ถ้าพูดถึงคอนโดในย่านสะพานใหม่ ส่วนใหญ่ก็จะอยู่แถวๆ สถานีสายหยุด หรือไม่ก็เข้าไปในซอยพหลโยธิน 52 กันใช่ไหมครับ ในระยะใกล้ๆ สถานีสะพานใหม่เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีคอนโดมาเปิดเลยก่อนหน้านี้ แต่วันนี้เราจะขอพามารู้จักกับโครงการที่ตั้งอยู่ตรงข้ามตลาดยิ่งเจริญเลย ห่างจากสถานีรถไฟฟ้า “BTS สะพานใหม่” เพียงแค่ 170 เมตร และใกล้ 3 แหล่งงานใหญ่ไม่ว่าจะตลาดที่อยู่ตรงข้าม, มีสนามบินดอนเมืองที่อยู่ใกล้ๆ และไม่ไกลจากโซนแหล่งออฟฟิศตามแนวรถไฟฟ้าอย่างย่าน ม.เกษตร-รัชโยธิน-ห้าแยกลาดพร้าว




นอกจากนี้ตัวโครงการยังมากับพื้นที่ส่วนกลางกว่า 30 กิจกรรม ในราคาห้องที่จับต้องได้สำหรับคนวัยทำงาน อยู่ในช่วง 7x,xxx บ./ตร.ม. ถือว่าเป็นคอนโดในระยะเดินถึงรถไฟฟ้าใกล้ๆ ร้อยกว่าเมตร ที่ราคาค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว และมาแบบ Fully Furnished ด้วยครับ
จุดเด่นโครงการ
- ตรงข้ามตลาดยิ่งเจริญ เดินข้ามถนนถึง
- ใกล้ BTS สถานีสะพานใหม่ แค่ 170 เมตร
- คอนโดใหม่หนึ่งเดียวในย่าน ที่อยู่ในระยะเดินได้ใกล้ๆ จาก BTS สะพานใหม่
- ใกล้ถนนใหญ่พหลโยธิน เข้าซอยเพียง 75 เมตร
- ใกล้สนามบินดอนเมืองจากถนนตัดใหม่เทพรักษ์-วิภาวดีฯ ที่กำลังจะเปิดเร็วๆ นี้
- รถไฟฟ้า BTS 18 นาทีถึงห้าแยกลาดพร้าว เชื่อมต่อโซนจตุจักร-รัชโยธิน-ม.เกษตร สะดวก
- รถไฟฟ้าต่อเดียวถึงใจกลางเมืองย่านสยาม-สุขุมวิทไม่ต้องเปลี่ยนสาย
- โครงการราคาจับต้องได้ เริ่ม 1.49 ลบ.*
- แบบห้องมีให้เลือกหลากหลายตั้งแต่ Studio ถึง 1 Bedroom Plus
- ห้อง Fully Furnished แต่งครบ
- ส่วนกลาง 30 กิจกรรม มีให้เลือกใช้หลากหลาย
- ดีไซน์สไตล์ย้อนยุค แรงบันดาลใจจากโรงหนังยุค 80
ที่นี่จะเป็นอย่างไร จุดเด่นแต่ละอย่างที่ว่ามาจะน่าสนใจแค่ไหน เราขอพามารู้จักกับโครงการ “MUSE Condo สะพานใหม่” กันให้มากขึ้นในบทความนี้ครับ
จุดเด่นด้านทำเล
170 ม. จากสถานี BTS สะพานใหม่ ตรงข้ามตลาดยิ่งเจริญ
ตรงข้ามตลาดยิ่งเจริญ ใกล้ BTS สะพานใหม่ ในระยะเดินสบาย

สำหรับที่ตั้งโครงการ MUSE Condo สะพานใหม่ จะอยู่ใกล้กับ BTS สถานีสะพานใหม่ตามชื่อเลยครับ โดยอยู่ตรงข้ามกับตลาดยิ่งเจริญ ซึ่งทำให้ที่นี่มีจุดเด่นในเรื่องของทำเลในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นที่ตั้งที่หาของกินง่าย, ใกล้แหล่งงานต่างๆ ทั้งจากตัวตลาดที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ออฟฟิศตามแนวรถไฟฟ้าและหน่วยงานต่างๆ รวมไปถึงสนามบินดอนเมืองที่อยู่ไม่ไกล และยังเดินทางได้ค่อนข้างสะดวกจากรถไฟฟ้าที่อยู่หน้าโครงการ ต่อเดียวถึงใจกลางเมืองอย่างสยามได้
เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เดี๋ยวเราขอพาไปดูจุดเด่นในเรื่องของทำเลแต่ละด้านกันครับ
คอนโดใหม่หนึ่งเดียวในระยะเดินจาก BTS สะพานใหม่

สำหรับจุดเด่นแรก ที่โครงการ “MUSE CONDO สะพานใหม่” จะแตกต่างกับคอนโดอื่นๆ ในย่านนี้ชัดๆ เลย ก็คือเป็นคอนโดหนึ่งเดียวในย่านที่อยู่ตรงข้ามตลาดยิ่งเจริญและใกล้รถไฟฟ้าในระยะเดินได้แบบสบายๆ เพียง 170 เมตรครับ ซึ่งถ้าเรามาดูคอนโดในย่านนี้แถวๆ ที่อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้า ส่วนใหญ่ก็จะไปอยู่ใกล้สถานีสายหยุดกันครับ หรือถ้าสถานี “สะพานใหม่” เอง ก็จะไปอยู่ในซอยพหลโยธิน 52 เป็นหลัก ก็จะมีระยะเดินเข้าซอยนิดหน่อยครับ
ดังนั้นลองมาดูกันจริงๆ แล้ว คอนโดที่อยู่ใกล้สถานีสะพานใหม่-ตลาดยิ่งเจริญในระยะเดินไม่ถึง 300 เมตร นั้นไม่มีเลยในรอบยี่สิบปีที่ผ่านมาครับ หลายคนก็จะมองว่า “งี้ถ้าอยากอยู่ใกล้รถไฟฟ้าก็ไปอยู่สถานีสายหยุดก็ได้??” จริงๆ ก็ใช่ครับ ถ้ามองในเรื่องระยะเดินจากสถานีรถไฟฟ้า แต่พอเป็นสถานีสะพานใหม่ ตรงนี้จะอยู่ตรงข้ามกับ “ตลาดยิ่งเจริญ” ที่เป็นตลาดชื่อดังของย่านนี้ด้วย ด้วยความเป็นตลาดเก่าแก่ชื่อดัง มีขนาดใหญ่ ของค่อนข้างครบครัน
พื้นที่ของตลาดนี้มีกว่า 31 ไร่ พื้นที่ร้านค้ากว่า 1,700 แผง เปิดตลอด 24 ชม. มีทั้งตลาดเช้า ตลาดเย็น และตลาดกลางคืน มีที่จอดรถกว่า 700 คัน มีคนมาใช้บริการในตลาดไม่ต่ำกว่าวันละ 20,000 คน ก็จะมีข้อดีในเรื่องของกินต่างๆ รวมไปถึงตลาดเพิ่งมีการปรับปรุง เพิ่มโซนที่เป็น Community Mall “ยิ่งเจริญสแควร์” มีร้านดังๆ ใหญ่ๆ มาเปิดเยอะขึ้น มีร้านให้เลือกค่อนข้างหลากหลาย เลยเป็นจุดแข็งของทำเล BTS สถานีสะพานใหม่ตรงนี้ครับ รวมไปถึงตลาดยิ่งเจริญตรงนี้เอง ก็เป็นแหล่งงานใหญ่แห่งหนึ่ง ของคนในย่านสะพานใหม่ด้วยเช่นกัน
แหล่งงานขนาดใหญ่ตลอดเแนวรถไฟฟ้า

และถ้าในมุมของแหล่งงาน นอกจากตลาดยิ่งเจริญที่อยู่ตรงข้ามกับโครงการแล้ว ที่นี่ด้วยความที่อยู่ในแนวของรถไฟฟ้าสายสีเขียว (สายสุขุมวิท) ก็จะผ่านแหล่งงานในย่านใกล้หลายโซนเลย ไม่ว่าจะเป็นย่าน ม.เกษตร, รัชโยธิน, ห้าแยกลาดพร้าว, หมอชิต, อารีย์ ยาวไปจนถึงย่านใจกลางเมือง
เริ่มจากจุดใกล้ๆ กับโครงการกันก่อนครับ ในย่านนี้ก็จะใกล้กับกองทัพอากาศ ที่มีคนทำงานอยู่ในหน่วยงานเยอะทีเดียว ใกล้ๆ กับโครงการมี รพ.ภูมิพลและ รพ.CGH สะพานใหม่ และมีสนามบินดอนเมืองที่อยู่ไม่ไกลครับ ขยับมาฝั่งโซนวงเวียนหลักสี่ถึงม.เกษตร ตรงนี้ก็จะมีหน่วยงานราชการต่างๆ อยู่อีกเยอะทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นกรมทหารราบที่ 11, กรมป่าไม้, กรมทางหลวงชนบท, สำนักงานใหญ่ ธกส. ซึ่งตรงนี้ก็จะใกล้กับมหาวิทยาลัยขนาดใหญ่ถึง 3 ม.ด้วยกัน อย่าง ม.เกษตร, ม.ศรีปทุม และ ม.ราชภัฎพระนครครับ และถ้ามาถึงฝั่งรัชโยธิน โซนนี้ก็มีแหล่งงานอย่าง SCB Park, ตึกช้าง, Ratchayothin Hills และเมเจอร์รัชโยธิน
ส่วนบริเวณห้าแยกลาดพร้าวนี่ก็เป็นย่านออฟฟิศขนาดใหญ่อีกย่านนึงเลยครับ มีทั้งเซ็นทรัลลาดพร้าว, Enerygy Complex ที่เป็นสำนักงานใหญ่ปตท., สำนักงานใหญ่การบินไทย, สำนักงานใหญ่ BTS และมีตึกออฟฟิศชื่อดังในย่านอย่างตึก S-OASIS, ตึก Sun Tower, ตึกธนาคาร TTB, ตึกเล้าเป้งง้วน, ตึก TST, ตึก SJ Infinite และกำลังจะมีตึกใหม่ BTS Visionary Park (Mochit Complex) ครับ
ทำให้ภาพรวมของย่านสะพานใหม่ ถือว่าค่อนข้างจะใกล้หลายแหล่งงานทั้งออฟฟิศ, หน่วยงานราชการ รวมไปถึงหลายๆ มหาวิทยาลัย ที่อยู่ในย่านกรุงเทพฯ โซนเหนือตามแนวรถไฟฟ้าครับ
คอนโดติด BTS สายสุขุมวิท ที่ราคายังจับต้องได้

“โซนสะพานใหม่ ย่านที่ราคาคอนโดยังจับต้องได้ สำหรับคนทำงาน” บางคนอาจจะมีคำถามว่า “เอ๊!! ถ้าทำงานโซนอารีย์, ห้าแยกลาดพร้าว, รัชโยธิน งี้ไม่ไปซื้อคอนโดโซนแถวนั้นหรอ?” ก็ต้องบอกว่าปัจจุบันของคอนโดในเมืองที่ติดรถไฟฟ้าตั้งแต่หมอชิตเข้าไป ราคาจะอยู่ในเรท 150,000-200,000 บาท/ตร.ม. กันแล้วครับ ไม่อย่างนั้นก็อาจจะต้องเขยิบไปในซอยที่ห่างรถไฟฟ้า 1-2 กิโลขึ้นไป หรือถ้าขยับมาดูคอนโดติดรถไฟฟ้าในโซนห้าแยกลาดพร้าว มาจนถึงโซนม.เกษตร คอนโดในย่านนี้ก็ยังอยู่ในหลักแสนอัพไปจนถึงแสนกลางๆ เช่นกัน
โซนพหลโยธิน-สะพานใหม่ตรงนี้ก็เลยเป็นอีกทางเลือกสำหรับใครที่อยากได้คอนโดติดรถไฟฟ้า ยังเดินทางไปทำงานโซนอารีย์-ห้าแยกลาดพร้าว-รัชโยธินสะดวก แต่มาในราคาที่สบายกระเป๋าขึ้น อย่างคอนโดในย่านนี้เองก็จะยังอยู่ในราคาช่วง 6 หมื่นกลางๆ ถึงแสนต้นๆ ต่อตารางเมตร อารมณ์ประมาณมาว่าขยับออกมาหน่อยอีกซักนิด แต่ราคาเป็นมิตรขึ้น สำหรับใครที่มีงบอยู่ในช่วง 1-3 ล้าน แต่มองหาคอนโดที่เวลาเดินทางไม่ต้องต่อรถอีกต่อเข้าบ้าน
อย่างโครงการ Muse ที่นี่ก็จะเฉลี่ยประมาณ 73,000 บาท/ตร.ม. (ช่วง Pre-sales) เป็นโครงการที่ติดรถไฟฟ้าที่ยังมีห้องเริ่มต้นในเรท 1.49 ล้านบาท* ครับ
รถไฟฟ้า BTS ต่อเดียวถึงใจกลางเมือง

เข้าเมืองใช้เวลาเท่าไหร่?? อย่างที่บอกไปว่าโซนนี้ค่อนข้างสะดวกสำหรับคนทำงานในย่านกรุงเทพฯ ฝั่งเหนือ ไม่ว่าจะเป็นรัชโยธิน, ห้าแยกลาดพร้าว, หมอชิต, อารีย์ เลยลองเอาเวลาเดินทางจากสถานีสะพานใหม่ไปยังสถานีต่างๆ มาให้ดู พอจะให้เห็นภาพกันครับ
อย่างย่าน ม.เกษตรและ ม.ศรีปทุม จะให้เวลาประมาณ 10-12 นาที มีระยะห่าง 5-7 สถานีครับ ส่วนโซนรัชโยธิน ที่ห่างออกไป 9 สถานี ใช้เวลา 15 นาทีถึง และถัดไปอีก 2 สถานีก็จะเป็นห้าแยกลาดพร้าว ใช้เวลา 18 นาทีครับ เท่ากับว่าในเวลาประมาณไม่ถึง 20 นาที จากสพานใหม่สามารถมาถึงห้าแยกลาดพร้าวได้สบายๆ ซึ่งแต่ละสถานีที่ว่าไป ก็มีแหล่งงานกับสถานที่สำคัญต่างๆ ค่อนข้างเยอะทีเดียว
ส่วนใครที่ทำงานในเมืองชั้นใน สำหรับรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท จากที่ตั้งของสถานีสะพานใหม่ตรงนี้ ก็ถือว่ามีระยะออกมาหน่อยประมาณ 15-20 สถานี แต่ก็จะมีข้อดีตรงนั่งยาวๆ ต่อเดียวถึงเช่นกัน ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงถึงอนุสาวรีย์ชัย หรือถ้าไปสยามก็ใช้เวลาประมาณ 36 นาทีครับ
ใกล้สนามบินด้วยถนนตัดใหม่ อีกหนึ่งแหล่งงานใหญ่ในย่าน

สนามบินดอนเมือง แหล่งงานใหญ่ใกล้สะพานใหม่ที่แต่ก่อนไปลำบาก ตอนนี้กำลังจะใกล้มากขึ้น!! ถ้าพูดถึง “สนามบินดอนเมือง” ทุกคนน่าจะเห็นภาพว่าตรงนี้เป็นอีกแหล่งงานใหญ่ที่มีคนทำงานอยู่เยอะมากๆ มีบุคลากรทำงานในนี้กว่าหมื่นคน และกำลังจะมีการปรับปรุงครั้งใหญ่ รวมไปถึงการก่อสร้างสนามบินดอนเมืองเฟส 3 เพื่อรองรับจำนวนผู้โดยสารที่มากขึ้น แต่ด้วยถนนแต่ก่อนที่ไม่ค่อยจะเชื่อมกันเท่าไหร่กับโซนพหลโยธินที่อยู่ด้านหลัง คนทำงานสนามบินดอนเมืองเลยไปอยู่ในโซนวิภาวดีและแจ้งวัฒนะกันซะเป็นส่วนใหญ่ครับ
ซึ่งในอนาคตย่านสะพานใหม่กำลังจะเปลี่ยนไป ด้วยการมาของถนนตัดใหม่ เชื่อมต่อบริเวณแยกถนนเทพรักษ์ ที่อยู่ใกล้กับโครงการ ทำให้ย่านสะพานใหม่ตรงนี้ สามารถเข้าสู่สนามบินดอนเมืองผ่านทางทิศใต้ได้ ระยะเพียงแค่ 3.5 กิโลเมตรครับ และถนนนี้จะเชื่อมต่อกับถนนวิภาวดี ทำให้ย่านนี้เดินทางสะดวกขึ้นอีกด้วย ไม่ต้องอ้อมไปออกวงเวียนหลักสี่เหมือนเมื่อก่อน
เรียกได้ว่าย่านสะพานใหม่ตรงนี้ ที่แทบจะอยู่หลังสนามบินดอนเมืองเลย ก็จะได้อานิสงส์กลายมาเป็นโซนที่ใกล้ทางเข้าสนามบินไปด้วย ก็คาดว่าน่าจะมีคนที่ทำงานในสนามบินเลือกมามองหาที่อยู่ในโซนนี้เช่นกันครับทั้งตลาดซื้ออยู่เองและตลาดเช่า ปัจจุบันถนนเส้นนี้ก็ก่อสร้างไปได้เยอะพอสมควรครับ คาดว่าน่าจะเปิดในช่วง 1-2 ปีนี้
แหล่งช้อปปิ้ง กินข้าว Lifestyle รอบบ้าน

แล้วที่ว่าใกล้ตลาด ของกินเยอะ เยอะแค่ไหน?? จากที่บอกไปว่า ตลาดยิ่งเจริญมีพื้นที่กว่า 31 ไร่ พื้นที่ร้านค้ากว่า 1,700 แผง เปิดตลอด 24 ชม. หลายๆ คนก็น่าจะพอนึกภาพออกใช่ไหมครับว่าตลาดนี้น่าจะคึกคักมากทีเดียว ซึ่งนอกจากตลาดในรูปแบบเดิมที่เราคุ้นเคย จากการมาของรถไฟฟ้าสายสีเขียว และการมีคอนโดต่างๆ มาเปิดในละแวกนี้เยอะ ทางตลาดยิ่งเจริญเองก็มีการปรับปรุงรูปแบบของตลาดให้ตอบโจทย์กับการขยายตัวของเมืองที่มาในย่านนี้ด้วยเช่นเดียวกัน
โดยมีการทำยิ่งเจริญสแควร์ ที่เป็น Community Mall มีร้านดังต่างๆ มาเปิดให้บริการ ตัวอย่างเช่น KFC, Starbucks, ฮะจิบัง, บอนชอน, ซูชิชินคันเซน, สเวนเซ่นส์,ตำมั่ว, ก้อนเอ็กซ์เพรส รวมไปถึงร้านอื่นๆ อีกหลายร้าน ก็จะค่อนข้างสะดวกครับ ข้ามถนนไปก็แทบจะถึงเลย หรือใครเลิกงานกลับบ้านมาออกจากสถานีรถไฟฟ้าแวะเดินหาอะไรกินก่อนค่อยกลับมาคอนโดที่อยู่อีกฝั่งถนน ทั้งหมดก็จะอยู่ใกล้กันหมดเลยครับ
นอกจากนี้ถ้าใครอยากเดินแนว Hypermarket ซื้อของเข้าบ้าน ก็จะมี Big C ที่อยู่ถัดออกไปประมาณ 450 เมตรครับ เป็นอีกห้างใหญ่ของย่านนี้
MUSE Condo สะพานใหม่
คอนโด Low-Rise ที่ให้ความเป็นส่วนตัวแค่ 287 ยูนิต
มาดูตัวโครงการกันบ้างครับ สำหรับโครงการ “MUSE CONDO สะพานใหม่” จะเป็นคอนโดในรูปแบบ Low-Rise สูง 8 ชั้น ที่ตั้งอยู่เกือบติดถนนใหญ่พหลโยธิน เข้าซอยมาเล็กน้อยประมาณ 75 เมตรรูปแบบโครงการถือว่าไม่ใหญ่มากครับ มาในพื้นที่ขนาดเกือบ 2 ไร่ จัดออกมาเป็นห้องพักทั้งหมด 287 ห้อง จำนวนยูนิตไม่เยอะมากครับ ยังมีความเป็นส่วนตัว แต่ถึงแม้ว่าโครงการจะขนาดไม่ใหญ่ แต่ก็พยายามจัดส่วนกลางมาให้เยอะที่สุดเท่าที่ขนาดของโครงการจะเอื้ออำนวยได้เลย ด้วยพื้นที่ส่วนกลางที่กระจายอยู่ 5 ชั้น มีฟังก์ชั่นให้เลือกใช้งานกว่า 30 กิจกรรม
โครงการพัฒนาโดย JW Group เป็น Developer ที่มีหลายโครงการในย่านดอนเมือง-รามอินทรา ทำทั้งคอนโด, บ้าน และโฮมออฟฟิศรวมๆ แล้วกว่า 30 โครงการครับ
เดี๋ยวเราพาไปดูรูปแบบโครงการของที่นี่กันครับ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง

Modern Cinematic Nostalgia
บรรยากาศโครงการสไตล์ Retro กลิ่นอายโรงหนังยุค 80



เริ่มจาก Mood&Tone และการออกแบบของโครงการนี้กันก่อน ก่อนอื่นต้องเล่าว่าตัวโครงการนี้ เค้าจะตั้งอยู่บนที่ดินเดิมที่เคยเป็นโรงหนังเก่าแก่ของย่านสะพานใหม่ “กรุงสยามรามา” ครับ ดังนั้นพอโครงการซื้อที่ดินมาทำเป็นคอนโดมิเนียม เลยอยากจะเก็บบรรยากาศบางอย่างของที่ดินเดิมไว้ เลยดีไซน์คอนเซปต์ของโครงการออกมาเป็นแนว “Modern Cinematic Nostalgia” ได้แรงบันดาลใจมาจากโรงภาพยนตร์ในยุค 80 ในงานออกแบบ มีเส้นสาย การใช้เฟอร์นิเจอร์ ซุ้มโค้งต่างๆ องค์ประกอบโครงสร้างอาคาร ที่จะมีความเรโทรผสมอยู่
โดยสีหลักของโครงการจะเป็นสีแดง ชวนให้นึกถึงผ้าม่านในโรงภาพยนต์และพรมแดงต่างๆ เดี๋ยวเราพาไปดูพื้นที่ส่วนกลางแต่ละจุดกันครับ
ส่วนกลางกว่า 30 กิจกรรม
กระจายอยู่ใน 5 ชั้น ตั้งแต่ชั้นล่างยัน Rooftop
สำหรับพื้นที่ส่วนกลางก็จะกระจายอยู่ที่ชั้น 1, 2, 3, 8 และชั้น Rooftop ของโครงการครับ แต่ละชั้นก็จะมีฟังก์ชั่น มีการใช้งานที่ต่างกันออกไป เดี๋ยวเราพาไปดูแต่ละชั้นกันครับว่ามีอะไรบ้าง

Facility ชั้น 1
ล็อบบี้และพื้นที่สวนรอบอาคาร
สำหรับชั้นล่างสุด พื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่จอดรถครับ แต่ก็จะมีบริเวณใจกลางโครงการที่ทำออกมาเป็นพื้นที่สีเขียว ให้วิวด้านในดูร่มรื่น นอกจากนี้รอบๆ โครงการก็จะเป็นสวนเช่นกัน โดยที่แต่ละอาคารก็จะมี Lobby แยกเป็นของตัวเอง ตกแต่งมาในสไตล์โรงหนังตามตีมหลักของโครงการครับ



Facility ชั้น 2 – 3
โซนสำหรับออกกำลังกายและสระว่ายน้ำวิวสวน
มาดูในฝั่งกิจกรรมแนวออกกำลังกายกันก่อน ขึ้นมาที่ชั้น 2 บนอาคาร A จะเป็นสระว่ายน้ำที่เห็นวิวสวนและพื้นที่สีเขียวที่อยู่ด้านล่างครับ ติดกันกับพื้นที่สระเป็นฟิตเนสสำหรับออกกำลังกาย บริเวณริมสระมีพื้นที่ให้สามารถมานั่งพักผ่อนได้





โซน Co-working Space และห้อง Studio
สำหรับสายเน้นทำงาน อาคาร B ที่ชั้น 2 ตรงนี้จะเป็นพื้นที่ Business Lounge และ Co-Working Space ครับ สามารถมานั่งเล่น นั่งทำงานในบรรยากาศที่มองออกไปเห็นสวนและวิวสระว่ายน้ำได้ เป็นห้องเพดานสูงแบบ Double Volume ด้วยนะ ส่วนชั้น 3 ของอาคาร A ตรงนี้จะมีห้อง Studio ที่สามารถมาใช้ถ่ายงานต่างๆ ได้ครับ สำหรับใครที่มีธุรกิจออนไลน์ต่างๆ ตรงนี้ก็ค่อนข้างที่จะตอบโจทย์



Facility ชั้น 8
พื้นที่สำหรับไลฟ์สไตล์ส่วนตัวและการพักผ่อน
ขึ้นมาที่ชั้น 8 กันบ้าง Facility ต่างๆ ในชั้นนี้ก็จะเน้นเป็นโซนสำหรับพักผ่อนครับ เริ่มจากเข้ามาเจอกับ Party Area ที่มีโต๊ะพูลอยู่กลางห้อง มีโซนพักผ่อน และติดกันเป็นโซน Co-Kitchen ที่สามารถมาจองใช้ทำอาหาร หรือใช้ห้องนี้เป็นห้องจัดปาร์ตี้ได้ และถ้าโครงการมาในตีมของโรงหนัง จะขาดโรงหนังภายไปได้ยังไงใช่ไหมครับ ที่นี่เลยจะมีห้องดูหนังมาให้ด้วยเช่นเดียวกัน ให้อรรถรสในการดูหนังแบบเต็มที่ โดยที่ไม่ต้องออกจากบ้านไปไหนครับ




Facility ชั้น Rooftop
สวนและพื้นที่สีเขียว พร้อมทางเชื่อมเข้าอาคาร
ยังไม่หมดครับ ยังมีชั้น Rooftop ที่เป็นสวนของโครงการอีกหนึ่งจุด บนชั้นนี้ก็จะมีทั้งพื้นที่สีเขียวและที่นั่งในโซนต่างๆ ให้สามารถมาพักผ่อนกันได้ในช่วงตอนเย็นที่บรรยากาศกำลังดี การตกแต่งของชั่นนี้ก็จะมีความเป็นเหมือนสวนในฮอลลีวูด ขนาดสวนค่อนข้างใหญ่ทีเดียวด้วยพื้นที่ Rooftop ที่เชื่อมกันสองตึกและมีสะพานระหว่างตึกข้ามไปหากันได้ นอกจากนี้ก็จะมีมุมในสวนที่ทำออกมาให้เน้นถ่ายรูปได้ ตอบโจทย์ทั้งนั่งเล่นพักผ่อน หรือสำหรับใครที่เป็นสายคอนเทนต์





ได้ห้องแบบ Fully Furnished
ให้เฟอร์นิเจอร์มาครบ พร้อมสำหรับการอยู่อาศัย

สำหรับทุกห้องของที่นี่ ในราคานี้จะได้ห้อง Fully Furnished แบบครบๆ เลยครับ ไม่ว่าจะเป็น
- ตู้เสื้อผ้าบิวด์อิน
- เตียงนอน 5 ฟุตพร้อมลิ้นชักเก็บของใต้เตียง
- ชั้นวางทีวี
- โซฟาขนาด 2 ที่นั่ง
- ตู้สูงเก็บของและรองเท้าแบบบิวด์อิน (สำหรับบางไทป์ห้อง)
- ชุดครัวพร้อมตู้แขวนและ Backsplash กระเบื้องกันน้ำมันกระเด็น
- เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน
- ห้องน้ำพร้อมสุขภัณฑ์ครบชุด
- กระจกห้องน้ำพร้อมไฟแต่งหน้า
- ชุด Rain Shower
นอกจากนี้ก็จะมี Digital Doorlock ให้ทุกห้อง และให้แอร์ห้องละ 1-2 เครื่องแล้วแต่ขนาดของห้องครับ ก็เรียกได้ว่าเหลือแค่ซื้อที่นอน ติดม่าน กับซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกนิดหน่อย ก็เข้าอยู่ได้เลยทันทีครับ สะดวกสำหรับใครที่ไม่อยากต้องวุ่นวายหาเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เอง และสำหรับใครที่มองปล่อยเช่า ตรงนี้ก็รวมอยู่ในราคาคอนโดเป็นที่เรียบร้อย ไม่ต้องเสียเงินลงทุนตกแต่งเพิ่มเติมหรือเสียเงินกู้ตกแต่งเพิ่มให้งบบานปลายครับ
มีแบบห้องให้เลือกหลายขนาด
ตั้งแต่ Studio 22.30 ตร.ม. ไปจนถึง 1 Bed Plus 34.75 ตร.ม.

ไทป์ห้องของที่นี่ จะมีให้เลือกหลายแบบมากๆ ครับ ขนาดอยู่ในช่วง 22.30-34.75 ตารางเมตร มีให้เลือกตั้งแต่ห้องแบบ Studio, 1 Bedroom ไปจนถึง 1 Bedroom Plus ขนาดห้องโดยรวมของโครงการนี้ถือว่าไม่ใหญ่มากครับ ทำออกมาเน้นห้องที่เป็นไซส์เล็กกะทัดรัดเป็นหลัก เน้นจับกลุ่มคนทำงานและกลุ่มลงทุน ห้องแต่ละไทป์ของโครงการจะมีให้เลือกดังนี้ครับ
- Studio : ขนาดพื้นที่ประมาณ 22.30 – 23.00 ตร.ม.
- Studio Extra : ขนาดพื้นที่ประมาณ 23.65 – 24.60 ตร.ม.
- 1 Bedroom Star : ขนาดพื้นที่ประมาณ 22.30 – 23.20 ตร.ม.
- 1 Bedroom Stage : ขนาดพื้นที่ประมาณ 23.25 – 24.65 ตร.ม.
- 1 Bedroom Extra I : ขนาดพื้นที่ประมาณ 25.25 ตร.ม.
- 1 Bedroom Extra II : ขนาดพื้นที่ประมาณ 25.90 – 26.25 ตร.ม.
- 1 Bedroom Exclusive I : ขนาดพื้นที่ประมาณ 26.40 – 27.25 ตร.ม.
- 1 Bedroom Exclusive II : ขนาดพื้นที่ประมาณ 26.45 – 27.25 ตร.ม.
- 1 Bedroom Plus : ขนาดพื้นที่ประมาณ 34.75 ตร.ม.
ห้องไทป์ที่มีเยอะสุดก็จะเป็นห้อง 1 Bedroom Star ครับ ส่วนถ้าใครอยากได้ห้องใหญ่ขึ้นมาก็จะมี 1 Bedroom Extra และ 1 Bedroom Exclusive ที่ขนาดอยู่ในช่วง 25-27 ตารางเมตร ส่วนห้องใหญ่สุดของที่นี่ 1 Bedroom Plus ถือเป็นห้อง Rare เลย มีเพียงแค่ 7 ห้องเท่านั้นครับ ทั้งโครงการ
1 Bedroom Star
ขนาดพื้นที่ประมาณ 22.30 – 23.20 ตารางเมตร
มาดูตัวห้องกันบ้างครับ ที่นี่จะมีห้องตัวอย่าง 3 แบบด้วยกัน เริ่มกันที่ห้องแรก 1 Bedroom Star ที่เป็นไทป์ที่มีเยอะที่สุดในโครงการ เป็นห้องไซส์ที่อยู่คนเดียวกำลังสบาย อยู่ 2 คนก็ยังได้ มาในราคาเบาๆ เริ่มต้นอยู่ในช่วงล้านกลางๆ ครับ
ห้องนี้จะขนาดประมาณ 22.30-23.20 ตร.ม.ครับ จุดเด่นอยู่ที่ เป็นห้องที่หน้ากว้างพอที่จะแยกห้องน้ำและห้องครัวไปอยู่ปีกนึงของตัวห้องได้ ทำให้ห้องนี้ได้ครัวปิดติดระเบียง สามารถทำอาหารจริงจังระบายกลิ่นต่างๆ ได้ ส่วนห้องนั่งเล่นและโซนห้องนอนก็จะเชื่อมต่อกัน ทำให้ห้องดูโปร่ง เป็นห้อง 22-23 ตารางเมตรที่ไม่อึดอัดครับ โดยที่จะมีช่องแสงจากหน้าต่างขนาดใหญ่ที่อยู่บริเวณห้องนอน

ห้องนั่งเล่นกว้าง
ได้โซน Living ไม่อึดอัด เปิดโล่งเชื่อมกับโซนห้องนอน
เข้ามาในห้องจะเจอกับโซน Living ก่อนครับ โซนนี้จะเปิดโล่งเชื่อมต่อกับโซนห้องนอน ระยะดูทีวีถือว่าค่อนข้างกว้าง ด้วยความไม่ตายตัวของพื้นที่ ด้านข้างโซฟาก็ยังมีพื้นที่เหลือพอที่จะวางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะรับประทานอาหารได้ครับ

ครัวปิด ติดระเบียง
ทำอาหารได้จริงจัง ระบายอากาศและกลิ่นได้ดี
สำหรับครัวของห้องไทป์นี้ก็จะเป็นห้องแยก สามารถทำอาหารต่างๆ ได้เต็มที่ มาพร้อมชุดครัว, เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันแบบที่เห็นนี้เลย นอกจากนี้ก็จะติดกับระเบียง ทำให้สามารถระบายอากาศได้ค่อนข้างดีครับ

ห้องนอนรับวิว
ได้โซนห้องนอนติดหน้าต่างขนาดใหญ่ รับแสงธรรมชาติ
มาถึงกับโซนบริเวณห้องนอน สำหรับห้องไทป์นี้ห้องนอนและห้องนั่งเล่นจะให้ช่องแสงธรรมชาติจากหน้าต่างร่วมกัน ทางโครงการเลยให้หน้าต่างขนาดใหญ่มาเลย ก็จะสามารถชมวิวได้แบบเต็มที่ และทำให้ห้องดูโปร่งไม่อึดอัดครับ


1 Bedroom Exclusive
ขนาดพื้นที่ประมาณ 26.40 – 27.25 ตารางเมตร
มาถึงห้องตัวอย่างห้องที่ 2 ที่จะเป็นห้องขนาดกลางของโครงการครับ ห้องไทป์นี้มีพื้นที่ประมาณ 26.40-27.25 ตร.ม. เริ่มอยู่ในช่วงประมาณ 1.8 ล้าน จุดเด่นของห้องไทป์นี้คือทุกพื้นที่จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นมา และมีการกั้นห้องให้แต่ละฟังก์ชันเป็นสัดเป็นส่วนมากยิ่งขึ้นครับ
อย่างห้องนอนก็จะได้เป็นห้องนอนปิด มีความ Private มากกว่าเดิม ได้ห้องน้ำที่เข้าได้จากสองฝั่ง และยังได้ครัวปิดติดระเบียงเช่นเดิม ห้องนี้ก็จะเหมาะกับคนที่มองหาห้องที่มีพื้นที่ในห้องเยอะขึ้น หรือใครที่อยู่สองคนและอยากได้ Space ให้แต่ละคนมากขึ้น ห้องนี้ก็จะตอบโจทย์ครับ

โซน Living กว้าง เป็นสัดส่วนขึ้น
แต่ละฟังก์ชั่นแยกจากกัน และแต่ละพื้นที่มี Space ของตัวเอง
เข้ามาในห้องนี้ก็จะเจอกับโซน Living ก่อนเช่นกัน สังเกตว่าห้องไทป์นี้ก็จะได้โซน Living ที่กว้างขึ้นครับ โดยที่ไม่ต้องแชร์พื้นที่ต่างๆ ร่วมกับห้องนอน มีความเป็นสัดเป็นส่วนมากยิ่งขึ้น


ห้องนอนปิด เป็นส่วนตัว
ห้องนอนแบบแยกจากโซน Living ใช้งานได้ไม่รบกวนกัน
อย่างที่บอกไปว่าห้องนอนในไทป์นี้จะเป็นห้องนอนแบบปิด มีบานประตูกั้น ก็จะได้ความ Private ในห้องนอนที่มากขึ้น เผื่อแขกไปใครมาหรือเพื่อนมาห้อง ก็สามารถปิดตรงนี้ให้เป็นพื้นที่ส่วนตัวได้หรือถ้าอยู่เป็นคู่ คนนึงดูทีวี คนนึงก็สามารถนอนได้ โดยที่กิจกรรมไม่รบกวนกันครับ ขนาดของห้องนอนถือว่าใหญ่เลย มีพื้นที่ข้างเตียงที่สามารถวางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานได้

ได้ครัวปิด ห้องน้ำเข้าได้สองทาง
ห้องน้ำมีทางเข้าจากทั้งห้องนอนและโซน Living
ในส่วนของห้องครัว ห้องไทป์นี้ก็ยังจะได้ห้องที่เป็นครัวปิดติดระเบียงอีกเช่นกัน ตรงนี้จะเป็นช่องแสงสำหรับน้องนั่งเล่นด้วย เพิ่มเติมจากหน้าต่างที่อยู่ในห้องนอน ไฮไลท์อยู่ที่ห้องน้ำ ที่จะสามารถเข้าได้จากทั้งสองฝั่งครับ ทั้งจากห้องนอนและห้องนั่งเล่น ข้อดีก็คือถ้ามีแขกมา ก็ไม่ต้องให้เข้ามาในห้องนอนที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเรา หรือสำหรับคนที่อยู่ในห้องนอน เวลาจะเข้าห้องน้ำก็ไม่ต้องเดินอ้อมออกไปข้างนอกห้อง

1 Bedroom Plus
ขนาดพื้นที่ประมาณ 34.75 ตารางเมตร
มาถึงไทป์ห้องที่เป็นไทป์ใหญ่สุดของโครงการครับ ห้องนี้จะมาพร้อมกับขนาด 34.75 ตารางเมตร เป็นห้องที่ฟังก์ชันมาพร้อมกับห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องทำงานหรือห้องนอนได้ ก็ถือว่าเป็นห้องที่การใช้งานค่อนข้างยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบครับ นอกจากนี้ความพิเศษคือห้องไทป์นี้จะอยู่ตำแหน่งมุมทั้งหมด ทำให้สามารถมีหน้าต่างทั้ง 2 ด้าน รวมช่องแสง 4 ช่อง ค่อนข้างเยอะเป็นพิเศษ ทำให้ห้องนี้ดูโปร่งโล่ง ไม่อึดอัดครับ
และห้องนี้จะมีเพียงแค่ 7 ห้องเท่านั้น จากห้องทั้งหมดในโครงการ

ห้องนั่งเล่นติดระเบียงขนาดใหญ่
เป็นทั้งช่องแสง และสามารถทำเป็นโซนพักผ่อนริมระเบียงได้
เปิดเข้ามาจะเจอกับโซน Living ที่มีช่องแสงขนาดใหญ่จากประตูระเบียงที่อยู่ด้านข้างของห้องครับ ระเบียงของห้องไทป์นี้จะมีขนาดใหญ่พิเศษ สามารถเปลี่ยนพื้นที่ระเบียงเป็นพื้นที่นั่งเล่นที่ด้านนอกหรือปลูกต้นไม้ได้ ภายในติดกับห้องนั่งเล่น จะเป็นห้องครัวที่ทำออกมาเป็นครัวปิดเช่นกัน



ห้องนอนหัวมุม หน้าต่างสองฝั่ง
ระบายอากาศได้ดี มีช่องแสงมากกว่าทั่วไป ดูโปร่งโล่งไม่อึดอัด
ตำแหน่งห้องนอนของห้องนี้จะอยู่ตรงมุมของอาคารพอดี ทำให้ห้องนี้สามารถใส่หน้าต่างมาได้ 2 บาน ที่ผนังสองด้านของตัวห้อง ก็จะมีช่องแสงค่อนข้างเยอะครับ นอกจากเรื่องช่องแสงแล้วก็จะสามารถเปิดให้ลม Flow ระหว่างหน้าต่างสองบานได้ด้วย พื้นที่ภายในห้องก็ถือว่ากว้างเลย มีพื้นที่สำหรับวางเตียงขนาด 5 ฟุต โดยที่ยังมีพื้นที่ข้างเตียงเหลือพอให้วางโต๊ะข้างเตียงหรือโต๊ะเครื่องแป้งได้



ห้อง Plus ที่ทำเป็นห้องนอนได้
ปรับฟังก์ชันได้อเนกประสงค์ ทั้งนอนหรือใช้เป็นห้องทำงาน
ถัดมาข้างกัน ตรงนี้จะเป็นห้อง Plus หรือว่าห้องอเนกประสงค์ครับ ตรงนี้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทั้งเป็นห้องนอนเล็ก หรือทำเป็นห้องทำงานก็ได้เช่นกัน อย่างในห้องตัวอย่างอันนี้ก็ทำให้ดูเป็นไอเดียครับว่าสามารถจัดออกโดยใช้เฟอร์นิเจอร์เป็นเตียงที่พับได้เก็บเข้ากับผนัง พอพับปุ๊บก็กลายเป็นโต๊ะทำงาน ทำให้ฟังก์ชันของห้องเปลี่ยนไปได้หลายอย่างไม่ตายตัว หรือใครที่วางแผนอนาคตอยากขยายครอบครัว จะทำห้องตรงนี้เป็นห้องสำหรับคุณลูกได้เช่นกันครับ


สำหรับวันที่ 15-16 กุมภาพันธ์นี้ โครงการจะเปิดชมห้องตัวอย่างครั้งแรก มาพร้อมกับราคาพิเศษ!! เริ่ม 1.49 ล้านบาท* ลงทะเบียนลดสูงสุด 350,000 บ.* ถ้าแคปเจอร์โพสนี้แล้วแจ้งว่ามาจากเพจ LivingPop รับส่วนลดเพิ่มอีก 20,000 บ.* ลงทะเบียน/ดูข้อมูลเพิ่มเติม คลิก 👉 https://bit.ly/4iOKUtO