มินิรีวิว

พาชมโครงการ “Plum Condo อีสต์ ลาดพร้าว” คอนโดใหม่ใจกลางลาดพร้าวจากพฤกษา ใกล้รถไฟฟ้าในราคาจับต้องได้

วันนี้เราขอพามาดูคอนโดใหม่ล่าสุดในโซนลาดพร้าวกันบ้างครับ สำหรับโซนลาดพร้าวช่วง 1-2 ปีมานี้ ตั้งแต่ที่รถไฟฟ้าสายสีเหลืองสร้างเสร็จ ก็เรียกได้ว่ามีคอนโดมาเปิดใหม่กันเรื่อยๆ รอบนี้ถึงคิวของทางพฤกษาบ้าง ก็เรียกได้ว่าเป็นทำเลที่ครบครัน รวมไปถึงเพิ่งมีรถไฟฟ้าเชื่อมต่อเข้าไปใจกลางเมืองได้อีก ในราคาที่ถือว่าย่านลาดพร้าวตรงนี้คอนโดยังมีราคาอยู่ในช่วงจับต้องได้สำหรับกลุ่มคนทำงาน

รอบนี้พฤกษาเปิดตัวโครงการใหม่ Plum Condo อีสต์ ลาดพร้าว เป็นคอนโด Low Rise อยู่ในซอยลาดพร้าว 102  แต่ระยะเดินไปรถไฟฟ้าเรียกได้ว่าไม่ต่างจากคอนโดติดถนนใหญ่เลย มีระยะอยู่ที่ 250 ม. จากสถานีครับ มาในราคาเริ่มไม่ถึง 2 ล้าน แต่ในราคานี้เป็น Plum Condo ยุคใหม่ ที่ทำบรรยากาศโครงการออกมาน่าสนใจและให้ส่วนกลางต่างๆ มาเยอะทีเดียว 

ที่นี่จะเป็นยังไง ขอมาสรุปให้อ่านกันคร่าวๆ ครับ

ทำเล

ห่างจาก MRT ลาดพร้าว 83 แค่ 250 เมตร บนซอยลาดพร้าว 102

ที่ตั้งโครงการจะอยู่ในซอยลาดพร้าว 102 เข้าซอยมาประมาณ 200 เมตรครับ เดินไม่ไกล และจากปากซอยแค่ 50 เมตร ก็ถึง MRT สายสีเหลือง สถานีลาดพร้าว 83 แล้วครับ เป็นสถานีที่ใกล้กับถนนเลียบด่วนและ Big C ลาดพร้าว อย่างที่บอกไปว่าระยะเดินที่นี่ก็เรียกได้ว่าใกล้สถานีพอๆ กับคอนโดติดถนนใหญ่เลย ไม่ได้เข้าซอยไปลึก ตัวซอยลาดพร้าว 102 ที่โครงการตั้งอยู่จะเป็นซอยตัน ด้านในจะเป็นหอพัก, คอนโด รวมไปถึงบ้านดั้งเดิมในย่าน ก็จะมีรถเข้าออกตลอดไม่เปลี่ยวครับ แต่ก็จะไม่ได้พลุกพล่านมาก ยังพอมีความสงบอยู่ ไม่ได้ใช้เป็นทางลัดที่มีรถใช้งานตลอดทั้งวัน

ซึ่งตัวทำเลก็ถือว่าใช้รถไฟฟ้าได้สะดวกเลยสำหรับใครที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นประจำ ตัวสายสีเหลืองนี่ก็จะเป็นสายที่วิ่งผ่านเส้นลาดพร้าวทั้งเส้น รวมไปถึงเส้นศรีนครินทร์ ดังนั้นก็จะผ่านหลายแหล่งงานที่อยู่ในโซนนี้ครับ อย่างที่นี่แค่ 3 สถานี ก็จะถึงสถานี “บางกะปิ” ที่เป็น Hub ช้อปปิ้งใหญ่ของย่าน มีทั้ง The Mall บางกะปิ, N Mark Plaza, แฮปปี้แลนด์, ตะวันนา, Makro, Lotus’s รวมอยู่ในโซนเดียว 

ส่วนการเชื่อมต่อเข้าเมือง เพียงแค่ 4 สถานีก็จะถึง Interchange กับ MRT สายสีน้ำเงินที่สถานีลาดพร้าว สามารถเชื่อมต่อไปโซนรัชดา, พระราม 9 และอโศก หรือฝั่งสวนจตุจักร-บางซื่อได้ ก็ถือว่าสามารถเข้าโซนรัชดา-พระราม 9-ห้าแยกลาดพร้าวได้ไสะดวกมากครับ

ในแง่ของการใช้รถ ตรงนี้ก็ถือว่าเป็นอีกทำเลที่ค่อนข้างสะดวกครับ จากโครงการเลี้ยวออกจากซอยมานิดเดียวก็ถึงถนนเลียบด่วนแล้ว ซึ่งสามารถเชื่อมต่อตรงเข้าไปสู่ย่านเอกมัย-ทองหล่อได้ ถ้ารถไม่ติดนี่ก็แค่ประมาณไม่ถึง 10 นาทีครับ หรือจะเชื่อมต่อไปรัชดา-เพชรบุรีตัดใหม่-พระราม 9 ก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้ตัวโครงการจะอยู่ไม่ไกลจากจุดขึ้นลงทางด่วนฉลองรัช ที่อยู่บนถนนเลียบด่วนบริเวณใกล้กับทาวน์อินทาวน์ด้วยครับ ก็สามารถใช้ทางด่วนเชื่อมไปในโซนชั้นในอย่างสุขุมวิท, คลองเตย, พระราม 4, อโศก และอีกหลายๆ โซนได้

ในแง่ของสิ่งอำนวยความสะดวก จากตัวสถานีลาดพร้าว 83 เอง ตรงนี้ก็จะมี Big C ลาดพร้าวตั้งอยู่ เดินไปจากโครงการได้ เยื้องจากฝั่งซอยของโครงการไปหน่อย ถือว่าเป็นห้างที่มีทั้ง Hypermarket และร้านอาหารร้านค้าต่างๆ ที่ใช้ชีวิตประจำวันได้สบายๆ เลยครับ แต่นอกจากนี้โครงการก็ยังใกล้กับอีกหลายโซนที่เป็นแหล่งกินแหล่งช้อป ไม่ว่าจะเป็นโซน The Mall บางกะปิที่พูดถึงไป, โซนทาวน์อินทาวน์นี่ก็อยู่ไม่ไกลจากโครงการครับ มีซอยใกล้ๆ ที่สามารถเชื่อมต่อกันได้ ในโซนนี้ก็มีทั้งร้านของกินชื่อดัง, ร้านบุฟเฟ่ต์, มี Community Mall เป็นย่านแหล่งงานโฮมออฟฟิศที่มีของกินเพียบ

หรือจะเป็นย่านเลียบด่วน โซนนี้ก็จะเป็นอีกแนวนึงกับร้านกินดื่มที่มีให้เลือกเยอะ รวมไปถึงมีห้างใหญ่อย่าง Central Eastville, The Crystal, CDC ก็ระยะประมาณ 4 กิโลเมตร และในย่านลาดพร้าวเองก็จะมีโรงเรียนชื่อดังอย่างบดินทรเดชาฯ และใกล้ รพ.ลาดพร้าวกับ รพ.เวชธานีครับ

รูปแบบโครงการ

เป็นคอนโด Low Rise 2 อาคาร ที่ให้ส่วนกลางมาครบทั้ง 2 อาคาร

ที่นี่เป็นคอนโด Low Rise สูง 8 ชั้น จะมีทั้งหมด 2 อาคารด้วยกัน ทั้งสองอาคารจะเป็นแปลนรูปตัว L อยู่ข้างกัน  โอบล้อมส่วนกลาง Outdoor เอาไว้ แต่ด้วยผังที่ดิน การจัดวางของโครงการจะออกมาเป็นแนวยาวครับ ห้องของทั้ง 2 อาคารก็จะไม่ค่อยบังกัน โดยจะมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 455 ยูนิตด้วยกัน มีที่จอดรถประมาณ 40% (รวมซ้อนคัน)

ตัวโครงการออกแบบมาในสไตล์ Modern Moroccan มีกลิ่นอายแบบเมดิเตอร์เรเนียน ที่มีทั้งความเรียบหรู ผสมผสานกับความทันสมัย ทั้งสถาปัตยกรรมภายนอกและการตกแต่งภายในครับ อย่างพื้นที่ส่วนกลางตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงสวนที่ชั้น 2 เขาทำเป็นซุ้มโค้ง ให้ตัวพื้นที่ดูโดดเด่นขึ้นมา เชื่อมต่อกับโซน Drop-off ที่เป็นซุ้มขนาดใหญ่ได้เป็นอย่างดี ซึ่งโทนสีก็จะเน้นไปที่สีชมพูแบบ ​​Terracotta Pink ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นคลาสสิก แต่ด้านบนที่เป็นชั้นพักอาศัยก็จะเป็นสีขาวออฟไวท์ ห้องพักอาศัยที่หันหน้าเข้าในอาคาร จะได้วิวสระว่ายน้ำและสวนสีเขียวตรงกลางด้วย เหมาะกับการพักผ่อนครับ


พื้นที่ส่วนกลาง :
มีทั้งสระ ทั้งสวน และพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ

ในด้านของพื้นที่ส่วนกลาง สำหรับ Plum Condo ที่เป็นแบรนด์ระดับเริ่มต้นของพฤกษา และขนาดโครงการก็ถือว่าไม่ใหญ่มาก แค่ 4 ร้อยกว่ายูนิต ก็ถือว่าที่นี่ให้มาเยอะเลยทีเดียวครับ มีครบทั้งหมดสำหรับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ห้อง Creative Space, ฟิตเนส, พื้นที่สวนขนาดใหญ่ และทั้ง 2 อาคารก็ยังได้ Lobby ขนาดใหญ่ที่ไม่ใช่แค่โถงลิฟต์เล็กๆ อย่างตึก A ได้ Lobby แบบ Double Volume เลย 

ส่วนด้านในอาคาร พื้นที่ส่วนกลางก็จะตกแต่งสไตล์​ Modern Moroccan เหมือนกันครับ อย่าง Lobby ที่อาคาร A ก็จะได้ Double Volume สูง 5 เมตร ผนังและพื้นแต่งด้วยโทนสีครีมขาว แต่เพิ่มลูกเล่นตรงผนังด้วยกระเบื้องสีชมพู และเพื่อไม่ให้ Mood&Tone ดูเรียบเกินไป สีสันของเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ก็จะเป็นโทนฉูดฉาดตัดกับโทนสีของห้อง คุมโทนสีล้อไปกับสีสันของภายนอกอาคารครับ แล้วติดกับ Lobby ก็จะมี Creative Space ไว้เป็นพื้นที่นั้งทำงาน คิดงานด้วยนะ

และที่ชั้น 2 ของตึก A นี่ก็ยังมีฟิตเนสด้วยนะครับ ขนาดไม่เล็กเลย พื้นที่เท่ากับ 5 ห้องพักอาศัยปกติ มีอุปกรณ์ครบทั้ง Cardio และ Weight Training แล้วได้หน้าต่างกระจกบานใหญ่ มองเห็นวิวสระด้านล่างด้วย พร้อมกับ Moroccan Garden สวนบนชั้น 2 อีกด้วย

ส่วนที่ตึก B ก็จะมี Facility ให้ด้วยเช่นกัน เป็นห้อง Mingle Lounge และ Meeting Room ที่ชั้น 2 ของอาคารสำหรับให้ลูกบ้านมานั่งพักผ่อน นั่งทำงาน หรือประชุมงานสำหรับสาย WFH รวมถึงมีสวนบนชั้น 2 อย่าง Sky Garden ตรงนี้อีกหนึ่งจุด ค่าส่วนกลางของที่นี่จะอยู่ที่ 49 บาท/ตารางเมตร

เดี๋ยวเราไปดูพื้นที่ส่วนกลางของที่นี่กันครับ


เมื่อเข้าโครงการมาแล้วจะเจอกับตัวอาคาร A ก่อนครับ ไฮไลท์ของมุมตรงนี้คือจะมีจุด Drop off ที่สูงเป็นพิเศษ 3 ชั้นเลย ปกติส่วนใหญ่จะเห็นคอนโด Low-rise ทำแค่ 1-2 ชั้นกัน ตรงนี้ก็จะดูแกรนด์เป็นพิเศษครับ โซน Drop-off สูงโปร่ง เวลาเราใช้บริการรถสาธารณะให้มารับมาส่งที่คอนโด แวะ Drop-off แล้ววนออกได้เลยครับ ไม่ต้องไปอ้อมอาคาร ซึ่งติดกันจะเป็น Lobby ของอาคาร A ที่เป็นแบบเพดานสูง Double Volume ด้วยเช่นกัน


บรรยากาศด้านในของ Lobby อาคาร A พอเป็นห้องเพดานสูงก็จะดูแกรนด์เวลาเข้ามาครับ เป็นโถงต้องรับของโครงการที่ค่อนข้างจะดูดีเลย มีชุดโซฟาต่างๆ สำหรับนั่งพักคอย และที่อยู่ติดกันก็จะเป็นห้อง Creative Space ที่สามารถมานั่งทำงานรับวิวสวนและสระว่ายน้ำได้


มาดูพื้นที่ส่วนกลางที่อยู่ด้านนอกใจกลางของโครงการกันบ้างครับ สวนตรงชั้น 2 นี้ก็ยังล้อไปกับตีม Modern Moroccan ของโครงการ ด้วยการเล่นกับเส้นสายซุ้มโค้งต่างๆ รวมไปถึงการจัดสวนให้ได้กลิ่นอายความเป็น Moroccan Garden 


Oasis Pool หรือสระว่ายน้ำที่อยู่ใจกลางโครงการก็ให้มาขนาด Half Olympic (ยาว 25 เมตร) ว่ายออกกำลังกายได้จริง มีโซน Jacuzzi มาแช่น้ำได้ และมีโซนที่เป็นม่านน้ำตกด้วย ข้างๆ สระว่ายน้ำเขาก็จะมีที่นั่งพักผ่อนด้วยนะครับ ตัวสระจะอยู่ตรงอาคาร A


ห้องฟิตเนสของที่นี่ก็ถือว่าขนาดไม่เล็กเลยนะครับ ถ้าลองนับดู จะมีพื้นที่เท่ากับ 5 ห้องพักอาศัยเลย ถือว่าค่อนข้างกว้างมาก และได้กระจกเต็มบาน รับวิวตอนออกกำลังกาย ส่วนที่อยู่ติดกันจะเป็น Moroccan Garden สวนที่อยู่บนชั้น 2 ของอาคารครับ สามารถมาพักผ่อนหรือยืดเส้นสายหลายออกกำลังกายเสร็จได้ เป็นพื้นที่ที่อยู่ติดกัน บรรยากาศภายในห้อง Fitness มีทั้งโซนลู่วิ่งสำหรับคาดิโอ, โซนเวทเทรนนิ่ง และโซนฟรีเวทครับ


ถ้าเราเดินเลยสระว่ายน้ำมาหน่อย จะเป็นสวนสีเขียวขนานไปกับตัวอาคาร B โซนนี้นอกจากพักผ่อนได้แล้ว ยังมี Jogging Track ให้เราวิ่งออกกำลังกายได้ด้วย  ส่วนสุดปลายสวนจะเป็นห้อง Lobby ของอาคาร B


ขึ้นมาบนชั้น 2 ของอาคาร B จะมีสวนที่เป็น Sky Garden อยู่อีกหนึ่งจุด ในชั้นนี้จะมี Mingle Lounge และห้อง Meeting Room ที่เป็น Facility บนอาคาร B อยู่ติดกับสวนนี้ด้วยครับ

Floor Plan อาคาร และ Layout ห้อง

มีให้เลือก 5 ไทป์ 5 Layout

ขอเอาแปลนมาให้ดูภาพรวมของโครงการ สำหรับพื้นที่ส่วนกลางแบบ Indoor จะอยู่ที่ชั้น 1 และชั้น 2 ของอาคาร ทั้งอาคาร A และ B โดยที่ห้องพักอาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 2 ขึ้นไป เท่ากับว่าชั้น 2 จะมีจำนวนยูนิตน้อยที่สุดในอาคาร ถ้าเป็น A จะมี 20 ยูนิต และอาคาร B มี 31 ยูนิต ข้อดีคือเดินไปใช้ส่วนกลางง่ายมาก ซึ่งโครงการก็มีการกั้นโซนระหว่างพื้นที่ส่วนกลางกับโซนพักอาศัยไม่ให้คนเข้ามาปะปนกันนะครับ

แต่ถ้าเป็นชั้น 4 – 8 อาคาร A จะเป็นห้องพักอาศัยล้วนๆ มีทั้งหมด 34 ยูนิต และอาคาร B มี 34 ยูนิตเช่นกัน ห้องส่วนใหญ่ที่มีในโครงการก็จะเน้นไปที่ 1 Bedroom ฮะ


แบบห้อง

ห้องที่มีให้เลือกจะมีทั้งหมด 5 ไทป์

Studio จะขนาด 23.20 ตารางเมตร ด้านหน้าเป็นครัวเปิด ตรงกลางจะเป็น Living Area และโซนห้องนอน ด้านในวางเตียงนอนได้ 5 ฟุต ก็ยังโอเค มีโซน Walk-in Closet แยกออกมาอยู่ด้านหลัง อยู่ตรงกลางระหว่างห้องน้ำและระเบียง ได้ช่องแสงทั้งจากโซนเตียงนอน และระเบียงเลยครับ ถึงแม้จะเป็นห้อง Studio แต่เขาก็แบ่งพื้นที่เป็นเป็นส่วนได้ดีเลย

ส่วน 1 Bedroom จะมีทั้งหมด 3 แปลนครับ แปลนแรกขนาด 26.70 – 27 ตารางเมตร แปลนนี้จะเป็นแปลนเดียวกับห้องตัวอย่าง ด้านหน้าจะเป็น Living Area มีทั้งมุมนั่งเล่นและมุมกินข้าว ด้านในเป็นห้องนอนที่กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ฝั่งขวาจะเป็นระเบียง ครัวเปิด และห้องน้ำ 

1 Bedroom ขนาด 30.20 – 30.50 ตารางเมตร เป็นแปลนที่ค่อนข้างน่าสนใจเลย ตรงที่ถ้าเราเปิดประตูเข้ามาในห้อง เราจะเห็น Living Area เป็นแปลนรูปตัว L จากครัวที่ปกติอยู่ด้านหน้า เขาย้ายเอาไปไว้ด้านข้างแทน ซึ่งทำเป็นมุมน่ารักมากฮะ วางเคาน์เตอร์ครัวกับตู้เย็นได้พอดี ตรงข้ามกันทำเป็นมุมกินข้าวได้ ห้องตัวอย่างเขาแต่งเป็นมุมทำงานใหญ่ๆ ให้ดู เห็นแล้วอยากแต่งตามเลยฮะ เถิบเข้าไปหน่อยก็จะเป็นมุมนั่งเล่น ห้องนอนเป็นประตูกระจกกั้นเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีมุม Walk-in Closet เชื่อมด้านหลังด้วย เหมาะกับคนที่เสื้อผ้าเยอะมากๆ 

1 Bedroom อีกห้องขนาด 32.15 – 32.20 ตารางเมตร ห้องนี้เป็นห้อง Rare ที่อยู่ตำแหน่งมุมครับ มีหน้าต่างสอนฝั่ง ดีตรงที่เปิดประตูมาแล้วไม่เจอด้านในห้องของเราครับ เปิดมาเป็นโถงด้านหน้าก่อน ข้างๆ ทำเป็นตู้เก็บของหรือเก็บรองเท้าได้ เยื้องๆ กันถึงจะเจอกับ Living Area ที่มีทั้งครัว มุมกินข้าว และมุมนั่งเล่น ในห้องนอนทุกห้องก็จะมี Walk-in Closet เหมือนกันเลย และมีเพียง 1 ยูนิต ต่อชั้นเท่านั้นครับ

สุดท้ายกับห้อง 1 Bedroom Plus ขนาด 34.55 – 34.85 ตารางเมตร ได้ Living Area อยู่ข้างหน้าเหมือนเดิมครับ มีมุมนั่งเล่นและมุมกินข้าว ครัวจะอยู่ฝั่งขวา ห้องนี้เป็นห้องเดียวที่ได้ครัวใหญ่กว่าห่องอื่นๆ เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว L เลยฮะ ห้องน้ำก็จะอยู่ข้างๆ โซนครัวเลย ห้องอเนกประสงค์จะกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ให้แสงจากตรงระเบียงส่องเข้ามาถึงด้านใน สามารถทำเป็นห้องนอนเล็กได้นะครับ ส่วนห้องนอนใหญ่จะอยู่ข้างๆ กัน แต่เป็นประตูบานทึบ เพิ่มความเป็นส่วนตัวได้ดีเลย 


Sale Gallery

ใน Sales Gallery ของโครงการ ตั้งอยู่ที่ The One ลาดพร้าว ปากซอยลาดพร้าว 98/1 ครับ ตรงข้าม Big C ลาดพร้าว จะมีห้องตัวอย่างทั้งหมด 2 ห้องด้วยกันครับ พิกัดสำนักงานขายจะอยู่ที่ The One ลาดพร้าว 98/1 : https://pruksa.co/Sale-Gallery บรรยากาศของ Sales Gallery ตัวงานตกแต่งภายในโครงการก็จะเป็นสไตล์เดียวกันกับที่อยู่ใน Sales Gallery ครับ ในตีม Modern Moroccan อย่างลายกระเบื้องสีแดงอันนี้ก็จะเป็นสไตล์เดียวกับที่ใช้ตกแต่งใน Lobby ของโครงการ

1 Bedroom 26.40 – 27.45 ตารางเมตร

Living Area กว้าง ครัวติดระเบียง ห้องนอนได้หน้าต่างบานใหญ่

มาดูห้องตัวอย่างห้องแรกกันเลยครับ เป็น 1 Bedroom ขนาด 26.40 – 27.45 ตารางเมตร ห้องตัวอย่างเขาแต่งออกมาสวยเลย เพดานสูง 2.5 เมตร แต่ดูกว้างดีครับ Living Area จะอยู่ด้านหน้า ห้องนอนอยู่ด้านใน ส่วนระเบียง ครัว และห้องน้ำอยู่ฝั่งขวา มีพื้นที่สำหรับวางตู้เก็บของต่างๆ อยู่ระหว่างโซนห้องครัวและห้องน้ำ


โซนนั่งเล่น : กว้างขวาง พื้นที่วางทีวีเยอะ

เปิดประตูมาก็จะเจอกับโซนนั่งเล่นก่อนเลยครับ ระยะดูทีวีกำลังพอดี สามารถวางทีวีไซส์ขนาดใหญ่ได้ครับ วางโซฟาขนาด 2 – 3 ที่นั่งได้เลย จะวางโต๊ะกาแฟตรงกลางก็ได้นะครับ แต่วางเหมือนในห้องตัวอย่างก็ช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดีเลย พื้นที่ของห้องนี้ก็กำลังพอเหมาะกับการอยู่ 1 – 2 คนครับ ด้วยความเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกันจะขยายโซฟากว้างขึ้น หรือเพิ่มโซนโต๊ะรับประทานอาหารให้ใหญ่ขึ้นก็ยังทำได้ครับ มีความ Flexible ที่นี่จะได้ Digital Door Lock ของ COLT สามารถสแกนนิ้วได้, หกรหัสได้, แตะการ์ดได้ และใช้กุญแจได้


มุมกินข้าว : ดัดแปลงเป็นมุมอื่นๆ ได้ตามต้องการ

ถ้าดูในแปลนเราจะเห็นว่าเขาวางมุมนี้เป็นมุมกินข้าว แต่ห้องตัวอย่างจะแต่งมาให้เป็นมุมทำงานแทนฮะ ซึ่งเอาจริงก็ค่อนข้างอเนกประสงค์นะ ขึ้นอยู่กับว่าเราใช้ชีวิตแบบไหนครับ อย่างของผม ปกติผมไม่ได้ใช้โต๊ะกินข้าวเลย โต๊ะที่ทางโครงการให้ ผมเอามาเป็นโต๊ะทำงาน เพราะผมมักจะกินข้าวหน้าทีวีตรงมุมนั่งเล่น แล้วปกติพวกเราจะ Work from home ด้วย โต๊ะทำงานเลยค่อนข้างจำเป็น


ห้องนอน : ห้องกว้าง ได้หน้าต่างบานใหญ่

มาดูห้องนอนกันบ้าง เราสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้ วางตู้เสื้อผ้าได้ จะวางแบบเปิดโล่งเหมือนกับห้องตัวอย่างก็ได้ หรือจะเป็นตู้บานทึบเพื่อปกปิดความไม่เป็นระเบียบด้านในก็ได้นะฮะ หน้าต่างห้องนอนก็ถือว่าใหญ่เลยนะ แสงเข้ามาในห้องนอนทะลุไปห้องนั่งเล่นได้ มองจากห้องนอนออกไปก็จะเห็น Living Area ทั้งหมดเลย บานสไลด์อันนี้โครงการก็แถมมาให้ด้วยครับ มุมตู้เสื้อผ้าจะ Built-in หรือซื้อเป็นตู้มาวางก็ได้นะครับ


ห้องน้ำ : สุขภัณฑ์ครบ

ก่อนจะไปครัวหรือห้องน้ำเราจะเจอมุมตรงกลางก่อนครับ จะเป็นพื้นที่ระหว่างทั้งสองห้อง ถ้าห้องจริงก็จะเป็นมุมโล่งๆ แต่ถ้าเราอยากใช้พื้นที่ให้ได้ประโยชน์สูงสุด แนะนำให้ทำเป็นที่เก็บของครับ ห้องเราจะได้มีพื้นที่เก็บของเยอะขึ้น หรือจะทำเหมือนห้องตัวอย่าง เอาไว้โชว์ของสะสมได้นะ ห้องน้ำจะอยู่ขวามือ จริงๆ ห้องน้ำได้เหมือนกับห้องตัวอย่างเลยครับ ยกเว้นชั้นสีส้มตรงกระจก และฉากกั้นห้องอาบน้ำไม่ได้ให้มาด้วย แต่สามารถติดตั้งเพิ่มเองได้นะ 


ห้องครัว : อยู่ติดระเบียง ระบายกลิ่นและควันได้ดี

ห้องครัวติดระเเบียง เป็นครัวเปิด แต่ถ้าเราอยากทำครัวปิด ก็สามารถกั้นเพิ่มเองได้ แต่ถ้าไม่ได้ทำอาหารจริงจัง ไม่กั้นห้อง ก็ทำให้ห้องดูโล่งกว่า ห้องจริงก็จะได้เคาน์เตอร์เหมือนห้องตัวอย่างเลย มีช่องวางเครื่องซักผ้าด้านล่าง วางไมโครเวฟด้านบน มีตู้เก็บของด้านบน มีอ่างล้างจานและ Backsplash แต่โครงการจะไม่ได้มีเตาและเครื่องดูดควันมาให้นะครับ ห้องจริงก็จะได้เคาน์เตอร์เหมือนห้องตัวอย่างเลย มีช่องวางเครื่องซักผ้าด้านล้าง วางไมโครเวฟด้านบน มีตู้เก็บของด้านบน มีอ่างล้างจานและ Backsplash

1 Bedroom 30.20 – 30.50 ตารางเมตร

แบ่งห้องเป็นสัดส่วน ห้องนอนเชื่อมต่อกับโซน Walk-in Closet กว้าง

อีกห้องนึงจะเป็น 1 Bedroom เหมือนกันครับ แต่ขนาดใหญ่กว่า 30.20 – 30.50 ตารางเมตร ห้องนี้มีฟังก์ชันที่น่าสนใจค่อนข้างเยอะ ได้พื้นที่ Walk-in Closet และครัวเป็นสัดส่วน เดี๋ยวเราไปดูรูปจริงของห้องตัวอย่างกันเลยฮะ


Living Area : เชื่อมต่อพื้นที่ห้องครัว มุมกินข้าว และมุมนั่งเล่น

เปิดประตูมาจะเจอห้องกว้างๆ แบบนี้เลยครับ มุมที่แปลนเป็นโซนกินข้าว เขาก็แต่งเป็นโซนทำงานเหมือนเดิม ฟีลเหมือนชาว Work From Home หรือเกมเมอร์ที่ต้องการโต๊ะเล่นเกมใหญ่ๆ แล้วมุมโต๊ะทำงานใหญ่จริงครับ เราปรับเป็นมุมอื่นๆ ได้ ส่วนมุมนั่งเล่นก็ได้ระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีค่อนข้างเยอะ เดินผ่านไปมาได้สบาย ทั้งยัง Built-in ชั้นวางทีวีได้เต็มฝั่ง เช่นเดียวกับห้องที่แล้ว ด้วยความเป็นห้องตอนลึก ดังนั้นการจัดฟังก์ชันต่างๆ ภายในห้องก็จะค่อนข้าง Flexible ครับ อยากขยายโต๊ะกว้างขึ้น หรือหดพื้นที่โซฟา ให้น้ำหนักโซนไหนมากกว่า ก็ยังปรับเปลี่ยนได้

มุมกินข้าว : พื้นที่ค่อนข้างอเนกประสงค์

แล้วมุมโต๊ะทำงานใหญ่จริงครับ เราปรับเป็นมุมอื่นๆ ได้ตามความต้องการเลยนะ ถ้าเป็นเกมเมอร์ หรือสตรีมเมอร์ อุปกรณ์คอมฯ ก็จะเยอะนิดนึงฮะ หรือ ถ้าเราไม่ได้ต้องการโต๊ะใหญ่มาก ด้านข้างที่ติดกับประตูทางเข้า วางตู้หรือชั้นเอาไว้เก็บของ เก็บรองเท้าได้นะ


ห้องครัว : อยู่หน้าห้องก็จริง แต่เปิดมาแล้วไม่เจอครัว

มุมครัวที่อยู่ฝั่งขวา จริงๆ เป็นครัวเปิด แต่ถ้าอยากทำเป็นครัวปิด ก็ติดตั้งประตูเพิ่มเองได้ฮะ เคาน์เตอร์ครัวจะกว้างเต็มฝั่งเลย ส่วนตู้เย็นวางตรงข้ามกันได้ เอาจริงเป็นมุมครัวที่ค่อนข้างน่ารักเลยครับ ตอนผมเห็นห้องตัวอย่างครั้งแรกก็รู้สึกว่าการเอาครัวไปวางทางขวา ก็ทำให้ Living Area ดูกว้างดี


ห้องนอน : มี Walk-in Closet ส่วนตัว

ห้องนอนจะมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นเอาไว้ แบ่งออกเป็น 2 โซนครับ คือฝั่งที่วางเตียงนอน ด้านข้างวางโต๊ะข้างเตียงได้ทั้งสองข้าง ทั้งยังมีพื้นที่เหมือนสำหรับวางตู้เสื้อผ้าด้วย วางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้เลย ซึ่งข้างหัวเตียงห้องตัวอย่างทำเป็นตู้เสื้อผ้า แต่จริงๆ เรามีห้อง Walk-in Closet แล้ว พื้นที่ตรงนี้จะใช้เป็นอย่างอื่นก็สามารถทำได้เช่นกันครับ

มาดูในห้องแต่งตัวบ้าง ห้องนี้วางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ หรือใส่โต๊ะเครื่องแป้งก็ได้เช่นกัน เป็นห้องที่ติดกับระเบียงครับ มีช่องแสงจากประตูบานเลื่อน มุม Walk-in Closet ก็จะอยู่ติดกับห้องน้ำพอดี อาบน้ำเสร็จออกมาแต่งหน้าแต่งตัวได้เลย ห้องนี้อยู่ 2 คนได้แบบสบายๆ ถ้าตู้เสื้อผ้าไม่พอก็แยกตู้เสื้อผ้ากันได้เลย วางอีกตู้ไว้ที่ห้องนอนแบบในห้องตัวอย่าง

สรุป Plum Condo อีสต์ ลาดพร้าว

โลเคชั่นไม่ไกลรถไฟฟ้า ในราคาล้านปลายๆ

ภาพรวมของที่นี่ก็จะเป็นคอนโดที่สะดวกทั้งสำหรับคนทำงานในย่านลาดพร้าวเอง หรือเชื่อมต่อเข้าไปในเมืองที่นี่ก็ยังได้เช่นกัน การเดินทางของโครงการก็มีหลายทางเลือกครับ ที่เด่นสุดก็น่าจะเป็นรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่อยู่แทบจะหน้าซอยโครงการเลย สามารถเชื่อมต่อไปได้ทั้งเส้นลาดพร้าวและศรีนครินทร์ รวมไปถึงใช้ต่อสายอื่นๆ อย่าง MRT สายสีน้ำเงิน ไปโซนรัชดา, พระราม 9, อโศก หรือจตุจักร-บางซื่อก็สะดวก และที่ตั้งของโครงการยังอยู่ในระยะที่เดินไปสถานีได้สะดวกแค่ 250 เมตรครับ

ซึ่งบนเส้นลาดพร้าว จริงๆ ก็มีคอนโดให้เลือกกระจายอยู่ในแต่ละสถานี เป็นทำเลที่มีคอนโดหลายตัวเลือก แต่จุดที่เป็นจุดเด่นของ Plum Condo East Ladprao ตัวนี้จะแตกต่างก็คือตัวสถานีลาดพร้าว 83 จะมีห้าง Big C ลาดพร้าวตั้งอยู่ด้วย ทำให้การอยู่จริง ก็เป็นทำเลที่ค่อนข้างครบ ยังไม่รวมไปห้างหรือแหล่งไลฟ์สไตล์อื่นๆ ในย่านนี้อีกอย่างโซนเลียบด่วนหรือบางกะปิ นอกจากนี้ที่ตั้งพอใกล้กับถนนเลียบด่วน ก็เลยจะสามารถเข้าเมืองฝั่งพระราม 9-เอกมัยได้สะดวก และใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนด้วย

รูปแบบโครงการมาเป็นอาคาร Low-rise อยู่ในซอยนิดนึง อาจจะไม่สูงเด่นเท่าตึกแบบติดถนนใหญ่ แต่ก็แลกมาด้วยราคาที่จับต้องได้มากขึ้น ในระยะเดินไปรถไฟฟ้าที่ไม่หนีกันมาก อย่างที่นี่ก็จะเริ่มต้นล้านปลายๆ ถ้าห้องขยับมาเป็น 1 Bedroom ก็ยังอยู่ในช่วง 2 ล้านกว่าบาทครับ 

ซึ่งในราคานี้ โครงการก็มีพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ให้มาเต็มที่ ถึงแม้ขนาดโครงการจะไม่ได้ใหญ่มาก แต่ได้สระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ได้ Lobby ใหญ่ทั้งสองอาคาร ห้องออกกำลังพร้อมกระจกหน้ากว้าง รวมถึงมี Facility อื่นๆ กระจายตัวอยู่ทั้ง 2 อาคาร รวมถึงงานดีไซน์ต่างๆ เป็นคอนโดล้านปลาย-สองล้านกว่าที่ดูดีเลยครับ 

ไทป์ห้องที่มีให้เลือก จะเป็นห้องขนาด Studio ไปจนถึง 1 Bedroom Plus มีประมาณ 5 ไทป์หลัก ไทป์ที่มีเยอะสุดก็จะเป็น 1 Bedroom ครับ ห้อง 1 Bed ของที่นี่จะเป็นแปลนออกแนวตอนลึก แต่ก็มีฟังก์ชันให้เลือกทั้งไทป์ที่ได้ Walk-in Closet และไทป์ที่ได้ครัวติดระเบียง แปลนที่ทำมาค่อนข้างใช้พื้นที่ห้องได้คุ้มค่าเลยครับ ส่วนใครอยากได้ห้องใหญ่ ก็ยังมี 1 Bedroom Plus ให้เลือก ที่มีห้อง Plus สามารถใช้เป็นห้องนอนเล็กหรือห้องทำงานได้

ที่นี่จะขายแบบ Fully Fitted นะครับ ให้ในส่วนของครัว มีเคาน์เตอร์มาพร้อมช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้า, ตู้เก็บของด้านบน, อ่างล้างจาน และ Backsplash ส่วนห้องน้ำ มีอ่างล้างหน้า, กระจก, ชักโครกพร้มสายชำระและที่ใส่ทิชชู่, ฝักบัว และช่องวางของแบบเจาะผนัง นอกจากนี้ยังมี Digital Door Lock และแอร์ 1 เครื่อง แต่สำหรับช่วง PRE-SALE นี้ ทางโครงการมีเฟอร์นิเจอร์แพคเกจให้สำหรับ 100 ยูนิต* แรกครับ

ทั้งหมดนี้ราคาเริ่มต้น 1.98 ลบ.* ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ  77,000 บาท/ตารางเมตร


ถ้าเพื่อนๆ สนใจ โครงการเปิด PRE-SALE แล้ว สามารถไปดูรายละเอียด พูดคุย หรือสอบถามได้ที่ Sale Gallery ได้เลย โปรโมชั่นตอนนี้จอง 5,000 บาท* รับ 200,000 บาท* 50 ยูนิต* แรก ฟรีเฟอร์ฯ ทั้งห้อง* Add Line ได้ที่ : https://pruksa.co/4loOTgH

*เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

Related posts
มินิรีวิว

พาชมโครงการ “XELF by Sansiri” คอนโดใหม่ล่าสุด ติดถนนพระราม 4 ทะลุไป BTS ทองหล่อได้

มินิรีวิว

พาชมโครงการ “นิว โนเบิล ไฟฉาย-วังหลัง” คอนโดใกล้ศิริราช ใกล้รถไฟฟ้า 80 ม. พร้อมส่วนกลาง Rooftop