจะมาในอนาคตต่อไปอีก หลายๆ เจ้าก็คงเห็นโอกาสของทำเลตรงนี้เหมือนๆ กัน
ทีนี้ลองมาดูที่ทำเล Central บางนา ตัวทำเลก็มีความคึกคัก มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยตัวเอง แน่นอนว่าตรงนี้อาจจะไม่ได้เป็นจุดที่ติดกับรถไฟฟ้าโดยตรง แต่แลกมากับข้อดีคือติดห้างแบบติดเลยจริงๆ ฝั่งนึงเป็น Big C ข้ามถนนหนึ่งที เป็น Central บางนา ซึ่งโครงการก็เน้นกลุ่มคนที่ทำงานในย่านบางนาเป็นหลักครับ แต่ถ้าวันไหนอยากเข้าเมือง อยากไปที่อื่นก็ยังไปขึ้นรถไฟฟ้าได้ในระยะที่ไม่ไกลมากประมาณ 1-4 กิโลเมตร
พอพูดถึงคอนโดย่านบางนา ก็ต้องยอมรับว่าย่านนี้คอนโดส่วนใหญ่จะทำออกมาอยู่ในระดับแบบ Budget คอนโด คือเน้นราคาถูก spec ห้องอาจจะไม่สูงมาก ส่วนกลางธรรมดา แต่ที่ Nue Noble เปิดตัวออกมาก็ถือว่าจะฉีกกับคนอื่นแถวนี้พอสมควร อาจจะด้วยทำเลที่ดินที่ทาง Noble ได้ ไม่ใช่แค่ใกล้ Central แต่เป็นแปลงที่เรียกได้ว่าแทบจะดีที่สุดในซอยนี้ ติดปากซอยที่สุด ใกล้ 2 ห้างมากที่สุด เลยพยายามยกระดับ spec ออกมาให้ดีไปเลย
ยกตัวอย่างเช่น Plan ตึกที่ Unit น้อยแค่ 204 ห้อง ทำออกมาแค่ 7 ชั้นให้เพดานสูง พยายามจัดห้องเป็นหน้ากว้างอีก กระจกสูงเต็มพื้นถึงฝ้า ส่วนกลางมาเต็ม เฟอร์นิเจอร์ครบทั้งห้อง แน่นอนว่าเมื่อรวมทุกอย่างเข้าด้วยกัน ราคาของที่นี่ก็คงจะไม่ใช่ที่ที่ถูกที่สุดเมื่อเทียบกับที่อื่น แต่ทาง Noble เองก็วางตำแหน่งโครงการนี้ไว้สำหรับใครที่อยากจะเพิ่มเงินจากปกติหน่อย แต่ได้การอยู่อาศัยที่ดีขึ้น ทั้งเรื่องการใช้ชีวิตประจำวัน บรรยากาศแวดล้อม และการอยู่ในห้องครับ
ถ้าถามว่าเหมาะกับใคร ทีมงานมองว่าทำเลที่นี่ได้ทั้งอยู่เองและปล่อยเช่าครับ เหมาะกับกลุ่มคนที่คุ้นเคยในทำเลบางนา หรือทำงานในย่านนี้เป็นหลัก ซึ่งถ้าจะหาโครงการที่ spec ระดับบนขึ้นมาหน่อย ตัวเลือกจริงๆ ก็น้อยมาก ส่วนใหญ่ก็จะไปตั้งอยู่ติดรถไฟฟ้าโซนสุขุมวิทเป็นหลัก ซึ่งสำหรับบางคนที่ทำงานย่านนี้ การต้องไปอยู่สุขุมวิทถึงติดรถไฟฟ้าก็อาจจะลำบากกว่าเดิม ที่นี่เลยเป็นเหมือนกับการยกคอนโด spec แบบย่านสุขุมวิท มาตั้งติดกับ Central บางนา แบบที่เราจั่วหัวไปครับ เป็นอีกทางเลือกสำหรับใครที่ชอบทำเลย่านตรงนี้
สิ่งที่ชอบ
- ส่วนกลางที่ให้มาเทียบกับ unit แล้วถือว่าเยอะมากครับ ทั้งตึกส่วนกลางตรงกลางที่มี 3 ชั้น + ดาดฟ้า สวนและสระว่ายน้ำที่ได้ขนาดไม่เล็กเลย
- ความพยายามอัพ spec ในหลายๆ จุดไม่ว่าจะเป็นลดเหลือ 7 ชั้น ห้องหน้ากว้าง หน้าต่างบานใหญ่ เป็นห้อง 24.30 ตารางเมตร ที่เข้ามาดูห้องตัวอย่างแล้วไม่อึดอัด
- การจัดฟังก์ชั่นห้อง ใช้พื้นที่ร่วมกันได้ดีครับ แทบจะไม่มีจุดไหนของห้องที่เสียพื้นที่ไปเป็นทางเดินหรือที่โล่งเปล่าๆ เลย ทำให้ถึงแม้ขนาดห้องไม่ใหญ่ แต่ก็ได้ฟังก์ชั่นที่ควรจะมีครบครับ (อย่างห้อง 34.80 ตร.ม. ที่ทำครัวตัว U วางโต๊ะ 4 ที่นั่ง พร้อมทำเป็น 2 ห้องนอนได้ ห้องน้ำเข้าได้ 2 ทาง อันนี้ก็คือไปไกลมาก)
- ทำเล Centre Bangna ที่ก็เป็น Center ของบางนาจริงๆ ครับ
ข้อสังเกต
- ด้วยทำเลและ spec ที่ให้มาค่อนข้างเต็มที่ ทำให้ราคาอาจจะไม่ได้ถูกที่สุด
- ที่จอดรถของที่นี่จะอยู่ที่ 37% ไม่รวมซ้อนคัน อาจจะไม่ได้เยอะมากครับ แต่ถ้าจอดซ้อนคันก็จะจอดเพิ่มขึ้นได้อีกนิดหน่อย
- แอบเสียดายที่ห้องไม่ได้ให้ฉากกั้นอาบน้ำ หรือเตาทำอาหารมาให้ ถ้าให้ตรงนี้มาด้วยก็จะครบเลย
- โครงการไม่ได้ให้เครื่องดูดควันมา ใครทำครัวหนักอาจจะเลือกเป็น Plan ที่ห้องครัวอยู่ติดระเบียงครับ
สำหรับใครที่สนใจโครงการ Nue Noble Centre Bangna ตอนนี้ก็เปิดให้ชมห้องตัวอย่างและเปิดจองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สามารถไปชม Sale Gallery ได้ที่ชั้น 4 ศูนย์การค้า Central บางนาครับ
สัมผัสชีวิตที่มีครบทุกสิ่งเพียงไม่กี่ก้าว ที่ นิว โนเบิล เซ็นเตอร์ บางนา ทุกสิ่งที่ใช่… อยู่ใกล้กว่าที่คิด
- 1 ห้องนอน เริ่ม 2.19 ล้าน*
- ผ่อนเริ่ม 7,000 บาท*
- คอนโดห้องหน้ากว้าง เฟอร์ครบ!
- เพียง 10 ก้าว ถึงเซ็นทรัล บางนา
- ลงทะเบียนวันนี้ ฟรีเงินจอง!* จำนวนจำกัด
- ชมห้องตัวอย่างและจองเลย
#ทุกสิ่งที่ใช่อยู่ใกล้กว่าที่คิด
#NueNobleCentreBangna #NobleDevelopment