ถ้าพูดถึงคอนโดย่านใกล้ใจกลางเมือง เชื่อว่าชื่อ “สาทร” ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งทำเลที่หลายๆ คนมองหาคอนโดที่อยู่ใกล้ทำเลนี้ ซึ่งสำหรับคนทำงาน หากจะหาคอนโดอยู่ฝั่งสาทรเลย ก็ต้องบอกว่าราคาคอนโดและราคาที่ดินก็ค่อนข้างไปไกลมากๆ แล้วครับ แต่ถ้าหากว่าเขยิบข้ามแม่น้ำมานิด ห่างกันแค่ 1 สถานี เราก็จะพบกับโซนที่คอนโดราคายังจับต้องได้ มีตัวเลือกระดับราคาที่หลากหลายกว่า
วันนี้เราเลยจะขอพามารู้จักกับโครงการคอนโดใหม่ ที่ “ใกล้สาทรจริงๆ ในระยะเดินไปถึงได้” และไม่ใช่แค่ใกล้ แต่มีจุดเด่นในเรื่องของวิวแม่น้ำเจ้าพระยาจากส่วนกลางของโครงการ ด้วยทำเลที่ตั้งที่อยู่บนถนนเจริญนคร กับโครงการ
“LIFE เจริญนคร – สาทร”
ที่นี่จะเป็นคอนโดใหม่จากทาง AP ที่เปิดตัวในช่วงปีที่ผ่านมา ซึ่งก็ต้องบอกว่าถนน “เจริญนคร” ในช่วงหลังมานี้ก็ค่อนข้างฮอตพอสมควรเลยครับ มีโครงการคอนโดที่หลาย Developer พร้อมใจกันมาเปิด ด้วยทำเลที่ค่อนข้างเติบโตหลังจากการมาของรถไฟฟ้า, ห้าง ICONSIAM รวมไปถึงหน่วยงานราชการขนาดใหญ่อย่างกระทรวงมหาดไทย ซึ่งโครงการ LIFE เจริญนคร – สาทร ที่ก็จะเป็นโครงการที่สะดวกทั้งสำหรับการเดินทางไปทำงานในเมือง ใกล้แหล่งช้อปปิ้ง มีร้านคาเฟ่ร้านอาหารต่างๆ ในย่าน มีวิวแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นไฮไลท์ของโครงการ แต่มาในราคาที่คนทำงานออฟฟิศยังจับต้องได้ อยู่ในช่วง 3-5 ล้านบาท
ที่นี่จะเป็นยังไง จะน่าสนใจแค่ไหน วันนี้เราของพาไปรู้จักกับโครงการนี้กันครับ

จุดเด่นโครงการ

ส่วนกลาง Rooftop
รับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบ 270 องศา

ใกล้ CBD สาทร/สีลม
แค่ข้ามสะพานถึงย่านแหล่งงาน

แปลนห้องจัดฟังก์ชันค่อนข้างดี
พื้นที่ใช้สอยลงตัว
เจริญนคร
ย่านริมน้ำเก่าแก่ของฝั่งธน ที่กำลังเติบโตในปัจจุบัน
ถ้าพูดถึงย่านเจริญนคร ย่านนี้ถือว่าเป็นย่านเก่าแก่อีกย่านนึงเลยก็ว่าได้ครับ นับมาตั้งแต่สมัยที่ฝั่งธนยังไม่เจริญมากเหมือนในปัจจุบัน และยังเป็นจังหวัดธนบุรีแยกต่างหากมาจากฝั่งพระนครที่อยู่ตรงข้ามฝั่งแม่น้ำ ซึ่งฝั่งธนในยุคนั้นจุดที่ชุมชนขนาดใหญ่เข้ามาอยู่เป็นที่แรกๆ ก็จะเป็นบริเวณย่านริมแม่น้ำเจ้าพระยาซะเป็นส่วนใหญ่
อย่างถนนเจริญนครเองนี่ก็ก่อสร้างมาตั้งแต่ช่วงปี 2482 เมื่อเวลาผ่านไปย่านนี้ก็เติบโตขึ้นเป็นย่านที่มีชุมชนเก่าแก่ผสมกับโกดังและท่าเรือต่างๆ อย่างที่ดินฝั่งที่ติดกับแม่น้ำ ก็จะมีหลายแปลงที่ใช้เป็นโกดังขนส่งในสมัยก่อน อย่างที่หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อ “ท่าเรือเป๊บซี่” ที่เป็นโกดังเป๊บซี่ของบริษัทเสริมสุขเมื่อก่อน หรืออย่าง The Jam Factory ก็เคยเป็นพื้นที่โรงงานถ่านไฟฉายตรากบ และโรงงานน้ำแข็งมาก่อน มีความเป็นย่านอุตสาหกรรมริมน้ำ




จนเมื่อเวลาผ่านไป การขยายตัวของเมืองรวมไปถึงการเติบโตของย่าน CBD ชั้นในก็เริ่มขยายตัว จากถนนเจริญนครที่เป็นย่านชุมชน จุดเปลี่ยนที่เรียกได้ว่าเป็นครั้งใหญ่ครั้งนึงมาจากการมาของ “สะพานตากสิน” หรือ “สะพานสาทร” ในช่วงปี 2525 ครับ
ทำให้ย่านนี้นอกจากเป็นย่านที่อยู่อาศัยแนวราบติดริมแม่น้ำ กลายมาเป็นอีกย่านริมน้ำที่เข้าเมืองได้อย่างสะดวก แค่ข้ามสะพานไปก็ถึงโซนสีลม/สาทร ซึ่งในช่วงยุคที่เศรษฐกิจกำลังบูมมากๆ ในช่วงปี 2530 กว่าๆ ย่านสาทรเองก็เป็นอีกย่านที่มีตึกออฟฟิศต่างๆ มาเปิดใหม่ ซึ่งการเติบโตของเมืองก็ไม่ได้หยุดอยู่แค่ฝั่งสาทร แต่ข้ามมาที่ฝั่งเจริญนครด้วยเช่นกัน ทำให้ช่วงปี 2530 – 2540 ตรงนี้ จะเป็นครั้งแรกของย่านเจริญนครที่มีตึกสูงเข้ามาเปิดกัน ซึ่งแต่ละตึกก็ชูจุดขายในเรื่องของวิวแม่น้ำ มีทั้งโรงแรม คอนโดมิเนียม รวมไปถึงอาคารสำนักงาน
แต่พอหลังวิกฤตเศรษฐกิจช่วง 40 โครงการใหม่ๆ ก็อาจจะเงียบหายไปบ้างสำหรับย่านนี้
จนกระทั่งการมาของ “รถไฟฟ้า BTS สายสีลม” ที่ข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา มาสิ้นสุดที่บางหว้าในช่วงปี 2552-2556 ก็เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้พื้นที่โซน “กรุงธนบุรี-วงเวียนใหญ่-เจริญนคร” เกิดการเปลี่ยนแปลงอีกครั้ง
อย่างสองฝั่งรถไฟฟ้าบนถนนเส้นกรุงธนบุรี หลังจากที่รถไฟฟ้ามาเปิด ก็กลายมาเป็นย่านคอนโดมิเนียมอย่างรวดเร็ว เริ่มมีคนนอกพื้นที่ ที่สนใจทำเลตรงนี้มากขึ้น อย่างกลุ่มคนทำงานหลายคนก็มองทำเลย่านนี้เพราะเข้าเมืองสะดวก นั่งรถไฟฟ้าแค่ไม่กี่ป้ายถึง ฝั่งถนนเจริญนครเองก็เช่นกันครับ การมาของรถไฟฟ้าทำให้พื้นที่ตรงนี้เกิดโปรเจคใหญ่อย่าง ICONSIAM ที่เรียกได้ว่าเป็นตัวเปลี่ยนแปลงทำเลของ “ถนนเจริญนคร” ฝั่งเหนือเลยก็ว่าได้ จากถนนที่มีความเป็นชุมชน มีตลาดคลองสาน มีความคึกคักแต่ก็ยังมีเป็นย่านชุมชนอยู่
เปลี่ยนกลายมาเป็นย่านห้างยักษ์ที่เป็น Landmark สำคัญอีกที่นึงของกรุงเทพ มีรถไฟฟ้าสายใหม่ กลายมาเป็นทำเลที่สร้างคอนโดติดริมน้ำราคาระดับ 3-5 แสนต่อตร.ม.ได้ ซึ่งพอมี ICONSIAM มา ทำเลรอบข้างก็เกิดการพัฒนาตามไปด้วย




รูปจาก กรมโยธาธิการและผังเมือง
นอกจากการมาของห้างแล้ว อีกโปรเจคใหญ่บนถนนเส้นเจริญนครที่กำลังก่อสร้างอยู่ก็จะเป็น “กระทรวงมหาดไทย” แห่งใหม่ ที่จะย้ายมาอยู่ที่นี่ บนพื้นที่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยากว่า 19 ไร่ 6 อาคาร พื้นที่ใช้สอยรวมกว่า 220,000 ตร.ม. (ใหญ่พอๆ กับห้าง Central สาขานึงได้เลย) คาดว่าจะมีคนมาทำงานตรงนี้กว่า 7,000 คน รวมไปถึงกลุ่มเบียร์ช้างที่ยังมีที่ดินแปลงใหญ่ที่รอการพัฒนา ตรงข้าม Asiatique ที่อยู่บนเส้นเจริญนครเช่นกัน
ทำให้ในภาพรวม เส้นเจริญนครถือว่าเปลี่ยนแปลงไปรวดเร็วมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และในอนาคตเราน่าจะเห็นความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่จะเข้ามาในย่านนี้อีกครับ
เจริญนครฝั่งใต้ คอนโดวิวแม่น้ำ ในราคาที่ยังจับต้องได้
ซึ่งอย่างที่บอกไป ถ้าเราดู “ราคา” คอนโดวิวแม่น้ำในปัจจุบัน ย่าน “เจริญนครฝั่งเหนือ” ถือว่าราคาไปไกลพอสมควรครับ ด้วยความพิเศษของทำเลที่มีห้างเป็นศูนย์กลาง บวกการได้วิวแม่น้ำเข้าไป กลายเป็นโซนที่ราคาคอนโดขยับไปอยู่ที่ 150,000 – 500,000 บาท/ตร.ม. (ขึ้นอยู่กับวิวและความใกล้แม่น้ำ)
ส่วนถ้าเป็นฝั่งสาทรเอง แน่นอนครับด้วยความเป็นทำเลฝั่งในเมือง ราคาก็จะขึ้นไปสูงกว่าฝั่งธนเป็นปกติ อย่างถ้าเป็นคอนโดวิวแม่น้ำช่วงถนนเจริญกรุงราคาก็จะอยู่ในช่วงหลักแสนกลางๆ ขึ้นไป หรือถ้าติดริมน้ำเลยราคาก็จะขึ้นไปอีกเป็นระดับ Luxury ที่อยู่หลักหลายแสน และแทบไม่ค่อยมีโครงการเปิดใหม่ด้วยครับ
ดังนั้นสำหรับคนทำงาน เจริญนครฝั่งใต้ตรงนี้ก็จะเป็นทำเลติดแม่น้ำที่ราคาถือว่ายังจับต้องได้อีกเส้นนึงครับ ด้วยราคาคอนโดเปิดใหม่ที่ยังอยู่ในช่วงแตะแสน ไปจนถึงแสนต้นๆ ต่อตร.ม.
เลยเป็นทำเลเพียงไม่กี่ที่ ที่ได้ทั้งในเรื่องความใกล้ใจกลางเมือง ได้วิวแม่น้ำแบบใกล้ๆ สามารถเชื่อมต่อไปรถไฟฟ้าได้ในระยะไม่ไกลมาก และยังอยู่ในราคาสำหรับชาวออฟฟิศที่ยังเป็นเจ้าของกันได้ ในงบช่วง 3-5 ล้านบาทครับ
ซึ่งถ้าเทียบกับคอนโดที่อยู่ติดรถไฟฟ้า BTS เส้นตากสิน-ราชพฤกษ์ ราคานี้ก็จะเป็นคอนโดที่อยู่ในช่วงโซนตลาดพลู-โพธิ์นิมิตรครับ ก็จะเป็นโซนที่ขยับจากวงเวียนใหญ่ออกไปหน่อย แน่นอนว่าทำเลเจริญนคร ถ้าเทียบที่ตั้งจะอยู่ใกล้เมืองฝั่งชั้นในกว่า และได้เรื่องของวิว แต่ก็ต้องแลกมาด้วยระยะไปรถไฟฟ้า ซึ่งเส้นเจริญนครตรงนี้จะไม่ได้มีรถไฟฟ้าสายสีเขียววิ่งเข้ามาแบบตรงๆ ทำให้หลายคอนโดในย่านนี้มีระยะห่างจากรถไฟฟ้ากันประมาณนึงนั่นเองครับ
แล้วที่ว่าใกล้เมือง ใกล้สาทร ใกล้แค่ไหน?? ลองมาดูกันครับ
แค่ข้ามสะพานถึงสาทร
ไม่ใช่แค่วิว แต่เจริญนครก็มีจุดเด่นเรื่องความใกล้ CBD



จากที่ตั้งของย่านเจริญนคร จะเห็นเลยว่าย่านตรงนี้แค่ข้ามฝั่งไปก็จะถึงโซนสาทรแล้ว อยู่ตรงข้ามฝั่งแม่น้ำกันเลย ดังนั้นก็จะเป็นอีกหนึ่งทำเลที่ค่อนข้างสะดวกสำหรับใครที่ทำงานในเมืองครับ เพราะเป็นย่านที่ใกล้ใจกลางเมืองจริงๆ แบบข้ามสะพานเข้าปุ๊บก็ถึงเลย
โดยเฉพาะสำหรับใครที่เดินทางด้วยรถยนต์ก็ถือว่าค่อนข้างสะดวกมาก จุดขึ้นสะพานตากสินก็จะอยู่บนถนนเจริญนครเลย สามารถวนขึ้นสะพานได้ทันที
หรือถ้าใครที่ใช้รถไฟฟ้า ตรงนี้ก็ยังสามารถเชื่อมต่อไปรถไฟฟ้า BTS สถานีกรุงธนบุรีได้สะดวกครับ ซึ่งจากสถานีกรุงธนบุรี แค่ 1 สถานีก็ข้ามฝั่งไปโซนสาทรแล้ว ดังนั้นก็เป็นอีกทำเลที่สะดวกมากๆ สำหรับใครที่ทำงานในแนวรถไฟฟ้า BTS ไม่ว่าจะเป็นสุรศักดิ์, ช่องนนทรี, ศาลาแดง-สีลม, สยาม หรือเชื่อมต่อไป BTS เส้นสุขุมวิทครับ
นอกจาก “สีลม/สาทร” แล้ว ที่นี่ก็ยังสามารถไปโซนอื่นได้สะดวก ด้วยสะพานพระราม 3 และสะพานพุทธที่อยู่ไม่ไกล
ซึ่งนอกจากโซนสาทรแล้ว สำหรับย่านเจริญนครเองก็ยังใกล้กับสะพานข้ามแม่น้ำอีกสองฝั่ง ไม่ว่าจะเป็นสะพานพระราม 3 และสะพานกรุงเทพ ที่สามารถข้ามฝั่งไปย่านพระราม 3 ได้สะดวก ย่านนี้ก็เป็นอีกย่านที่มีแหล่งงานมากระจายตัวอยู่ ไม่ว่าจะเป็นสำนักงานใหญ่ของธนาคาร รวมไปถึงมีตึกออฟฟิศต่างๆ อยู่ด้วยเช่นกัน
ส่วนทางทิศเหนือ ก็จะเป็นที่ตั้งของสะพานพุทธและสะพานพระปกเกล้า สองสะพานนี้ก็จะเชื่อมเข้าสู่แหล่งงานในย่านเมืองเก่าต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่ตั้งของหน่วยงานราชการและกระทรวงต่างๆ ทั้งในย่านเสาชิงช้า, สนามหลวง หรือเส้นราชดำเนิน โดยที่ทั้ง 4 สะพานนี้ จะอยู่ไม่ไกลจากเส้นเจริญนครทั้งหมดเลยครับ
ที่ตั้งโครงการ
800 เมตร จาก BTS กรุงธนบุรี คอนโดติดถนนเจริญนครที่ใกล้รถไฟฟ้าอันดับต้นๆ
น่าจะพอเห็นภาพความสะดวกและจุดเด่นของทำเล “เจริญนคร” กันไปแล้ว เราขอพาไปดูที่ตั้งของโครงการ “LIFE เจริญนคร – สาทร” กันบ้างครับ สำหรับที่ตั้งโครงการ จะอยู่ติดกับถนนใหญ่เจริญนครในฝั่งใต้ อย่างที่เล่าไปว่าถนนเจริญนครในฝั่งนี้ ยังมีข้อดีอยู่ในเรื่องราคาของโครงการ ที่มาในราคาที่จับต้องได้มากกว่าคอนโดติดริมน้ำทำเลอื่น ซึ่งถึงแม้ว่าถนนเจริญนครฝั่งใต้ตรงนี้จะไม่ได้มีรถไฟฟ้าวิ่งผ่านแบบตรงๆ แต่ที่ตั้งของโครงการ LIFE เจริญนคร – สาทร ก็ถือว่าเป็น “คอนโดติดถนนเจริญนครฝั่งใต้ ที่ใกล้รถไฟฟ้ามากที่สุด ที่เปิดขายอยู่ในตอนนี้” เลยครับ ด้วยทำเลที่ห่างจากสะพานตากสินเข้ามาไม่ไกลมาก
ดังนั้นระยะเดินไปรถไฟฟ้าของที่นี่จะอยู่ที่ 800 เมตร ก็ยังเป็นระยะที่หากอยากจะเดินก็พอเป็นไปได้นะ ถือว่าเป็นคอนโดที่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS อันดับต้นๆ ของคอนโดบนเส้นเจริญนครแล้วครับ ซึ่งเมื่อตึกเสร็จพร้อมเข้าอยู่ จะมีรถ Shuttle Service ของโครงการ วิ่งรับส่งไปกลับสถานี BTS ตลอดทั้งวันครับ
ซึ่งพอเค้าใกล้กับสะพานตากสินเนี่ย ถ้าหากจะเดินข้ามสะพานตากสินไปฝั่งสาทรเลยก็ได้เช่นกัน มีระยะอยู่ที่ประมาณ 970 เมตรถึง BTS สะพานตากสินครับ ในทางปฏิบัติจริงๆ คงไม่ค่อยมีใครเดิน (เพราะโครงการมีรถพาไปส่ง BTS) แต่ก็อยากใส่ตัวเลขมาให้ดูครับว่าที่นี่ใกล้สาทรจริงๆ นะ ถ้าอยากเดินข้ามมาฝั่งสาทรก็ยังทำได้
นอกจากนี้ในระยะเดินโครงการเค้าก็จะใกล้กับ Community Mall อย่าง “Sena Fest” ไปด้วยครับ ประมาณ 300 เมตรจากโครงการ ส่วนตรงข้ามกับโครงการจะเป็นที่ตั้งของ “Gump’s Cross” คอมมูนิตี้ที่จะมีความชิค เพิ่งมาเปิดใหม่ จาก Gump ที่แรกที่ย่านอารีย์
ส่วนตรงข้ามโครงการเยื้องออกไปนิดเดียว ก็จะเป็นที่ตั้งของ “กระทรวงมหาดไทย” แห่งใหม่ ที่กำลังก่อสร้างอยู่ เท่ากับว่าทำเลตรงข้ามโครงการกำลังจะมีแหล่งงานขนาดใหญ่ที่มีคนมาทำงานระดับหลายพันคนตั้งอยู่ครับ
จุดเด่นอีกอย่างที่ไม่พูดถึงไม่ได้ของคอนโดในย่าน “เจริญนคร” ก็จะเป็นเรื่องของวิวแม่น้ำเจ้าพระยาครับ วิวนี่ก็เป็นจุดขายของที่นี่เหมือนกัน ซึ่งโครงการจะไม่ได้อยู่ฝั่งติดริมแม่น้ำนะครับ แต่จะอยู่ฝั่งตรงข้ามถนน เป็นวิวที่ถอยออกมานิดนึง เป็นการ Balance ระหว่างราคาและทำเลให้ Pricing ของโครงการยังไม่สูงเกินไป แต่ก็ยังได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาที่ถือว่าใกล้อยู่ ซึ่งที่นี่จะมีส่วนกลาง Rooftop ที่เน้น Take วิวแม่น้ำแบบ 270 องศาด้วยครับ
ดังนั้นจุดเด่นในด้านที่ตั้งของโครงการนี้ เมื่อเทียบกับโครงการบนเส้นเจริญนครฝั่งใต้ด้วยกัน ก็จะเด่นในความที่ค่อนข้างครบ ไม่ว่าจะเป็นระยะจากรถไฟฟ้าที่ใกล้อันดับต้นๆ ใกล้ Community Mall และแหล่งของกินต่างๆ ในระยะเดินได้ มีวิวแม่น้ำ รวมไปถึงใกล้แหล่งงานใหญ่ของย่านนี้แบบแทบจะตรงข้าม
บรรยากาศบริเวณหน้าโครงการ
บรรยากาศรอบข้างของโครงการ ถ้ามาจากฝั่งสะพานตากสินก็ถือว่าไม่ไกลเลยครับ นิดเดียวถึง บริเวณตรงนี้ถนนเจริญนครจะมีความกว้าง 6 เลย ถือว่าค่อนข้างใหญ่ บริเวณใกล้กับโครงการจะมีจุดกลับรถ สามารถกลับรถเข้าโครงการได้ รอบข้างตรงนี้ก็จะเป็นตึกแถวซะเป็นส่วนใหญ่ครับ ซึ่งเป็นโซนที่มีร้านอาหารต่างๆ มาเปิดเยอะมาก แบบมากจริงๆ อยู่แถวนี้แค่ระยะเดินจากโครงการ ก็ไม่อดตายแล้วครับ อุดมสมบูรณ์มากๆ ในอนาคตถัดจากโครงการออกไปไม่ไกลจะเป็นกระทรวงมหาดไทยใหม่ กำลังก่อสร้างอยู่ คาดว่าน่าจะเสร็จในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า ส่วนตัวโครงการเอง ตอนนี้ก็ก่อสร้างไปได้เยอะมากแล้วครับ ปีหน้าพร้อมอยู่แล้ว






ตัวเลือกการเดินทางหลากหลาย
ทั้งรถไฟฟ้า การใช้รถยนต์ หรือไม่ว่าจะเป็นเรือ
จุดเด่นนึงของโครงการนี้ ก็จะเป็นเรื่องตัวเลือกการเดินทางของโครงการที่ค่อนข้างครบเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการใช้รถไฟฟ้า, การใช้รถยนต์ส่วนตัว หรือไม่ว่าจะเป็นการใช้เรือโดยสารอย่างเรือด่วนเจ้าพระยา



รถไฟฟ้า – รถโดยสารสาธารณะ
สำหรับคนที่ทำงานในย่านสาทร/สีลม การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็น่าจะเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่สะดวกสำหรับโครงการนี้ครับ โดยตัวโครงการจะห่างจากสถานีรถไฟฟ้า BTS กรุงธนบุรีประมาณ 800 เมตร ก็ถือว่าเป็นระยะที่ค่อนข้างไกลสำหรับการเดินครับ แต่เมื่อตึกเสร็จพร้อมเข้าอยู่ จะมีรถ Shuttle Service ของโครงการ วิ่งรับส่งไปกลับสถานี BTS ตลอดทั้งวันครับ (ถ้าอยากเดินก็ยังพอเดินได้ ฟีลออกกำลังกาย แต่จริงๆ ก็แนะนำต่อรถดีกว่า)
ซึ่งเส้นเจริญนครเองด้วยความที่เป็นถนนเส้นหลักของย่านเก่าแก่ และมีชุมชนขนาดใหญ่ ดังนั้นก็จะมีรถสาธารณะให้บริการและวิ่งผ่านหน้าโครงการอยู่ตลอดเลยครับ มีทั้งรถเมล์และรถสองแถวเล็ก (รถกระป๊อ) วิ่งผ่าน จากหน้าโครงการแปปเดียวก็ถึงสถานีรถไฟฟ้าแล้วครับ นอกจากนี้ยังสามารถใช้รถโดยสารตรงนี้ไปเชื่อมต่อตรงอื่นของย่านฝั่งธนได้อีก ไม่ว่าจะเป็น ICONSIAM, วงเวียนใหญ่, เดอะมอลล์ท่าพระ หรือไป รพ.ศิริราช

การใช้รถยนต์
สำหรับการใช้รถยนต์ก็สะดวกไม่แพ้กันครับ ด้วยความที่ตัวโครงการถือว่าอยู่ใกล้ใจกลางเมืองมากๆ แล้ว แค่ข้ามสะพานไป ดังนั้นการใช้รถยนต์ข้ามสะพานตากสินก็ถือว่าค่อนข้างจะใกล้มากๆ เป็นทำเลที่ใช้รถยนต์สะดวกสำหรับใครที่ทำงานอยู่ในย่านสาทร, สีลม, สุรวงศ์, พระราม 4 ซึ่งในตอนเช้าๆ ก็อาจจะมีการจราจรติดขัดบ้าง ตามประสาของสะพานตากสิน แต่ด้วยความที่ทางขึ้นจากถนนเจริญนครตรงนี้อยู่เชิงสะพานเลย ดังนั้นก็จะไม่ต้องไปต่อท้ายแถวยาวๆ จากฝั่งราชพฤกษ์ครับ และนอกจากนี้ก็ยังมีทางเลี่ยงต่างๆ อย่างการไปใช้สะพานกรุงเทพและสะพานพระราม 3 ในการเข้าเมือง แล้วค่อยวกเข้ามาสาทรผ่านถนนนราธิวาสฯ ก็ได้เช่นกัน
ดังนั้นด้วยความที่อยู่ใกล้หลายสะพาน ก็เลยทำให้โครงการนี้ใช้รถเข้าเมืองย่านพระราม 3 และย่านเมืองเก่าผ่านสะพานพุทธสะดวกด้วยเช่นเดียวกันครับ
การใช้เรือ
สำหรับที่นี่ การใช้เรือก็เป็นอีกการเดินทางที่ค่อนข้างสะดวกครับ อย่างท่าเรือที่ใกล้ที่สุดก็จะเป็นท่าเรือข้ามฟากสาทร บริเวณใต้สะพานตากสิน ตรงนี้เมื่อข้ามไปแล้วก็จะถึงกับย่านเจริญกรุง และท่าเรือสำหรับขึ้นเรือด่วนเจ้าพระยา ซึ่งถ้าใครไม่อยากขึ้นเรือข้ามฟาก สามารถเดินขึ้นสะพานตากสินข้ามแม่น้ำไปลงอีกฝั่งได้ครับ (บางทีเดินไปถึงเร็วกว่ารอเรือข้ามฟากอีกนะ) สำหรับเรือด่วนเจ้าพระยาก็จะค่อนข้างสะดวก และบางที่สามารถเชื่อมต่อได้รวดเร็วกว่าการใช้รถยนต์ปกติ
จุดที่เรือผ่าน อย่างเช่น สี่พระยา, รพ.ศิริราช, ท่าช้างเชื่อมต่อสนามหลวง, เทเวศร์, รัฐสภาเกียกกาย ไปจนถึงนนทบุรี
สิ่งอำนวยความสะดวกรอบข้าง
ย่าน Street Food ดั้งเดิม และใกล้ห้างใหญ่อย่าง ICONSIAM





สำหรับที่ตั้งของโครงการ LIFE เจริญนคร – สาทร อย่างที่เล่าไปว่าจะอยู่ตรงข้ามกับ Gump’s Cross ที่เป็นคอมมูนิตี้เปิดใหม่ และใกล้กับ Sena Fest ในระยะเดินได้ครับ ที่นี่ก็ถือว่าเป็น Community Mall ใหญ่ของย่านนี้ที่ค่อนข้างจะพึ่งพิงได้ มีทั้งร้านอาหาร, Starbucks, Villa Market รวมไปถึงฟิตเนส หรือถ้าเลยถัดไปหน่อย ประมาณกิโลนิดๆ จากโครงการ ก็จะเป็นห้าง ICONSIAM ครับ อันนี้น่าจะไม่ต้องอธิบายมาก หลายๆ คนน่าจะเห็นภาพความใหญ่ของที่นี่อยู่แล้ว ซึ่งฝั่งตรงข้ามของ ICONSIAM จะมีห้างใหม่ ICS เปิดใหม่ด้วยครับ ที่นี่ก็จะมีทั้งร้านต่างๆ รวมถึงร้านอาหารที่ราคาอยู่ในเรทเบาลง มีซุปเปอร์อย่าง Lotus’s Prive มาเปิด ก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับการมาซื้อของหรือมาหาของกินครับ
ร้าน Street Food สเน่ห์ของย่านเจริญนคร
ในแง่ร้านอาหารและของกินต่างๆ ในย่านนี้ จะไม่ได้อยู่แค่ในห้างเท่านั้น ด้วยความเป็นย่านเก่าแก่ของโซนเจริญนคร-ลาดหญ้า ดังนั้นตั้งแต่วงเวียนใหญ่มาจนถึงเส้นเจริญนคร ก็จะมีร้านอาหาร Streetfood เก่าแก่ของย่าน กระจายตัวอยู่ในย่านนี้ค่อนข้างเยอะ หลายร้านก็เป็นร้านดังเช่นกัน เป็นเสน่ห์อีกอย่างนึงของย่านเจริญนครเลยก็ว่าได้ครับ ซึ่งจากโครงการเนี่ย ในระยะเดินใกล้ๆ ก็มีมากกว่า 20-30 ร้านแล้วครับ












มาดูในโซนรอบข้างกันบ้าง ทางด้านล่างฝั่งใต้ของถนนเจริญนคร จะเป็นที่ตั้งของ Riverside Plaza ของกลุ่ม Minor ที่นี่ก็จะมีโซน Plaza ที่มีร้านอาหารต่างๆ มาเปิดเยอะด้วยเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ในทำเลใกล้ๆ ที่นี่ก็ยังใกล้กับอีกหลายห้างครับ ไม่ว่าจะเป็น The Mall ท่าพระ, Central บางรัก, Platform วงเวียนใหญ่, Terminal 21 พระราม 3 และ Asiatique
ส่วนในด้านสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ต้องบอกว่าทำเลตรงนี้ก็เป็นทำเลที่ใกล้ “โรงเรียนชื่อดัง” หลายแห่งครับ ทำให้คอนโดในย่านสาทร หลายๆ ตึก ก็มีผู้ปกครองซื้อไว้สำหรับพักกับบุตรหลานในช่วงวันจันทร์-ศุกร์จะได้ไปโรงเรียนสะดวกเช่นกัน
โรงเรียนในย่านนี้ก็อย่างเช่น รร.อัสสัมชัญ, รร.กรุงเทพคริสเตียน, รร.วัดสุทธิฯ, รร.เซนต์หลุยส์ศึกษา, รร.เซนต์โยเซฟคอนเวนต์ หรืออย่างฝั่งโรงเรียนนานาชาติที่นี่ก็จะไม่ไกลจาก Shrewsbury ที่อยู่บนถนนเจริญกรุงครับ
รูปแบบและคอนเซ็ปต์ของโครงการ
Beyond The Boundaries ฉีกทุกกฎ …สู่ไลฟ์สไตล์ใหม่ บนความสมดุลที่ลงตัวที่สุด

โครงการ Life เจริญนคร – สาทร พัฒนาโดย AP Thailand ครับ แบรนด์ Life เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์ที่มีเยอะที่สุดในแบรนด์คอนโดของ AP เลยก็ว่าได้ ด้วยราคาที่เข้าถึงง่ายกว่าแบรนด์อื่นๆ เป็น Segment ที่ราคายังไม่สูงจนเกินไป แต่อัดแน่นไปด้วยพื้นที่ส่วนกลาง การดีไซน์ และ Layout ห้องที่น่าสนใจ ที่นี่ก็เช่นเดียวกันครับ
ตัวโครงการมาพร้อมกับแนวคิด Beyond The Boundaries ฉีกทุกกฎ …สู่ไลฟ์สไตล์ใหม่ บนความสมดุลที่ลงตัว ทั้งในเรื่องของการเดินทางที่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า อีกทั้งรอบๆ โครงการยังเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายครับ ทั้งเสนาเฟสท์, ICS, ICONSIAM หรือ Gump’s Cross และถ้าเดินออกมาด้านหน้าคอนโด เราจะเจอร้านอาหารเยอะมาก เป็นแหล่งของกินแบบ Local เลย
แล้วด้วยความที่เป็นแบรนด์ Life เขาให้พื้นที่ส่วนกลางแบบจัดเต็มอยู่ละฮะ มีพื้นที่ส่วนกลางทั้ง Indoor และ Outdoor กว่า 5,800 ตารางเมตร มีสวนสีเขียว มีห้องนวด มีบาร์ มีสระว่ายน้ำวิวดี มีพื้นที่ให้นั่งชมเมือง คือมีทั้งห้องที่เต็มไปด้วยความ Active และโซนที่ต้องการความเงียบสงบ Layout
คอนเซปต์การออกแบบของที่นี่ก็ถือว่าน่าสนใจครับ งาน Interior ภายในโครงการแต่ละจุด ตั้งแต่โถง Lobby ที่ต้อนรับจนไปถึง Facility ต่างๆ จะดีไซน์ออกมาให้กลิ่นอายแนววินเทจหน่อยๆ ซึ่งโครงการนี้ตั้งใจที่จะดึงเอาเอกลักษณ์อาคารบ้านเรือนและความเป็นย่านริมน้ำของเจริญนครเข้ามาใส่ในงานออกแบบของโครงการ การตกแต่งภายในเลยจะออกมาในสไตล์ย้อนยุค ผสมกับแรงบันดาลใจจากความเป็นโกดังและท่าเรือของย่านนี้ครับ รวมไปถึงงานตกแต่งในหลายๆ จุดจะใช้เส้นสายความพริ้วไหวของสายน้ำเข้ามาผสมด้วย
ห้องที่นี่ก็ถือว่าน่าสนใจมากครับ เป็นแปลนดูผ่านการจัดพื้นที่ออกมาแล้ว ซึ่งเป็นอะไรที่ทำให้เราใช้พื้นที่ในห้องได้อย่างคุ้มค่ามากๆ เดี๋ยวผมจะมาเล่าเรื่อง Layout ห้องให้ได้อ่านกันด้วยนะ
ที่นี่เป็นคอนโด High Rise สูง 28 ชั้น มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 580 ยูนิต แล้วก็มีร้านค้าอีก 1 ยูนิต มีที่จอดรถ 41% (ไม่รวมซ้อนคัน) เอาจริงตอนนี้โครงการขายไปกว่า 70% แล้วครับ ห้องที่หมดไวส่วนใหญ่เลยก็จะเป็น 2 Bedroom ทั้งตึกเหลือแค่ไม่กี่ห้องแล้ว มีทั้งห้องแบบ 2 Bed 1 Bath ขนาด 42 ตารางเมตร และ 2 Bed 2 Bath ขนาด 57 ตารางเมตร ด้วยความที่เป็นห้องใหญ่ สามารถขยับขยายออกมาอยู่เป็นครอบครัว หรือรองรับการมีสมาชิกเพิ่มในอนาคตก็เลยค่อนข้างได้รับความนิยมครับ แต่จะบอกว่าห้องไทป์อื่นๆ ก็มีแปลนห้องที่น่าสนใจไม่แพ้กันฮะ ห้องที่นี่จะเริ่มต้นที่ 1 Bedroom ขนาด 29.5 – 35 ตารางเมตร แล้วยังมี 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตารางเมตรด้วย ซึ่งแต่ละไทป์จุดเด่นก็จะแตกต่างกันไปฮะ
ปกติห้องพักอาศัยที่นี่จะได้เพดานสูง 2.6 เมตรครับ ตั้งแต่ชั้น 7 – 24 แต่ความพิเศษคือ ในชั้นที่ 25 – 26 จะได้เพดานสูง 3 เมตร ก็จะมีความโปร่งโล่งมากกว่า มองเห็นวิวได้เต็มๆ ตา ในด้านราคาที่นี่จะเริ่มต้นที่ 3.89 ลบ.* เฉลี่ยทั้งโครงการก็ประมาณ 120,000 – 130,000 บาท/ตารางเมตร
นอกจากนี้ Facilities และพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ที่ได้ก็สวยและวิวดีไม่แพ้กันฮะ เดี๋ยวจะพาเพื่อนๆ ไปดูกันก่อนเลยว่าที่นี่มีส่วนกลางอะไรน่าสนใจบ้าง?
ข้อมูลโครงการ
| ชื่อโครงการ : | Life Charoennakhon – Sathorn (ไลฟ์ เจริญนคร – สาทร) |
| Developer : | AP Thai |
| เนื้อที่โครงการ : | 3-0-55 ไร่ |
| จำนวนห้องพักอาศัย : | ห้องพักอาศัย 580 ยูนิต, ร้านค้า 1 ยูนิต |
| รูปแบบโครงการ : | High Rise 28 ชั้น 1 อาคาร |
| ลิฟต์ : | ลิฟต์โดยสาร 3 ตัว และลิฟต์ดับเพลิง 1 ตัว |
| ที่จอดรถ : | 41% (ไม่รวมซ้อนคัน) |
| ค่าส่วนกลาง : | ติดต่อสอบถามที่โครงการเพิ่มเติม |
| ค่ากองทุน : | ติดต่อสอบถามที่โครงการเพิ่มเติม |
| Facility : | – ชั้น 1 The Social Dockyard, The Parlour Port, The Floating Bar, Exclusive Entrance Hall, Co-Exclusive Hall, The Authentic Meeting, The Therapist Room, Ripple Amphitheater และ Harmonic Ripple Pavilion – ชั้น 7 Private Ripple Garden – ชั้น 27 Sky Fitness, River Runway Pool, River Jacuzzi, Relaxing Terrace, The Tidal Garden, Sky Amphitheater, Sky Pavilion และ River Pier Pavilion – ชั้น 28 Exclusive Artful Lounge, Panoramic Amphitheater, The Sky Private Seat และ Sky Auditorium Terrace |
| แบบห้อง : | 1 Bedroom ขนาด 29.5 – 35 ตารางเมตร 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตารางเมตร 2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 42 ตารางเมตร 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 57 ตารางเมตร |
| ราคา : | เริ่มต้น 3.89 ล้านบาท* |
| ราคาเฉลี่ย : | ประมาณ 120,000 – 130,000 บาท/ตารางเมตร |
| สถานะโครงการ : | อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนตุลาคม 2569 |
มาดูพื้นที่ส่วนกลางชั้น 1
พื้นที่ Outdoor เน้นเป็นสวนสีเขียวและมุมพักผ่อน ส่วนพื้นที่ Indoor มีโซนให้ได้ผ่อนคลาย และใช้ความคิด
ชั้น 1 เรียกได้ว่ามีพื้นที่ส่วนกลางค่อนข้างเยอะเลยครับ ด้วยแปลนของที่ดิน ทำให้ตัวอาคารต้องขยับเข้ามาด้านในหน่อย ทางเดินรถก็เลยจะไม่ได้เป็นทางเข้ามาตรงๆ มีเลี้ยวนิดหน่อยก่อนจะมาถึงจุด Drop-off ด้านใน โดยพื้นที่ด้านหน้าติดกับทางเข้าก็จะทำเป็นสวนครับ มีพื้นที่พักผ่อนอย่าง Ripple Amphitheater ด้วย ที่นั่งจะเป็นขั้นบันได ให้เราได้มานั่งชิวๆ มองดูรถและผู้คนเข้าออกโครงการได้ ตัวสวนด้านหน้าก็จะเชื่อมต่อไปยังสวนด้านในเลย มีศาลาพักใจด้วยนะครับ ถ้าเราเข้ามาในโครงการแบบที่ไม่ได้นั่งรถเข้ามา แต่เดินเข้ามาแทน เราก็จะได้ทางเดินวิวสวนสีเขียว ยาวตั้งแต่ด้านหน้าโครงการ ไปจนถึงตัว Lobby เลย
ซึ่งถ้าเพื่อนๆ ดูในแปลนอาคารหรือที่โมเดล จะเห็นว่าตัวสวนที่เชื่อมต่อกันนั้นมีความพริ้วไหว เส้นสายโค้งมน มีจุดที่เป็นวงกลมเยอะ เพราะแรงบันดาลใจในการออกแบบสวนตรงนี้มาจากสายน้ำที่ไหลลื่น บวกกับหยดน้ำที่เวลามีอะไรร่วงลงมากระทบผิวน้ำ จะเกิดเป็นคลื่นวงกลมครับ
พื้นที่ส่วนกลางในอาคารจะมีหลายจุด อย่างตรงที่ติดกับ Drop-off ก็จะมี The Social Dockyard, The Parlour Port และ The Floating Bar สามห้องนี้จะมองเห็นวิวสวนด้วยนะครับ ถ้าเดินเข้ามาอีกหน่อยก็จะเจอ Lobby ขนาดใหญ่ครับ ซึ่งตัว Lobby เอง เขาจะแบ่งเป็นโซนต่างๆ โซนที่ใหญ่ที่สุดก็จะเป็น Co-Exclusive Hall ตรงข้ามกันจะแบ่งออกเป็น 3 โซน คือ Exclusive Entrance Hall, The Authentic Meeting และ The Therapist Room ทั้งสามโซนฟังก์ชันการใช้งานก็จะแตกต่างกันไปครับ แต่ก็จะได้วิวสวนด้วยเหมือนกัน ห้องนิติบุคคลและร้านค้าก็จะอยู่ติดกันเลย

Ripple Amphitheater
จะเป็นสวนด้านหน้า เป็นพื้นที่นั่งแบบขั้นบันได รายล้อมไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ พุ่มไม้ ดอกไม้ และหญ้า เป็นอีกจุดที่น่ามาพักผ่อนครับ จากในรูปก็จะเห็นถึงความร่มรื่นเลย

Harmonic Ripple Pavilion
เดินเข้ามาหน่อยก็จะเจอกับสวนอีกครับ แต่ว่ามุมพักผ่อนจะหลากหลายมากขึ้น มีโซนศาลา โซนกลางแจ้ง มีบาร์ที่นั่งล้อมต้นไม้ คือนอกจากจะเป็นมุมพักผ่อนที่เต็มไปด้วยธรรมชาติแล้ว ยังเป็นวิวที่มองมาจากพื้นที่ส่วนกลางด้านในก็ดูสวยครับ

The Parlour Port
การออกแบบภายใน อย่างที่เล่าไปว่าโครงการได้แรงบันดาลใจมาจากความทรงจำเกี่ยวกับเจริญนคร ทั้งในเรื่องของวัฒนธรรม และสายน้ำ โดยจะดึงเอาดีไซน์ความเก่าแก่จากสถาปัตยกรรมที่อยู่ตามตึกรามบ้านช่อง อู่ซ่อมเรือ งานศิลปะ มาออกแบบใหม่ให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น งานออกแบบเลยจะมีการใช้ Authentic Material ไม่ว่าจะเป็นไม้ กระเบื้อง หินอ่อน เครื่องสาน หรืองานหนัง แล้วเพิ่มความนุ่มนวลด้วยความพริ้วไหวของสายน้ำ ด้วยเส้นสายและความโค้งมนต่างๆ
อย่างสำหรับ The Parlour Port จะเป็นห้องที่อยู่ตรงกลางครับ เป็นได้ทั้งที่ทำงาน อ่านหนังสือ นั่งพักผ่อนหย่อนใจ โทนสีพื้น ผนัง และเพดานก็จะออกโทนครีมและทอง แต่เพิ่มสีสันด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ดูฉูดฉาดขึ้น ไม่ว่าจะเบาะเก้าอี้สีน้ำเงิน หรือ Chandelier สีเขียวขนาดใหญ่ที่ห้อยอยู่ตรงกลางห้อง

The Social Dockyard
ห้องนี้จะเชื่อมกับ The Parlour Port เลยครับ เป็นห้องพักผ่อนหย่อนใจที่มองวิวสวนสีเขียวด้านนอกด้วยได้ เป็นจุดผ่อนคลายสายตาที่ดีมากๆ จุดนึงเลย จะมีที่นั่งให้เลือกทั้งโซฟา และ Sunken Seat ด้านล่าง โทนเฟอร์นิเจอร์สีเขียวมิ้นต์ทำให้ห้องดูน่ารัก ขี้เล่นมากขึ้น ดูอบอุ่นดีฮะ

The Floating Bar
ห้องนี้จะเชื่อมต่อกับ The Parlour Port เช่นกัน แต่จะอยู่ฝั่งซ้ายครับ เหมาะกับสายชิว เป็นบาร์พร้อมที่นั่ง ห้องนี้เพิ่มลูกเล่นด้วยพื้นโทนสีน้ำเงิน เป็นลวดลายวงกลม บวกกับผนังลายเหมือนไม้สาน ประดับด้วยไฟ และโคมไฟลายเหมือนดอกไม้ ทำให้ห้องดูสนุก และคึกคักกว่าสองห้องที่ผ่านมา

Exclusive Entrance Hall
มาถึงอาคารหลักกันบ้างครับ ถ้าเราเดินเข้ามาในอาคาร สิ่งแรกที่เราจะเจอคือ โซน Reception ที่เป็นเคาน์เตอร์สีแดงโดดเด่นอยู่ทางด้านขวามือ ด้านหลังเป็นผนังลายหินอ่อนขนาดใหญ่ประกบกันเป็นรูปพอดิบพอดี ฝั่งซ้ายจะเป็นเหมือนมุมเอาไว้รับแขก นั่งรอได้ มองวิวด้านนอกได้

Co-Exclusive Hall
เดินเลยเข้ามาหน่อยก็จะเป็นโซน Lobby มีโซฟาสีครีม กับอาร์มแชร์สีขาวดำที่ใช้เส้นสายทำเป็นลวดลายตัดกับเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ผนังด้านหลังก็แต่งเป็นสีแดงกับทอง ใช้เส้นสายทำเป็นลายวงกลม เพดานด้านบนไม่ติด Chandelier ใหญ่ๆ ให้ดูเว่อ แต่ใช้ไฟเล็กๆ กระจายอยู่เต็มเพดาน ทำให้เฟอร์นิเจอร์ และผนังดูโดดเด่นมากครับ ฝั่งซ้ายจะแบ่งออกเป็นห้องต่างๆ อีก 2 ห้อง

The Authentic Meeting
ห้องนี้จะอยู่ติดกับ Lobby เลย เขาทำมาให้เป็นห้องประชุมครับ มีโต๊ะยาว และทีวีมาให้ แต่จริงๆ ถ้าไม่ได้ประชุม แต่อยากมานั่งทำงานในห้องนี้เฉยๆ ก็ได้เช่นกันนะครับ

The Therapist Room
ห้องนี้อยู่ติดกับห้องประชุมเลยครับ เป็นห้องที่มีเครื่องนวดมาให้ลูกบ้านใช้บริการ 2 ตัวด้วยกัน นวดไปมองวิวสวนด้านนอกไป สบายสุดๆ ไปเลย

พื้นที่ส่วนกลางชั้น 27
เต็มไปด้วยกิจกรรมที่ใช้ความ Active แต่ก็สามารถผ่อนคลายและเพลิดเพลินไปกับวิวได้

ชั้น 27 ก็ถือเป็นไฮไลต์ของโครงการเลยครับ นอกจากจะมี Facilities ต่างๆ แล้ว ยังมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย โดยส่วนกลางจะเป็นด้านในอาคารกับด้านนอกอาคาร ถ้าเป็นด้านในอาคารก็จะมี Sky Fitness ครับ เป็นห้องออกกำลังกายที่มีอุปกรณ์ครบ ได้วิวเมืองและวิวแม่น้ำ ในห้องน้ำของผู้ชายและผู้หญิงจะมีห้อง Steam กับ Sauna ด้วย ส่วนด้านนอกอาคาร ติดกับ Sky Fitness ก็จะเป็น River Runway Pool หรือสระว่ายน้ำนั่นเอง ยาวขนานไปกับอาคาร มีโซนที่เป็น Jacuzzi ด้วย เอาไว้นั่งแช่น้ำชมวิว หรือถ้าไม่อยากลงน้ำก็มีพื้นที่พักผ่อนอย่าง Sky Pavilion, Relaxing Terrace และ Sky Amphitheater นะครับ

River Runway Pool
จากรูปก็จะเห็นว่าสระว่ายน้ำได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ฝั่งไอคอนสยาม ยาวไปจนถึงฝั่งเอเชียทีคเลย ปีใหม่ถ้ากลัวรถติด คนเยอะ ไม่ต้องไปไหนเลยครับ แค่อยู่ที่คอนโดก็ได้ดูพลุแบบเต็มตา ดูเสร็จเดินเข้าห้องได้เลย ชิวมาก ตัวสระว่ายน้ำก็ค่อนข้างยาว สามารถว่ายออกกำลังกายได้สบายๆ

River Jacuzzi
ใครอยากแช่ Jacuzzi ที่นี่ก็มีโซน River Jacuzzi พร้อมให้บริการ วิวสวยทั้งกลางวันและกลางคืนฮะ

Sky Fitness
Fitness ที่นี่จะได้หน้าต่างกระจกแบบ Full Height เลย ทำให้เราสามารถมองวิวได้เต็มตาครับ อุปกรณ์ออกกำลังกายก็ครบ มีการเพิ่มความ Active ด้วยเพดานสีเขียวมิ้นต์ประดับด้วยไฟเส้น เป็นห้องออกกำลังกายที่ได้ทั้งวิวเมืองและสระว่ายน้ำเลย

พื้นที่ส่วนกลางชั้น 28
เน้นกิจกรรมชิวๆ สบายๆ ปล่อยใจไปกับการพักผ่อน พร้อมชมวิวเมืองและวิวแม่น้ำเจ้าพระยา

มาถึงชั้นบนสุดกันละครับ ชั้นนี้เอาจริงเน้นการชมวิวสุดๆ อย่างด้านในอาคารจะมี Exclusive Artful Lounge กับ Panoramic Amphitheater ที่ให้เราชมวิวด้านนอกได้เต็มๆ มองออกไปก็จะเห็นว่าตัวสระว่ายน้ำของเราเชื่อมต่อกับแม่น้ำเจ้าพระยา ก็สวยไปอีกแบบครับ เหมาะสำหรับคนที่อยากได้วิวสวยๆ แต่อยากอยู่ในห้องแอร์เย็นๆ ส่วนด้านนอกจะมี The Sky Private Seat โซนนี้จริงๆ เดินไปเรื่อยๆ ลงไปชั้น 27 ได้นะครับ เขาเชื่อมต่อกันเลย ก็เป็นมุมชมวิวแบบ Outdoor เบื่อห้องแอร์แล้ว อยากสูดอากาศธรรมชาติก็โซนนี้เลย
แล้วถ้าเพื่อนๆ ดูในแปลนอาคารก็จะเห็นว่าตัว Exclusive Artful Lounge กับ Panoramic Amphitheater จะเป็นห้องสี่เหลี่ยมผืนผ้าซ้อนกันอยู่กับพื้นที่หญ้าด้านนอก เป็นการออกแบบ Jenga Design ที่ทางโครงการเขาตั้งใจให้เหมือนกับไม้กำลังซ้อนทับกันอยู่ โดยการบิดทำมุมห้องนี้ 24 องศาจากตัวตึกปกติ จุดประสงค์ก็เพื่อให้ห้องนี้หันไปรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบตรงๆ ครับ

Exclusive Artful Lounge
โซนด้านบนจะเป็น Exclusive Artful Lounge ครับ ก็จะมีโซฟาและมุมพักผ่อน มีการตกแต่งผนังด้วยงานศิลปะค่อนข้างเยอะเลย ขึ้นมานั่งทำงาน นั่งอ่านหนังสือกันได้ บรรยากาศที่ได้ก็จะแตกต่างจากส่วนกลางชั้น 1 ที่วิวส่วนใหญ่จะเป็นสวนสีเขียวครับ

Panoramic Amphitheater
ด้านล่างจะเป็นโซน Panoramic Amphitheater พื้นเป็นลายหินอ่อนสีดำ ตัดกับโซฟาสีเขียว ที่จัดไว้มุมต่างๆ หันออกไปด้านนอก ให้เราสามารถนั่งชมวิวได้ จะเห็นว่าหน้าต่างกระจกแทบจะไม่เห็นขอบกระจกเลยครับ อย่างตัวห้องออกกำลังกายได้หน้าต่างกระจก Full Height ก็จริง แต่มีขอบกระจกสีดำอยู่รอบเลย แต่ห้องนี้เขาพยายามให้เห็นของกระจกน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เราจะได้ชมวิวด้านนอกกันแบบไม่สะดุด
The Sky Private Seat
โซน Outdoor ด้านนอก ที่เชื่อมชั้น 28 กับ 27 จะวางเป็นโซฟาขนาดใหญ่เอาไว้ชมวิว ก็จะได้ความเป็นส่วนตัว มานั่งคนเดียวได้แบบไม่เขิน หรือจะมานั่งเป็นคู่จู๋จี๋ หรือจะนั่งเป็นครอบครัวก็ไม่อึดอัด

ได้วิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา
ตั้งแต่ชั้น 15 ขึ้นไป จะเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา และยิ่งชั้นสูงก็จะยิ่งเห็นได้กว้างและไกลขึ้น เหมือนมีที่ดูพลุส่วนตัว

จุดเด่นของโครงการ นอกจากเรื่องของทำเล พื้นที่ส่วนกลาง และ Layout ห้องแล้ว ยังมีวิวด้วยครับ อย่างที่เราเล่าเรื่องพื้นที่ส่วนกลางไปแล้วข้างต้น เพื่อนๆ ก็จะพอเห็นวิวกันบ้างแล้ว ที่นี่มองวิวแม่น้ำได้แบบเต็มๆ ถือว่าใกล้เลย ถึงแม้ว่าโครงการจะไม่ได้ติดริมน้ำโดยตรง ซึ่งด้านหน้าอาคารก็จะหันไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา รอบข้างโครงการไม่ได้มีตึกสูงเท่าไหร่ ส่วนใหญ่เป็นบ้านไม่ก็ตึกแถว ถ้าเป็นตึกสูงจะอยู่ห่างออกไป อาจจะมีการบังวิวเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้กระทบครับ ยิ่งอยู่ชั้นสูงก็จะยิ่งเห็นแม่น้ำเยอะขึ้น จากประกบการณ์ที่อยู่ในย่านนี้ จะบอกว่ามีการจุดพลุบ่อยเลย ถึงจะไม่ใช่ช่วงปีใหม่ก็ตาม แถมวิวตอนกลางคืนก็เป็นอะไรที่สวยมากฮะ ได้เห็นทั้งแสงสีจากความเป็นเมือง และแสงจากเรือที่แล่นไปมา โรแมนติกอยู่นะ ส่วนถ้าปีใหม่หล่ะก็ อยู่ที่นี่ก็ไม่ต้องไปเบียดกับคนดูพลุที่ไหนเลยครับ พลุมาอยู่ตรงหน้าบ้านเราแล้ว
วิวฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือ
(ฝั่งสะพานตากสิน)
ด้านหน้าโครงการจะหันไปทางทิศตะวันออกครับ ส่วนวิวที่เห็นในรูปจะเป็นตะวันออกเฉียงเหนือ คือฝั่งซ้าย ทางไอคอนสยาม ด้านหน้าไม่ได้มีตึกสูงอะไรมากมาย นอกจากจะได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาแล้ว ก็ยังได้วิวรถไฟฟ้าผ่านไปมาด้วย จากวิวนี้ถ้าช่วงเคาน์ดาวน์ปีใหม่ก็จะเห็นพบุจากไอคอนสยามแน่นอนฮะ
วิวฝั่งตะวันตกเฉียงใต้
(ฝั่งสะพานพระราม 3)
วิวอีกฝั่งทางด้านขวา จะเป็นฝั่งพระราม 3 ครับ ก็จะมีตึกสูงอยู่บ้าง แต่ไม่ได้บังวิวเท่าไหร่ ยังคงเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาอยู่นะ ส่วนด้านข้างก็แทบไม่มีตึกสูงใกล้ๆ เลยครับ ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านหรือไม่ก็ทาวน์โฮม ตึกแถวต่างๆ วิวข้างๆ และด้านหลังเลยจะโล่งๆ หน่อย
Sale Gallery ของโครงการ
อยู่ในซอยเจริญนคร 22 ใกล้กับตัวโครงการ กลิ่นอายคล้ายกับตัวโครงการ

ตัวโครงการกับ Sale Gallery จะไม่ได้อยู่ที่เดียวกัน แต่ห่างกันนิดเดียวเท่านั้นฮะ คือทางเข้าโครงการจะอยู่ติดกับเส้นหลักของถนนเจริญนครเลย แต่ตัว Sale Gallery จะเลยมานิดนึง เข้าไปในซอยเจริญนคร 22 ถ้ามองจาก Sale Gallery ก็จะเห็นตัวโครงการจริงด้วยนะครับ
ตัว Sale Gallery ก็จะมีที่นั่งเยอะเลย มี Model ตัวอย่าง และมีห้องตัวอย่างให้เราดูทั้งหมด 2 ห้องด้วยกัน ถ้าเพื่อนๆ สนใจโครงการ ก็สามารถเข้ามาคุยกับ Sale ได้เลยนะครับ
แปลนอาคาร และ Layout ห้อง
มีให้เลือก 9 แบบ 9 สไตล์ ห้องเริ่มต้นขนาดใหญ่ ฟังก์ชันไม่ซ้ำ
ชั้น 2 – 6 จะเป็นชั้นจอดรถทั้งหมด ตั้งแต่ชั้น 7 ขึ้นไปจะเป็นชั้นพักอาศัย แล้วตั้งแต่ชั้น 7 – 26 แปลนอาคารเหมือนกันทั้งหมดเลย จะต่างก็แค่ชั้น 7 – 24 เพดานห้องพักอาศัยจะสูง 2.6 เมตร ส่วนชั้น 25 – 26 จะสูง 3 เมตร ที่นี่มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 580 ยูนิต ชั้นนึงก็จะมีประมาณ 29 ยูนิต มุมอาคารทั้ง 4 ด้านจะเป็น 2 Bedroom ทั้งหมด เท่ากับว่าชั้นนึงจะมี 2 Bedroom 4 ยูนิต ส่วน 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ก็จะคละกันไป ที่นี่มีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 3 ตัว และเซอร์วิสลิฟต์ 1 ตัว มีบันไดหนีไฟทั้งหมด 2 จุดครับ

Layout ห้องที่มีให้เลือก
สำหรับห้องจะมีให้เลือกทั้งหมด 9 ไทป์ครับ แบ่งเป็น 1 Bedroom 5 ไทป์, 1 Bedroom Plus 1 ไทป์ และ 2 Bedroom 3 ไทป์ด้วยกัน เดี๋ยวจะพาเพื่อนๆ ไปดูแปลนแต่ละไทป์กันต่อเลยฮะ
1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus : 6 Layout ไม่ซ้ำแบบ 29.50 – 35 ตารางเมตร
ทุก Layout จะแบ่งห้องเป็นสัดเป็นส่วนชัดเจน มีทั้งครัวแบบปิดและแบบเปิด ห้องนอนก็มีทั้งที่เป็นประตูบานเลื่อนกระจก และผนังทึบ จุดเด่นและข้อดีแต่ละ Layout ก็จะแตกต่างกันไปครับ
A1
29.50 ตารางเมตร

แปลนห้องเป็นห้องตอนลึกก็จริง แต่พอเข้าไปจะไม่ได้รู้สึกแคบครับ เพราะที่แคบคือด้านหน้าห้องที่เขาทำมาเหมือนเป็น Foyer เป็นโถงใหญ่ๆ ที่ Built-in ตู้เก็บของ/เก็บรองเท้าได้สบายๆ เดินเข้ามาหน่อยจะเจอมุมนั่งเล่นที่กว้างพอสมควรเลย วางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้ ระยะโซฟากับทีวีก็ค่อนข้างห่าง ทำให้เราวางทีวีจอใหญ่ได้อีก ไทป์นี้เขาเอามุมกินข้าวมาไว้ด้านใน ใกล้กับห้องครัว ซึ่งเอาจริงผมยังไม่เคยเห็นแปลนแบบนี้เท่าไหร่ ถ้าไม่ทำเป็นมุมกินข้าว เราจะทำเป็นมุมทำงาน หรือมุมอเนกประสงค์อื่นๆ ก็ได้นะครับ ด้วยความที่ทางเข้าห้องน้ำอยู่ด้านหน้าห้อง ทำให้เราสามารถแต่งมุมนี้ออกมาได้เต็มทั้งฝั่ง ไม่เสียพื้นที่ไปโดยเปล่าประโยชน์เลย ครัวที่ได้ก็เป็นครัวปิดที่อยู่ติดกับระเบียง ห้องนอนจะอยู่ติดกับหน้าต่างบานใหญ่ มีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นเอาไว้
A2
29.50 ตารางเมตร

ดูผ่านๆ แปลนห้อง A2 ดูคล้ายกับ A1 มาก แต่จริงๆ ต่างกันพอสมควรเลยครับ เปิดมาเจอโถงเหมือนเดิม ห้องน้ำตำแหน่งเดิม แต่มุมกินข้าวอยู่ถัดไปเลย ซึ่งถ้าเราไม่ได้ต้องการมุมกินข้าว สามารถ Built-in ตู้เก็บของยาวๆ ตั้งแต่หน้าประตูไปจนถึงครัวได้เลย ครัวก็จะได้ครัวปิดอยู่ติดกับระเบียงเหมือนกัน ห้องนี้มุมนั่งเล่นจะกว้างขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เราจะวางเฟอร์นิเจอร์เหมือนกับแปลนตัวอย่างก็ได้ หรือจริงๆ เราจะย้าย ทำอีกฝั่งที่โล่งๆ เป็นมุมทีวี แล้วเอาโซฟามาวางเป็นแนวนอนแทนก็ได้ ระยะความห่างก็แล้วแต่ความต้องการเลย ส่วนห้องนอนก็จะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกกั้นเหมือนเดิม ก็ขึ้นอยู่กับเพื่อนๆ ครับ ว่าอยากได้มุมนั่งเล่นใหญ่ๆ วางเฟอร์ได้หลากหลายมุม มีพื้นที่ให้วางทั้งมุมกินข้าวและมุมทำงานใน Living Area แปลนห้องอาจจะไม่ได้ต่างกันมาก แต่ฟังก์ชันการใช้งานก็ต่างกันอยู่นะ
B1
31.50 ตารางเมตร

ห้องนี้จะเป็นไทป์เดียวกันกับห้องตัวอย่างของโครงการที่อยู่ใน Sale Gallery เลย ด้านหน้าจะเป็นครัวปิด ขนาดครัวก็ไม่ได้เล็กนะครับ จะกั้นครัวด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ด้านในเป็น Living Area ขนาดใหญ่ ด้วยความที่เขาทำระเบียงให้เล็กลง สามารถเพิ่มพื้นที่ใช้สอยใน Living Area ได้ เราจะวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เหมือนในแปลนก็ได้นะครับ หรือจริงๆ ฝั่งที่วางโซฟา เราจะวางทีวีแทน แล้วฝั่งทีวีก็ไว้โซฟาแทน สลับฝั่งกัน มุมกินข้าวก็วางโต๊ะได้หลายแบบ หรือจะ Custom โซฟาให้เชื่อมกันตั้งแต่มุมกินข้าวยาวมาถึงมุมนั่งเล่นก็ได้เช่นกัน ส่วนพื้นที่ริมหน้าต่าง เป็นเหมือนพื้นที่อเนกประสงค์ที่เราจะทำอะไรก็ได้ตามใจชอบเลย อย่างแปลนตัวอย่างทำเป็นมุมทำงาน ก็ได้ความเป็นส่วนตัวดีฮะ มองวิวด้านนอกได้ด้วย ห้องนอนไทป์นี้จะเป็นผนังทึบ ขนาดกว้างขวางมาก ห้องน้ำเข้าได้ 2 ทางเลย
B2
31.50 ตารางเมตร

ไทป์นี้มุมนั่งเล่นอยู่ด้านหน้าเลยครับ มีมุมกินข้าวอยู่ข้างๆ โซฟา ห้องนอนเป็นประตูบานเลื่อนกระจก วางเตียง โต๊ะข้างเตียง ตู้เสื้อผ้า และชั้นวางทีวีได้ จะเปลี่ยนจากชั้นวางทีวีเป็นโต๊ะแต่งหน้าแทน หรือทำเป็นตู้เสื้อผ้ายาวๆ ไปเลยก็ได้นะครับ เผื่ออยู่กัน 2 คน เสื้อผ้าอาจจะเยอะ ถ้าได้ตู้เสื้อผ้าใหญ่ๆ น่าจะดี แล้วค่อยเอาเตียงไปชิดริมหน้าต่าง จะมีพื้นที่มากขึ้น พอให้วางโต๊ะเครื่องแป้งได้อีก ส่วนครัวจะได้เป็นครัวปิดครับ เขาออกแบบครัวมาค่อนข้างยาวเลย นอกจากจะวางเคาน์เตอร์ครัวกับตู้เย็นได้แล้ว เรายังวางตู้เก็บของเพิ่มอีกได้ เหมาะมากๆ สำหรับคนที่มีอุปกรณ์เครื่องครัว เครื่องปรุงเยอะ หรือชอบตุนของใช้ต่างๆ
C1
35 ตารางเมตร

ห้องนี้เป็นไทป์เดียวใน 1 Bedroom ที่ได้ครัวเปิดครับ ถ้าเปิดประตูเข้ามาในห้องเราจะรู้สึกกว้าง เพราะ Living Area ใหญ่ เป็น L-shape ด้านหน้ายัง Built-in ตู้เก็บของ/เก็บรองเท้าได้เหมือนเดิม มีมุมกินข้าวอยู่ถัดไป จะทำเป็น 2 ที่นั่งเหมือนแปลนตัวอย่าง หรือทำเป็น 4 ที่นั่งก็ได้นะครับ ลดขนาดตู้ลงถ้าอยากวางที่เดิม หรือเอาโต๊ะกินข้าวมาวางใกล้กับเคาน์เตอร์ครัวแทนก็ได้เช่นกัน มุมนั่งเล่นค่อนข้างกว้าง วางโซฟาขนาด 3 – 4 ที่นั่งได้สบาย ฝั่งชั้นวางทีวีจะวางแต่ทีวีทั้งฝั่ง หรือลดขนาดให้เล็กลง แล้วเพิ่มมุมทำงานก็ได้ ห้องนอนก็จะเป็นผนังทึบ ได้ความเป็นส่วนตัว ทำ Walk-in Closet ได้ด้วย ห้องน้ำก็เข้าออกได้ 2 ทาง
C2
35 ตารางเมตร

ห้องนี้ก็เป็นไทป์ที่โชว์ใน Sale Gallery เหมือนกันครับ แบ่งเป็นสัดเป็นส่วนชัดเจน ติดทางเข้าห้องจะเป็นครัวปิด ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ทำเป็นตู้เก็บรองเท้าเพิ่มได้ ขยับเข้ามาเป็น Living Area ที่รวมมุมกินข้าวกับมุมนั่งเล่นเอาไว้ด้วยกัน ห้องอเนกประสงค์จะอยู่ด้านในสุด กั้นห้องด้วยประตูบานเลื่อนกระจก สามารถทำเป็นห้องนอนเล็กได้ เป็นห้องที่ได้หน้าต่างกระจกแบบเข้ามุมด้วย ห้องนอนจะเป็นผนังทึบ ได้ความเป็นส่วนตัว ระเบียงจะอยู่ในห้องนอน ห้องนอนก็จะมีมุม Walk-in Closet ด้วย ห้องน้ำเข้าได้สองทาง ทั้งห้องครัวและห้องนอน ฝั่งห้องนอนจะใช้เป็นประตูบานเลื่อนแทนฮะ
2 Bedroom : มีทั้ง 1 และ 2 Bath ให้เลือก ห้องใหญ่ อยู่เป็นครอบครัวได้
มาดู 2 Bedroom กันบ้างครับ มีให้เลือก 3 ไทป์ แปลนแต่ละไทป์คือแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลย ตัวห้องใหญ่ อยู่สองคนสบายๆ อยู่เป็นครอบครัวก็ไม่อึดอัด เหมาะสำหรับการขยายครอบครัวด้วย
D1 (1 Bath)
42 ตารางเมตร

ไทป์นี้เปิดประตูเข้ามาจะเจอ Living Area ที่ใหญ่มากครับ เป็นไทป์เดียวของ 2 Bedroom ที่เป็นครัวเปิด ทุกพื้นที่จะเชื่อมกันทั้งหมด มุมนั่งเล่นจะอยู่ด้านข้าง ได้หน้าต่างกระจกแบบเข้ามุม ในแปลนเขาจัดให้โซฟากับโต๊ะกินข้าวอยู่ติดกันเลย แล้วด้านหลังเป็นครัว เอาจริงก็ขึ้นอยู่กับเราจะครับว่าจะจัดวางเฟอร์นิเจอร์ยังไง ทำได้หลากหลายเลย ด้านในก็จะเป็นห้องนอน 2 ห้องที่ขนาดใหญ่พอๆ กัน แต่ระเบียงจะอยู่ใน Master Bedroom และห้องน้ำก็สามารถเข้าได้ 2 ทาง จริงๆ ห้องนอนเล็ก ถ้าเราไม่ได้ต้องการห้องนอน จะทำเป็นห้องอเนกประสงค์อื่นๆ ก็ได้เหมือนกันนะครับ
E1 (2 Bath)
57 ตารางเมตร

ห้องนี้เปิดมาเจอครัวก่อนเลยครับ เป็นครัวที่วางตู้เย็นใหญ่ๆ ได้ หรือจะวางขนาดปกติ แต่เพิ่มตู้เก็บของก็ได้เหมือนกัน ครัวก็จะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก เป็นห้องที่ได้ Living Area ใหญ่มาก เหมาะกับคนที่ชอบใช้เวลาไปกับห้องนั่งเล่น ไม่หมกตัวอยู่แต่งในห้องนอน เพราะเป็นโซนที่ทำกิจกรรมได้เยอะเลย เพื่อนๆ สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ รูปทรงแบบไหนก็ได้ครับ พื้นที่เหลือๆ แล้วอยากจะ Built-in ชั้นวางทีวีหรือตู้เก็บของใหญ่แค่ไหนก็ได้เช่นกัน ด้านหลังโซฟาวางโต๊ะกินข้าวได้ ห้องนอนเล็กมีระเบียงส่วนตัว และห้องนอนใหญ่เองก็ได้ห้องน้ำส่วนตัว
E2 (2 Bath)
57 ตารางเมตร

ไทป์สุดท้ายครับ ห้องนี้เปิดเข้ามาเจอมุมกินข้าวก่อนเลย ด้านหลังประตู Built-in ตู้เก็บของได้ Living Area กว้าง อยู่ติดกับระเบียงเลย ครัวที่ได้จะเป็นครัวปิด มีหน้าต่างในครัวด้วย เอาไว้ระบายกลิ่นและอากาศให้ถ่ายเทได้ ไทป์นี้จะเน้นห้องนอนที่กว้างขวาง แม้แต่ห้องนอนเล็กเองก็ยังใหญ่ วางตู้เสื้อผ้าได้เยอะ วางเตียง 6 ฟุตยังได้ ห้องน้ำก็เข้าออกได้สองทาง ทั้งจากห้องนอนเล็ก และ Living Area ส่วนห้องนอนใหญ่ได้หน้าต่างกระจกแบบเข้ามุม วางเตียง ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งได้ ในห้องนอนก็จะมีห้องน้ำส่วนตัวด้วยครับ
1 Bedroom ขนาด 31.5 ตารางเมตร
ได้ Living Area ขนาดใหญ่ มีมุมอเนกประสงค์ มาพร้อมครัวปิด และห้องนอนผนังทึบ เพิ่มความเป็นส่วนตัว
ห้องตัวอย่างก็จะมีทั้งหมด 2 ห้องด้วยกันครับ ห้องนี้จะเป็นไทป์ B1 คือด้านหน้าเป็นครัวปิด มีประตูบานเลื่อนกระจกกั้น ได้ Living Area ที่ใหญ่ มุมกินข้าว มุมนั่งเล่น และมุมอเนกประสงค์เชื่อมต่อกัน ลดขนาดระเบียง แต่ช่วยเพิ่มพื้นที่ในห้องให้ใช้งานได้จริง ห้องนอนก็จะเป็นผนังทึบ ได้ความเป็นส่วนตัว ห้องน้ำเข้าออกได้ 2 ทาง คือจากห้องครัวและห้องนอน
ครัวปิด : เคาน์เตอร์ยาวเต็มฝั่ง พื้นที่ทำอาหารเยอะ
เปิดประตูเข้ามาในห้องจะเจอครัวแบบนี้เลยครับ ผมว่าห้องจริงดูกว้างกว่าแปลนอีกนะ เคาน์เตอร์ครัวจะ Built-in เต็มฝั่งเลย มีช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้ามาให้ด้วย เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจานของ MEX ตัวอ่างล้างจานจะมีแผ่นปิดมาให้สีเดียวกันกับ Top เคาน์เตอร์ เหมือนในห้องตัวอย่างเลยครับ เอาไว้เพิ่มพื้นที่เตรียมอาหารได้ดี Backsplash ก็จะเป็นกระเบื้องสีขาวเหมือนในห้องตัวอย่างเช่นกัน สำหรับที่แขวนอุปกรณ์ครัวเขาก็ติดตั้งมาให้นะครับ
เคาน์เตอร์ครัวมีพื้นที่เก็บของด้านล่าง แต่ตู้ทางด้านขวามือ จะเป็นตู้เก็บรองเท้าที่เขา Built-in มาให้เหมือนในรูปเลย ด้านบนก็มีตะขอแขวนกุญแจหรืออุปกรณ์อื่นๆ ด้วย เรียกได้ว่าคิดมาให้แล้วครับ ส่วนตู้เก็บของด้านบน Built-in มาให้พอดีกับความสูงของเพดาน นอกจากจะสวยแล้วยังเก็บของได้เยอะด้วย ส่วนตู้เย็นจะวางตรงข้ามกับครัวแทนฮะ
Living Area : เชื่อมต่อมุมกินข้าว-มุมนั่งเล่น-มุมอเนกประสงค์

มุมนั่งเล่นค่อนข้างใหญ่เลยครับ วางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้สบายๆ วางโต๊ะกาแฟเพิ่มก็ไม่เกะกะนะครับ ฝั่งชั้นวางทีวีจะวางแบบเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวก็ได้ หรือจะ Built-in ให้เต็มผนังไปเลย ก็ทำให้มีที่เก็บของเยอะขึ้นครับ ตัวโต๊ะกินข้าววางไว้ติดกับชั้นวางทีวีได้
ส่วนมุมอเนกประสงค์อยู่ติดหน้าต่างเลย ห้องตัวอย่างทำเป็นมุมทำงาน เป็นไอเดียที่ดีฮะ ทำงานไปมองวิวไป หรือเราจะทำเป็นมุมอื่นๆ ก็ได้เช่นเดียวกัน ระเบียงขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ มีก็อกน้ำและท่อระบายน้ำติดตั้งมาให้ คอมเพรสเซอร์แอร์จะวางไว้ด้านบน ทำให้เรามีพื้นที่เหลือ เอาไว้ปลูกต้นไม้ วางเก้าอี้หรือโต๊ะเล็กๆ เพิ่มได้นะ
ห้องนอน : กว้างขวาง ได้ความเป็นส่วนตัว

เอาจริงห้องนอนกว้างเกือบเท่า Living Area ทั้งหมดรวมกันฮะ วางเตียงขนาดใหญ่ได้ ด้านข้างวางโต๊ะข้างเตียงได้ทั้งสองฝั่ง ริมหน้าต่างมีพื้นที่อเนกประสงค์ให้เราตกแต่งเพิ่มได้ อย่างห้องตัวอย่างทำเป็นพื้นที่พักผ่อน เพราะด้านนอกเองก็มีโต๊ะทำงานแล้ว มุมนี้เลยเหมาะจะใช้ทำกิจกรรมต่างๆ เผื่อเรายังไม่ได้อาบน้ำ แล้วไม่อยากโดนเตียง มุมนี้ตอบโจทย์ฮะ ส่วนตู้เสื้อผ้าก็ Built-in ได้เต็มฝั่ง อยู่ติดกับทางเข้าห้องน้ำเลย ถ้าอยากได้พื้นที่สำหรับโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่ม ก็เอาโต๊ะข้างเตียงออก แล้วขยับเตียงไปใกล้หน้าต่างอีกหน่อย จะได้พื้นที่เพิ่มขึ้นมาประมาณนึงเลย
ห้องน้ำ : สุขภัณฑ์ครบ ได้ฉากกั้นประตูกระจกสำหรับห้องอาบน้ำ
ห้องน้ำจะเข้าออกได้ 2 ทางนะครับ อ่างล้างหน้าจะมีตู้เก็บของด้านล่างด้วย กระจกคือยาวตั้งแต่อ่างล้างหน้าไปจนถึงชักโครกเลย มีชั้นวางของด้านหลังอ่างล้างหน้ายาวไปถึงข้างๆ ชักโครกด้วยนะครับ เอาไว้วางอุปกรณ์ในการอาบน้ำได้ ห้องอาบน้ำก็มีฉากกั้นประตูกระจกติดตั้งมาให้เรียบร้อย ด้านในก็มีฝักบัว เครื่องทำน้ำอุ่นติดตั้งเพิ่มเติมเองได้ฮะ
1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตารางเมตร
ห้องนอนใหญ่ มีมุม Walk-in Closet ห้องอเนกประสงค์ทำเป็นห้องนอนเล็กได้
ไทป์นี้เป็นห้องที่มีฟังก์ชันเยอะมากครับ ทุกห้องจะแบ่งโซนกันอย่างชัดเจนเลย อย่างด้านหน้าเป็นครัวปิด แต่เคาน์เตอร์ครัวการใช้งานจะไม่เหมือนกันนะครับ เพราะไทป์นี้ไม่มีตู้เก็บรองเท้าหรือตะขอแขวนกุญแจมาให้ แต่ตรงข้ามเคาน์เตอร์เราวางตู้เก็บรองเท้าเล็กๆ เหมือนห้องตัวอย่างได้ฮะ ด้านใน Living Area ก็กว้างขวาง ถัดไปเป็นห้องอเนกประสงค์ ประตูทุกห้องก็จะกั้นด้วยบานเลื่อนกระจก ยกเว้นห้องนอนที่ได้แบบทึบ ห้องนอนจะมีระเบียงส่วนตัว มีมุม Walk-in Closet แล้วห้องน้ำก็เข้าออกได้สองทาง สะดวกกับเจ้าของห้อง เวลามีแขกมาเที่ยวที่ห้อง ไม่ต้องผ่านห้องนอนของเราฮะ
ห้องครัว : เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจานให้มาครบ
ครัวของไทป์นี้จะตัดที่เป็นตู้เก็บรองเท้าออกไปครับ เพื่อที่จะวางตู้เย็นได้แบบพอดิบพอดี แต่ยังมีพื้นที่ให้เตรียมอาหารได้เยอะอยู่นะ ฝั่งตรงข้ามก็วางตู้เก็บรองเท้าเล็กๆ ได้ ข้อดีคือของที่เราวางเอาไว้เพื่อเตรียมตัวออกจากห้อง อย่างพวกกุญแจหรือรองเท้า จะไม่ไปเกะกะหรือใกล้กับมุมที่ทำอาหารมากเกินไปฮะ
Living Area : ขนาดกำลังพอเหมาะ วางเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลาย

มุมนั่งเล่นก็วางโซฟา 2 – 3 ที่นั่งได้ครับ วางโต๊ะกาแฟก็ยังไม่อึดอัด มีช่องให้เดินผ่านไปมาได้ ทีวีติดผนังก็ช่วยทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้นะครับ แต่อาจจะมีที่เก็บของน้อยลง สามารถหาชั้นวางทีวีแบบที่ไม่ได้กว้างมากมาวางเพิ่มได้อีก
มุมกินข้าว : วางแบบ 2 ที่นั่งได้ ช่วยประหยัดพื้นที่
มุมกินข้าวห้องตัวอย่างเขาทำเป็นโต๊ะกลมชิดกับโซฟาเลย เท่ากับว่านั่งได้ 3 คนฮะ แล้วตกแต่งผนังอลังการมาก ส่งโต๊ะ ส่งโคมไฟสุดๆ หรือจริงๆ เราจะทำเป็นโซฟายาว แล้ววางโต๊ะกินข้าวด้านหน้าแทนก็ได้นะครับ

ห้องอเนกประสงค์ : ฟังก์ชันหลากหลาย ได้กระจกแบบเข้ามุม

ห้องอเนกประสงค์กว้างพอที่จะทำเป็นห้องนอนเล็กได้ครับ ห้องตัวอย่างก็แต่งเป็นไอเดียให้ดูแล้ว คือวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ วางตู้เสื้อผ้าได้ หน้าต่างกระจกนอกจากจะได้แบบเข้ามุมแล้ว ยังใหญ่มากด้วย ถ้าเราจะดัดแปลงเป็นห้องอื่นๆ ก็ได้เช่นกัน ทั้งห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือ ห้องเกมเมอร์ จะเป็นอีกห้องที่ได้วิวสวยๆ แน่นอน
ห้องนอน : ทำ Walk-in Closet ได้ มีระเบียงส่วนตัว

สำหรับห้องนอนคือกว้างมากฮะ แบ่งเป็น 2 โซนได้เลย คือโซนที่วางเตียงนอน จะอยู่ติดกับระเบียง ด้านข้างวางโต๊ะข้างเตียงได้นะครับ ส่วนอีกโซนทำเป็น Walk-in Closet ได้ ถ้าอยากได้ตู้เพิ่มอีก ก็ลดขนาดโต๊ะเครื่องแป้งได้นะครับ สำหรับห้องนอนประตูห้องน้ำจะเป็นแบบบานเลื่อน ก็เข้าออกได้สองทาง ทั้งจากห้องนอนและห้องครัว
สรุป
ถ้าพูดถึงคอนโดทำเลใกล้สาทร จริงๆ ก็มีตัวเลือกหลากหลายครับ แต่ละ Location ก็จะมีจุดเด่นที่ต่างกันออกไป อย่างฝั่งเจริญกรุงนี่ก็ได้คอนโดวิวแม่น้ำที่อยู่ใกล้สาทรแบบฝั่งเดียวกัน, ฝั่งเกาะแนว BTS ก็จะมีข้อดีที่ใช้รถไฟฟ้าสะดวก หรือจะเป็นฝั่ง ICONSIAM ก็มีข้อดีในความใกล้ห้างและเป็นทำเลที่คอนโดอยู่ระดับ Luxury, หรือฝั่งถนนนราธิวาส ก็เป็นอีกทำเลที่ทะลุเข้าใจกลางสาทรได้สะดวกสำหรับคนใช้รถ
ซึ่งทั้งหมดที่ว่าไป AP เองมีคอนโดให้เลือกอยู่ในแต่ละ Location ทั้งหมดเลยครับ แต่การที่ AP เลือกมาเปิดที่ทำเล “เจริญนคร” ตรงนี้ด้วยอีกหนึ่งโครงการ จุดเด่นของที่นี่เรามองว่าเป็นความ “Balance ข้อดีของแต่ละทำเลของคอนโดใกล้สาทร” เข้าไว้ด้วยกันครับ
อย่างที่นี่มาครบทั้งในเรื่องวิวแม่น้ำ, ใกล้ห้าง, ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้า, ใกล้สาทรแบบแค่ข้ามสะพาน และที่สำคัญมาในราคาที่ไม่สูงไปสำหรับ Real Demand ในกลุ่มคนทำงานออฟฟิศในเมืองครับ คือถ้าเราลองมาดูในแต่ละข้อที่ว่ามา ที่นี่อาจจะไม่ได้ถึงกับเป็นที่สุดในแต่ละด้าน ไม่ได้ติดแม่น้ำที่สุด, ไม่ได้ใกล้ ICONSIAM ที่สุด, ไม่ได้ใกล้รถไฟฟ้าที่สุด แต่ที่นี่ทำออกมาให้สามารถสัมผัสทุกด้านได้ครับ ไม่ต้องเสียอย่างใดอย่างนึง ในราคาโครงการที่ยังเฉลี่ยอยู่ในช่วง 120,000-130,000
อย่างด้านแรกวิวแม่น้ำ ถึงที่นี่จะไม่ได้อยู่ชิดกับริมน้ำเลย แต่ก็ถือว่าอยู่ในระยะที่ค่อนข้างใกล้ครับ ห้องชั้นกลางๆ ก็สามารถเห็นวิวของแม่น้ำได้แล้ว และส่วนกลางของที่นี่ก็ออกแบบมาให้รับกับวิวของแม่น้ำแบบเต็มที่
ส่วนทำเลที่ตั้งของโครงการ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ติดกับสถานีรถไฟฟ้า ตามสไตล์ของคอนโดบนเส้นเจริญนครฝั่งใต้ แต่ที่นี่ก็ถือว่าเป็นโครงการคอนโดบนเส้นเจริญนครที่ใกล้รถไฟฟ้าอันดับต้นๆ เลยก็ว่าได้ครับ เพียงแค่ประมาณ 800 เมตรจากโครงการ เมื่อตึกสร้างเสร็จจะมีรถ Shuttle Service ของโครงการ วิ่งรับส่งไปกลับสถานี BTS ตลอดทั้งวัน
ส่วนการไปห้างใหญ่ในย่านอย่าง ICONSIAM จากโครงการไปก็แค่ประมาณไม่ถึง 1 กิโลเองครับ ใกล้จนรถไฟฟ้าสายสีทองไม่ต้องใช้ก็ได้สำหรับที่นี่ ต่อรถไป ICONSIAM เลยหรือเดินไปง่ายกว่า และยังใกล้กับ Gump’s Cross และ Sena Fest ในระยะเดินได้ ของกินรอบโครงการค่อนข้างหายห่วง
ซึ่งจุดที่เด่นมากๆ ของทำเลตรงนี้ก็จะเป็นเรื่องการเข้าเมืองครับ ด้วยความที่ทำเลอยู่ติดริมน้ำที่ข้ามไปเป็นสาทรแล้ว ด้วยตัว Location เองก็ถือว่าใกล้เมืองใกล้ CBD กว่าคอนโดระดับราคาแสนต้นๆ ต่อตร.ม. หลายโครงการ อย่างถ้าใช้รถไฟฟ้าจากที่นี่ก็แค่เพียง 1-3 สถานี ถึงย่านสาทร/สีลม หรือถ้าใช้รถยนต์จุดขึ้นสะพานตากสินก็อยู่ห่างจากโครงการแค่เพียงประมาณ 500-600 เมตรเท่านั้นเองครับ ก็ถือว่าค่อนข้างใกล้มาก
นอกจากนี้ก็ยังสะดวกกับทั้งคนที่ทำงานอยู่ในย่านใกล้เคียงอย่างโซนเมืองเก่าที่ข้ามสะพานพุทธไปหรือโซนพระราม 3 ก็สะดวกเช่นกัน

จุดเด่นอย่างต่อมาของที่นี่ก็จะเป็นในเรื่องของพื้นที่ส่วนกลาง ที่จัดออกมาให้ค่อนข้างเต็มที่ สมกับเป็นแบรนด์ LIFE ที่เป็นคอนโดระดับกลาง-บน ของทาง AP ครับ ทั้งงาน Interior ที่ทำออกมาเป็นสไตล์ที่มีกลิ่นอายของอดีตย่านเจริญนคร มีพื้นที่ส่วนกลางที่ดูดีในหลายๆ จุดเลยครับ และไฮไลท์อยู่ที่ส่วนกลางบริเวณชั้น Rooftop ที่มีสระว่ายน้ำที่รับวิวแม่น้ำได้แบบ 270 องศา รวมถึงมีห้อง Sky Lounge ที่เปิดรับวิวอีกเช่นกัน Facility ต่างๆ ของที่นี่ก็ถือว่าให้มาครบเลย รวมพื้นที่ทั้งหมดกว่า 5,800 ตร.ม.
ซึ่งสำหรับใครที่อาจจะมีบ้านมีครอบครัวอยู่ในโซนเจริญนครตรงนี้อยู่แล้ว มองหาที่ขยับขยายมามีพื้นที่เป็นของตัวเองในย่านใกล้ๆ บ้านเดิม ที่นี่นอกจากได้เรื่องของพื้นที่ตัวห้องแล้ว ก็เหมือนเป็นการซื้อ Facility ต่างๆ ไว้มาใช้มาพักผ่อน แบบที่บ้านเดิมอาจจะให้อะไรแบบนี้ไม่ได้ครับ
อีกจุดเด่นที่น่าสนใจ ก็จะเป็นเรื่อง “แปลนห้อง” ของที่นี่ครับ ต้องบอกว่าห้องหลายๆ Type ของที่นี่ถูกจัด Layout ออกมาค่อนข้างดี และดูผ่านการคิดการออกแบบฟังก์ชันมาแล้วพอสมควรเลย อย่างห้อง 1 Bedroom 31.5 ตร.ม. ก็เป็นห้องที่จัดพื้นที่ 30 ตร.ม.นิดๆ ให้มีมุมอเนกประสงค์ริมหน้าต่างได้ทั้งห้องโซน Living และโซนห้องนอน ได้ห้องนอนปิด แปลนค่อนข้างลงตัวครับ หรือไทป์ 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตร.ม. นี่ก็เป็นแปลนที่จัดออกมาได้ครบเหมือนกัน ได้ห้อง Plus, ได้ Walk-in Closet, ได้ครัวปิด เฉลี่ยพื้นที่ของแต่ละโซนออกมาได้ดี
นอกจากนี้ยังมีห้องให้เลือกอีกหลายไทป์เช่นกันครับ ไปจนถึงห้องขนาด 2 Bedroom ขนาด 57 ตร.ม.
ซึ่งในด้านราคาของที่นี่ก็ถือว่าสมเหตุสมผลครับ อาจจะไม่ใช่ตัวที่ราคาเบาที่สุดบนเส้นเจริญนคร แต่ทำเลก็ถือว่าใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ห้างอันดับต้นๆ แต่ก็ยังอยู่ใน Range ที่ไม่สูงเกินไปมาก เฉลี่ยทั้งโครงการประมาณ 120,000-130,000 บาท/ตร.ม. ยังถูกกว่าโครงการที่ติดริมน้ำโดยตรง หรือโซนที่ติด ICONSIAM ครับ
ดังนั้นใครที่มองหาคอนโดในงบช่วง 3-5 ล้าน ทำเลเข้าเมืองทำงานใกล้สาทร และมีความเป็นคอนโดฟีลพักผ่อนตากอากาศหน่อย มีวิวแม่น้ำทั้งจากห้องพักและพื้นที่ส่วนกลาง วันหยุด-ปีใหม่ขึ้นมาดูพลุจาก Rooftop บ้านตัวเองได้ ที่นี่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจครับ
ซึ่งสำหรับใครที่สนใจตอนนี้โครงการก็มีโปรอยู่ด้วยครับ
✅ 1 Bed 31.5 ตร.ม. พร้อมครัวปิด ชั้นสูง วิวเมืองสาทร เพียง 3.89 ล้าน*
✅ 1 Bed Plus 35 ตร.ม. ห้องนอนใหญ่พิเศษ พร้อม Walk-in Closet เริ่ม 4.39 ล้าน*
พร้อมส่วนลดสูงสุด 300,000 บาท* ทันที! หรือแนะนำเพื่อนมาจอง รับเลย! 100,000 บาท*
ดูข้อมูลเพิ่มเติม/ ลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษได้ที่

























































