ถ้าพูดถึงทำเล “บ้าน” ในราคาช่วง 7-10 ล้าน ทำเลที่จะได้แน่นอนว่าส่วนใหญ่ก็จะเป็นทำเลในย่านชานเมืองโซนต่างๆ ใช่ไหมครับ ซึ่งแต่ละโซนเค้าก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป
แต่วันนี้เราจะพามาดูบ้านในอีกหนึ่งทำเลยอดฮิตอย่าง “บางนา” ที่ไม่ใช่ว่าชื่อบางนาแล้วไปไกลเกือบจะถึงฉะเชิงเทรานะครับ แต่ที่นี่เป็นบางนาจริงๆ ที่อยู่หลัง “เมกาบางนา” นี่เอง กับโครงการ
COMO BOTANICA II
บ้านโครงการใหม่ล่าสุดจาก Areeya ที่จับทำเลไม่ไกลจากเมกาบางนาแค่ 5-10 นาที รวมไปถึงใกล้ทางด่วน 2 สาย และใกล้แหล่งงานย่านสุขุมวิทตอนปลาย ที่นี่จะเป็นอย่างไร เดี๋ยววันนี้เราจะพามารู้จักกับโครงการนี้กันให้มากขึ้นครับ

จุดเด่นโครงการ

บรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ

ทำเลใกล้ห้าง ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วน

เป็นส่วนตัว เพียง 104 units

ย่านสุขุมวิท-บางนา
เมื่อเมืองกรุงเทพชั้นในขยายตัวออกมาตามแนวของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยาย กลายเป็นย่านธุรกิจใหม่
ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ต้องบอกว่าตัวเมืองกรุงเทพมีการเจริญเติบโตออกไปโซนรอบนอกพอสมควร เราจะเห็นว่าในหลายๆ ทำเล เริ่มมีโครงการต่างๆ มาเปิด กลายเป็นแหล่งชุมชนเกิดใหม่ ถ้าจะยกให้เห็นภาพก็อย่างเช่นย่านราชพฤกษ์ของฝั่งธน, ย่านกรุงเทพกรีฑา, ย่านคูคต-ลำลูกกา-วัชรพล หรืออย่างย่านบางนาเองก็เป็นอีกหนึ่งย่านที่มีความเปลี่ยนแปลง มีความเจริญเพิ่มเติมจากอดีตค่อนข้างมาก
ซึ่งแต่ละทำเลก็จะมีความโดดเด่น มีจุดที่น่าสนใจต่างกันออกไปครับ ก่อนที่เราจะพาไปดูตัวโครงการ เราเลยอยากจะขอพามารู้จักกับทำเล “สุขุมวิท-บางนา” กันก่อน ว่าอะไรทำให้ทำเลนี้ กลายมาเป็นอีกหนึ่งทำเลฮอทของตลาดบ้านและคอนโด รวมถึงเป็น “หนึ่งในย่านที่มีการเติบโตสูงที่สุดในช่วงสิบปีที่ผ่านมา”


เลื่อนเพื่อดูภาพเปรียบเทียบปี 2545 และ 2566
ถ้าจะพูดถึงการเติบโตของย่านสุขุมวิท-บางนา เพื่อให้เห็นภาพเราอาจจะต้องย้อนกลับไปช่วง 20-30 ปีก่อนนิดนึงครับ แต่เดิมก่อนที่จะมีรถไฟฟ้า ความเป็นใจกลางเมืองของกรุงเทพก็จะอยู่แค่ช่วงเพลินจิต-สุขุมวิทตอนต้นครับ ทำเลเอกมัยยังเป็นแค่ทำเลบ้านคนแนวราบปกติกันอยู่เลย
จนกระทั่งการมาของรถไฟฟ้า BTS ในช่วงปี 40 ทำให้ย่านสุขุมวิทตอนกลาง-ปลายถูกเชื่อมต่อเข้าไปในเมืองได้ง่ายขึ้น มีการขยายตัวของเมืองออกมา ในยุคนี้คอนโดและตึกต่างๆ ทยอยขยายตัวออกมาตามแนวรถไฟฟ้า จนในปัจจุบันเรียกได้ว่าย่านนี้ก็เป็นกรุงเทพชั้นในได้อย่างไม่น่าเขิน ทองหล่อกลายเป็นย่านคอนโดสุดหรู ที่ดินสำหรับพัฒนาโครงการใหม่ๆ ก็เริ่มราคาก้าวกระโดดไประดับตารางวาละ 1-2 ล้านบาท
และการมาของรถไฟฟ้า BTS ส่วนต่อขยายในช่วงปี 50 ที่จากเดิมสุดแค่อ่อนนุช สร้างเพิ่มเติมไปสุดที่แบริ่ง และไปถึงสมุทรปราการในเวลาต่อมา ทำให้ย่านสุขุมวิทชั้นในเดิมมีความแน่น หาที่สร้างโครงการใหม่ๆ ยาก ที่ดินมีราคาแพง
ก็จะเห็นเริ่มมีโครงการทั้งออฟฟิศ, Mixed use, คอนโด, ห้าง หรือไม่ว่าจะเป็นโรงแรมมาเปิดกันที่สุขุมวิทช่วงอ่อนนุช-อุดมสุขกันเยอะพอสมควร จนทำให้
“สุขุมวิทตอนปลาย กลายเป็นย่าน Business District ใหม่”
ด้วยความที่ช่วงสุขุมวิทตอนปลาย เป็นย่านที่เชื่อมต่อกับสุขุมวิทชั้นในโดยตรง ห่างจากใจกลางเมืองไม่กี่สถานี แค่ไม่กี่ป้ายก็ทองหล่อ, พร้อมพงษ์, อโศก เมืองเลยโตตามออกมาได้ค่อนข้างง่าย
โครงการที่สร้างเสร็จแล้วในปัจจุบันก็อย่างเช่น True Digital Park เฟส 1 และ 2 รวมไปถึงเตรียมมีโครงการ Cloud 11 ที่ตั้งอยู่ตรงข้าม มีตึกออฟฟิศใหม่ๆ หลายตึกเช่น ตึก 66, ตึก M-Tower, Sukhumvit Hill, ตึกภิรัชทาวเวอร์
และยังมีโปรเจคขนาดใหญ่อีกหลายโปรเจคที่สร้างใหม่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เช่นห้าง Century อ่อนนุช, โรงแรม Innside, ตึกออฟฟิศใหม่ของเจียไต๋, ส่วนต่อขยายไบเทคบางนา หรืออย่างที่กำลังก่อสร้างอยู่ตอนนี้ที่หัวมุมแยกบางนาก็จะมีห้าง Bangkok Mall ที่เป็นห้างขนาดยักษ์ที่เตรียมจะเปิดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าครับ
จากที่เล่ามาน่าจะเห็นความเป็นเมืองที่ขยายออกมาของสุขุมวิทตอนปลายกันแล้ว
บางนา ย่านที่ขยายตัวจากความใกล้เมือง
ย่านติดสุขุมวิทตอนปลาย อยู่กึ่งกลางระหว่างเมืองกับโซนอุตสาหกรรมตามแนว EEC
“แต่ไม่ใช่แค่สุขุมวิท ฝั่งบางนาก็ได้รับอานิสงส์จากการขยายตัวของเมืองเช่นเดียวกัน”
ด้วยความที่ถนนเทพรัตน์ (บางนา-ตราด) ตัดกับถนนสุขุมวิท และเชื่อมต่อกับย่านสุขุมวิทตอนปลายพอดี บริเวณถนนบางนา-ตราดเองก็เลยจะกลายเป็นย่านที่มีความเจริญ Extended ต่อออกมา ถึงแม้ว่าอาจจะไม่ได้ออกมาเป็นรูปแบบของตึกออฟฟิศแน่นๆ เหมือนกับฝั่งกรุงเทพชั้นใน แต่บนถนนบางนาตราดเองก็มีโครงการ Mega Project ใหญ่ๆ มาตั้งตลอดแนวเช่นเดียวกัน
ยกตัวอย่างเช่น ตั้งแต่หัวมุมแยกที่ติดกับสุขุมวิทก็จะมีไบเทคและ Bangkok Mall อย่างที่ได้เล่าไปแล้ว ระหว่างทางก็จะมีโครงการใหม่ๆ เช่น The Forestias โครงการ Mixed use มูลค่าประมาณแสนล้าน, ตึก AIA East Gateway, WHA Bangna Business Complex ออฟฟิศใหญ่ของกลุ่ม WHA หรือถัดไปก็จะมีสนามบินสุวรรณภูมิที่กำลังเตรียมส่วนต่อขยายเฟส 2, Central Village หรือถ้าถัดไปอีกก็จะมีนิคมอุตสาหกรรมสมุทรปราการ 4.0 (ชื่ออย่างไม่เป็นทางการ) พื้นที่ดิน 4,300 ไร่ ติดถนนบางนา-ตราด กม.32 ครับ นอกจากนี้บนถนนบางนา-ตราดเอง ก็จะมีตึกออฟฟิศต่างๆ มาตั้งอยู่ประปราย โดยเฉพาะถนนบางนาช่วงต้นๆ
จากรูปจะเห็นว่าบนเส้นบางนา-ตราด มีแหล่งงานตลอดเส้นทาง ตรงนี้ก็จะเป็นจุดเด่นของย่านนี้ที่อาจจะต่างกับหลายๆ ทำเลครับ คือเค้าอยู่ระหว่างแหล่งงาน 2 ฝั่ง ไม่ได้ออกนอกเมืองไปแล้วกลายเป็นทุ่งอย่างเดียวไปเลย
โดยฝั่งเข้าหาในเมืองก็จะได้แหล่งงานทั้งย่านสุขุมวิทและบนเส้นบางนาเอง ส่วนฝั่งบางนา-สุวรรณภูมิ ย่านนี้ก็จะมีแหล่งงานทั้งสนามบินสุวรรณภูมิ, มหาวิทยาลัยรวมไปถึงนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ ที่มีค่อนข้างเยอะ
เมกาบางนา ศูนย์กลางของย่านบางนา-ตราดตอนต้น
มีครบ จบในห้างเดียว เชื่อมต่อการเดินทางกับย่านใกล้เคียง
ต้องบอกว่าทำเล “เมกาบางนา” ตั้งอยู่ในจุดที่เป็นศูนย์กลางของย่านนี้เลยก็ว่าได้ครับ คือเค้าจะอยู่ระหว่างช่วงบางนา-ตราดตอนต้น กับบางนา-ตราดที่ออกไปทางสุวรรณภูมิ รับคนจากทั้ง 2 ฝั่ง รวมไปถึงการที่เค้าติดถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ทำให้คนจากย่านอื่นๆ ก็สามารถมาที่นี่ได้เช่นเดียวกัน ทั้งจากฝั่งสมุทรปราการ, ลาดกระบัง, มีนบุรี เป็นจุดที่ทำให้ห้างนี้ไม่ใช่แค่ห้างของคนในย่านแล้ว แต่คนจากที่อื่นรอบข้างก็มาเช่นกัน จากการเดินทางที่เชื่อมต่อสะดวก ในวันเสาร์-อาทิตย์เราก็จะเห็นภาพห้างแตกบ่อยๆ
ซึ่งห้างในลักษณะนี้ ก็จะคล้ายกับ Central Westgate, Future Park รังสิต หรือแฟชั่นรามอินทราครับ ที่ทำเลอยู่ในจุดตัดของถนนสายสำคัญ เชื่อมต่อย่านอื่นๆ ได้ และเหมือนเป็นห้างที่เป็นประตูก่อนเข้าสู่เมืองชั้นใน
ซึ่งตัวเมกาบางนาเอง ก็ไม่ได้หยุดอยู่ที่แค่การเป็นศูนย์การค้าครับ เพราะตัวโครงการยังมีพื้นที่โดยรอบที่ยังสามารถพัฒนาได้อีก โดยก็มีแพลนในการทำในเมกาบางนาตรงนี้ให้กลายเป็นเหมือนเมืองเมืองนึง เป็นโปรเจค Mixed-Use ต่างๆ อย่างในปัจจุบันเราก็จะเห็นมีทั้งโซนศูนย์การค้า, โซน Entertainment ด้านหลัง และมีโซนที่อยู่อาศัยอย่างคอนโดของ Noww ของ Areeya เองก็มาเปิดโครงการที่ด้านหลังของเมกาบางนาเช่นกัน
ดังนั้นพอเป็นแหล่งที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ สิ่งที่ตามมาแน่นอนครับ ย่านนี้เราเลยก็จะเห็นหมู่บ้านมาเปิดกันค่อนข้างเยอะ ทั้งในทำเลของซอยบางแก้วที่อยู่ด้านข้าง ซอยม.ราม 2 ฝั่งตรงข้าม หรือไม่ว่าจะเป็นโซนเลียบถนนวงแหวนเองทั้งสองฝั่งก็มีหมู่บ้านมาเปิดโครงการตลอดแนว
และอีกฝั่งนึงที่ก็นิยมมาเปิดคือฝั่งด้านหลังของ เมกาบางนา ครับ ซึ่งแต่ละจุดก็จะมีระดับราคาที่ต่างกันออกไป มีตั้งแต่ทาวน์โฮม บ้านเดี่ยว เริ่มจากหลักเลขตัวเดียวไปจนถึงหลักสิบล้าน ยิ่งถ้าใกล้ถนนเส้นบางนาตราดมาก บางโครงการก็จะมีแตะหลักหลายสิบถึง 100 ล้านให้เห็นครับ



ที่ตั้งโครงการ
จุดเด่นของโครงการ ทะลุออกด้านหลังเมกาบางนา มีทางด่วน 2 สายอยู่หน้าบ้าน
“ใกล้เมกาบางนา ใช้เวลาแค่ 5 นาที* ก็ถึง!!”
*เวลาอ้างอิงจากการนำทางใน Google Maps
สำหรับที่ตั้งของโครงการถือว่าเป็นจุดขายของที่นี่เลยครับ จะอยู่ในซอยที่อยู่ด้านหลังของเมกาบางนา ฝั่งที่มาจากถนนวงแหวนครับ นึกภาพว่าถ้ามาจากบางนาตราดฝั่งในเมือง เมื่อเจอแยกต่างระดับที่ตัดกับถนนวงแหวนก็ชิดขวา เพื่อไปตามป้ายที่บอกว่าไปถนนพระราม 2
แต่เมื่อมาถึงหน้าด่าน จะมีทางออกไปทางขนานด้านข้าง ให้ชิดซ้ายออกครับ หลังจากนั้นจะเจอกับทางเข้าซอยโครงการ ที่มีคอนโด A Space Me บางนาตั้งอยู่ด้านหน้า (เป็นจุดสังเกตของทางเข้าโครงการเลย) เข้ามาในซอยตามทางหลัก มีระยะประมาณ 2.5 กิโลเมตร ก็จะถึงกับตัวโครงการ COMO Botanica II ครับ ซึ่งในซอยนี้จะมีทางทะลุไปออกถนนบางนา-ตราด กม.10 ได้อีกทางนึงด้วยครับ ใช้เป็นตัวเลือกในการเดินทางได้เช่นกัน
หลังเมกาบางนา “Areeya Heart Quarter”
ซึ่งทำเลตรงนี้ ทางอารียาเค้าเรียกว่าเป็นโซน Areeya Heart Quarter เรียกว่าเป็นอีกทำเลนึงที่อารียาค่อนข้างถนัดและคุ้นเคยมากครับ เรียกได้ว่าเป็นผู้มาบุกเบิกตั้งแต่เมกาบางนาเปิดแรกๆ จนปัจจุบันก็มีหมู่บ้านของอารียาในซอยตรงนี้รวมกันเกือบ 30 โครงการได้แล้ว ก็เรียกได้ว่าเป็นทำเลที่ Proof ตัวเองได้ระดับนึงเลยครับ
สิ่งอำนวยความสะดวกรอบข้าง
สำหรับทำเลนี้ แน่นอนว่าที่ใกล้อันดับหนึ่งก็หนีไม่พ้นเมกาบางนาที่เราเล่าไปแล้ว แต่ต้องบอกว่าจริงๆ กรุงเทพโซนตะวันออกอย่างย่านศรีนครินทร์-บางนา เป็นย่านที่มีห้างไซส์ใหญ่มาตั้งอยู่หลายห้าง จากการเป็นย่านที่อยู่อาศัยย่านชานเมืองและค่อนข้างมีกำลังซื้อ ไม่ว่าจะเป็น Seacon Square, Paradise Park และ Paradise Place, Central บางนา และอนาคตก็จะมี Bangkok Mall มาอีกห้าง
นอกจากนี้ห้างในรูปแบบอื่นๆ ก็มีอยู่ในย่านนี้ค่อนข้างเยอะเช่นกันทั้ง Lotus’s, Makro, HomePro, บุญถาวร และ Community Mall ต่างๆ และย่านนี้ก็เป็นย่านนึงที่มีโรงเรียนนานาชาติมาเปิดกันค่อนข้างเยอะ
การเดินทาง
ถนนสายหลัก 2 เส้นตัดกันหน้าบ้าน เข้าเมืองง่าย เชื่อมต่อเข้าสุขุมวิทตอนปลายได้โดยตรง มีทางด่วนเลือกไปได้หลายโซน



สำหรับในด้านของการเดินทาง ทำเลนี้เนื่องจากเป็นในซอยที่ไม่ได้ทะลุออกทางอื่น การเดินทางก็จะเน้นใช้รถส่วนตัวเป็นหลักครับ ซึ่งทำเลนี้การเดินทางด้วยการใช้รถยนต์ก็จะค่อนข้างสะดวกมาก จากการที่โครงการอยู่ใกล้กับจุดตัดถนนสายหลักอย่างบางนา-ตราดและวงแหวนกาญจนาภิเษก
การเดินทางไปโซนต่างๆ ในย่านนี้
สำหรับที่ตั้งโครงการก็จะอิงกับการใช้งานถนนบางนา-ตราดเป็นหลักครับ โดยที่ตั้งอยู่บนถนนบางนา-ตราดช่วง กม.9 ซึ่งถือว่าไม่ไกลจากในเมืองมาก ดังนั้นถ้าหากจะไปแถบสุขุมวิทก็จะมีระยะแค่ประมาณไม่กี่กิโลครับ ส่วนถ้าออกไปฝั่งชลบุรี สนามบินสุวรรณภูมิก็จะอยู่ที่ประมาณกม.15 และมีม.อัสสัมชัญ (ABAC) ที่ประมาณกม.26 ครับผม จากทำเลก็จะเป็นจุดที่ไปที่ต่างๆ ในย่านบางนาได้ง่าย
นอกจากนี้ถ้าหากจะไปออกเทพารักษ์ ไปศรีนครินทร์ หรือไปย่านแพรกษา-บางปู ที่เป็นแหล่งงานและนิคมขนาดใหญ่อีกแหล่งหนึ่ง ก็สามารถออกจากโครงการแล้วเลี้ยวขึ้นทางด่วนวงแหวน เพื่อไปทางเทพารักษ์/ศรีนครินทร์/ช้างสามเศียรได้
ส่วนใครที่จะไปย่านลาดกระบัง จากโครงการก็ยังไปได้ครับ โดยใช้ทางออกจากซอยอีกฝั่ง ไปออกบริเวณถ.บางนา-ตราด กม.10 ก็จะสามารถขึ้นต่างระดับวนไปถนนวงแหวนฝั่งที่ไปลาดกระบัง-บางปะอินได้ โดยที่ไม่ต้องกลับรถ
การเดินทางเข้าเมืองชั้นใน
ทางแรกก็จะเป็นการใช้ถนนบางนา-ตราดด้านล่าง ขับตรงเข้าสุขุมวิทครับ ก็จะสะดวกสำหรับใครที่ทำงาน/ไปในช่วงสุขุมวิทตอนปลาย ส่วนใครที่ทำงานในเมืองชั้นในเข้าไปหน่อยอย่างที่เราทราบกันว่าสุขุมวิทในเวลาวันทำงานปกติรถก็ค่อนข้างจะติด ก็จะมีอีกทางเลือกในการเดินทางครับ คือขึ้นทางด่วนบูรพาวิถี มีจุดขึ้นเลยเมกาบางนาไปเล็กน้อยไปเชื่อมต่อทางด่วนเฉลิมมหานคร สามารถลงได้ทั้งไบเทค, ท่าเรือ-พระราม 4, คลองเตย-ลุมพินี, และเชื่อมต่อกับทางด่วนสายอื่นๆ ในเมืองได้ทั้งหมด
ใครที่จะไปย่านเพชรบุรี-พระราม 9 ก็มีทางเลือก 2 ทางครับ คือขึ้นทางด่วนบูรพาวิถีและวิ่งข้างบนยาวๆ ไปเชื่อมกับทางด่วนฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) ก็จะสามารถไปย่านพระราม 9 ได้ หรืออีกทางคือวิ่งตามถนนวงแหวนและเลี้ยวเข้ามอเตอร์เวย์สาย 7 ตรงเข้าสู่เส้นพระราม 9 ก็ได้เช่นเดียวกัน
ส่วนใครที่ทำงานย่านสีลม-สาทร นอกจากจะใช้ทางด่วนเฉลิมมหานครในการเข้าเมืองแล้ว ก็จะมีอีกตัวเลือกนึงในการเดินทาง คือใช้ทางด่วนวงแหวนแล้ววิ่งไปทางสะพานวงแหวนอุตสาหกรรม (สะพานภูมิพล) เพื่อที่จะทะลุไปออกถนนพระราม 3 ครับ จากตรงนี้วิ่งเข้าถนนนราธิวาสต่อ แป๊บเดียวก็จะตัดตรงเข้าสู่ย่านสาทรได้เช่นเดียวกัน เป็นทางเลือกอีกทางที่สามารถใช้ได้เวลารถติด (หรือถ้าช่วงรถไม่ติดก็มีอีกทางเลือกในการไปทางบางนาแล้วข้ามสะพานวงแหวนอุตสาหกรรมทางปู่เจ้าได้เช่นเดียวกัน)
ตรงนี้ก็จะเป็นข้อดีของโครงการที่ใกล้จุดตัดและจุดขึ้นลงของทางด่วน 2 สายครับ
ทางเลือกการเดินทางอื่นๆ
สำหรับรถไฟฟ้าสายที่ใกล้ที่สุด ก็จะเป็นรถไฟฟ้าสายสีเหลืองสถานีศรีเอี่ยมครับ ซึ่งเป็นสถานีที่อยู่ตรงจุดตัดระหว่างถนนบางนา-ตราดและศรีนครินทร์ ความพิเศษของสถานีนี้คือมีอาคารจอดแล้วจร เราสามารถขับรถมาจอด แล้วต่อรถไฟฟ้าได้ครับ ก็จะสะดวกในการใช้งาน เพื่อไปในย่านศรีนครินทร์-สำโรง-ลาดพร้าว
ส่วนอีกสายที่อยู่ไม่ไกลมากก็จะเป็น BTS สายสีเขียว ที่สายนี้จะวิ่งตัดตรงเข้าสู่ใจกลางเมืองอย่างย่านอโศก-สยาม-พหลโยธิน หรือใช้ไปย่านสมุทรปราการ-ปากน้ำได้ครับ ด้านการเดินทางด้วยรถเมล์ ก็สามารถขึ้นได้ที่บริเวณเมกาบางนาครับ มี Terminal ขนาดใหญ่ตั้งอยู่






รูปแบบโครงการ
หมู่บ้านบรรยากาศสงบท่ามกลางธรรมชาติ ราคาบ้านยังอยู่ในช่วงหยิบจับง่าย สำหรับคนมีงบช่วง 7-10 ล้านบาท

โครงการ COMO Botanica II ก็จะเป็นหมู่บ้านที่เป็นบ้านแบบ 2 ชั้นที่ขนาดโครงการไม่ใหญ่มากครับ มีแค่ประมาณ 104 units มาในระดับราคาที่ยังหยิบจับได้ไม่ยาก สำหรับใครที่มองหาบ้าน โดยจะมีราคาอยู่ในช่วงประมาณ 7-9 ล้านบาท
โดยมีขนาดที่ดินเริ่มต้นประมาณ 41.8 ตารางวา ไปจนถึงขนาด 75 ตารางวา แบบบ้านหลักๆ จะมี Type เดียวเลยครับ โดยจะมีพื้นที่ใช้สอย 171 ตารางเมตร 3 ห้องนอน (ปรับเป็น 4 ได้) 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ ก็ถือว่าเป็นบ้านขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ กำลังพอดีกับครอบครัวที่เพิ่งเริ่มต้น หรือครอบครัวขนาดกลางครับ
ข้อมูลโครงการ
ชื่อโครงการ : | COMO BOTANICA II (โคโม่ โบทานิก้า 2) |
Developer : | บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) |
เนื้อที่โครงการ : | 19-1-43 ไร่ |
จำนวนบ้าน : | 104 หลัง |
รูปแบบโครงการ : | บ้านแฝด/บ้านเดี่ยว |
แบบบ้าน : | 171 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 1 ห้องอเนกประสงค์ |
ขนาดที่ดิน : | 41.8 – 75.4 ตารางวา |
ทำเล : | บางนา กม.9-10– |
ค่าส่วนกลาง : | 45 บาท/ตารางวา/เดือน |
Facility : | – ทางเข้าโครงการขนาดใหญ่ พร้อมระบบ Easy Pass แยกไม้กั้นลูกบ้านและ Visitor – กล้อง CCTV – รปภ.รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง – พื้นที่สวนในโครงการ – Clubhouse สไตล์ Botanical |
ราคา : | เริ่มต้น 6.99 ล้านบาท |
ราคาที่ดินเพิ่ม : | ประมาณ 70,000 บาท/ตารางวา |
สถานะโครงการ : | Grand Opening (แล้วเสร็จบางส่วน) |
คาดว่าจะแล้วเสร็จ : | ช่วงปลายปี 2023 (บางส่วน) |
Mood & Tone โครงการ
Craft Your Own Nature – ออกแบบชีวิตให้ชิดธรรมชาติ

จุดเด่นของโครงการ COMO Botanica II อีกเรื่องนึงก็จะเป็นในเรื่องของ Concept โครงการที่ค่อนข้างชัดเจนครับ จริงๆ ต้องบอกว่าบ้านของ Areeya ยุคหลังๆ แต่ละโครงการเค้าก็จะมีตีมมีบุคลิกที่ชัดมากๆ อย่างที่โครงการนี้เค้าก็จะทำโครงการออกมาเหมือนให้เราเหมือนมีบ้านอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ดังนั้นเมื่อเราเข้ามาในโครงการ Mood&Tone ต่างๆ ก็ค่อนข้างจะไปในทิศทางเดียวกัน
ทั้งการบรรยากาศของการมีพื้นที่สีเขียวในโครงการ ดีไซน์ของตัวบ้านที่เป็นสไตล์ Urban Botanical ตกแต่งด้วยสีแนว Earth tone ตัดกับ Facade บริเวณหน้าบ้านที่ทำออกมาด้วยวัสดุคล้ายไม้
นอกจากนี้ตัวบ้านแต่ละหลังก็จะมีการลงต้นไม้ไว้ให้ทั้งต้นไม้เล็กและไม้ยืนต้น และไม่ใช่แค่ในบ้านครับรวมไปถึงบริเวณฟุตบาทหน้าบ้านก็จะมีต้นไม้อยู่ด้วยเช่นเดียวกัน ทำให้บรรยากาศโดยรวมของโครงการดูเน้นธรรมชาติ มีความร่มรื่น เหมือนอยู่กลาง Tropical Forest ตาม Concept ที่วางไว้ครับ



ส่วนกลางโครงการ
ถึงโครงการจะไม่ใหญ่มาก แต่ก็มีส่วนกลางมาให้ครบ
ถึงแม้ว่าที่นี่ขนาดหมู่บ้านอาจจะไม่ได้ใหญ่มาก มีจำนวนบ้านอยู่ 104 หลัง แต่ Facility ต่างๆ ที่โครงการจัดไว้ให้ก็มีค่อนข้างครบครับ เริ่มจากซุ้มทางเข้าขนาดใหญ่ด้านหน้าโครงการ มาในสไตล์ Modern ตัวซุ้มตัวนี้ก็เป็นที่ตั้งของป้อมรปภ. มีแยกทางเข้าชัดเจนสำหรับ Visitor และลูกบ้าน ลูกบ้านสามารถผ่านเข้าด้วยระบบ Easypass และมีกล้อง CCTV บันทึกการเข้าออก
ด้านข้างของอาคารทางเข้าตรงนี้ ด้านในจะเป็นพื้นที่ของออฟฟิศนิติหมู่บ้านด้วยครับ




เมื่อเข้ามาก็จะเจอกับสวนเล็กๆ ต้อนรับที่หน้าโครงการครับ และที่บริเวณด้านในก็จะมีสวนขนาดใหญ่อยู่อีก 1 จุด ปัจจุบันกำลังก่อสร้างอยู่ครับ


ในส่วนของ Clubhouse และสระว่ายน้ำ ทางโครงการก็ทำมาให้เช่นเดียวกัน โดยจะอยู่ในตำแหน่งตรงกลางของโครงการครับ บรรยากาศของตัว Clubhouse ก็จะมีความคล้ายกับรีสอร์ท ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ระหว่างก่อสร้างอยู่เช่นกันครับ แต่ในภาพ 3D ก็จะเห็นว่าสวยและดูบรรยากาศดีทีเดียว



รูปแบบบ้าน
แบบบ้าน Type เดียว 171 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถและ 1 ห้องอเนกประสงค์
สำหรับโครงการ COMO Botanica II จะเป็นโครงการบ้านขนาดเริ่มต้นที่ 41.8 ตารางวา ซึ่งบ้านทั้งโครงการจะมี Type เดียวเลยครับ ต่างกันที่ขนาดที่ดิน ตัวบ้านมีพื้นที่ 171 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ และมีห้องอเนกประสงค์ให้อีก 1 ห้องครับ ซึ่งบริเวณที่ดินรอบตัวบ้านก็จะมีพื้นที่มากพอให้มีสวนด้านหน้าบ้าน ด้านข้างมีพื้นที่ Terrace ทุกหลัง และหลังบ้านมีพื้นที่สำหรับซักล้าง โดยตัวบ้านจะไม่มีส่วนที่เป็นกำแพงบ้านติดบ้านข้างๆ สามารถเดินรอบนอกบ้านได้ทุกหลังครับ
เดี๋ยวเรามาดูบ้านตัวอย่างของโครงการกันว่าภายในบ้านจะกว้างแค่ไหน และจัดออกมาเป็นอย่างไรบ้าง

มาดูบ้านตัวอย่าง

สำหรับหลังที่เป็นบ้านตัวอย่าง จะเป็นแปลงที่มีพื้นที่ 41.8 ตารางวา เป็นพื้นที่ดินขนาดเริ่มต้นของโครงการเลย เราก็จะได้เห็นภาพครับ ว่าบ้านที่มากับที่ดินขนาดเริ่มต้นมีพื้นที่ให้เรามากน้อยแค่ไหน ซึ่งถ้าต้องการพื้นที่สวนเพิ่มทางโครงการก็มีแปลงที่มีที่ดินใหญ่สุดอยู่ที่ 75 ตารางวาด้วยกันครับ
โดยบ้านในโครงการ COMO Botanica II จะมีแบบเดียว ดังนั้นทั้งโครงการบ้านก็จะไปในสไตล์เดียวกันหมดเลยครับ มาในสไตล์ Urban Botanical ต่างกันแค่กลับด้านซ้ายขวาเท่านั้นเองครับ




พื้นที่หน้าบ้านและสวน
เริ่มจากหน้าบ้าน การออกแบบมาพร้อมกับที่จอดรถที่ยื่นออกมาจากตัวบ้าน เพื่อให้ตัวบ้านมีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้น โดยที่ตัวรถก็ยังจอดอยู่ใต้หลังคา ไม่ต้องจอดตากแดด โดยจะสามารถจอดรถได้ 2 คันด้วยกัน ตรงนี้จะมีปลั๊ก outdoor สำหรับเผื่อไว้ให้จุดนึงด้วยนะครับ เผื่อเสียบปลั๊กเครื่องดูดฝุ่นทำความสะอาดรถหรือทำอะไรในโรงรถได้
ซึ่งด้านข้างของที่จอดรถ ตรงนี้ก็จะเป็นพื้นที่สวนของบ้าน โครงการจะมีการปลูกต้นไม้ ทั้งไม้พุ่มและไม้ยืนต้นมาให้ บรรยากาศที่ได้ก็จะคล้ายกับบ้านตัวอย่างที่เห็นอยู่เลยครับ




ทางเข้าบ้าน
ทางเข้าหลักของบ้านจะอยู่ถัดมาจากโรงรถครับ ก่อนเข้าตัวบ้านจะมี Step เป็นชานข้างนอกบ้านสำหรับเป็นพื้นที่ถอดรองเท้าหรือวางเก้าอี้ใส่รองเท้าได้ ตรงนี้จะเป็นบานประตูสไลด์ขนาดใหญ่ทำหน้าที่เป็นช่องแสงให้กับตัวบ้านด้วยครับ
ที่บนเพดานตรงนี้จะแอบมีดีเทลเล็กๆ ทำปลั๊กไว้ให้ เผื่อสำหรับใครที่จะติดกล้องวงจรปิดหน้าบ้านด้วยครับ


ซึ่งพอเข้ามา ในบ้านตัวอย่าง เค้าจะทำการกั้นหน้าบ้านไว้ เพื่อให้เวลาที่เราเดินเข้าบ้านมา จะเจอกับโซนที่เป็นโซนต้อนรับก่อน ก่อนจะเดินเข้ามาในตัวบ้าน สร้างความ Private สำหรับผู้ที่อยู่อาศัยด้านใน เป็นไอเดียที่ดีเลยครับ ทำให้บ้านดูเป็นสัดส่วนขึ้น พื้นที่ตรงนี้ก็สามารถทำเป็นได้ทั้งวางของโชว์ หรือทำฟังก์ชันตู้เก็บรองเท้าต่างๆ ได้
แต่ตัวบ้านที่ให้จริงจะไม่ได้กั้นมาให้นะครับ เผื่อใครชอบแบบโล่งๆ แต่ถ้าชอบแบบนี้ก็สามารถทำตามกันได้


พื้นที่นั่งเล่น
ถัดเข้ามาเราจะเจอกับโซนพื้นที่นั่งเล่นของตัวบ้าน ตรงนี้ก็มีพื้นที่ใหญ่พอสำหรับใช้งานทั้งครอบครัว วางทีวีขนาดใหญ่ๆ ได้สบาย โดยพื้นที่เค้าก็จะเชื่อมต่อกับโซนรับประทานอาหารที่อยู่ถัดไป เป็น Open Space เปิดโล่งที่ไม่อึดอัดครับ




โซนรับประทานอาหาร
ถัดมาจากโซนนั่งเล่น ตรงนี้ก็จะเป็นโซนรับประทานอาหารที่วางโต๊ะได้ขนาด 4-6 ที่นั่งสบายๆ ครับ ไฮไลท์ของห้องนี้คือจะมีช่องแสงจากด้านข้างของตัวบ้านขนาดใหญ่มากๆ จากประตูที่เชื่อมต่อออกไปเฉลียงด้านข้างบ้าน ที่ให้กระจกมาแบบพื้นถึงฝ้า เกือบ 2.75 เมตร
ทำให้บรรยากาศตรงนี้ดูโปร่ง และเชื่อมต่อพื้นที่สวนที่อยู่ด้านข้างบ้านครับ




Terrace ข้างบ้านพร้อมหลังคาโปร่งใส
นอกจากห้องรับประทานอาหารจะให้กระจกมาแบบพื้นถึงฝ้าแล้ว ตัว Terrace เค้าก็ทำเป็นหลังคาแบบโปร่งไว้ให้ด้วยเช่นเดียวกันครับ ตรงนี้เป็นไฮไลท์ของบ้านเลย ทำให้แสงที่ส่องมา ไม่ถูกหลังคาของเฉลียงบัง โดยตัวเฉลียงตรงนี้ทางโครงการจะให้มาแบบนี้เลยกับบ้านทุกหลังครับ สามารถใช้ออกมานั่งพักผ่อนชมสวนที่ด้านข้างบ้านได้

หรือถ้าใครจะสร้างตรงนี้เพิ่มเป็น Glasshouse เชื่อมต่อกับพื้นที่ภายในบ้าน ก็เป็นอีกไอเดียจากตัวบ้านที่ทำช่องเปิดมาให้กว้างพอ



ห้องครัว
ถัดจากโซนรับประทานอาหารมาก็จะเป็นพื้นที่ของครัวครับ โดยทางโครงการจะเตรียมพื้นที่ภายในบ้านไว้ให้ใหญ่พอประมาณ เราสามารถ Built-in มุมทำครัวได้ โดยพื้นที่ที่ทำมาให้ก็จะมีลักษณะเปิดโล่งเชื่อมต่อกับโซนรับประทานอาหารครับ สามารถวางเคาท์เตอร์สำหรับเผื่อมานั่งแบบในบ้านตัวอย่างก็ได้
หรือถ้าใครอยากได้เป็นครัวปิด ก็สามารถทำกำแพง/กระจกบาน Slide ปิดพื้นที่ครัว เผื่อต้องทำอาหารหนักๆ ได้เช่นกัน




พื้นที่หลังบ้าน
แต่ถ้าใครเสียดายพื้นที่ รู้สึกว่าอยากมีครัวเปิดเชื่อมต่อโซนรับประทานอาหาร แต่ก็อยากมีครัวไว้สำหรับทำอาหารไฟแรงด้วย ด้านหลังของตัวบ้านก็ยังมีพื้นที่กว้างมากพอสำหรับทำเป็นครัวอีกชุดนึงครับ โดยตรงนี้สามารถใช้เป็นลานซักล้างต่างๆ ได้ พื้นที่มีมาให้พอสมควร และที่บริเวณหลังบ้านก็จะมีแท็งก์น้ำรวมถึงปั๊ม ชุดนี้ทางโครงการติดตั้งมาให้เรียบร้อย


ห้องอเนกประสงค์
แต่พื้นที่ใช้สอยในบ้านยังไม่หมดครับ ที่บริเวณหน้าบ้าน จะมีพื้นที่ห้องอีกห้องนึง ทำออกมาเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ สามารถปรับเปลี่ยนเป็นฟังก์ชันต่างๆ ได้ อย่างในบ้านตัวอย่างก็จะทำออกมาเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อนอีกจุดนึงของตัวบ้านครับ
ส่วนถ้าใคร Work from home ก็อาจจะใช้ห้องนี้เป็นโซนห้องทำงาน หรือถ้าบ้านใครมีผู้สูงอายุ ก็อาจจะทำผนังปิด ให้ห้องนี้เป็นห้องนอนที่ 4 ที่อยู่ชั้นล่างก็ได้เช่นเดียวกันครับ โดยห้องนี้ก็จะได้ช่องแสงจากด้านหน้าบ้าน มองออกไปเห็นบริเวณสวนที่อยู่หน้าบ้านเราครับ



ห้องน้ำและบันได
ที่บริเวณชั้น 1 จะมีห้องน้ำมาให้ 1 จุดครับ สามารถใช้เป็นห้องอาบน้ำในกรณีทำห้องอเนกประสงค์เป็นห้องนอนได้ ส่วนที่อยู่ติดกันก็จะเป็นบันไดเพื่อขึ้นไปที่ชั้น 2
ด้านใต้บันไดจะมีห้องเก็บของให้ ขนาดพอประมาณ สามารถใช้เก็บของต่างๆ ในบ้านได้ครับ



ห้องนอนเล็ก 1
ขึ้นมาที่ชั้นบน ฟังก์ชันของชั้นบนก็จะถูกใช้เป็นห้องนอนทั้งหมดครับ โดยที่ห้อง Master Bedroom จะมีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องจะใช้ห้องน้ำร่วมกัน
จุดเด่นของบ้านหลังนี้ก็คือห้องนอนทุกห้องจะอยู่ติดมุมบ้าน ดังนั้น “ห้องนอนทุกห้อง” ของที่นี่ก็จะได้หน้าต่าง 2 ด้านครับ เรามาเริ่มดูห้องนอนเล็กห้องแรกกันก่อน ห้องนี้ถูกแต่งออกมาเป็นเหมือนกับห้องนอนเด็กครับ วางเตียงขนาด 3.5 ฟุตไว้ แต่จริงๆ มีพื้นที่กว้างพอวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้สบายๆ ครับ ปลายเตียงยังมีพื้นที่กว้างพอวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้อีก 1 ตู้




ห้องนอนเล็ก 2
มาที่ห้องนอนเล็กห้องที่ 2 ห้องนี้จะมีขนาดใหญ่กว่ากันเล็กน้อยครับ เปิดเข้ามาเจอกับตู้เสื้อผ้าก่อน เป็นโซนสำหรับแต่งตัว ถัดเข้าไปจะเป็นพื้นที่เตียง มีพื้นที่วางโต๊ะหัวเตียงได้ โดยที่ปลายเตียงยังมีพื้นที่เหลือสำหรับวางชั้นทีวีและวางชั้นหนังสือ/โต๊ะนั่งทำงานได้
โครงสร้างของตัวบ้านที่นี่เค้าจะใช้เป็น Precast สำเร็จรูปนะครับ แต่สำหรับห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง ตรงนี้ผนังจะพิเศษกว่าส่วนอื่นของบ้าน ตรงที่สามารถทุบเชื่อมกันได้ เผื่อใครที่อยู่เป็นครอบครัวที่มีคนไม่เยอะมาก ก็จะได้ห้องนอนใหญ่ 2 ห้องเลยที่ชั้น 2 ของตัวบ้าน



Master Bedroom
มาถึงห้อง Master Bedroom ที่เป็นห้องนอนใหญ่ที่สุดของบ้านนี้กันแล้วครับ ห้องนี้จะได้พื้นที่ด้านหน้าของบ้านไปทั้งหมดเลย มีหน้าต่างที่เป็นช่องแสงของบ้านหลายช่อง แยกพื้นที่เป็นสัดส่วนชัดเจน
เริ่มจากโซนที่นอนจะได้หน้าต่างบานคู่ที่หัวเตียงครับ ส่วนด้านข้างจะเป็นประตูสไลด์ออกไปยังพื้นที่ระเบียงหน้าบ้าน ขนาดระเบียงถือว่าไม่ใหญ่มาก พอใช้งาน วางเก้าอี้เล็กๆ/วางกระถางต้นไม้ต่างๆ ได้



ด้านปลายเตียงมีพื้นที่เหลือค่อนข้างมากสามารถวางชั้นทีวี/โต๊ะนั่งทำงานได้ โดยในบ้านตัวอย่างเค้าจะทำการกั้นระหว่างโซนห้องนอนกับโซนแต่งตัวให้ดูเป็นตัวอย่างครับ บ้านจริงที่ส่งมอบเป็นพื้นที่โล่งนะ ซึ่งพอกั้นแบบนี้ ก็ทำให้การใช้งานเป็นสัดส่วนมากขึ้น ได้พื้นที่ Walk-in Closet ขนาดใหญ่
นอกจากนี้ภายในห้องนอน Master Bedroom ก็จะมีห้องน้ำในตัวด้วยครับ

Spec ของที่ได้
ชั้นล่าง
มาดูในส่วนของตัวบ้านที่จะได้จริงกันบ้าง สำหรับบ้านจริงก็จะคล้ายกันกับบ้านตัวอย่างที่เราไปดูเมื่อสักครู่ แต่อาจจะไม่ได้กั้นพื้นที่ต่างๆ มาเยอะเท่า โดยชั้นล่างจะได้เป็นพื้นกระเบื้องครับ Terrace ด้านข้างบ้านพร้อมช่องแสงขนาดใหญ่ก็จะได้เหมือนกับในบ้านตัวอย่างเลย
แต่ส่วนพื้นที่ครัวที่เห็นในบ้านตัวอย่าง ตรงนี้ก็จะเป็นพื้นที่ว่าง ให้เรามา Built-in เองครับ โดยพื้นที่ชั้นล่างก็จะได้เพดานสูง 2.75 เมตร ส่วนด้านหลังบ้านที่เป็นลานซักล้างก็จะได้ลานปูน พร้อมแท็งก์น้ำและปั๊ม





ชั้นบน
ในส่วนของชั้นบนก็จะได้เพดานสูง 2.75 เมตรเช่นเดียวกันครับ วัสดุพื้นที่ใช้จะเป็นลามิเนต มี 3 ห้องนอน ห้องนอน Master Bedroom ก็จะไม่มีการกั้นส่วน Walk-in Closet อย่างที่บอกไป



สวนรอบตัวบ้าน
สำหรับบ้านที่ส่งมอบจริงจะมีการจัดสวนมาให้เรียบร้อยเช่นเดียวกันครับ รูปแบบสวนเหมือนกับในรูปด้านล่างเลย มีทั้งส่วนที่ปูหญ้า, ลงหิน ลงไม้พุ่ม และทุกบ้านจะได้ไม้ยืนต้นขนาดใหญ่อยู่ในพื้นที่สวนด้วยเช่นกัน



นอกจากในบ้านเอง บริเวณหน้าบ้านก็จะมีต้นไม้ลงไว้อีกหนึ่งจุด ให้ดูร่มรื่น ตัวรั้วที่โครงการทำไว้ให้ตรงนี้ก็จะมีดีเทลการใช้งานที่ซ่อนกล่องจดหมายและถังขยะอยู่ครับ โดยจะใช้เป็นถังขยะแบบสำเร็จรูปติดกับกำแพง เราสามารถทิ้งจากในบ้านได้เลย ส่วนรถขยะเวลามาก็เปิดจากประตูเล็กข้างกำแพงบ้าน ไม่ต้องวางถังเกะกะบนถนนส่วนกลาง ดูเรียบร้อยทั้งโครงการ





ห้องน้ำ
ห้องน้ำทั้ง 3 ห้องภายในบ้านนี้ก็จะ Spec คล้ายกันครับ สุขภัณฑ์เป็นของ Hafele ส่วนชุดก๊อกต่างๆ จะเป็นของ Cotto มีทำชั้นวางของที่หน้าอ่างล้างหน้าพร้อมท็อปหินมาให้ ในด้านการระบายอากาศห้องน้ำทุกห้องก็จะมีหน้าต่างบานกระทุ้งสำหรับเปิดออกได้ครับ
และห้องนอน Master Bedroom จะพิเศษกว่าเล็กน้อย โดยในห้องนี้ จะได้ฉากกั้นอาบน้ำของ i-spa แถมมาให้ด้วยเลยครับ ส่วนใต้อ่างล้างหน้าก็จะมีตู้บานปิดสำหรับเก็บของทำมาให้เรียบร้อย







Solar Roof แถมฟรีให้ทุกหลัง*
จุดเด่นอีกอย่างของบ้านในโครงการ COMO Botanica II คือบ้านที่นี่จะแถม Solar Roof มาให้ทุกหลังด้วยครับ* โดยจะได้ระบบ Solar ขนาด 3 กิโลวัตต์ ติดตั้งบนหลังคา 7 แผง คำนวณออกมาคร่าวๆ ก็จะเทียบเท่ากับการใช้ไฟจากหลอดไฟ 10 วัตต์ 5 หลอด + ตู้เย็น 12 คิว + ทีวี 2 เครื่อง + แอร์ 9,000 btu 2 เครื่องพร้อมกันครับ
โดยจากที่โครงการประมาณการณ์ไว้ ก็จะช่วยประหยัดไฟต่อเดือนได้ราวๆ 1,400-1,900 บาท ขึ้นอยู่กับทิศทาง ฤดูและปริมาณการใช้ไฟของแต่ละบ้านครับ
ซึ่งนอกจากการติดตั้ง Solar Roof ให้แล้ว ก็จะมีการรับประกันให้ด้วย โดยรับประกันตัว inverter 10 ปี ตัวแผงรับประกัน 12 ปี มีการมาตรวจเช็คและทำความสะอาดให้ปีละ 1 ครั้งเป็นเวลา 5 ปีครับ
*เงื่อนไขเป็นไปตามบริษัทฯ กำหนด

สรุป
บ้านทำเลดี สำหรับคนอยากมีพื้นที่แต่ไม่อยากอยู่ไกลเมือง
สำหรับโครงการ Areeya COMO Botanica II ทีมงานมองว่าจุดเด่นข้อใหญ่ของที่นี่เลยเป็นเรื่องของทำเลเลยครับ ด้วยที่ตั้งที่อยู่ทะลุด้านหลังของ เมกาบางนา ที่เป็นห้างใหญ่ของย่านนี้ ใช้เวลาแป๊บเดียวถึง แบบแป๊บเดียวจริงๆ ซึ่งด้วยงบเท่านี้บางทำเลอาจจะเป็นซอยที่เข้าไปลึกจากถนนใหญ่ หรือบางทำเลอาจจะอยู่ใกล้จากเมือง
แต่ที่นี่ถือว่าเป็นโครงการที่ค่อนข้างยังอยู่ในระยะที่ใกล้เมืองมาก วิ่งไปแค่ประมาณ 10 กิโลก็ถึงสุขุมวิทตอนปลาย และค่อนข้างใกล้เมืองฝั่งสุขุมวิท ซึ่งตัวโครงการจะอิงทำเลกับถนนเมนหลักของเมืองอย่างถนนบางนา-ตราด อยู่ใกล้กับจุดตัดวงแหวนกาญจนาภิเษกด้วย ทำให้การเดินทางเชื่อมต่อโซนอื่นๆ ก็สะดวกเช่นกัน สามารถไปทั้งย่านลาดกระบัง-สนามบินสุวรรณภูมิ ไปย่านศรีนครินทร์-เทพารักษ์-แพรกษาได้ แถวหน้าเมกาบางนาก็จะเป็นจุดขึ้นลงทางด่วน ก็สามารถขึ้นทางด่วนจากตรงนี้เข้าเมืองได้เช่นกัน
จุดเด่นอีกอย่างคือทำเลตรงนี้ถึงจะเป็นทำเลที่ถือว่าเป็นชานเมืองออกมา แต่ถัดออกไปอีกเค้าก็ยังมีแหล่งงานอื่นๆ อีกครับ คือมีแหล่งงานขนาบทั้ง 2 ฝั่ง ฝั่งนึงก็จะเป็นโซนออฟฟิศสุขุมวิท-บางนา อีกฝั่งย่านกิ่งแก้วบางพลี-สมุทรปราการก็อย่างที่เราทราบกันว่าแถบนี้เป็นแหล่งนิคม-โรงงาน มีสนามบินมีมหาลัยขนาดใหญ่ ยังไม่นับโซนนิคมบางปู-ลาดกระบัง/สนามบินอีก แหล่งงานเลยแทบจะขนาบรอบด้านเลย
ส่วนตัวทีมงานก็มองว่าย่านนี้เป็นอีกย่านที่ค่อนข้างน่าสนใจเป็นอันดับต้นๆ เลย สำหรับใครที่กำลังมองหาบ้านซักหลัง
ซึ่งอ่านมาถึงตรงนี้ คนอ่านก็จะบอกว่าเราอวยเกินจริงไปหรือเปล่าใช่ไหมครับ จริงๆ ทำเลตรงนี้ก็มีข้อสังเกตเช่นเดียวกันครับ คือทำเลถือว่าค่อนข้างดีนะครับ ใกล้ห้าง มีถนนสายหลักตัดกัน 2 สายหน้าบ้าน มีจุดขึ้นลงทางด่วนไปได้หลายทางอีก ใกล้แหล่งงานรอบด้าน ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ก็แลกมาราคาเช่นกันครับ
คือถ้าเทียบกันเฉพาะตัวบ้านกับทำเลอื่น เราอาจจะเจอบ้านที่ราคาเบากว่าหน่อย หรือราคาเท่ากันได้ขนาดใหญ่กว่านิดนึงอะไรงี้ครับ ซึ่งที่นี่ก็จะเหมือนเป็นการบวกทำเลเข้าไปด้วย ทำให้ราคาอาจจะสูงกว่าบ้านทำเลชานเมืองบางทำเลไป อย่างที่เราเห็นกันในรัศมีใกล้ๆ เมกาบางนา ใกล้ถนนใหญ่หน่อยก็มีบ้านระดับหลายสิบถึงร้อยล้านแล้ว
ดังนั้นที่นี่ก็จะตอบโจทย์สำหรับใครที่มองหาบ้าน ที่ได้พื้นที่ มีสวน รองรับครอบครัวในอนาคต แต่ยังได้เรื่องของทำเล เรื่องการเดินทาง เรื่องการใช้ชีวิตที่ยัง Connect กับเมืองได้ครับ


ซึ่งตัวบ้านของที่นี่ก็ถือว่าทำออกมาในระดับราคาที่ยังหยิบจับได้ง่ายครับ อยู่ในงบเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท ได้ที่ดิน 41.8 ตารางวาขึ้นไป มีสวนรอบบ้าน พื้นที่บ้าน 171 ตารางเมตร มีพื้นที่ห้องนอน 3 ห้อง พร้อมห้องอเนกประสงค์อีก 1 พื้นที่ใช้สอยภายในบ้านก็ถือว่ากำลังพอดีๆ กับครอบครัวที่กำลังเริ่มต้นหรือถ้าอยู่กันหลายคนพื้นที่ใช้งานในบ้านก็ยังขยับขยายได้ครับ
นอกจากนี้จุดเด่นของตัวบ้านก็อยู่ที่ Terrace ด้านข้างบ้านที่เป็นทั้งช่องแสงขนาดใหญ่แบบพื้นถึงฝ้า เชื่อมต่อกับสวนด้านข้างบ้าน ทำให้บรรยากาศในบ้านค่อนข้างดี
นอกจากกลุ่มคนที่กำลังมองหาบ้านแล้ว ด้วยตัวบ้านราคาประมาณนี้ อีกกลุ่มที่น่าสนใจคือกลุ่มที่คนที่มองดูคอนโดช่วงสุขุมวิทตอนปลายครับ ด้วยราคาที่ไม่หนีกันมากกับห้องแบบ 2 Bedroom บางคนก็อาจจะพิจารณาลองมาดูบ้านเปรียบเทียบด้วย ทำเลใกล้กันแต่ขยับออกมาอีกนิด ได้ที่ดิน ได้พื้นที่ในบ้านเพิ่มขึ้น
ส่วนตัวโครงการก็ต้องบอกว่าขนาดไม่ใหญ่มากครับ มีบ้าน 104 หลังไม่วุ่นวาย แต่มี Facility ต่างๆ มาให้ค่อนข้างครบ ทั้ง Clubhouse และสวน 2 จุดในโครงการ
สำหรับใครที่กำลังมองหาบ้าน ไม่ว่าจะเป็นย่านบางนา หรือยังไม่มีทำเลในใจแต่มีงบอยู่ในช่วง 7-10 ล้าน โครงการ Areeya COMO Botanica II ก็เป็นอีกที่นึงที่น่าสนใจ เป็นบ้านในบรรยากาศธรรมชาติในทำเลใกล้เมืองในราคาที่ยังจับต้องได้ ใครสนใจโครงการสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม/ติดต่อนัดหมายได้จากลิงค์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ

#AreeyaHome #AreeyaProperty #ComoBotanica #ComoBotanicaII #NatureReadytoMovein #ธรรมชาติใกล้ๆพร้อมย้ายเข้าอยู่ #CraftYourOwnNature #ออกแบบชีวิตให้ชิดธรรมชาติ #AreeyaHeartQuarter #บ้านบางนา #บางนา