วันนี้เราจะพาไปรีวิวโครงการในย่านพระราม 4 กันครับ สำหรับแบรนด์ Aspire ของทาง AP Thai เองก็ถือว่าเป็นแบรนด์คอนโดที่ราคาไม่แรง สามารถจับต้องได้ง่าย เหมือนกับที่ “Aspire สุขุมวิท – พระราม 4” ราคาเริ่ม 2.19 ล้านบาท เฉลี่ยแล้วก็อยู่ที่ 89,000 บาท/ตารางเมตรฮะ สำหรับโครงการนี้ ถ้าดูจากแปลน (เดี๋ยวเราใส่ไว้ให้ดูด้านล่างนะครับ) จะเห็นว่าทางเข้าโครงการติดถนนใหญ่พระราม 4 ก็จริง แต่ว่าตัวโครงการเนี่ยเถิบลึกเข้าไปด้านในอีกฮะ เป็นเฟสแรกของที่ดินตรงนี้เลย มีระยะเดินนิดนึง
จุดเด่นของ “Aspire สุขุมวิท – พระราม 4” นอกจากราคาแล้ว โครงการนี้ยังมีห้องแบบใหม่ด้วย เป็น Vertiplex ที่ได้เพดานสูง 4.4 เมตร ซึ่งแปลนและการจัดวางค่อนข้างแปลกตาเลย อยากให้เพื่อนๆ ได้ลองมาดูห้องไฮไลต์นี้กันฮะ เดี๋ยวเราจะมาเล่าถึงโครงการ “Aspire สุขุมวิท – พระราม 4” ให้ฟัง จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ราคาแบบนี้กับทำเลแบบนี้ดีมั๊ย พื้นที่ส่วนกลางเป็นยังไง แปลนห้องจะสวยรึเปล่า ตามไปอ่านกันต่อเลยฮะ
Aspire สุขุมวิท – พระราม 4
โครงการ “Aspire สุขุมวิท – พระราม 4” เป็นคอนโด High Rise สูง 38 ชั้น มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 1,323 ยูนิต และร้านค้าอีก 2 ยูนิต ทำเลอยู่ติดถนนใหญ่พระราม 4 ใกล้กับ BTS สถานีพระโขนง แต่ก็ไม่ไกลจากสถานีเอกมัย สามารถไปได้ทั้ง 2 สถานีเลยฮะ อยู่ที่ว่าเพื่อนๆ สะดวกสถานีไหน สำหรับโครงการนี้ค่อนข้างมีแปลนห้องให้เลือกเยอะประมาณ 36 Layout เลยฮะ มี Layout ใหม่ๆ เพิ่มเข้ามาด้วย โดยจะเริ่มตั้งแต่ห้อง Studio ไปจนถึง 2 Bedroom 2 Bathroom
ที่สำคัญคือมีห้องให้เลือกทั้งแบบ Simplex ห้องธรรมดา ที่ไม่ได้มีชั้นลอย ได้เพดานสูง 2.5 เมตร แต่ถ้าเป็นห้อง Vertiplex หรือห้องที่มีชั้นลอย หรือจะเรียกว่าห้องสไคล์ Loft ก็จะได้เพดานสูงถึง 4.4 เมตรด้วยครับ แต่ก่อนที่จะไปดูความแปลกใหม่ของห้อง ผมจะมาอธิบายถึง Facilities และพื้นที่ส่วนกลางของที่นี่กันก่อนฮะ
รูปด้านล่างนี้ที่ผมได้บอกเพื่อนๆ ไปข้างต้น ว่าตัวที่ดินของโครงการจะเถิบเข้ามาด้านในอีก มีระยะเดินพอสมควรฮะ
อย่างที่บอกว่าจุดเด่นของที่นี่คือราคา ส่วนกลางที่จัดมาให้อาจจะไม่ได้หวือหวา มีสระดาดฟ้าหรือส่วนกลางแน่นๆ อะไรขนาดนั้นครับ แต่ก็ให้มาพอดีๆ กับจำนวนยูนิตระดับพันกว่า โดยพื้นที่ส่วนกลางจะมีทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกันครับ คือชั้น 1, 8 และดาดฟ้า ชั้น 2 – 7 จะเป็นที่จอดรถ เดี๋ยวเราจะมาไล่ดูแต่ละชั้นกัน
แปลนชั้น 1
ด้านนอกอาคารก่อนที่เราจะเข้ามายัง Lobby ก็เป็นสวนสีเขียวชื่อว่า The Oasis ที่เราสามารถมานั่งพักผ่อนได้ตลอดทั้งวัน เขาบอกว่าโซนนี้จะไม่โดนแดดเลย เพราะตัวตึกจะบังเอาไว้พอดีฮะ
พอเดินเข้ามาด้านในตัวอาคารก็จะเจอกับ The Aspire Common หรือก็คือ Lobby ก่อน จากนั้นก็จะเป็น The Co-op Society, The Meeting Room, The Work Loft และ The Chat Room พื้นที่เหล่านี้จะอยู่ด้วยกัน แต่แบ่งออกเป็นห้องๆ ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมา ลูกบ้านสามารถมานั่งทำงาน ประชุม นอนเล่น อ่านหนังสือ นัดเจอเพื่อน หรือพักผ่อนชิวๆ มองวิวสวนด้านนอกได้หมดเลย
แปลนชั้น 8
ต่อไปขึ้นมาที่ชั้น 8 กันบ้าง ชั้นนี้จะเป็นกิจกรรมที่ค่อนข้าง Active ใช้พละกำลัง ไม่ว่าจะเป็น The Aqua สระว่ายน้ำระบบเกลือยาว 25 เมตร หรือ The Plunge Pool โซน Hydrotherapy Massage Jet ที่จะช่วยให้เราได้ผ่อนคลายเหมือนโดนน้ำนวดตัว แต่ถ้าเพื่อนๆ ไม่ได้อยากจะว่ายน้ำหรือแช่น้ำใดๆ แค่อยากทำงาน นั่งชิวแล้วได้วิวสระ ที่นี่เขาก็จัดมาให้เลย 3 โซน ทั้ง The Club, The Beachfront และ The Water Lounge
ดูส่วนกลางด้านนอกไปแล้ว เข้ามาในอาคารก็จะมี The Workout เป็นห้องที่เน้นเครื่องเล่นแบบลู่วิ่ง, The Gym ห้องนี้เน้นไปทาง Bodyweight และ The Ride ไว้ปั่นจักรยานด้วยเครื่อง Cycling ทั้ง 3 โซนนี้สามารถมาออกกำลังกายได้ทั้งหมดเลย แล้วพวกเครื่องเล่นต่างๆ เขาจะทำ Partition กั้นเอาไว้ให้ด้วยนะครับ จะได้รักษาระยะห่าง และออกกำลังกายกันได้เป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น
แปลนชั้นดาดฟ้า
มาถึงชั้นสุดท้ายชั้นดาดฟ้า ถือเป็นไฮไลต์ที่เรียกได้ว่าสะดุดตามาก เพราะตัวอาคารก็มาในโทนสีขาวๆ เทาๆ แต่ชั้นนี้เขาสร้างทางเดินหรือ The Flyover สีแดงพิเศษ Crimson Red ตัดกับสีของตัวอาคารและสีของต้นไม้มากเลยฮะ เจ้าทางเดินนี้เป็นเหมือนสะพานขนาดใหญ่ที่มองเห็นวิวโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาและบางกระเจ้าได้ด้วย เป็นจุดที่น่ามารับลมและพักผ่อนสายตามากครับ นอกจากนี้ยังมี The Deck ขั้นบันไดแบบสเต็ปที่เอาไว้นั่งเล่นได้ The Cloud สวนสีเขียวที่อยู่ใต้สะพาน และ The Peak มุมพักผ่อนหย่อนใจอีกโซนฮะ
พื้นที่ส่วนกลางก็จะมีประมาณนี้ครับ กระจายอยู่ทั้งหมด 3 ชั้น โดยที่แต่ละชั้นก็มีคาแรคเตอร์ของตัวเอง แต่ด้วยความที่โครงการยังไม่เสร็จ ดังนั้นรูปที่เรานำมาให้เพื่อนๆ ได้ดูก็ไม่ได้มีครบทุก Facilities นะครับ ส่วนใหญ่จะเป็นรูป Perspective กับโมเดล เดี๋ยวไว้โครงการเสร็จเราจะไปรีวิวมาให้เพื่อนๆ ได้ดูแน่นอนฮะ
ข้อมูลโครงการ
เนื้อที่โครงการ : | 4-3-55.8 ไร่ |
จำนวนห้องพักอาศัย : | ห้องพักอาศัย 1,323 ยูนิต และร้านค้า 2 ยูนิต |
รูปแบบโครงการ : | High Rise 38 ชั้น 1 อาคาร |
ลิฟต์ : | ลิฟต์โดยสาร 5 ตัว และเซอร์วิสลิฟต์ 1 ตัว |
ที่จอดรถ : | 34% (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) |
ค่าส่วนกลาง : | 45 บาท/ตารางเมตร/เดือน |
ค่ากองทุน : | 450 บาท/ตารางเมตร |
Facility : | ชั้น G – The Drop-off – The Oasis – The Aspire Common – The Co-op Society – The Meeting – The Work Loft – The Chat Room ชั้น 8 – The Workout – The Gym – The Ride – The Island – The The Aqua – The Plunge Pool – The Beachfront – The Club – The Water Lounge ชั้นดาดฟ้า – The Deck – The Cloud – The Peak – The Flyover |
แบบห้อง : | ห้องแบบ Simplex – Studio ขนาด 24 – 26.5 ตารางเมคร – 1 Bedroom ขนาด 31 – 34 ตารางเมตร – 1 Bedroom Plus ขนาด 35 ตารางเมตร – 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 55 ตารางเมตร ห้องแบบ Vertiplex – รูปแบบ G ขนาด 25 ตารางเมตร – รูปแบบ H และ I ขนาด 30 – 33 ตารางเมตร – รูปแบบ J ขนาด 35 ตารางเมตร – รูปแบบ K ขนาด 52 ตารางเมตร |
ราคา : | ห้องแบบ Simplex เริ่มต้น 2.19 ล้านบาท ห้องแบบ Vertiplex เริ่ม 4 – 9 ล้านบาท |
ราคาเฉลี่ย : | ห้อง Simplex ประมาณ 89,000 บาท/ตารางเมตร ห้อง Vertiplex ประมาณ 129,000 บาท/ตารางเมตร |
เริ่มก่อสร้าง : | ประมาณไตรมาส 3 ปี 2565 |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ : | ประมาณไตรมาส 2 ปี 2568 |
ทำเล
เอาจริงทำเลสุขุมวิท – พระราม 4 เองก็มีคอนโดของ AP Thai หลายตัวเลย ทั้ง Rhythm สุขุทวิท 44/1, Aspire พระราม 4 และ Aspire สุขุมวิท 48 ทำเลที่ตั้งไม่ได้ไกลกันมากครับ นอกจากนี้ก็ยังมีคอนโดของ Developer หลายเจ้าเลยในย่านนี้ มีโครงการที่อยู่ติดถนนใหญ่พระราม 4 เหมือนกัน อยู่เยื้องๆ กับ Aspire สุขุมวิท – พระราม 4 ใกล้ BTS พระโขนงกว่าหน่อย แต่ราคาเริ่มต้นแรงกว่ามากครับ สามล้านกลางๆ ในขนาดห้องที่ไม่ได้หนีกันมาก ส่วนถ้าเป็นคอนโดที่เลย ช่วงใกล้แยกพระโขนงไป ไปจะตั้งอยู่ใกล้กับม.กรุงเทพ กลุ่มนี้ราคาก็จะเริ่มที่สองล้านต้นๆ
ซึ่ง Aspire สุขุมวิท – พระราม 4 เนี่ยอยู่ตรงกลางระหว่าง BTS พระโขนงกับม.กรุงเทพ เอนมาทางใกล้ BTS มากกว่า (มีระยะเดินประมาณ 600 เมตร) ในราคาที่พอๆ กับคอนโดทำเลถัดเข้าไปทางถนนพระราม 4 เผลอๆ ถูกกว่าด้วยซ้ำครับ เมื่อลองเทียบกันดูแล้วโครงการนี้ก็น่าสนใจไม่น้อยเลยฮะ
ด้วยความที่ตัวโครงการอยู่ติดถนนใหญ่พระราม 4 สำหรับคนที่ใช้รถยนต์จะเดินทางได้ง่ายด้วยทางพิเศษฉลองรัช ไปรามอินทรา – อาจณรงค์ได้ หรือทางพิเศษเฉลิมมหานครเองก็ไปบางนา-ดาวคะนอง-ดินแดงได้ แต่ถ้าจะออกจากโครงการแล้วอยากไปเส้นสุขุมวิท ก็จะเจอรถติดค่อนข้างมากครับ หรือถ้าจะไปเส้นทองหล่อ-เอกมัย ไปทางสุขุทวิท 42 จะไวกว่า หรือถ้าอยากจะไปสยาม-สามย่าน-จุฬา ถนนเส้นพระราม 4 ไปง่ายกว่าเส้นสุขุมวิทครับ (จากใจผมเรียกแท็กซี่ที่สยาม ร้อยทั้งร้อยแท็กซี่ไม่ไปเส้นสุขุมวิทเลย พาไปเส้นพระราม 4 ก่อน แล้วค่อยตัดเข้าเส้นสุขุมวิท 42 แทน ถึงเร็วกว่าเท่าตัวฮะ)
ถ้าเพื่อนๆ เดินทางด้วย BTS จริงๆ ก็ไปได้ทั้ง 2 สถานีเลย ทั้งพระโขนงและเอกมัย ซึ่งถ้าใครไม่ได้อยากเดิน ขี้เกียจเดิน ทางโครงการเขาก็จะเตรียมรถเอาไว้สำหรับรับ-ส่งที่ BTS พระโขนงด้วย สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ก็จะมี Shopping Mall อย่าง Summer Hill ที่อยู่ติดกับ BTS พระโขนง เยื้องกับโครงการก็มีโรงพยาบาลกล้วยน้ำไท เลยจากโครงการไปไม่ไกลก็เป็น ม.กรุงเทพครับ
แปลนห้อง
โครงการ Aspire สุขุมวิท – พระราม 4 เป็นที่แรกในแบรนด์ Aspire ที่มีห้องแบบ Vertiplex ครับ เป็นแปลนที่เขาจัดวาง Layout ห้องใหม่ ผมมีห้องตัวอย่างแบบนี้มาให้ดูกันด้วยนะฮะ จากที่ผมได้ไปดูห้องตัวอย่าง ผมว่าห้อง Vertiplex ของที่นี่มีความแปลกอยู่เหมือนกัน คือห้อง 33 ตารางเมตร
ถ้าเราเดินเข้าไปจะเจอครัวก่อนใช่มั๊ยครับ เขาทำให้พื้นที่ตรงครัวกับห้องนั่งเล่นเปิดโล่ง ได้เพดานสูง 4.4 เมตร แล้วถัดไปเป็นห้องอเนกประสงค์ที่มีชั้นลอยอยู่ด้านบน ปกติฝั่งที่ติดหน้าต่างอ่ะ เรามักจะทำให้เพดานโปร่ง แต่ห้องนี้กลับกันฮะ เข้ามาโปร่งก่อน แล้วค่อยเจอชั้นลอย
อีกความแปลกนึงของห้องนี้คือบนห้องน้ำเขาก็ทำเป็นชั้นลอยมาให้อีก พร้อมติดตั้งบันไดแบบเลื่อนออกได้มาให้เสร็จสรรพ ตัวบันไดค่อนข้างแข็งแรงเลย แต่นายแบบที่มากับผมบอกว่าขอขึ้นรอบเดียวพอ 5555 คือมันดูเป็นโซนที่เราไม่น่าจะปีนขึ้นไปทุกวันครับ เน้นใช้เป็นที่เก็บของมากกว่า แต่ก็กว้างและสามารถยืนได้นะ
เป็นอีกห้องที่ผมคิดว่าโซนนั่งเล่นคือถูกต้อง พื้นที่เยอะเลย ไม่แออัด เพื่อนๆ เคยเห็นห้อง Loft ที่แปลนห้องนั่งเล่นไม่ได้ตรงกับทีวีมั๊ยครับ ก็คือให้มองทีวีแบบเฉียงๆ เอียงๆ ถ้าใช้งานจริงคงลำบาก และไม่อยากจะใช้ทีวีเท่าไหร่ แต่ที่นี่…. ส่วนห้องอเนกประสงค์เองก็มีพื้นที่เยอะ น่าทำเป็นห้องทำงาน หรือทำกิจกรรมที่เราชอบทำเป็นประจำ ซึ่งจริงๆ ก็ใหญ่พอทำเป็น Master Bedroom อีกห้องนึงได้เลย เป็นข้อดีของห้อง Vertiplex แปลนนี้ครับ แล้วใต้บันไดเขาทำเป็นห้องเก็บของให้ด้วยอีกจุด
หรือถ้าใครอยากได้ห้องที่เพดานโปร่งติดกับหน้าต่าง เขาก็มีห้องที่มี Layout แบบนี้เหมือนกันนะครับ อยู่ที่ว่าเราชอบห้องแบบไหน อยากให้ห้องเป็นยังไง ห้อง Vertiplex จะอยู่ที่ชั้น 31 – 37 มีหลายขนาดให้เลือก ตั้งแต่ 25 – 52 ตารางเมตร
อย่างแปลนด้านบนเป็นห้อง Vertiplex ขนาด 25 ตารางเมตร ก็จะเห็นได้ชัดเลยว่า Layout ห้องมีความแตกต่างจากขนาด 33 ตารางเมตรพอสมควร แม้ว่าครัว ห้องน้ำและมุมทานอาหารจะอยู่ตำแหน่งเดียวกันก็จริง แต่ชั้นลอยเขาเอามาไว้ติดทางเข้าแทน ทำให้ฝั่งหน้าต่างได้เพดานสูงไป และมุมโซฟาเองก็อยู่เยื้องกับทีวี ก็อาจจะต้องเอียงคอดูหน่อยฮะ แต่จะทำให้ตรงกันก็ได้นะ เริ่มจากย้ายมุมทานอาหารไปไว้ริมหน้าต่าง แล้วขยับโซฟาเข้ามา ก็ขึ้นอยู่กับความต้องการของเพื่อนๆ ฮะ
แต่ถ้าเพื่อนๆ ไม่ได้เป็นคนที่ชอบห้อง Vertiplex หรือห้องสไตล์ Loft ที่นี่เขาก็มีห้องแบบธรรมดาหรือว่า Simplex ด้วย จะอยู่ที่ชั้น 8 – 30 มีทั้ง Studio, 1 Bedroom, 1 Bedroom Plus และ 2 Bedroom 2 Bathroom ตัวห้อง Simplex นี้ก็จะเด่นเรื่องของราคาเลยครับ แต่ห้องส่วนใหญ่จะเป็นแปลนลึก Layout ของห้อง Simplex ที่นี่ค่อนข้างหลากหลายมาก เขาทำแปลนห้องมามากถึง 36 Layout ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากได้ห้องแบบไหนครับ เอาจริงจากที่เห็นแปลนที่ทางโครงการส่งมาให้ดู ไม่มีแปลนไหนที่ใกล้เคียงกันเลย ทุกแปลนฟังก์ชันแตกต่างกันหมด ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราในชีวิตจริงล้วนๆ ฮะว่าห้องไหนตรงกับไลฟ์สไตล์ที่สุด
ห้องตัวอย่าง Simplex ที่ผมจะพาไปดู เป็นห้องขนาด 31 ตารางเมตร ที่เป็นตอนลึก แต่ด้านในมีพื้นที่สำหรับทำ Walk-in Closet ด้วย จากแปลนดูเหมือนจะเล็ก แต่พอได้เข้าไปในห้องตัวอย่างแล้วก็ไม่ได้เล็กอย่างที่คิดนะ
หรือห้องขนาด 34 ตารางเมตร เป็นห้องตอนลึกที่เอาครัวไว้ด้านหน้า คั่นด้วยห้องนอนตรงกลาง ส่วนห้องนั่งเล่นและมุมทำงานจะอยู่ติดหน้าต่างและระเบียง ก็เป็นแปลนที่ไม่ค่อยได้เห็นเท่าไหร่นะ
ส่วนห้องแบบ Studio ก็จะเป็นห้องตอนลึกเหมือนกันฮะ ด้านหน้าเป็นมุมนั่งเล่น มุมทานอาหาร ต่อด้วยเตียงนอน สำหรับครัว ห้องน้ำ และระเบียงจะอยู่ปีกขวาของห้อง
สุดท้ายกับแปลนห้องที่ใหญ่ที่สุดในโครงการ จากแปลนก็จะเห็นว่าเขาให้พื้นที่กับ Master Bedroom เยอะกว่าห้องอื่นๆ เลย ถ้าใครที่ชอบห้องแบบ เปิดประตูเข้ามาแล้วไม่ได้เห็นห้องนั่งเล่นเลย น่าจะชอบห้องนี้ครับ เพราะถ้าเปิดเข้ามาก็จะเจอครัวก่อน ซึ่งเป็นครัวปิด เหมือนเป็นโซนที่แยกออกมาจากโซนอื่นๆ ส่วนพื้นที่ทานอาหารกับโซนนั่งเล่นก็เหลือๆ มีห้องเก็บของที่สามารถไว้เครื่องซักผ้าได้ด้วย ผมว่าเป็นห้องที่มีพื้นที่เก็บของเยอะและฟังก์ชันการใช้งานก็หลากหลายด้วย
ห้องตัวอย่าง
เรามีห้องตัวอย่างมาให้ดูทั้งหมด 2 ห้องด้วยกันครับ เป็นห้องแบบ Simplex ขนาด 31 ตารางเมตร และห้องแบบ Vertiplex ขนาด 33 ตารางเมตร ทุกห้องที่นี่จะขายแบบ Fully Fitted ได้ชุดครัวที่มาพร้อมเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจาน สุขภัณฑ์ในห้องน้ำก็ได้หมด ทั้งอ่างล้างหน้า กระจก ชักโครก ฝักบัว และฉากกั้นอาบน้ำกระจก รวมไปถึงแอร์ด้วยครับ อ่ออ ที่นี่ให้หน้าต่างมาใหญ่ใช้ได้เลยครับ ไม่เป็น Aspire หน้าต่างเล็กๆ แล้วนะ
1 Bedroom ขนาด 31 ตารางเมตร
หลายๆ แปลนส่วนที่ผมเคยเห็น ถ้าเป็นห้องตอนลึกแล้วเอาครัวไว้หน้า ส่วนใหญ่พื้นที่ตรงข้ามครัวจะไม่ค่อยเหลือแล้วฮะ อาจจะทำชั้นรองเท้าได้แบบแคบๆ แต่สำหรับห้องนี้สามารถวางโต๊ะกินข้าวขนาด 2 ที่นั่งได้เลย มีที่พอสมควร หรือจะ Built-in เป็นชั้นอื่นๆ ก็ได้นะ
ในส่วนของครัวจะให้มาหน้าตาเหมือนห้องตัวอย่างเลยฮะ มีเคาน์เตอร์ มีตู้เก็บของ ไมโครเวฟมีช่องวางด้านบน ด้านล่างมีช่องวางเครื่องซักผ้า อ่างล้างจานมีที่ปิดมาให้ ครัวจะได้มีที่ทำอาหารเพิ่ม เพราะครัวก็ไม่ได้ใหญ่ ส่วนเตาไฟฟ้ากับเครื่องดูดควันก็ติดตั้งมาให้เรียบร้อย
โซนนั่งเล่นสามารถวางโซนฟาขนาด 2 ที่นั่งได้ พื้นที่วางทีวีกว้างพอสมควร แถมยังได้ระยะห่างระหว่างโซฟาและทีวีเยอะมากด้วยฮะ
ในส่วนของห้องนอนก็วางเตียงขนาดใหญ่ได้สบายๆ มุมด้านหลังเขาทำเป็น Walk-in Closet ด้วย อยู่ติดกับระเบียง เหมาะกับคนที่เสื้อผ้าเยอะมากครับห้องนี้
Vertiplex ขนาด 33 ตารางเมตร
ห้องนี้ถ้าเราเปิดประตูเข้ามาจะเจอครัวก่อนเลย ครัวไม่ได้แตกต่างจากห้องก่อนหน้าฮะ เหมือนกันเด๊ะ ส่วนฝั่งขวาทำเป็นชั้นวางรองเท้าได้นะ ถ้าเรามองลึกเข้าไปด้านในจะเห็นว่าห้องนี้มีชั้นลอยด้วย ทำเป็นที่นอน ซึ่งการที่ชั้นลอยอยู่ติดหน้าต่าง ไม่ได้ทำให้ห้องดูแคบหรืออึดอัดเลยครับ ห้องยังคงโปร่งและโล่งเหมือนเดิม
ความแปลกของห้องนี้คือมีชั้นลอย 2 ที่ครับ คือชั้นลอยที่เป็นห้องนอน กับชั้นลอยมุมนี้ สามารถยืนได้เต็มตัวนะครับ นายแบบผมไปลองมาแล้ว แต่นายแบบผมบอกว่าขึ้นไปครั้งเดียวก็เกินพอ ดังนั้นมุมนี้ในชีวิตจริงอาจจะไม่ได้ใช้เป็นประจำ ถ้าทำเป็นห้องเก็บของก็อาจจะได้ บันไดที่เพื่อนๆ เห็นในรูปนี้เขาให้มาด้วยนะ หน้าตาเหมือนห้องตัวอย่างเลย สามารถเลื่อนเข้าเลื่อนออกได้ ดูแข็งแรงครับ
มุมทานอาหารจะเชื่อมระหว่างครัวกับโซนนั่งเล่น วางโต๊ะได้ประมาณ 2 ที่นั่ง ส่วนโซนนั่งเล่นค่อนข้างกว้างเลย วางโซฟาขนาดใหญ่ได้สบายๆ ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีก็กำลังดี
มาถึงห้องอเนกประสงค์กันบ้าง ห้องนี้ต้องบอกเลยว่ากว้างมากฮะ เราตกแต่งออกแบบได้หลายมุมเลย
พื้นที่ใต้บันไดก็ใช้เก็บของได้ด้วยนะ ฝั่งตรงข้ามห้องเก็บของจะเป็นระเบียง ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่
ขึ้นมาต่อกันที่ชั้นบนบ้าง มีมุมให้ได้ Built-in ตู้เสื้อผ้าด้วย เตียงก็วางขนาดใหญ่ได้เลย มีพื้นที่ข้างเตียงเหลือ ถ้านอนตื่นตอนสายๆ เที่ยงๆ บ่ายๆ อาจจะร้อนหน่อยฮะ เพราะเตียงอยู่ติดกระจกแบบเต็มๆ
ในส่วนของห้องน้ำจะอยู่ชั้นล่าง ตรงข้ามกับครัว ของที่ได้ก็จะเหมือนกับห้องตัวอย่างเลย มีอ่างล้างหน้า กระจก ชักโครก ฝักบัว และฉากกั้นกระจกแบบบานเลื่อน
สรุปภาพรวมโครงการ
ในเรื่องทำเลก็อย่างที่บอกฮะ ติดถนนใหญ่พระราม 4 เข้าออกง่าย ไม่ต้องเข้าซอย (แต่ตัวโครงการถัดเข้ามาจากถนนนิดนึงนะ) ใกล้ทางพิเศษทั้งฉลองรัชและเฉลิมมหานคร เชื่อมต่อถนนได้หลายสายทั้งสุขุมวิท ทองหล่อ เอกมัย สยาม สามย่าน จุฬา สาทร สีลม หรือจะไป BTS ก็ไปได้ทั้งสถานีพระโขนงและเอกมัยครับ
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางให้มากำลังดี ลืมภาพ Aspire ยุคเก่าๆ ที่ราคาดีแต่ส่วนกลางไม่ค่อยมีอะไรไปได้เลย ที่นี่มีมาให้ไม่อายใครครับ แต่ละชั้นจะมีคาแรคเตอร์ของกิจกรรมที่แตกต่างกัน พยายามใส่พื้นที่สีเขียวมาให้ค่อนข้างเยอะ ชั้น 1 เน้นการทำงาน ทำกิจกรรมทั้งส่วนตัวและส่วนรวม ชั้น 8 ก็เน้นพลัง ทำกิจกรรมที่ Active มีหลายโซนให้ได้ปลดปล่อย แต่ก็มีโซนให้นั่งชิวเช่นกัน ส่วนชั้นดาดฟ้าก็มีจุดชมวิวที่สีสันแสบตา ตัดกับต้นไม้และท้องฟ้าได้เป็นอย่างดี มุมพักผ่อนหย่อนใจก็เยอะครับ
ส่วนเรื่องแปลนห้องพักอาศัย ก็เป็นโครงการแรกของแบรนด์ Aspire ที่มีห้องแบบ Vertiplex ได้เพดานสูง 4.4 เมตร มีความแปลกของ Layout เป็นห้องที่เราอาจจะชอบหรือไม่ชอบก็ได้ เอาจริงทั้งห้องที่เป็น Vertiplex หรือจะเป็นห้องแบบ Simplex เขามีการวาง Layout ที่แปลกและแตกต่างกันมากๆ ทั้งนี้เราควรไปเลือกและดูด้วยตัวเองจะดีที่สุดครับ เพราะห้องตัวอย่างที่เขาทำจะมีแค่ 2 ห้องเท่านั้นเอง แต่ Layout จริงๆ มีถึง 36 Layout ให้เลือกเลย
ทุกห้องจะขายแบบ Fully Fitted นะครับ ใครที่ชอบต่อเติมห้อง อยากแต่งห้องอยู่แล้วค่อนข้างเหมาะ เพราะเขาไม่ได้ให้อะไรมาเยอะ สามารถเปลี่ยนได้ง่ายฮะ
จุดสังเกตของที่นี่ก็จะมีเรื่องของระยะเดินจากรถไฟฟ้าที่เยอะหน่อย และยังมีเฟสถัดไปในอนาคตอยู่บริเวณด้านหน้า ดังนั้นก็จะมีบางมุมที่มีเรื่องของวิว และสายลงทุนอาจจะต้องคิดเผื่อตรงนี้ไว้ด้วยครับ แต่แน่นอนว่าโครงการในอนาคต ราคาก็ไม่ใช่อะไรแบบนี้แน่ๆ ก็ถือว่า Aspire สุขุมวิท – พระราม 4 ก็เป็นคอนโดตัวล่าสุดของแบรนด์ Aspire ที่ค่อนข้างน่าสนใจ ทำเลดี ราคาห้อง Simplex ดีถึงดีมากก มี Layout ห้องให้เลือกเยอะ
โปรโมชั่น
ถ้าเพื่อนๆ สนใจโครงการ Aspire สุขุมวิท – พระราม 4 ตอนนี้ราคาเริ่ม 2.19 ล้านบาท ถ้าลงทะเบียนออนไลน์ก็จะได้รับสิทธิพิเศษ Ultralight Payment ผ่อน 0% นาน 10 เดือน พร้อมรับสิทธิพิเศษ Pre-book Offer และ iPhone 13 รวมสูงสุด 100,000 บาท ลงทะเบียนและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : https://bit.ly/3PHwc8y