fbpx
รีวิวเจาะลึก

รีวิวเจาะลึก : “City Home สนามบินน้ำ – รัตนาธิเบศร์” คอนโดที่แค่ล้านนิดๆ ก็เป็นเจ้าของได้

ถ้าพูดถึงคอนโดจากศุภาลัย จุดเด่นที่หลายๆ คนนึงถึงเป็นอันดับแรกๆ ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องของราคาและความคุ้มค่า ที่ในหลายๆ ทำเล ศุภาลัยทำราคาออกมาจะฉีกจากคู่แข่งพอสมควร มาปีนี้ ศุภาลัยประเดิมเปิดโครงการแรกของปี กับแบรนด์ระดับเริ่มต้นที่ห่างหายไปสักพักนึงแล้ว อย่าง …

“City Home สนามบินน้ำ – รัตนาธิเบศร์”

ที่เป็นแบรนด์คอนโดแบบจับต้องได้ง่าย รอบนี้มาในราคาเริ่มเพียงแค่ 1.09 ล้านบาท ในทำเลใจกลางย่านสนามบินน้ำ เดี๋ยววันนี้ LivingPop จะพามารู้จักกับที่นี่กันครับว่า ด้วยราคาเพียงเท่านี้ เค้าให้อะไรมาบ้าง


จุดเด่นโครงการ

ราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย เริ่ม 1.09 ล้านบาท
เฉลี่ย ตร.ม.ละ 47,200 บาท

ใกล้แหล่งงาน และแหล่งของกินในย่านสนามบินน้ำ

ขนาดห้องไม่อึดอัด เริ่มต้น 25 ตารางเมตร


ย่านสนามบินน้ำ

ศูนย์รวมหน่วยงานราชการ และแหล่งชุมชนใหญ่ของจังหวัดนนทบุรี

สำหรับย่านสนามบินน้ำ ใครที่อาจจะยังไม่รู้จัก หรือยังไม่คุ้นเคยกับชื่อนี้ ที่นี่จะเป็นย่านชุมชนผสมกับที่ตั้งของหน่วยงานราชการต่างๆ ครับ โดยตัวที่ตั้งของย่านนี้ จะอยู่ใกล้กับบริเวณแถวๆ แยกแคราย ถัดเข้าไปทางถนนติวานนท์ฝั่งไปปากเกร็ด มีถนนนนทบุรี 1 หรือถนนสนามบินน้ำเป็นถนนเส้นหลักของบริเวณนี้ครับ

ซึ่งย่านสนามบินน้ำจะกินพื้นที่โซนนี้ตั้งแต่ถนนติวานนท์ไปถึงริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเลย ส่วนเหตุผลที่ชื่อสนามบินน้ำ ว่ากันว่ามาจากการที่แต่เดิม ตรงนี้จะเป็นที่ตั้งของสนามบินน้ำครับ หน้าตาเหมือนกับที่เราใช้บินไปเกาะต่างๆ ในมัลดีฟส์เลย ซึ่งเมื่อก่อนก็จะมีเครื่องบินน้ำมาขึ้นลงที่บริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาช่วงนี้ เนื่องจากแม่น้ำมีลักษณะค่อนข้างตรง และมีเรือสัญจรไม่พลุกพล่านเท่าช่วงในเมือง ถึงแม้ปัจจุบันไม่ได้มีสนามบินแล้ว แต่ชื่อย่านสนามบินน้ำก็ยังคงอยู่

ด้วยความเป็นชุมชน เป็นแหล่งสถานที่ราชการ ก็ทำให้ย่านนี้ก็จะมีความคึกคักพอสมควรเลย

แหล่งหน่วยงานรัฐ/รัฐวิสาหกิจ

ย่านศูนย์รวมหน่วยงานราชการขนาดใหญ่ ทั้งในระยะเดินได้ และบริเวณใกล้เคียง

สำหรับย่านสนามบินน้ำ ต้องบอกว่าเป็นอีกจุดนึงที่มีหน่วยงานราชการ/รัฐวิสาหกิจต่างๆ มาตั้งอยู่ในบริเวณนี้เยอะพอสมควรครับ ซึ่งแต่ละหน่วยงานก็มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล, สำนักงาน ป.ป.ช., กระทรวงพาณิชย์ และกรมต่างๆ ภายใน, กรมพลาธิการทหารบก

หรือถ้าขยับออกไปหน่อย บริเวณใกล้ๆ ก็ยังเป็นพื้นที่หน่วยงานของรัฐขนาดใหญ่อยู่อีกเช่นกันครับ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ราชการนนทบุรีบริเวณแยกแคราย

ตรงนี้จะเป็นทั้งศาลากลางของจังหวัดนนฯ ศาลจังหวัด สำนักงานหน่วยราชการต่างๆ ในระดับจังหวัดเช่นพาณิชย์ ขนส่ง อัยการ ประกันสังคม สาธารณสุข สำนักงานเทศบาล สำนักงานพื้นที่การศึกษา รวมทั้งที่ติดกับศูนย์ราชการก็จะเป็นพื้นที่สำนักงานและดาวเทียมของ NT หรือ CAT Telecom เดิม หรือฝั่งตรงข้ามศูนย์ราชการก็จะเป็นที่ตั้งของสำนักงาน กสทช. ที่กำลังสร้างอาคารใหม่ใหญ่โตเลยทีเดียว

บริเวณถนนติวานนท์ฝั่งใต้จะเป็นที่ตั้งของกระทรวงสาธารณสุข สำนักงาน ก.พ. และสำนักงานประกันสังคม ส่วนฝั่งเหนือจะมีกรมชลประทานครับ ถือว่าเป็นย่านศูนย์รวมหน่วยงานราชการแห่งหนึ่งเลยก็ว่าได้

ที่ตั้งโครงการ

ติดถนนใหญ่ ใจกลางสนามบินน้ำ ใกล้แหน่งงานในระยะเดินได้

มาดูที่ตั้งของโครงการกันบ้างครับ ต้องบอกว่าคอนโดส่วนใหญ่ในแถบนี้ ที่ตั้งหลักๆ เค้าก็จะอยู่กัน 2 จุดครับ คือตามแนวถนนรัตนาธิเบศร์ อิงกับรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง อีกเส้นที่จะมีคอนโดเยอะก็จะเป็นบริเวณริมแม่น้ำเจ้าพระยาครับ

ซึ่งทั้ง 2 เส้นนี้ปัจจุบันราคาก็จะไปประมาณนึงแล้วครับ เริ่มต้นอยู่หลักล้านกลางๆ-ล้านปลายๆ ที่นี่เลยจับทำเลที่ต่างออกไปครับ เน้นกลุ่มคนทำงานในย่านสนามบินน้ำเป็นหลักเลย โดยเขยิบเข้ามาอยู่บนถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ใกล้กับถนนสนามบินน้ำและหน่วยงานต่างๆ ซึ่งก็ทำให้ที่นี่ราคาเริ่มต้นจับต้องได้มากขึ้น มาในราคาเริ่มต้น 1.09 ล้านบาท

ที่ตั้งของโครงการจะอยู่ติดกับถนนใหญ่เลย ไม่ต้องเข้าซอย และจะอยู่ห่างจากสามแยกที่ตัดกับถนนสนามบินน้ำประมาณ 350 เมตรครับ ระยะห่างจากกระทรวงพาณิชย์, กองสลาก, ป.ป.ช แค่ประมาณ 1.3-1.5 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ซึ่งบนถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรีช่วงนี้ จะยังไม่มีคอนโดมาตั้งครับ 

ถนนเลี่ยงเมืองนนท์ ย่านชุมชน ร้านของกินตลอดทาง

สำหรับย่านสนามบินน้ำ ตรงนี้ก็จะมีความเป็นชุมชนอยู่ครับ ด้วยความที่มีหน่วยงานต่างๆ รอบๆ บริเวณถนนสนามบินน้ำก็จะมีทั้งหมู่บ้าน คอนโด อพาร์ทเมนต์ ร้านค้าต่างๆ มาตั้งอยู่ ซึ่งถนนสนามบินน้ำ (ถนนนนทบุรี 1) จะเป็นถนนเก่าแก่ของย่านนี้ครับ โดยมีถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรีตามมาทีหลัง ทำให้ที่ดินรอบข้างของถนนเลี่ยงเมืองตรงนี้ยังมีที่โล่งมากกว่า 

ปัจจุบัน เราก็จะเห็นร้านค้า/ตลาดใหญ่ๆ มาเปิดที่ถนนเลี่ยงเมืองนนท์กันเยอะครับ ไม่ว่าจะเป็นตลาดนกฮูก, ตลาดฐานเพชรนนท์ ร้านของกินสองข้างทางเยอะแบบตาแตก สุกี้ตี๋น้อยก็มี

นอกจากตลาดและร้านอาหารที่อยู่บนถนนเลี่ยงเมืองแล้ว ตรงนี้ก็จะมีห้างปิดหัวท้ายเลยครับ ที่แยกถนนสนามบินน้ำตัดกับถนนเลี่ยงเมือง จะเป็นที่ตั้งของ สนามบินน้ำ Market Park เป็น Community Mall ที่มีร้านอาหาร, Gym, Lotus’s Go Fresh สามารถมาใช้บริการได้ ล่าสุดก็เพิ่งมี Makro Food Service มาตั้งอีกฝั่งถนน และที่ใกล้ๆ กับแยกก็กำลังจะมี MM ห้างขายส่งในเครือของ Big C มาเปิดอีกห้างนึงครับ

ส่วนที่ด้านถนนเลี่ยงเมืองนนท์ตัดกับรัตนาธิเบศร์ ตรงนี้จะเป็นที่ตั้งของห้างใหญ่ของย่านนี้อย่าง Central รัตนาธิเบศร์ ที่แว่วๆ ว่ากำลังจะเตรียม Renovate ในเร็วๆ นี้ครับ

หรือถ้าถัดออกไปหน่อยบริเวณแยกแครายก็จะมี Esplanade แคราย และ Lotus’s รัตนาธิเบศร์ครับ ส่วนฝั่งเข้าเมืองถ้าเลยไปอีกก็จะมี The Mall งามวงศ์วานและ Pantip งามวงศ์วาน หรือถ้าหากขึ้นรถไฟฟ้าสายสีม่วง ขาออกถัดออกไปประมาณ 7 สถานีก็จะเป็นที่ตั้งของ Central Wastgate และ IKEA ครับ

Central รัตนาธิเบศร์ – สนามบินน้ำ Market Park

ตลาดฐานเพชรนนท์ – ตลาดนกฮูก

ร้านอาหาร – ร้านของกินตลอดทาง

การเดินทาง

ทำเลเน้นเดินทางสะดวกในย่านสนามบินน้ำ แต่ก็สามารถเชื่อมต่อไปโซนอื่นได้เช่นกัน

อย่างที่บอกไปว่าที่นี่จะใกล้กับถนนสนามบินน้ำ (ถนนนนทบุรี 1) ห่างจากแยกไปแค่ประมาณ 350 เมตร ใครที่ทำงานในหน่วยงานย่านนี้ เลี้ยวออกไปนิดเดียวก็ถึงครับ ระยะห่างจากกระทรวงพาณิชย์, กองสลาก, ป.ป.ช. แค่ประมาณ 1.3-1.6 กิโลเมตรเท่านั้นเอง

ถ้าให้ใช้รถยนต์ส่วนตัว จากถนนเลี่ยงเมืองฯ สามารถไปเชื่อมต่อออกได้หลายเส้นทาง โดยที่ตั้งโครงการจะห่างจากถนนรัตนาธิเบศร์ประมาณ 1.5 กิโลเมตรครับ แต่สามารถข้ามสะพาน ผ่านถนนรัตนาธิเบศร์แบบไม่ต้องติดไฟแดงไปฝั่งท่าน้ำนนท์ได้ โดยเชื่อมต่อออกสะพานมหาเจษฎาบดินทร์ฯ และสะพานพระราม 5 ที่ถนนนครอินทร์ได้ครับ

ส่วนการเข้าเมือง สามารถใช้ถนนรัตนาธิเบศร์ไปงามวงศ์วานเพื่อเข้าวิภาวดีหรือขึ้นทางด่วนศรีรัชได้ครับ แต่สำหรับใครที่ไม่อยากผ่านแยกแครายก็จะมีอีกทางเลือกคือวิ่งตามถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ทะลุออกถนนประชาราษฎร์ ไปถนนกรุงเทพ-นนท์ เพื่อเข้าสู่ย่านบางซื่อ-เตาปูนได้เช่นเดียวกัน

ส่วนใครที่ต้องการจะใช้รถไฟฟ้า ที่ใกล้ที่สุดจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีแยกนนทบุรี 1 ครับ ห่างออกไปประมาณ 1.8 กิโลเมตรจากตัวโครงการ ข้อดีของสถานีนี้คือจะเป็นสถานีที่มีบริการอาคารจอดแล้วจรด้วย สำหรับใครที่มีรถ สามารถขับมาจอดแล้วต่อรถไฟฟ้าได้

แต่ถ้าใครไม่อยากใช้รถ ทางโครงการก็จะมีบริการ Shuttle Service รับส่งรถไฟฟ้าให้ด้วยครับ

ซึ่งถ้าขึ้นรถไฟฟ้าไป 2 สถานี ก็จะถึงสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ที่เป็นจุดแหล่งงานใหญ่อีกจุด และเป็น Interchange กับรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล (แคราย-แยกลำสาลี) ในอนาคตครับ

อนาคตของย่านนี้

ปีนี้มีรถไฟฟ้าสีชมพูเปิดใหม่ อนาคตมีสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่ม

รถไฟฟ้าสายสีม่วงที่เข้าเมืองได้สะดวกขึ้น

อย่างที่เราทราบกันดีว่ารถไฟฟ้าสีม่วง ทุกวันนี้ถ้าหากจะเข้าเมือง ก็จะต้องไปต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินอีกสายใช่ไหมครับ แต่จริงๆ แล้ว รถไฟฟ้าสายสีม่วงที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน เป็นแค่ส่วนหนึ่งของเส้นทางในแผนเท่านั้นครับ

เพราะยังมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ที่กำลังก่อสร้างอยู่ โดยจะมีเส้นทางวิ่งต่อจากเดิมที่สุดที่เตาปูนมุดลงใต้ดิน ตัดผ่านรัฐสภาใหม่ ผ่านย่านเมืองเก่าอย่างศรีย่าน, หอสมุดแห่งชาติ, บางขุนพรหม, สามยอด (ตัดกับสายสีน้ำเงิน), สะพานพุทธ 

แล้วลอดใต้แม่น้ำมาฝั่งธน ผ่านวงเวียนใหญ่ วิ่งตามถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน โผล่ขึ้นมาบนดินที่บริเวณดาวคะนอง และวิ่งไปตามถนนสุขสวัสดิ์สุดสายที่ครุใน ย่านพระประแดงครับ

ซึ่งปัจจุบันได้เริ่มก่อสร้างแล้ว คาดว่าจะแล้วเสร็จช่วงปี 2570 เมื่อสร้างเสร็จก็จะเชื่อมเมืองสองฝั่งให้เดินทางหากันสะดวกมากขึ้น และเข้าเมืองชั้นใน/เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายอื่นๆ ได้ง่ายมากขึ้นกว่าเดิมครับ ไม่กุดอยู่แค่ที่เตาปูนอีกต่อไป


รถไฟฟ้าสายสีชมพู

แต่ถ้ารถไฟฟ้าสายสีม่วงยังดูอีกหลายปีเกินไป อนาคตอันใกล้ในปีนี้ รถไฟฟ้าสายสีชมพูก็เตรียมจะเปิดให้บริการแล้วครับ หลังจากก่อสร้างมาสักพักใหญ่ๆ ซึ่งรถไฟฟ้าสายสีชมพูจะเป็นรถไฟฟ้าแบบ Monorail เน้นขนส่งคนในย่านชานเมืองต่างๆ เข้ารถไฟฟ้าสายหลัก

อย่างเส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีชมพูนี้ก็จะเริ่มจากบริเวณแยกแคราย เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี วิ่งไปตามถนนติวานนท์ ผ่าน 5 แยกปากเกร็ดแล้ววิ่งไปตามถนนแจ้งวัฒนะ-รามอินทรา ไปสุดที่มีนบุรีครับ

เมื่อเปิดให้บริการก็จะช่วยให้การเดินทางไปมาในย่านนี้สะดวกมากขึ้น อย่างจุดสำคัญที่ผ่านก็เช่น เมืองทองธานี, ศูนย์ราชการนนทบุรี, ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เป็นต้นครับ

นอกจากนี้ในอนาคตก็ยังมีแผนของรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ที่จะวิ่งจากแยกแคราย ผ่านถนนงามวงศ์วานไปม.เกษตร ผ่านถนนเกษตร-นวมินทร์ เลี้ยวเข้าถนนนวมินทร์ ไปจบที่แยกลำสาลี เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้มและสายสีเหลืองอีกด้วยครับ 


สะพานสนามบินน้ำ

นอกจากฝั่งของรถไฟฟ้าแล้ว ถนนในย่านนี้ก็มีแผนจะสร้างเพิ่มเติมด้วยเช่นเดียวกัน เพื่อที่จะให้เมืองนนทบุรีมีลักษณะเป็น Grid เชื่อมต่อกันมากยิ่งขึ้น โดยปัจจุบันถนนสนามบินน้ำ ถ้ามาจากถนนติวานนท์ เมื่อเจอแม่น้ำแล้วจะเลี้ยวไปขนานกับแม่น้ำเจ้าพระยาใช่ไหมครับ 

แต่ในอนาคต ตรงนี้มีแผนที่จะสร้างถนนต่อออกไปเพื่อเป็นทางข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาอีกสาย ไม่ต้องไปใช้รัตนาธิเบศร์เพื่อข้ามอย่างเดียว โดยหลังจากข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาไปแล้ว ก็จะมีถนนสายใหม่ ตัดตรงออกไปเชื่อมกับราชพฤกษ์ได้เลย ทำให้เมืองสองฝั่งเชื่อมต่อกันมากยิ่งขึ้น ไม่ถูกตัดขาดด้วยแม่น้ำครับ

ปัจจุบันอยู่ในช่วงของการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและออกแบบรายละเอียด หากมีความคืบหน้าทาง LivingPop จะนำมาฝากกันครับ

รูปแบบโครงการ

คอนโด Low Rise ติดถนนใหญ่ ราคาน่ารัก เน้นกลุ่มคนวัยทำงาน

สำหรับแบรนด์ City Home แบรนด์นี้จะเป็นคอนโดระดับเริ่มต้น ราคาหยิบจับได้ง่ายจากทางศุภาลัยครับ ซึ่งอาจจะห่างหายจากการเปิดคอนโดแบรนด์นี้ไปสักพักใหญ่ๆ กลับมารอบนี้ แบรนด์ City Home ก็มาพร้อมกับการปรับลุคใหม่ ให้ดูทันสมัยขึ้น สดใสขึ้น แต่ราคายังเป็นมิตรเหมือนเช่นเคย

โดยโครงการนี้จะเป็นคอนโดแบบ Low Rise สูง 8 ชั้น 562 ยูนิต บนพื้นที่ประมาณ 5 ไรกว่า ก็ถือว่าเป็นโครงการขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กครับ

ข้อมูลโครงการ

ชื่อโครงการ :ซิตี้โฮม สนามบินน้ำ – รัตนาธิเบศร์
Developer : บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)
เนื้อที่โครงการ :5-1-22.4 ไร่
จำนวนห้องพักอาศัย :ห้องพักอาศัย 558 ยูนิต และร้านค้า 4 ยูนิต รวมเป็น 562 ยูนิต
รูปแบบโครงการ :Low Rise 8 ชั้น 2 อาคาร และ อาคารร้านค้า 1 ชั้น 1 อาคาร
ลิฟต์ :อาคารละ 2 ตัว
ที่จอดรถ : 33% (188 คัน ไม่รวมจอดซ้อนคัน)
ค่าส่วนกลาง :32 บาท/ตารางเมตร/เดือน
ค่ากองทุน :320 บาท/ตารางเมตร
Facility :– Semi-outdoor Lobby
– ห้องอเนกประสงค์
– Fitness
– Co-active
– Enchanted Garden
– Natural Walkway
– Relaxing Corner
– Green Terrace
– Chilling Corner
แบบห้อง : Studio ขนาด 25.5 ตารางเมตร
1 Bedroom ขนาด 30.5 ตารางเมตร
ราคา :เริ่มต้น 1.09 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย : ประมาณ 47,200 บาท/ตารางเมตร
สถานะโครงการ : กำลังก่อสร้าง

Concept การออกแบบ

เอาใจคนรุ่นใหม่ มีสีสันสดใส ตึกมาแนว MODERN ผสมเส้นสายของเส้นโค้งในงานออกแบบ

ถ้าใครติดภาพว่าโครงการของศุภาลัยจะเป็นดีไซน์เชยๆ ต้องบอกว่าเดี๋ยวนี้ศุภาลัยเค้าเปลี่ยนไปแล้วนะครับ แม้แต่โครงการระดับล้านต้นอย่าง City Home ที่นี่ ทั้ง Design ภายนอกอาคาร และงาน Interior ต่างๆ เดี๋ยวนี้ทำดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ เดี๋ยวเราจะพาไปดูแต่ละจุดกันครับว่าโครงการนี้เป็นอย่างไรบ้าง

เริ่มจาก Concept ภายนอกของอาคารกันก่อน ที่นี่ศุภาลัยตีโจทย์ลูกค้าหลักเป็นกลุ่มวัยช่วงเริ่มต้นทำงาน ตั้งแต่ช่วง First Jobber ไปจนถึงช่วงอายุประมาณ 30 ครับ งานดีไซน์สถาปัตย์ต่างๆ เลยจะเน้นความโมเดิร์น บวกกับความกระฉับกระเฉง ความไม่หยุดนิ่ง ความ Active มีพลังของวัยนี้ ตีความออกมาเป็นเส้นสายของอาคารเป็นเส้นตรงผสมเส้นโค้งครับ

นอกจากนี้สีตัวตึกที่เลือกใช้ก็มาในแนวเดียวกันคือเป็นโทนสีเทา ที่จะมีความโมเดิร์น แต่ก็แทรกความมีชีวิตชีวา ความกระฉับกระเฉงเข้ามาจากสีเหลืองที่มาตัด

ซึ่งดีไซน์ที่ใช้เส้นโค้งและรูปทรงเรขาคณิตมาเป็นส่วนหนึ่งในการออกแบบจะไม่ได้จบแค่ตัวดีไซน์ตึกครับ แต่พื้นที่ส่วนกลางภายใน จุดต่างๆ ก็จะมีการใช้ดีไซน์นี้ล้อตามกันด้วยเช่นกัน สีสันที่ใช้จะออกมาในโทนที่หลากหลายแต่สบายตาขึ้น ตรงนี้โครงการตั้งใจจะให้พื้นที่ส่วนกลางภายในดูมีมิติ มีชีวิตชีวา ดูสดใส แต่ก็ยังเป็นดีไซน์ที่เชื่อมต่อกับภายนอกครับ


การจัดวางผังของโครงการ

สำหรับโครงการนี้จะเป็นคอนโดแบบ Lowrise จำนวน 8 ชั้น มีที่จอดรถอยู่บริเวณชั้น 1 มีทั้งส่วนที่เป็นโซนกลางแจ้ง และส่วนที่อยู่ใต้อาคาร โดยที่ชั้น 1 บางส่วนจะเป็นห้องพักอาศัยด้วยเช่นกัน ส่วนถัดมาชั้น 2-8 ตรงนี้จะเป็นห้องพักอาศัยทั้งหมดครับ

โดยพื้นที่ส่วนกลางของโครงการก็จะถูกจัดไว้กระจายอยู่โดยรอบ หลักๆ จะเป็นพื้นที่สีเขียวที่เป็นสวนจุดต่างๆ อาคารร้านค้าและห้องฟิตเนสที่บริเวณใกล้ทางเข้าโครงการ แต่ที่นี่จะไม่ได้มีสระว่ายน้ำนะครับ เข้าใจว่าโครงการพยายามทำราคาออกมาให้จับต้องได้ที่สุด เลยแลกกับตรงนี้ไป

ในแง่ของการจัดวางผังตึกจุดเด่นของที่นี่คือทั้ง 2 อาคาร วิวเค้าจะพยายามไม่บล๊อกกันเองครับ ห้องเกือบทุกมุมได้วิวเปิดโล่ง หรือต่อให้เป็นห้องฝั่งที่หันหาอีกตึก ก็มีระยะที่ไกลกันมากๆ ครับ ก็จะเป็นข้อดีในทั้งเรื่องของความไม่อึดอัด และเรื่องของการรับลม ส่วนห้องที่ชั้น 1 สำหรับที่นี่จะมีพื้นที่สีเขียวมาคั่นก่อนทุกห้องครับ เหมือนมีวิวสวนหลังบ้านของตัวเองเลย

พื้นที่ส่วนกลาง

เน้นกระจายการใช้งานไปในแต่ละจุดรอบโครงการ มีพื้นที่สวน 2,000 ตารางเมตร

พื้นที่ส่วนกลางของที่นี่ ก็ต้องบอกตามตรงว่าอาจจะไม่ได้เยอะมากครับ เพื่อให้ราคาจับต้องได้ง่าย แต่โครงการก็พยายามใส่มาให้เท่าที่จะทำได้ ไม่ขี้เหร่เลยสำหรับคอนโดระดับราคาล้านหนึ่งแสนมีทอน 

ทางเข้าโครงการ

Concept ของส่วนกลางที่นี่เค้าจะกระจายเป็นจุดๆ รอบโครงการครับ เริ่มจากที่ด้านหน้าทางเข้า จะเป็นส่วนของป้อมรปภ.และสวน Enchanted Garden ที่จะเป็นเหมือนกับสวนต้อนรับเวลาเข้ามาในโครงการครับ ซึ่งจะอยู่ติดกับโซน Shop House

ตัว Shop House ที่เป็นพื้นที่สำหรับร้านค้า โครงการจะเตรียมพื้นที่ไว้ให้ 4 ห้องด้วยกันครับ ตอนนี้ยังไม่มีระบุว่าร้านอะไรจะมาลง ต้องรอลุ้นกัน

สำหรับบรรยากาศทางเข้าและสวน สามารถมาดูของจริงได้เลยที่ Sales Gallery โครงการครับ เพราะคือส่วนที่เป็นพื้นที่จริงในปัจจุบันและสร้างเสร็จเรียบร้อย โดย Sales Gallery เมื่อโครงการสร้างเสร็จ ก็จะถูกปรับเปลี่ยนเป็นอาคาร Shop House นั่นเองครับ


Co-Active

สำหรับพื้นที่ออกกำลังกายของที่นี่จะถูกแบ่งออกเป็น 2 โซนคือแบบ Indoor และ Outdoor ครับ โซนแรกจะเป็นห้อง Fitness ขนาดใหญ่พอประมาณ มีพื้นที่วางอุปกรณ์เครื่องเล่นต่างๆ ตกแต่งออกมาสวยทีเดียว

ส่วนโซนข้างๆ กันจะเป็นพื้นที่ออกกำลังแบบ Outdoor ครับ มีจัดบาร์โหนมาให้


พื้นที่สีเขียว

พื้นที่สีเขียวของโครงการนี้จะถูกกระจายไปรอบๆ พื้นที่ครับ เริ่มจากส่วนด้านหน้าทางเข้าโครงการที่พูดถึงไปแล้ว ตลอดแนวโครงการก็จะมีต้นไม้เพื่อให้ดูร่มรื่นด้วยเช่นเดียวกัน พร้อมทางเดินที่เป็น Natural Walkway

แต่จะมีพื้นที่สวน ที่สามารถเข้าไปใช้งานได้อีก 2 จุด คือบริเวณด้านหลังตึก A และบริเวณด้านหลังตึก B ที่จะจัดออกมาเป็น Relaxing Corner และ Chilling Corner เป็นมุมเล็กที่สามารถมานั่งพักผ่อนใต้ต้นไม้ได้


ที่จอดรถ

สำหรับที่จอดรถของโครงการ จะมีทั้งหมด 188 คัน หรือประมาณ 33% ไม่รวมจอดซ้อนคันครับ มีทั้งที่อยู่ในโซนใต้ตึกและกลางแจ้ง เดินรถวนเป็นวงกลม ซึ่งจะมีที่จอดรถมอเตอร์ไซค์แยกต่างหากไว้ให้อีกจุดหนึ่ง

และบริเวณใต้อาคารของทั้ง 2 อาคารจะมีที่จอดรถพิเศษสำหรับผู้พิการหรือผู้ที่ต้องใช้รถเข็น เป็นที่จอดที่กว้างพิเศษให้อีกอาคารละ 3 ช่องจอด รวมเป็น 6 ช่องจอดครับ นอกจากนี้ทางโครงการยังเตรียม EV Charger ให้อีก 2 ที่ด้วยเช่นกัน


Semi-outdoor Lobby

ทั้ง 2 อาคารจะมี Lobby แบบเป็น Semi Outdoor พื้นที่ขนาดไม่ใหญ่มากครับ มีส่วนของห้องจดหมาย และพื้นที่นั่งพักคอย ตรงนี้ดีไซน์ก็ยังอิงกับตีมหลักของโครงการที่เน้นเส้นโค้งและสีสัน

โดยอาคาร A และอาคาร B จะมีจุดที่ต่างกันเล็กน้อยครับ คือที่ Lobby ของอาคาร B (อาคารที่อยู่หน้าโครงการ) ตรงนี้จะมีห้องนิติ ส่วนอาคาร A (อาคารที่อยู่ด้านหลัง) ใกล้กับ Lobby จะได้เป็นห้องเอนกประสงค์ส่วนกลางแทน


รูปแบบห้องของโครงการ

เน้นห้องไม่ใหญ่มาก ขนาด 25.5-30.5 ตารางเมตร

โครงการ “ซิตี้โฮม สนามบินน้ำ – รัตนาธิเบศร์” จะมีห้องพักอาศัย 2 ขนาด 3 ไทป์ครับ จะเป็นห้อง Studio แบบครัวติดทางเข้า กับ Studio ครัวติดระเบียง ขนาด 25.5 ตารางเมตร แล้วก็ห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 30.5 ตารางเมตร แต่ด้วยความที่กลุ่มเป้าหมายเขาเจาะไปที่ First Jobber เพิ่งเริ่มทำงานใหม่ๆ หรือไม่ก็ทำงานไปสักพักแล้ว อยากอยู่คนเดียว ไม่ได้ต้องการอยู่กับใครอะไรมากมาย ขนาดห้องที่นี่ก็ค่อนข้างเหมาะเลยฮะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นห้องแบบ Studio เป็นหลัก มี 90% ของโครงการเลย ส่วน 1 Bedroom ก็จะมีแค่ 10% เท่านั้นเอง ซึ่งห้อง 1 Bedroom ก็จะอยู่ในตำแหน่งหัวมุมของอาคารทั้งสองฝั่งครับ เท่ากับว่าชั้นนึงห้องไทป์นี้ก็จะมีแค่ 4 ห้อง ที่เหลือจะเป็น Studio ทั้งหมดเลย

ความน่าสนใจของแบบห้อง Studio ของที่นี่คือ การวาง Layout ที่แตกต่างกัน แบบครัวติดทางเข้า จะเป็นห้อง Studio ทั่วๆ ไป คือครัวกับห้องน้ำอยู่ด้านหน้า แล้วสเปซที่เหลือจะเป็นเตียงนอน ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางทีวี โซฟา และโซฟาเบดต่างๆ ห้องดูกว้างฮะ แต่ถ้าเป็นแบบครัวติดระเบียง เขาจะย้ายครัวกับห้องน้ำไปไว้ด้านหลัง แล้วเอาโซนห้องนอนกับห้องนั่งเล่นมาไว้ด้านหน้าแทน

ถ้าเพื่อนๆ ยังไม่เห็นภาพ เดี๋ยวผมจะพาไปดู Layout ห้องของแต่ละแบบเลยฮะ


Studio แบบครัวติดทางเข้า ขนาด 25.5 ตารางเมตร

ห้องนี้จะเป็น Layout ห้อง Studio ทั่วไปที่ผมบอกฮะ คือได้ครัวอยู่ข้างหน้า สามารถวางตู้เย็นข้างๆ ได้ ฝั่งตรงข้ามติดกับประตูก็วางตู้เก็บรองเท้าได้ ประตูห้องน้ำก็จะอยู่ตรงข้ามกับครัว ไม่ต้องไปเกะกะด้านใน ทางโครงการเขาทำมาเป็นครัวเปิดนะครับ ซึ่งถ้าเพื่อนๆ อยากจะทำเป็นครัวปิดก็ทำได้แค่ติดตั้งประตูบานเลื่อนเพิ่ม ส่วนใจกลางห้องจะเป็นโซน Living ทั้งหมดเลย จะวางตู้เสื้อผ้า ชั้นวางทีวี โต๊ะทำงาน เตียงนอน หรือโซฟาเบดก็ได้

ข้อดีของ Layout นี้คือได้แสงธรรมชาติเข้ามาแบบเต็มๆ ทั้งจากทางระเบียงและทางหน้าต่างกระจกที่เขาติดตั้งมาให้ ทำให้ห้องถึงแม้ขนาดจะไม่ได้ใหญ่ แต่กลับดูกว้างและไม่อึดอัดครับ


Studio แบบครัวติดระเบียง ขนาด 25.5 ตารางเมตร

Layout ห้องนี้จะต่างจากห้องก่อนหน้าฮะ เพราะเขาย้ายครัวกับห้องน้ำไปไว้ด้านหลัง ดังนั้นถ้าเราเปิดห้องเข้ามาก็จะเจอห้องแบบกว้างๆ ก่อนเลย ซึ่งเขาขยายโซน Living ให้กว้างขึ้น แล้วลดขนาดครัวให้เล็กลงนะครับ เหมือนเดิม ทำเป็นครัวปิดได้ แต่ทางโครงการเขาจะให้ครัวเปิดมา

ห้องนี้จัดสรรพื้นที่ได้ค่อนข้างเยอะ ทั้งมุมทีวี มุมกินข้าว มุมเตียงนอน มุมโซฟา หรือแม้กระทั่งมุมแต่งตัว แม้ว่าจะได้พื้นที่เยอะขึ้นก็จริง แต่แสงธรรมชาติจากด้านนอกอาจจะเข้ามาไม่ได้มากเท่ากับห้องแบบแรก เพราะห้องน้ำเองก็บังแสงอยู่ไม่น้อยเลย และถึงแม้จะมีระเบียงอยู่ติดกับครัว แต่ก็ยังมีเคาน์เตอร์ครัวกับตู้เย็นบังช่องแสงอยู่ ถ้าเพื่อนๆ อยากให้ห้องดูโปร่งอาจจะต้องเพิ่มแสงไฟในห้อง หรือการติดกระจกก็ช่วยได้ฮะ พยายามอย่าหาม่านหรืออะไรไปปิดประตูระเบียง แสงจากข้างนอกจะได้ส่องเข้ามาถึง

แต่ถ้าใครไม่ได้มีปัญหาเรื่องช่องแสงใดๆ หรืออยู่หอพักจนชินแล้ว เพราะ Layout หอพักก็คล้ายแบบนี้ อย่างผมเองก็เคยอยู่หอพักเหมือนกันฮะ ห้องน้ำอยู่ด้านหน้าแบบนี้เลย ซึ่งห้องนี้สิ่งที่เป็นจุดเด่นคือเรื่องของการระบายอากาศครับ ใครชอบทำครัวหนัก ห้องแปลนนี้ก็จะตอบโจทย์ในเรื่องนี้ เปิดประตูระบายได้ง่ายๆ


1 Bedroom ขนาด 30.5 ตารางเมตร

ห้องนี้ขนาดก็จะใหญ่ขึ้นมาหน่อย ได้ห้องนอนแยกออกมา ด้านหน้าห้องก็จะเป็นโซนห้องนั่งเล่นกับมุมกินข้าว ฝั่งชั้นวางทีวีสามารถ Built-in ชั้นและตู้ได้เต็มที่เลย มีผนังให้ได้ตกแต่งพอสมควรครับ เลยมุมกินข้าวไปหน่อยจะเป็นโซนด้านหลัง ก็จะมีครัว เป็นครัวเปิด วางเคานเตอร์ครัวได้ วางตู้เย็นได้ ติดกันเป็นระเบียง ห้องนี้ก็จะได้ช่องแสงเข้ามาจากทางระเบียง ยิงยาวมาถึงห้องนั่งเล่นเลย

สำหรับห้องนอนเรียกได้ว่าค่อนข้างกว้าง วางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ มีที่เหลือๆ สำหรับโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า ส่วนห้องน้ำก็จะอยู่ในห้องนอนฮะ ห้องนี้มีพื้นที่ให้ได้ใช้สอยเยอะ แบ่งเป็นสัดส่วนได้ดี ก็ขึ้นอยู่กับว่าเพื่อนๆ ชอบห้องแบบไหนฮะ แต่ว่าที่ Sale Gallery เขาไม่ได้มีห้องตัวอย่าง Type นี้มาให้ดูนะครับ จะมีแค่ห้อง Studio 2 แบบ ที่เป็นห้องตัวอย่างให้ได้ดู


มาดูห้องตัวอย่างกัน

มีห้องตัวอย่างให้ชม 2 ห้อง สำหรับห้อง Studio ทั้ง 2 แบบ

สำหรับโครงการ City Home สนามบินน้ำ-รัตนาธิเบศร์ ปัจจุบันกำลังก่อสร้างอยู่ครับ โดยเค้าจะมี Sales Gallry อยู่ที่บนพื้นที่จริงของโครงการ เดี๋ยวเราไปดูห้องตัวอย่างที่อยู่ที่ Sales Gallery กันครับ ห้องของที่นี่เขาจะขายแบบ Fully Fitted ครับ ให้ในส่วนของแอร์ วอลเปเปอร์ ชุดครัวเปล่าๆ (ไม่ได้ติดตั้งเตาไฟฟ้าหรือเครื่องดูดควันมาให้ แต่วางระบบแบบพร้อมติดตั้ง) และห้องน้ำ ที่ได้สุขภัณฑ์อย่างชักโครก อ่างล้างหน้า กระจก และฝักบัว ในส่วนของฉากกั้นห้องอาบน้ำจะไม่ได้ให้ แต่สามารถติดตั้งเพิ่มเติมเองได้ ส่วนพื้นจะเป็นพื้นลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร และพื้นห้องน้ำกับห้องครัวจะเป็นกระเบื้องเซรามิคฮะ

ได้เห็นข้อมูลกันคร่าวๆ แล้ว เดี๋ยวผมจะพาไปดูห้องตัวอย่างกันต่อเลย จะมีทั้งหมด 2 ห้องด้วยกัน เป็น Studio แบบครัวติดทางเข้า กับ แบบติดระเบียง ขนาด 25.5 ตารางเมตรเท่ากัน แต่ได้ Layout ห้องที่แตกต่างกัน


Studio แบบครัวติดทางเข้า ขนาด 25.5 ตารางเมตร

ห้องนี้อย่างที่ผมบอกไปในตอนต้นว่าเป็นแปลนมาตรฐานทั่วไปของห้อง Studio เลยก็ว่าได้ โดยเราจะเจอครัวที่ด้านหน้าเลยครับ เขาแบ่งพื้นที่ถ้าเป็นครัวก็จะได้พื้นกระเบื้องเซรามิค แต่ถ้าเป็นโซน Living ก็จะได้พื้นลามิเนต ครัวที่ทางโครงการให้มาจะหน้าตาเหมือนกับห้องตัวอย่างเลย มีอ่างล้างจานมาให้ ตู้ด้านล่างเก็บของได้ มีลิ้นชักใส่อุปกรณ์ครัวต่างๆ ส่วนไมโครเวฟวางด้านบนฮะ ฝั่งตรงข้ามเคาน์เตอร์ครัวก็สามารถวางโต๊ะยาวได้ ซึ่งมุมนี้เพื่อนๆ จะวางเป็นตู้วางรองเท้าก็ได้เหมือนกัน ข้างๆ ก็จะเป็นห้องน้ำ

มาดูโซน Living กันบ้าง ต้องบอกว่าเป็นพื้นที่ศูนย์รวมทุกอย่าง ตั้งแต่เตียงนอน ชั้นวางทีวี ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง โต๊ะทำงาน และมุมพักผ่อนหย่อนใจ ขนาดกำลังพอเหมาะสำหรับการอยู่คนเดียวฮะ ถ้าเพื่อนๆ ลองดูห้องตัวอย่างก็จะเห็นว่ามีระยะห่างระหว่างเตียงนอนกับชั้นวางทีวีพอสมควร เดินไปเดินมาได้สบายๆ หรือจะปูเสื่อโยคะออกกำลังกายก็ไม่เกะกะครับ

ทางฝั่งซ้ายของเตียงนอนที่เขาวางโต๊ะทำงานเป็นไอเดียให้ดู เพื่อนๆ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามต้องการเลย จริงๆ แล้ว ด้วยความที่เขาขายห้องแบบ Fully Fitted มันทำให้เราออกแบบและตกแต่งห้องได้เยอะเลยนะ อย่างมุมนี้ถ้าเพื่อนๆ ไม่เอาโต๊ะทำงาน จะ Built-in เป็นตู้เสื้อผ้าแทนก็ได้ วางโซฟาก็ได้ ทำตู้เก็บของก็ได้ ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากได้อะไร

มุมนี้เป็นมุมติดหน้าต่าง ทางโครงการเขา Built-in มาให้ดูอบอุ่นดีฮะ แต่หน้าต่างอาจจะไม่ได้บานใหญ่มาก ถึงยังไงก็มีช่องแสงให้ส่องเข้ามาอยู่ดีครับ

ปกติส่วนใหญ่แล้วระเบียงคอนโดจะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวๆ ใช่มั๊ยครับ แต่ระเบียงที่นี่เป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส ซึ่งกว้างกว่าที่คิดนะ มีปลั๊กมาให้ วางเครื่องซักผ้าขนาดใหญ่ได้แบบชิวๆ เลย หรือจะวางโต๊ะเก้าอี้นั่งชมวิวก็ไม่ติด วางได้จริงแน่นอน

ในส่วนของห้องน้ำก็จะหน้าตาแบบนี้เลยฮะ มีอ่างล้างหน้ามาพร้อมกระจก ด้านล่างเราซื้อชั้นมาวางเก็บของเพิ่มได้ ชักโครกเองก็มีที่ใส่ทิชชู่กับที่ฉีดก้นมาให้ ส่วนห้องอาบน้ำจะไม่ได้มีฉากกั้น แต่เราติดตั้งเพิ่มเองได้ แล้วก็ไม่มีชั้นวางของสำหรับอุปกรณ์อาบน้ำ แต่เราซื้อมาเพิ่มเองได้เช่นกัน

ภาพรวมของห้อง Studio แบบครัวติดทางเข้า ก็จะประมาณนี้ครับ


Studio แบบครัวติดระเบียง ขนาด 25.5 ตารางเมตร

ต่อไปมาดูห้องที่ขนาดเท่ากันแต่ Layout ต่างกันอย่าง Studio แบบครัวติดระเบียงกันบ้างครับ ห้องนี้ถ้าเปิดประตูเข้ามาเราจะเจอห้องกว้างๆ แบบนี้ก่อนเลย ซึ่งกว้างจริงไม่หลอกตา เพราะเขาเพิ่มพื้นที่โซน Living ให้ใหญ่กว่าห้องก่อนหน้านี้ แล้วลดขนาดห้องครัวลง

ถามว่าห้องนี้ดียังไง ผมว่าพื้นที่แต่ละโซนเขาค่อนข้างกว้าง แน่นอนว่าระยะห่างระหว่างเตียงกับชั้นวางทีวีต้องมีพอสมควรอยู่ละ แต่ระหว่างชั้นวางทีวีไปยังมุมกินข้าวเองก็มีพื้นที่เหลือ หรือแม้แต่โซฟาข้างเตียงเองก็ยังวางได้ รวมไปถึงตู้เสื้อผ้าที่ไม่ดูแออัด เดินออกมาจากห้องน้ำก็แต่งตัวได้แบบกว้างๆ หมุน 360 องศาหน้ากระจกก็ไม่ชนกำแพง

ฝั่งขวาของขั้นวางทีวีที่อยู่ติดกับประตู ใส่ตู้รองเท้าเพิ่มได้นะครับ หรือแม้แต่ตรงผนังชั้นวางทีวีก็ Built-in ชั้นหรือตู้เก็บของเพิ่มได้อีก พื้นที่ใช้สอยเยอะพอสมควรเลยฮะ

มาดูในส่วนของครัวกันบ้าง เคาน์เตอร์ครัวชุดเดิม พอดีกับช่องเลย ตู้เย็นจะอยู่ฝั่งตรงข้ามแทน ถ้าเราจะออกไปนอกระเบียงอาจจะต้องหมุนตัวกันนิดนึง แต่ว่าห้องตัวอย่างนี้ ด้วยความที่ตรงระเบียงไม่ได้เปิดโล่งเหมือนห้องก่อนหน้า เขาปิดทึบเอาไว้ เลยไม่ได้เห็นฮะว่าตรงนี้เองก็มีช่องแสงส่องเข้ามาได้เหมือนกัน


เจาะ Spec ห้องของที่นี่

ถึงราคาจะไม่แพง แต่ของที่ให้ก็ดูดีนะ

เห็นห้องตัวอย่างกันไปแล้ว เดี๋ยวเรามาดูกันดีกว่าว่าในห้องเขาให้อะไรบ้าง?

ห้องน้ำ

ห้องน้ำจะได้สุขภัณฑ์ครบฮะทั้งอ่างล้างหน้า กระจก ชักโครก ที่ใส่ทิชชู่ สายฉีดชำระ และฝักบัว ยี่ห้อ Hafele มีฉากกั้นกระจกกับเครื่องทำนำ้อุ่นที่เราสามารถติดตั้งเพิ่มเองได้ พื้นและผนังจะปูด้วยกระเบื้องเซรามิค

จุดที่แยกส่วนเปียกส่วนแห้ง ทางโครงการจะมีการติดตั้งธรณีเป็นหินแกรนิตมาให้เป็นที่เรียบร้อย ส่วนหน้าต่างที่เห็น จะเป็นห้องที่แพลนหน้าต่างติดกับภายนอกครับ ส่วนห้องที่ห้องน้ำอยู่ด้านใน ทางโครงการจะติดตั้งพัดลมดูดอากาศมาให้

ความสูงจากพื้นถึงเพดานของห้องน้ำ

  • ชั้น 1 สูง 2.3 เมตร
  • ชั้น 2 – 8 แบบติดระเบียง (Studio แบบครัวติดระเบียง) สูง 2.20 เมตร
  • ชั้น 2 – 8 แบบติดทางเดิน (Studio แบบครัวติดทางเข้า) สูง 2.15 เมตร

ห้องครัว

สำหรับห้องครัวก็จะได้ชุดเคาน์เตอร์หน้าตาแบบนี้เลยฮะ เตาไฟฟ้ากับเครื่องดูดควันจะไม่ได้ติดตั้งมาให้ แต่ทำระบบไฟฟ้าไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ไมโครเวฟวางด้านบนได้ พื้นที่ด้านบนยังเหลือนะครับ ติดชั้นวางของเพิ่มเติมได้ เผื่อใครเครื่องครัวเยอะ ปกติถ้าเราอยู่ในหอพัก ก็อาจจะไม่ได้มีพื้นที่สำหรับการทำอาหารเท่าไหร่นัก การอยู่คอนโดแบบนี้ก็จะช่วยให้เราจัดสรรพื้นที่ได้มากขึ้น เผลอๆ อาจจะได้ทำอาหารบ่อยขึ้นด้วยนะครับ การต้มมาม่าจะไม่ใช้แค่รอน้ำเดือดแล้วราดลงถ้วยอีกต่อไป 5555

ลิ้นชักด้านล่างนี้เขาติดตั้งมาให้แล้ว เอาไว้ใส่เครื่องครัว อุปกรณ์การทำอาหารต่างๆ ฮะ ด้านล่างเองก็มีชั้นวางของอีก 2 ชั้น เผื่อวางพวกจาน ชาม หม้อหรือกระทะต่างๆ ได้ และตู้ใต้อ่างล้างจานเองก็สามารถเก็บของได้เช่นเดียวกัน ผมแนะนำให้หาชั้นมาวางฮะ จะเก็บของได้อีกเยอะมาก ครัวเขาจะปูเป็นพื้นกระเบื้องเซรามิคให้นะครับ

ความสูงจากพื้นถึงเพดานของห้องครัว

  • ถ้าครัวอยู่ด้านหน้าติดกับทางเข้าห้องจะสูง 2.35 เมตร
  • ครัวที่อยู่ติดกับระเบียงจะสูง 2.5 เมตร

งานพื้น-ผนัง และอื่นๆ

พื้นที่ได้ทั้งครัว ห้องน้ำ และระเบียง จะเป็นกระเบื้องเซรามิค ง่ายต่อการทำความสะอาดและทนทานต่อการใช้งาน ส่วนโซน Living จะเป็นพื้นลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตรครับ โดยที่ในโซน Living และโซนห้องนอน ทางโครงการจะมีการติด Wallpaper มาให้ด้วยครับ นอกจากนี้ก็จะมีแอร์มาให้ ไม่ต้องไปติดเพิ่มเองครับ

ความสูงจากพื้นถึงเพดานของนั่งเล่นและห้องนอน

  • ห้องนั่งเล่นสูง 2.4 เมตร
  • ห้องนอนสูง 2.5 เมตร

พื้นที่ระเบียง

ประตูระเบียงจะเป็นบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ มีปลั๊กไว้ให้เผื่อวางเครื่องซักผ้า และมีก๊อกน้ำเดินไว้ให้ คอมเพรสเซอร์แอร์ไว้ด้านบน ด้านล่างจะได้มีพื้นที่ใช้สอย ขนาดระเบียงจะเน้นเป็นระเบียงสำหรับใช้งาน แต่ก็มีพื้นที่ค่อนข้างเยอะครับ ถ้าไม่วางเครื่องซักผ้าก็จัดเป็นพื้นที่พักผ่อนได้


เรื่องของราคา

คอนโดติดถนนใหญ่ที่ราคาดีที่สุดในย่าน และยังมีส่วนกลางให้ใช้งาน

จุดเด่นข้อใหญ่ๆ ข้อนึงของที่นี่เลยหนีไม่พ้นเรื่องของราคาครับ กับราคาที่เริ่มต้นที่ 1.09 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ได้ห้องขนาด 25 ตารางเมตรด้วยนะ ซึ่งถ้าไปเทียบกับคอนโดในย่านนี้ ที่ส่วนใหญ่อยู่ตามแนวถนนรัตนาธิเบศร์และถนนสนามบินน้ำฝั่งริมแม่น้ำ ก็ต้องบอกว่าโครงการต่างๆ เค้าจะเริ่มต้นอยู่ที่ช่วงล้านกลางๆ ไปจนถึงล้านปลายๆ ครับ

ซึ่งก็มีจุดเด่นที่ต่างกันออกไป อย่างเช่นคอนโดบริเวณถนนรัตนาธิเบศร์ อันนี้ก็แน่นอนว่ากลุ่มนี้เค้าจะใกล้กับรถไฟฟ้ากว่า ก็จะเหมาะกับคนที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นประจำครับ

ส่วนคอนโดกลุ่มที่อยู่ฝั่งริมแม่น้ำ ตรงนี้ราคาที่เพิ่มมาก็จะได้ในเรื่องของวิวแม่น้ำเจ้าพระยา และบางโครงการก็อาจจะเป็น Segment ที่สูงกว่าที่ได้เรื่องของส่วนกลางเข้ามาครับ

ส่วนทำเลของ City Home ก็จะเป็นทำเลที่เหมาะกับคนที่ทำงานในย่านใกล้ๆ สนามบินน้ำ อาจจะเป็นในหน่วยงานต่างๆ แถวนี้ มองหาที่ขยับขยายเริ่มอยากมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง ด้วยราคาทำออกมาต่ำเกือบที่สุดในย่าน 

ก็จะเป็นข้อดีของทำเลตรงนี้ที่สามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายกว่า แต่ยังอยู่ติดถนนใหญ่ รวมถึงใกล้แหล่งงานต่างๆ ที่อยู่บนถนนสนามบินน้ำในระยะ 1 กิโลกว่าๆ บวกลบครับ

ที่ต้องบอกว่าเกือบที่สุด เพราะในย่านนี้ก็ยังมีคอนโดที่ราคาเริ่มต้นต่ำล้าน ประมาณ 9 แสนปลายให้เลือกเช่นเดียวกันครับ แต่ก็จะไม่ได้อยู่บนถนนใหญ่แล้ว จะเข้าไปอยู่ในซอยแทนและจะไม่ได้มีส่วนกลางต่างๆ จากที่สำรวจมาส่วนใหญ่จะเป็นตึกขนาดเล็กครับ ตรงนี้ก็อยู่ที่โจทย์ของแต่ละคนว่าให้น้ำหนักกับเรื่องไหน

มีห้องเป็นของตัวเองได้ ในราคาที่เพิ่มจากเช่ามาหน่อย

ซึ่งด้วยราคาของที่นี่นอกจากที่เริ่มต้น 1.09 ล้านบาท เฉลี่ยทั้งโครงการก็จะอยู่ประมาณ 42,700 บาทต่อตารางเมตรครับ ราคาก็จะอยู่ในช่วงล้านต้นๆ ไปจนถึงล้านกลางๆ สำหรับห้อง 30 ตารางเมตรที่เป็น Type ใหญ่สุด

ซึ่งปกติการกู้คอนโด ค่าผ่อนก็จะตกอยู่ประมาณล้านละ 5-7 พันบาทต่อเดือน แล้วแต่โปรโมชั่นของแต่ละธนาคาร ลองคิดแบบเร็วๆ ค่าผ่อนที่นี่ก็น่าจะอยู่ในช่วง 6-9 พันบาทต่อเดือนครับ 

เทียบกับอัตราค่าเช่าห้องของอพาร์ทเม้นในย่านนี้ที่ถ้าเก่าหน่อยก็มีหลัก 3 พันให้เห็น แต่ถ้าใหม่ขึ้นมาก็จะมีราคา 4-6 พันบาท

ซึ่งสิ่งที่ต่างกันคือ เงินที่เราจ่ายไปทุกเดือนเราได้ Asset (ทรัพย์สิน) เป็นของตัวเองจริงๆ มีพื้นที่สวน พื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ให้ใช้มากขึ้น กับทำเลที่ขยับมาติดถนนใหญ่ ไม่ต้องเข้าไปอยู่ในซอย ตรงนี้ก็จะเป็นจุดที่ต่างกันครับ

(แต่ก็ต้องเข้าใจว่าการซื้อคอนโดมันเป็นทรัพย์สินก้อนใหญ่ที่ผ่อนไประยะยาวนะครับ ดังนั้นก็อาจจะต้องดูถึงแผนระยะยาวด้วยว่าเราวางแพลนอนาคตไว้ยังไง ทั้งการเงิน สถานที่การทำงานต่างๆ)

สรุป

คอนโดที่ราคาจับต้องได้ง่ายกว่า ในทำเลใกล้แหล่งงานสนามบินน้ำ 

สำหรับที่นี่จากที่ทีมงานมองก็มองว่าเหมาะกับใครที่กำลังมองหาคอนโดที่ราคาไม่สูงมาก หยิบจับได้ง่าย อาจจะเป็นวัยเริ่มต้นทำงาน หรือใครที่กำลังเริ่มอยากจะมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองครับ กับทำเลที่ตั้งที่อยู่บนถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี 1 ใกล้กับถนนสนามบินน้ำ

ราคาโครงการก็จะต่างกับคอนโดที่อยู่ติดกับ MRT หรือคอนโดที่อยู่ติดริมแม่น้ำประมาณนึง ที่คอนโดโครงการใหม่ๆ ทั้ง 2 ฝั่งนั้นราคาเริ่มต้นจะขยับไปอยู่ช่วงกลางๆ ถึงล้านปลายๆ กันแล้ว เลยมีช่องว่างทางราคาสำหรับโครงการนี้ ที่เขยิบที่ตั้งเข้ามาด้านใน จับทำเลใกล้แหล่งงานและหน่วยงานรัฐต่างๆ ย่านสนามบินน้ำครับ

ซึ่งย่านนี้ต้องบอกว่าหน่วยงานราชการต่างๆ ค่อนข้างที่จะเยอะมากๆ และเป็นหน่วยงานขนาดใหญ่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นกระทรวงพาณิชย์, กองสลาก, ป.ป.ช. ทั้งสามที่นี้อยู่ในระยะกิโลกว่าๆ เท่านั้นเอง ส่วนถัดออกไปก็มีทั้งกรมพลาธิการทหารบก, ศูนย์ราชการนนทบุรี, กสทช., ศูนย์ไทยคม, กรมชลประทาน 

ด้วยราคาคอนโดระดับล้านต้นๆ ที่นี่จะไม่ได้แข่งกับแค่กลุ่มคอนโดด้วยกันอย่างเดียวแล้วครับ ระดับการผ่อนต่อเดือนของที่นี่จะไปตีกับกลุ่มอพาร์ทเม้นด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งที่นี่ค่าผ่อนอาจจะสูงกว่าการเช่าอพาร์ทเม้นนิดหน่อย แต่จะได้เรื่องของการมีทรัพย์สินเป็นของตัวเอง มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และ Spec ของในห้องได้เป็นมาตรฐานแบบคอนโดยุคนี้ ได้ทำเลที่ติดถนนใหญ่ รวมไปถึงมี Facility ต่างๆ ให้เลือกใช้งานมากกว่า ถึงแม้ว่าอาจจะยังไม่มีสระว่ายน้ำมาให้

แต่นอกจากคนที่ทำงานในย่านสนามบินน้ำ ที่นี่ก็จะตอบโจทย์คนอีกกลุ่มที่มองหาที่อยู่อาศัยในราคาไม่สูงมากเช่นเดียวกันครับ ด้วยการที่ที่ตั้งอยู่บนถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี ตรงนี้ก็สามารถเชื่อมต่อไปออกรัตนาธิเบศร์, ติวานนท์, ท่าน้ำนนท์ และราชพฤกษ์ได้ไม่ยากครับ หรือถ้าต้องการจะใช้รถไฟฟ้าสายสีม่วง โครงการก็จะห่างจากสถานีแยกนนทบุรี 1 ประมาณ 1.8 กิโลเมตร และมี Shuttle Service บริการ 

ในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวก ด้วยความที่แถบที่เป็นแหล่งชุมชมก็จะมีของกินค่อนข้างเยอะมาก อย่างที่ใกล้โครงการก็จะมีทั้ง Central รัตโนธิเบศร์, ตลาดนกฮูก, ฐานเพชรนนท์ และ สนามบินน้ำ Market Park ครับ

ในด้านแปลนห้อง ห้องของที่นี่มีให้เลือกไม่ซับซ้อนครับ แบ่งออกเป็น 2 ขนาดหลักๆ เป็น Studio 25 ตารางเมตร กับ 1 Bedroom 30 ตารางเมตรห้องหัวมุม

ซึ่งห้อง 25 ตารางเมตรจะมี 2 Layout ที่จะเอาครัวและห้องน้ำติดระเบียง กับอีก Plan ที่เอาห้องนอนติดระเบียง อันนี้ก็อยู่กับความชอบในการใช้งานของแต่ละคนครับ

พูดถึงข้อดีของที่นี่ไปแล้ว เดี๋ยวจะหาว่าชมอย่างเดียว ที่นี่ก็จะมีจุดที่เป็นข้อสังเกตด้วยเช่นเดียวกัน ด้วยความที่โครงการพยายามทำราคาให้หยิบจับง่าย ส่วนกลางสำหรับพักผ่อนอย่างห้องนั่งเล่น/Co-Working Space พวกนี้ก็เลยจะไม่ได้มีมาให้ครับ เน้นไปใช้งานด้านนอกโครงการแทน และในห้องก็จะมีบางอย่างที่ไม่ได้ให้ เช่นฉากกันอาบน้ำ, เตา/เครื่องดูดควัน แต่ก็ยังดีที่เป็นอะไรที่ยังมาทำทีหลังเองได้ครับ แต่ถ้าอะไรที่ทำเพิ่มทีหลังลำบากอย่างชุดครัว แอร์ หรือสุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำ โครงการก็จะให้มาตามมาตรฐานคอนโดสมัยนี้ครับ ซึ่งก็แลกกับราคาที่ทำออกมาได้ค่อนข้างน่าสนใจ เป็นคอนโดติดถนนใหญ่ที่ราคาดีที่สุดในย่าน


สำหรับใครที่สนใจโครงการ ตอนนี้โครงการเปิดให้เข้าไปชมห้องตัวอย่างเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ เท่าที่คุยกับพี่ๆ เจ้าหน้าที่ประจำโครงการ ก็มีกลุ่มคนที่ทำงานในย่านนี้แวะเข้ามาดูกันเรื่อยๆ เลยครับ 

ก็เป็นอีกโครงการที่กลุ่มเป้าหมายค่อนข้างชัดเจน และน่าสนใจสำหรับคนที่มองหาคอนโดเป็นของตัวเองในราคาที่หยิบจับได้ง่าย ผ่อนต่อเดือนไม่สูงเกินไปฮะ

Related posts
รีวิวเจาะลึก

รีวิวเจาะลึก dconco calm รามคำแหง 40 : คอนโดใหม่จากแสนสิริ ใจกลางย่านราม ใกล้รถไฟฟ้า ราคาจับต้องได้

รีวิวเจาะลึก

เจาะจุดเด่น "บ้านกลางเมือง Classe รัชดา - ลาดพร้าว" บ้านทำเลคอนโด เชื่อมต่อใกล้ใจกลางเมือง

รีวิวเจาะลึก

รีวิวเจาะลึก : "Supalai Icon Sathorn" คอนโด Luxury ติดถนนสาทร ที่หรูที่สุด อลังการที่สุด ตั้งแต่ศุภาลัยเคยทำมา เริ่ม 8.9 ล้าน

รีวิวเจาะลึก

รีวิวเจาะลึก : "Vay Amata" คอนโดติดนิคมอมตะซิตี้ชลบุรี ส่วนกลางครบ ในราคาเริ่มต่ำล้านจากแสนสิริ