วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ ไปดูโครงการ “Maestro 19 รัชดา 19 – วิภา” กันครับ ผมบอกเลยว่าไฮไลต์ของที่นี่คือ สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ จริงๆ แทบทุกโครงการของ Major Development สามารถเลี้ยงสัตว์ได้หมดเลยครับ เป็น Pet Friendly ที่มีโซนสำหรับน้องหมาน้องแมวของเราโดยเฉพาะด้วย ที่นี่อยู่ห่างจาก MRT รัชดาภิเษกประมาณ 650 เมตร ก็เดินทางสะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัวและขนส่งสาธารณะ และด้วยความที่เป็นแหล่งชุมชนอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องอาหารการกินหายห่วงแน่นอน
Maestro 19 Ratchada 19 – Vipha
(มาเอสโตร 19 รัชดา 19 – วิภา)
โครงการ “Maestro 19 รัชดา 19 – วิภา” เป็นโครงการ Low Rise สูง 8 ชั้น พัฒนาโดย Major Development สำหรับแบรนด์ Maestro จะเป็นคอนโด Low Rise ทั้งหมดครับ เขาจะมีหลากหลายทำเลให้เลือกเลย ที่นี่จะมีทั้งหมด 4 อาคาร อาคารละ 140 ยูนิต ถ้านับรวมก็จะมี 560 ยูนิต คอนเซปต์จะมาในสไตล์ Industrial Elegant เป็นความดุดันที่ยังคงสง่างามอยู่ฮะ ด้วยความที่เป็นคอนโด Low Rise อาจจะไม่ได้ให้ส่วนกลางมาเยอะแยะมากมาย โดยพื้นที่ส่วนกลางจะรวมตัวกันอยู่ใจกลางโครงการ เป็นอาคารแยกตัวออกมา
ชั้นล่างกับชั้นใต้ดิน (ที่มีบางอาคาร) จะเป็นที่จอดรถ มี 59% แบบไม่เจาะจงที่นะครับ ส่วนชั้น 2 – 8 จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมด แต่ละชั้นจะมีชั้นละ 20 ห้องเท่ากัน ถึงที่นี่จะเป็นคอนโดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ แต่คนที่ไม่เลี้ยงสัตว์ก็สามารถอยู่ได้เช่นกันนะ แต่ก็ต้องยอมรับไลฟ์สไตล์แบบที่จะเจอสัตว์เลี้ยงของลูกบ้านคนอื่นๆ ได้ด้วย แล้วถ้าเราอยากเลี้ยงสัตว์ เราต้องนำน้องไปลงทะเบียนกับทางนิติบุคคลก่อน ประมาณ 3,600 บาท/ตัว/ปี อ้อ! ด้วยความที่โครงการเป็น Pet Friendly ดังนั้นเขาก็จะออกแบบส่วนประกอบหรือวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้มีความแข็งแรง ทนทานต่อการเลี้ยงสัตว์ ก็เป็นอะไรที่ใส่ใจดีครับ
Clubhouse
เวลาเราเข้ามาในโครงการ หรือยืนอยู่ด้านนอกแล้วมองเข้ามาด้านใน ก็จะเห็นอาคาร Clubhouse ตั้งโดดเด่นอยู่ตรงกลาง การออกแบบอาคารดูคลาสสิก ไม่ได้ดูเยอะจนเกินไป แต่ก็ยังคงรายละเอียดตามส่วนต่างๆ ของอาคารเอาไว้ได้เป็นอย่างดี
ทางทีมงานเล่าให้เราฟังว่าด้านหน้า Clubhouse ช่วงเย็นๆ จะมีเหล่าลูกบ้านพาน้องหมามานั่งเล่น สัตว์เลี้ยงของเราได้เจอเพื่อน เจ้าของเองก็ได้พบปะเพื่อนบ้าน เป็น Community เล็กๆ ที่น่ารักดีฮะ ก่อนที่เราจะกลับก็เจอลูกบ้านพาน้องหมามานั่งเล่นเหมือนกัน เลยขอถ่ายรูปเอาไว้แชร์ความน่ารักกับเพื่อนๆ ด้วย
บรรยากาศด้านใน Clubhouse จะมีทั้งหมด 3 ชั้น ด้านล่างก็จะเป็น Lobby มีที่นั่งเล่น หรือจะมานั่งทำงานก็ได้ฮะ แล้วก็จะมีห้องนิติบุคคลด้วย
ขึ้นมาชั้น 2 เราจะใช้บันไดหรือลิฟต์ก็ได้ฮะ บันไดจะเป็นบันไดวนตั้งแต่ชั้นหนึ่งขึ้นมาจนถึงชั้นสามเลย
Library
ห้องทำงานค่อนข้างกว้างขวาง เนื่องจากว่าโครงการนี้สร้างเสร็จแล้ว มีลูกบ้านเข้ามาอยู่แล้ว เลยจะเห็นเหล่าลูกบ้านมาใช้บริการส่วนกลางกันด้วย จะนั่งทำงานที่โต๊ะยาว เน้นใช้พื้นที่เยอะ หรือมากับเพื่อนก็สะดวก แต่ถ้าอยากได้ความเป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อย ไปนั่งโต๊ะสูงได้ครับ
Swimming Pool
สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ วิวก็จะเป็นตึกที่โอบล้อมเอาไว้ แต่ก็ยังมีช่องเล็กๆ ให้มองเห็นท้องฟ้าได้กว้างขึ้น รอบๆ สระว่ายน้ำก็จะมีต้นไม้เรียงรายอยู่ เพิ่มความร่มรื่นและธรรมชาติให้กับสระว่ายน้ำ
Fitness
ชั้น 3 จะเป็นพื้นที่ของฟิตเนสทั้งหมดเลย โดยจะแบ่งเป็นด้านหน้า มีอุปกรณ์ต่างๆ มาแบบจัดเต็ม
หรือถ้ายังมีลู่วิ่งไม่พอ ด้านหลังก็จะมีให้อีกสามลู่ครับ ห้องนี้จะเป็นวิวสวน เป็นวิวที่หันเข้ามาด้านในโครงการ ตรงระเบียงจะมีสนามหญ้าสีเขียวขนาดใหญ่ด้วย มุมนี้คือเอาไว้ดูวิวกำลังดีเลยฮะ
Pet Zone
มุมนี้จะอยู่ริมสุดของอาคารเลย เป็นจุดที่เราสามารถปล่อยสายจูงน้องๆ เพื่อให้น้องๆ เข้าไปวิ่งเล่นกันได้ตามใจชอบ แถมยังมีจุดสำหรับอาบน้ำด้วย เผื่อน้องตัวใหญ่แล้วเราอาบน้ำให้เองในห้องไม่สะดวก ก็นำมาอาบตรงนี้ได้
ส่วนบรรยากาศด้านหน้าทางเข้าโครงการ เมื่อขับรถเข้ามา เราก็จะเห็น Clubhouse ก่อนเลย

นอกจากนี้แต่ละอาคารจะมี Mail Box เขามีรถเข็นมาไว้ให้ใช้งานกันด้วยนะ เผื่อใครซื้อของมาเยอะแล้วแบกเองไม่ไหว แล้วข้างๆ กันยังมีห้องที่ไว้สำหรับซักและอบผ้าด้วย
เขาจะมีสวนชั้นดาดฟ้าของแต่ละอาคารด้วยนะครับ แต่เราไม่ได้ขึ้นไปนะ หลักๆ ส่วนกลางก็จะมีประมาณนี้ เดี๋ยวเราพาไปดูห้องตัวอย่างกันต่อเล้ยยยย!
ข้อมูลโครงการ
เนื้อที่โครงการ : | 5-1-3.4 ไร่ |
จำนวนห้องพักอาศัย : | 560 ยูนิต |
รูปแบบโครงการ : | Low Rise 8 ชั้น 4 อาคาร และ Clubhouse 3 ชั้น 1 อาคาร |
ลิฟต์ : | อาคารละ 2 ตัว |
ค่าส่วนกลาง : | 65 บาท/ตารางเมตร/เดือน |
ค่ากองทุน : | 500 บาท/ตารางเมตร |
Facility : | Lobby, Pet Zone, Library, Swimming Pool, Fitness, Steam&Sauna และสวนพักผ่อนดาดฟ้า |
แบบห้อง : | 1 Bedroom ขนาด 29.66 – 40.03 ตารางเมตร 1 Bedroom Plus ขนาด 43.75 – 43.97 ตารางเมตร 2 Bedroom ขนาด 60.83 – 61.41 ตารางเมตร |
ราคา : | เริ่มต้น 3.39 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ย : | ประมาณ 110,000 บาท/ตารางเมตร |
ทำเลโครงการ
ตัวโครงการ Maestro 19 รัชดา 19 – วิภา อยู่ในซอยรัชดา 19 ถ้าเข้าซอยมาแล้วหาไม่ยากครับ ถ้าเราจะเดินก็ประมาณ 650 เมตร หรือถ้าใช้รถยนต์มาทางถนนรัชดา จะเข้าซอยรัชดา 19 ขับต่อมาทางซอยโชคชัยร่วมมิตรเรื่อยๆ จะเห็นโครงการทางซ้ายมือ หรือเข้าทางซอยลาดพร้าว 26 จะมีความซับซ้อนกว่ามาก หรือเข้าทางถนนวิภาวดีรังสิต แล้วเลี้ยวเข้าซอยวิภาวดีรังสิต 16 ก็ได้เช่นกันฮะ ทางโครงการเขามี Shuttle Service คอยรับส่งด้วยนะ แต่เขาจะมีตารางเวลาเป็นรอบๆ ไปฮะ

รอบๆ โครงการจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ด้วย ไม่ว่าจะเซ็นทรัล ลาดพร้าว, ยูเนี่ยน มอลล์, โฮมโปร, บุญถาวร, The Street รัชดา, Big C, เอสพลานาด รัชดา, เซ็นทรัลพระราม 9 และฟอร์จูน ทาวน์ แถมในซอยก็ยังมีร้านสะดวกซื้อทั้ง 7-11 และโลตัส เอ็กซ์เพรส เผื่อใครขี้เกียจออกไปไกลฮะ นอกจากนี้ใกล้ๆ กับโครงการยังมีโรงพยาบาลเปาโล พหลโยธิน โรงพยาบาลวิมุต และโรงพยาบาลเปาโล โชคชัย 4 แถมยังใกล้กับสวนจตุจักรด้วยนะ
ก็เป็นอีกโครงการที่ทำเลค่อนข้างดี มีความเจริญโดยรอบ การเดินทางสะดวกทั้งรถยนต์ส่วนตัวและขนส่งสาธารณะ เป็นแหล่งชุมชน มีทั้งบ้านคน หอพัก และคอนโดมิเนียมต่างๆ ตั้งอยู่ภายในซอย เรื่องของกินก็หาไม่ยากครับ ในซอยมีหมด หรือจะหาคาเฟ่ ร้านกาแฟ ร้านของหวานก็มี คือแค่เดินออกมาหน้าโครงการ ฝั่งตรงข้ามก็เป็นร้านข้าวแล้วฮะ
ห้องตัวอย่าง
แบบห้องของโครงการแต่ละอาคารก็จะมี Layout และแปลนแตกต่างกันไปครับ แต่หลักๆ ก็จะเป็น 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom เขาขายไปประมาณ 90% แล้ว เหลือขายอีกประมาณ 10% เท่านั้นเอง แล้วห้องที่เหลือก็จะเป็น 1 Bedroom ทั้งหมด ห้อง 2 Bedroom หมดไปเรียบร้อย ลูกบ้านเองก็เข้ามาอยู่กันประมาณ 80 – 85% แล้วด้วย ทุกห้องจะขายแบบ Fully Fitted ได้ในส่วนของเคาน์เตอร์ครัว เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจาน ห้องน้ำ แอร์ ส่วนผนังจะฉาบเรียบทาสีขาวมาให้ ห้องตัวอย่างจะมีทั้งหมด 3 ห้อง แต่เราเลือกมาให้ดู 2 ห้องนะครับ คือ 1 Bedroom ขนาด 36 ตารางเมตร และ 1 Bedroom ขนาด 39 ตารางเมตร
1 Bedroom ขนาด 36 ตารางเมตร
ห้องนี้จะได้เป็นครัวเปิดครับ หรือถ้าใครอยากจะทำเป็นครัวปิด ก็ติดตั้งประตูบานเลื่อนเพิ่มเองได้นะ คร้วที่ได้จะเหมือนในรูปเลย คือมีเคาน์เตอร์ครัว ตู้เก็บของ เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจาน
โซนทานอาหาร จะวางแบบ 2 3 หรือ 4 ที่นั่งก็ได้ครับ วางเป็นแนวยาวขนานไปกับกำแพงก็ช่วยเพิ่มพื้นที่ได้ แถมเหลือช่องทางเดิน ให้เดินไปมาได้สะดวกด้วย
ถ้าดูภาพรวมส่วนครัวกับมุมทานอาหารก็จะประมาณนี้ครับ

ถัดจากมุมทานอาหารก็จะเป็นมุมนั่งเล่น พื้นที่ระหว่างโซฟากับทีวีห่างกันพอสมควร เราสามารถวางทีวีจอใหญ่ๆ ได้เลย
ระเบียงอยู่ติดกับห้องนั่งเล่น คอมเพรสเซอร์แอร์เขาแขวนได้ด้านบน ดังนั้นข้างล่างเราก็สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ ระเบียงค่อนข้างยาว เอาเก้าอี้กับโต๊ะเล็กๆ สักตัวมานั่งเล่น บรรยากาศดีอยู่นะ ไม่มีวิว แต่มีต้นไม้ให้มอง แถมความสงบๆ ไม่อะไรกับใครดีฮะ
ในส่วนของห้องนอนผนังที่ได้จริงจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาวนะครับ แต่ห้องตัวอย่างเขากรุผนังมาเป็นไอเดียให้ดู สวยและเข้ากับคาแรคเตอร์ของโครงการมากๆ ข้างเตียงติดริมกระจกสามารถวางโต๊ะทำงานได้ หรือจริงๆ จะวางโต๊ะติดหน้าต่างก็ได้นะ เลือกขนาดโต๊ะได้เยอะด้วย
อีกฝั่งก็วางโต๊ะข้างเตียงได้ ตู้เสื้อผ้าทำเป็น Walk-in Closet ได้ ใส่เสื้อผ้าแบบจุกๆ ทั้งสองฝั่งเลย

ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอน เข้าได้ทางเดียวฮะ อ่างล้างหน้ามีที่เก็บของ กระจกเป็นวงกลมบานไม่ใหญ่ ห้องอาบน้ำติดประตูบานเลื่อนกระจกมาให้แล้ว ปกติห้องอาบน้ำที่เราเห็นจะเป็นฉากกั้นกับประตูกระจกแบบบานพับ แต่ที่นี่จะให้บานเลื่อน วัสดุโอเคนะครับ ผมลองเปิดปิดดูก็ค่อนข้างลื่นเลย ด้านในมีชั้นวางของแบบเจาะผนังให้ด้วย
1 Bedroom ขนาด 39 ตารางเมตร
ห้องนี้แปลนค่อนข้างแปลกเลยฮะ คือเข้ามาจะเจอมุมนั่งเล่นก่อน ขนาดกว้างขวาง แล้วเขาเอาโซนครัวกับมุมทานอาหารไปรวมกันอยู่ด้านหลัง เป็นครัวแบบเปิดเหมือนกัน แต่ถ้าอยากจะทำเป็นครัวปิดก็ติดตั้งประตูบานเลื่อนเองได้ฮะ อารมณ์เหมือนหน้าบ้านกับหลังบ้าน

โซนนั่งเล่นค่อนข้างกว้าง ทั้งโซฟาและชั้นวางทีวีสามารถวางขนาดใหญ่ได้เลย ช่องว่างระหว่างโซฟากับชั้นวางทีวีก็เหลือเยอะ วางโต๊ะเล็กๆ ได้แบบไม่อึดอัด
คอนโดแมวขนาดก็ใหญ่ไม่แพ้ของทาสทั้งหลายฮะ ผมว่ามุมทานอาหารนี้ค่อนข้างอเนกประสงค์นะ จะนั่งกินข้าว นั่งทำงาน นั่งอ่านหนังสือ หรือนั่งเล่นกับสัตว์เลี้ยงของเราก็ได้ แถมยังอยู่ติดกับระเบียงด้วย ช่องแสงคือสาดเข้ามาแบบเต็มๆ ตอนกลางวันแทบไม่ต้องเปิดไฟเลย
ถ้าใครที่ชอบแต่งห้องเอง ห้องนี้น่าจะแต่งสนุก ถ้าไม่ทำเป็นโซนทานอาหารแบบนี้ เราจะทำเป็น Island ที่ติดตั้งโต๊ะทานอาหารเข้าไปในตัวด้วยก็ได้ เพิ่มพื้นที่ทำอาหารได้อีก ในขณะเดียวกันก็ยังใช้ทานอาหารได้ด้วย
ให้เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควันและอ่างล้างจานมาเหมือนกัน เครื่องดูดควันจะเป็นแบบระบายออกด้านนอกอาคารนะฮะ ทางโครงการทำท่อไว้ให้เรียบร้อยแล้ว
ห้องนอนคือกว้างมากเอาจริง พื้นที่เหลือๆ วางเตียงขนาดใหญ่ได้ วางโต๊ะทำงานก็ได้ แถมวางตู้เสื้อผ้าได้อีก ได้ของครบแถมไม่อึดอัดด้วย
มุมทำงานจะวางโต๊ะแบบห้องตัวอย่าง หรือเอาไปวางติดหน้าต่างก็ได้ ทำงานไปด้วย มองวิวไปด้วยฮะ
ห้องน้ำจะเข้าออกได้สองทาง คือทางห้องนอน กับห้องนั่งเล่น ก็จะมีความเป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อย เวลาแขกมาที่ห้องจะได้ไม่ต้องเข้ามาที่ห้องนอนของเรา อุปกรณ์และสุขภัณฑ์ครบครันครับ
ภาพรวมของห้องค่อนข้างแบ่งเป็นสัดส่วนดีฮะ ครัวที่ได้เป็นครัวเปิด พื้นที่ครัว มุมทานอาหาร และโซนนั่งเล่นจะเชื่อมต่อกันทั้งหมด ความสูงของเพดานจะอยู่ที่ 2.45 เมตร ห้องนอนก็กว้างขวาง มีมุมทำงานส่วนตัว ข้อดีของห้องที่มีขนาดกว้าง นอกจากเราจะได้พื้นที่ใช้สอยเยอะแล้ว สัตว์เลี้ยงของเรายังมีที่วิ่งเล่นเยอะด้วย
สรุปภาพรวม
ตัวโครงการ โครงการ “Maestro 19 รัชดา 19 – วิภา” เป็นโครงการ Low Rise สูง 8 ชั้น จำนวน 4 อาคาร มีอาคารส่วนกลางสูง 3 ชั้น อยู่ใจกลางโครงการ มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 560 ยูนิต เป็นโครงการที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ เพื่อนๆ สามารถเลี้ยงได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องแอบซ่อนใครอีกต่อไป แล้วนอกจากในห้องที่น้องๆ สามารถอยู่กันได้อย่างเต็มที่แล้ว ยังมีพื้นที่สำหรับพวกเขาโดยเฉพาะด้วย ถ้าอยากให้น้องวิ่งเล่นแบบไม่ต้องใส่สายจูงก็มี Pet Zone หรือถ้าพามาเดินเล่น นั่งเล่น รับลมชมวิว พามาเจอเพื่อนๆ ก็ได้เช่นกัน เพียงแต่ต้องใส่สายจูงด้วยฮะ แต่เนื่องจากโครงการได้ขายไปจำนวนมากแล้ว ก็จะเหลือเพียง 1 Bedroom ให้ได้เลือกนะครับ มีทั้งขนาด 34 36 และ 39
ทำเล ถ้าใกล้สุดก็จะเป็น MRT รัชดาฯ ห่างออกไปประมาณ 650 เมตร ถ้าเดินก็เรียกเหงื่ออยู่ฮะ หรือจะใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์นั่งต่อจาก MRT มายังโครงการก็ได้ แต่ถ้าใช้รถยนต์ส่วนตัวก็จะสะดวก สามารถเข้าออกได้หลายทาง ย่านนี้เป็นแหล่งชุมชนอยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องของกินมีอยู่ทุกซอกซอยแน่นอน แถมยังอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้าชั้นนำต่างๆ รวมไปถึงสวนจตุจักรด้วย
ห้องพักอาศัย ที่นี่จะมีทั้ง 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom แต่ก็อย่างที่บอกไปเมื่อกี้ฮะว่าเหลือแค่ 1 Bedroom แล้ว ดังนั้นใครที่กำลังหาคอนโดเลี้ยงสัตว์ในย่านรัชดาฯ นี้ ก็คงต้องรีบกันหน่อยแล้วแหละ ห้องพักอาศัยที่นี่มีทั้งครัวแบบปิดและแบบเปิด ด้วยความที่ขายแบบ Fully Fitted ดังนั้นห้องนี้ก็จะไม่ได้ให้ของเยอะเท่า Fully Furnished จะมีในส่วนของครัว ห้องน้ำ และแอร์ แต่ก็จะเหมาะสำหรับคนที่ชอบหรืออยากจะแต่งห้องเองนะครับ สามารถดีไซน์ได้เต็มที่เลย
พื้นที่ส่วนกลาง พื้นที่ส่วนกลางให้มาแบบพอดีๆ ตามสไตล์คอนโด Low Rise เขายกส่วนกลางมาไว้ใจกลางโครงการทั้งหมด โดยให้ตึกพักอาศัยโอบล้อมรอบ Clubhouse เอาไว้ Clubhouse ก็มีทั้งหมด 3 ชั้น มีพื้นที่ Lobby ให้ได้มานั่งทำงาน มานั่งเล่นนั่งรอ หรือถ้าอยากได้ห้องทำงานแบบจริงจังขึ้น ก็ไปที่ Library ชั้น 2 ได้ ทำงานเหนื่อยแล้ว อยากไปผ่อนคลาย ก็มีสระว่ายน้ำที่อยู่ตรงข้ามกันครับ หรือถ้าอยากจะออกกำลังกาย ชั้น 3 ก็รองรับทั้งในร่มและกลางแจ้ง อันนี้เป็นส่วนกลางหลักๆ ที่เขาให้มา แต่ในแต่ละอาคารก็จะมี Mail Box ห้องซักผ้าอบผ้า และรถเข็นต่างๆ ให้บริการที่ชั้น 1 ด้วย
โดยรวมผมว่าค่อนข้างครบครันทั้งการอยู่อาศัยในห้อง และการใช้ชีวิตในพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ทั้งยังสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ด้วย แถมโครงการก็มีการดีไซน์ที่สวยงาม ดูมีความคลาสสิก สวยจริง แต่ก็ยังมีความเท่ในตัว ดูสุขุม เหมือนกับบรรยากาศภายในโครงการที่ดูเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย ไม่อะไรกับใคร นอกจากเราจะมีสัตว์เลี้ยงตัวน้อยๆ น่ารักๆ แล้ว ยังให้น้องได้มีเพื่อนๆ มี Community เป็นของตัวเองได้ด้วย เป็นการดูแลซึ่งกันและกันระหว่างสัตว์เลี้ยงกับทาสอย่างเราฮะ 5555 ถ้าเพื่อนๆ สนใจโครงการ Maestro 19 รัชดา 19 – วิภา นี้ ผมแนะนำให้เข้ามาดูโครงการจริง มาดูห้องจริง พื้นที่ส่วนกลางจริงกันก่อน จะได้เจอห้องที่ถูกใจจริงๆ ครับ
โปรโมชั่น
ตอนนี้โครงการ Maestro 19 รัชดา 19 – วิภา มีโปรโมชั่น ลดเกินล้าน 1 Bedroom ขนาด 39 ตารางเมตร มาในราคา 3.39 ล้านบาท ฟรีทุกค่าใช้จ่าย สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ หรือโทร 02-116-1111 อย่าลืมเข้าไปดูโครงการจริงก่อนตัดสินใจกันนะค้าบบบบ
