fbpx
พรีวิวโครงการ

พาชมเปิดบ้านครั้งแรก! “Ideo Charan 70 – Riverview” มีห้อง Hybrid เพดานสูง เห็นวิวแม่น้ำทุกยูนิต อยู่ติดห้าง เริ่ม 2.09 ล้านบาท

ด้วยความที่อนันดาเขาเปิดให้เหล่าบล็อกเกอร์ได้เข้าไปดูโครงการ Ideo Charan 70 – Riverview เป็นครั้งแรก LivingPop ก็ไม่พลาดโอกาสที่จะมารีวิวให้เพื่อนๆ ได้ดูกันฮะ บอกก่อนนะครับว่าที่นี่เขาสร้างเสร็จแล้วพร้อมเข้าอยู่ วันที่ผมไปก็มีลูกค้ามาดูห้อง แล้วก็มีลูกบ้านเริ่มเข้าอยู่อาศัยกันแล้ว วิวที่นี่ค่อนข้างโล่งรอบทิศทางเลย ไม่ว่าจะเป็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาหรือวิวเมือง ที่สำคัญคือมีห้องแบบ Hybrid ด้วย ได้เพดานสูง 4.5 เมตร ซึ่งในย่านนี้เราไม่ค่อยเห็นห้องที่ได้เพดานสูงขนาดนี้สักเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นห้องธรรมดาฮะ

เดี๋ยวเราจะมาเล่าให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันครับว่าโครงการ “Ideo Charan 70 – Riverview” เป็นยังไง มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ตามไปอ่านกันเล้ยยย



โครงการ Ideo Charan 70 – Riverview

โครงการ Ideo Charan 70 – Riverview เป็นคอนโด High Rise สูง 38 ชั้น มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 1,421 ยูนิต และร้านค้าอีก 3 ยูนิต ที่นี่เขาสร้างเสร็จแล้ว พร้อมเข้าอยู่นะครับ แต่ห้องที่เหลือขายก็มีไม่เยอะ เหลือประมาณ 15% ส่วนใหญ่เป็น 1 ห้องนอน กับห้องแบบ Hybrid แล้วก็อย่างที่ผมบอกไปตอนต้นว่าวิวที่นี่ดีมากกกกกก ทุกห้องมองเห็นวิวแม่น้ำหมดเลย รอบข้างก็โล่ง ไม่ได้มีตึกหรืออะไรมาบดบังทัศนียภาพของเรา

ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า MRT สถานีบางพลัดเท่าไหร่ ประมาณ 295 เมตรได้ จากที่ผมได้ลองเดินด้วยตัวเองดู ไม่เหนื่อยเลยฮะ เดินชิวๆ แปบเดียวก็ถึงโครงการแล้ว แถมข้างๆ ยังมี Lotus’s ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้วย จะเดินไปซื้อของมาทำกิน หรือเปลี่ยนบรรยากาศจากการอยู่ห้องออกมาข้างนอก ก็เดินมาแค่นิดเดียวเท่านั้นเอง

สำหรับส่วนกลางก็ไม่ได้เยอะ แล้วก็ไม่ได้น้อยฮะ กำลังดี ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ชั้น 6, 38 และดาดฟ้า สำหรับชั้น 6 จะเป็นชั้นของสระว่ายน้ำ แต่ต้องบอกเลยว่าชั้นนี้ไม่ได้เน้นวิวนะฮะ ค่อนข้างปิดและเป็นส่วนตัว ตัวสระก็ไม่ได้ใหญ่เท่าไหร่ ด้วยความที่โซน Jacuzzi กว้าง เลยกินพื้นที่ตรงตัวสระไป ทำให้สระดูแคบฮะ รอบๆ สระว่ายน้ำก็จะมีที่ให้นั่งเล่นด้วย แต่ห้องน้ำชั้นนี้มีข้อดีอยู่ครับ คือทั้งห้องน้ำชายและห้องน้ำหญิงจะมีห้อง Steam และ Sauna เป็นของตัวเองอย่างละห้อง รวมก็มีทั้งหมดสี่ห้อง บางโครงการไม่ได้มาเยอะขนาดนี้นะครับ อย่างมากก็มีแค่สองห้อง แบ่งเป็นห้องน้ำชายได้ Sauna ส่วนห้องน้ำหญิงได้ Steam อะไรแบบนี้ แล้วชั้นนี้ก็จะมี Pool Lounge อยู่ริมสระที่แบ่งออกเป็น 4 ห้องย่อย สามารถเปิดออกเพื่อรับลมด้านนอก หรือจะปิดเพื่อเปิดแอร์ไว้ก็ได้

ส่วนชั้น 38 จะมี 24/7 Active Gym ห้องนี้ค่อนข้างกว้างเลยครับ มีเครื่องเล่นเครื่องออกกำลังกายหลายแบบ ตรงข้ามกันเป็นห้อง Recharge Lab ห้องนั่งเล่นเล็กๆ ที่อยู่ติดกับสวนสีเขียวด้านนอกพอดี เดินผ่านสวนไปจะเป็น Iconic Sky Bar กับ Panoramic Work Loft ห้องนี้เป็นห้องทำงานที่เหมาะมากฮะ ชั้นบนขึ้นไปนั่งทำงาน นอนทำงานชิวๆ ได้ เขาแบ่งเป็นช่องๆ ไว้ จะได้มีความเป็นส่วนตัวหน่อย

ด้านนอกมีสวนสีเขียวที่สามารถขึ้นไปชั้นดาดฟ้าได้ ก็จะเป็นสวน Jogging Track สนามเด็กเล่นเล็กๆ และจุดชมวิวต่างๆ วันที่ไปลมแรงมากครับ วิวก็เปิดโล่ง เป็นคอนโดที่เรียกได้ว่าวิวดีมากๆ ที่นึงเลย

เดี๋ยวเราจะพาเพื่อนๆ ไปดูแปลนชั้นที่มีส่วนกลางกันฮะ


Master Plan

พื้นที่ของตัวโครงการจะเป็นตอนลึก จากถนนมายังด้านในมีระยะพอสมควร เขาทำทางเดินไว้ให้ด้วย เดินสะดวกครับ พอเข้ามาด้านในจะเจอกับร้านก่อน ถึงจะเป็น Lobby มีห้อง Living Room  กับ Meeting Room ด้วย ลิฟต์ที่นี่จะมีทั้งหมด 6 ตัวฮะ ส่วนที่จอดรถจะอยู่ที่ชั้น 1 – 5

แปลนชั้น 6

ขึ้นมาที่ชั้น 6 ก็จะมีทั้งห้องพักอาศัยและพื้นที่ส่วนกลาง สำหรับชั้นนี้ก็จะมี Aqua Pool สระว่ายน้ำขนาดไม่ใหญ่ รายล้อมไปด้วยต้นไม้ เพิ่มความเป็นส่วนตัว, Kid’s Pool อยู่ติดกับสระว่ายน้ำเลย, Floating Pavilion เป็นพื้นที่พักผ่อนที่มี 2 ชั้น ด้านล่างเป็นโซฟานั่งชิว ส่วนด้านบนมีเก้าอี้ให้ชมวิว, Pool Lounge โซนนี้จะแบ่งออกเป็น 4 ห้องย่อยครับ แต่ละห้องจะเปิดประตูออกเพื่อรับลมธรรมชาติได้หมดเลย หรือจะปิดไว้เพื่อเปิดแอร์ก็ได้เช่นกัน เป็นห้องอเนกประสงค์ที่เราสามารถมาใช้งานได้ตามใจชอบ และ Steam&Sauna ทั้งห้องน้ำทั้งชายและหญิง เขาให้มาทั้ง Steam กับ Sauna เลยนะ

Aqua Pool

Floating Pavilion

Pool Lounge

Steam&Sauna


แปลนชั้น 38

มาถึงชั้นบนสุดกันบ้างฮะ ชั้นนี้ถ้าเราออกจากลิฟต์มา ก็จะเจอโถงขนาดใหญ่ ฝั่งซ้ายจะเป็นสวนสีเขียว ส่วนฝั่งขวาเป็น 24/7 Active Gym เป็นยิมที่มีเครื่องออกกำลังกายเยอะมากๆ แถมยังมีโซน Boxing Area ด้วย สำหรับ Recharge Lab จะเป็นห้องพักผ่อนหย่อนใจเล็กๆ ครับ ตรง Ozone Hallway จะเป็นทางเดินแบบ Outdoor มีสวนสีเขียว ได้วิวแม่น้ำ วันที่ผมไปทางโครงการจัดปาร์ตี้ตรงนี้ฮะ ลมแรงมากกกกกกกกกก แบบที่สุด ส่วน Iconic Sky Bar จะเป็นห้องอเนกประสงค์ที่มีบาร์ มีพื้นที่สังสรรค์ ติดกันจะเป็น Panoramic Work Loft โซนทำงานที่มี 2 ชั้น ชั้นล่างมีหลายมุมให้ได้เลือก ส่วนชั้นบนเขาทำเป็นช่องๆ ไว้ นอนเล่นได้ นั่งเล่นได้ ผ่อนคลายไปมองวิวด้านนอกไป เป็นโซนที่น่ามานั่งทำงานฮะ

24/7 Active Gym

Panoramic Work Loft

Garden


แปลนชั้นดาดฟ้า

มาถึงชั้นสุดท้ายดาดฟ้าฮะ ชั้นนี้ไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่จะเป็นสวนที่ต่อมาจากชั้น 38 แล้วก็มีจุดชมวิวแม่น้ำฮะ

Playground

Multi-Purpose Lawn

Sky Riverview Point


ข้อมูลโครงการ

เนื้อที่โครงการ :5-2-78.8 ไร่
จำนวนห้องพักอาศัย :ห้องพักอาศัย 1,421 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต
รูปแบบโครงการ :High Rise 38 ชั้น 1 อาคาร
ลิฟต์ :ลิฟต์โดยสาร 6 ตัว และเซอร์วิสลิฟต์ 1 ตัว
ที่จอดรถ :533 คัน
ค่าส่วนกลาง :45 บาท/ตารางเมตร/เดือน
ค่ากองทุน :450 บาท/ตารางเมตร
Facility :G Floor
– Lobby
– Shop
– Living Room
– Meeting Room
– Laundry

6th Floor
– Aqua Pool
– Kid’s Pool
– Jacuzzi
– Pool Lounge
– Floating Pavilion
– Steam&Sauna Room

38th Floor
– 24/7 Active Gym
– Boxing Area
– Ozone Hallway
– Recharge Lab
– Iconic Sky Bar
– Panoramic Work Loft

Rooftop
– O2 Gym
– Flow ‘N Fly
– Sky Infinite Track
– Sky Riverview Point
แบบห้อง : ห้องแบบธรรมดา
– Studio ขนาด 26 ตารางเมตร
– 1 Bedroom ขนาด 31 ตารางเมตร
– 1 Bedroom Plus ขนาด 34 ตารางเมตร
– 2 Bedroom ขนาด 57 ตารางเมตร

ห้องแบบ Hybrid
– Studio Hybrid ขนาด 26 ตารางเมตร
– 1 Bedroom Hybrid ขนาด 31 ตารางเมตร
– 1 Bedroom Plus Hybrid ขนาด 34.5 ตารางเมตร
ราคา :เริ่มต้น 2.09 ล้านบาท
ราคาเฉลี่ย : ประมาณ 88,000 บาท/ตารางเมตร
สถานะโครงการ :สร้างเสร็จแล้วพร้อมเข้าอยู่

ทำเลโครงการ

อย่างที่ผมบอกไปก่อนหน้านี้ว่าตัวโครงการอยู่ไม่ไกลจาก MRT สถานีบางพลัดเลย ประมาณ 295 เมตรเอง เดินแปบๆ ก็ถึงละฮะ สำหรับ MRT สายนี้ เพื่อนๆ สามารถไปถึงสถานีกลางบางซื่อได้เลย เชื่อมกับรถไฟฟ้าสายสีแดง นั่งยาวไปสนามบินดอนเมืองได้ด้วย

จุดเด่นตรงนี้คือยังได้อยู่บนรถไฟฟ้าสายหลัก เข้าเมืองได้ไม่ต้องเปลี่ยนสายครับ ไปจตุจักรก็แค่ 6 สถานี เชื่อมต่อกับ BTS หมอชิตได้ หรือ 5 แยกลาดพร้าวก็ไม่ไกล ในราคาคอนโดที่ยังไม่สูงมาก

หรือจะไปเปลี่ยนเป็นรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่สถานีเตาปูนก็ได้ แต่ถ้าจะไปย่านสามย่าน/สีลม/สาทร ก็สามารถไปได้เช่นกันครับ แต่อาจจะต้องเปลี่ยนรถนิดนึง ก็ถือว่าเดินทางง่าย เปลี่ยนไปรถไฟฟ้าได้หลายเส้นทาง ทั้งยังเลี่ยงรถติดในย่านนี้ได้ดีด้วยครับ

หรือถ้าเพื่อนๆ ใช้รถยนต์เป็นหลัก ตัวโครงการก็จะอยู่ติดกับถนนจรัญสนิทวงศ์ เชื่อมต่อไปยังถนนสิรินธร และถนนประชาราษฎร์สาย 2 ได้อีก หรือจะใช้ทางพิเศษศรีรัชก็ห่างจากโครงการประมาณ 2.5 กิโลเมตร รอบๆ โครงการเองก็มีสิ่งอำนวยสะดวกเยอะครับ ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน และห้างสรรพสินค้า อย่าง Lotus’s, Gateway บางซื่อ และ Central ปิ่นเกล้า ก็เป็นอีกทำเลที่ไม่ได้อยู่ในเมืองจ๋า แต่สะดวกทั้งการเดินทางและการใช้ชีวิต


แปลนห้อง

ในส่วนของแปลนห้องที่เราจะเอามาให้เพื่อนๆ ดู จะเป็นแปลนห้องแบบธรรมดานะครับ ไม่มีแปลนห้อง Hybrid เดี๋ยวค่อยไปดูห้องตัวอย่างใน Section ต่อไปนะฮะ เดี๋ยวเรามาเริ่มดูแปลนแรกกันก่อน เป็นห้อง Studio ขนาด 26 ตารางเมตร จะเป็นแปลนมาตรฐานทั่วไปฮะ คือด้านหน้าเป็นครัวกับห้องน้ำ กั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ด้านในเป็นห้องนอน มีพื้นที่สำหรับมุมนั่งเล่นและมุมทำงาน

ส่วนห้อง 1 Bedroom ขนาด 30.5 ตารางเมตร ด้านหน้าจะเป็นห้องนั่งเล่นครับ ซึ่งห้องนั่งเล่นตรงนี้ ผนังฝั่งชั้นวางทีวี สามารถ Built-in หรือวางชั้นวางทีวีแบบยาวเต็มพื้นที่ได้เลย เพราะว่าประตูห้องน้ำ เขาเอาไปไว้ในห้องครัวแทน ทำให้ไม่มีอะไรมาขวางฮะ แล้วตัวห้องนั่งเล่นเองก็มีพื้นที่พอสำหรับวางโต๊ะกินข้าวด้วย สำหรับห้องนอนจะมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นเอาไว้ มีพื้นที่เหลือๆ ให้วางตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้งและโต๊ะข้างเตียง ส่วนครัวที่ได้เป็นครัวปิดอยู่ติดกับระเบียงเลย ก็เป็นห้องที่เป็นสัดเป็นส่วนชัดเจนครับ

ต่อไปเป็น 1 Bedroom ขนาด 31 ตารางเมตร ซึ่งขนาดต่างจากห้องก่อนหน้านี้แค่นิดเดียวเท่านั้นครับ แต่แปลนห้องกลับต่างกันหลายอย่างเลย ถึงแม้ว่าจะเปิดเข้ามาแล้วเป็นห้องนั่งเล่นเหมือนกัน อย่างผนังฝั่งที่วางทีวี จะมีประตูห้องน้ำคั่น ไม่สามารถวางแบบเต็มพื้นที่ได้ ทำให้มุมตรงนี้เล็กลง แล้วห้องนั่งเล่นก็ไม่สามารถวางโต๊ะกินข้าวได้ เพราะเขาเอาไปใส่ไว้ในห้องครัวแทน เป็นครัวปิดนะครับ ส่วนห้องนอนก็ไม่ได้เป็นประตูบานเลื่อนกระจกละ จะได้ผนังทึบแทน ห้องค่อนข้างกว้าง สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ได้สบายๆ เลย

ถัดมาที่ 1 Bedroom Plus ขนาด 34 ตารางเมตรกันบ้าง ห้องนี้เปิดเข้ามาเป็นห้องนั่งเล่นเหมือนกันครับ แต่เป็นห้องที่ได้ครัวเปิด เป็นเคาน์เตอร์รูปตัว L ในแปลนห้องเขาทำตัวอย่างให้ดูว่าโซฟา สามารถวางยาว ให้เป็นมุมกินข้าวได้ด้วย ก็ปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบของเราเลย ส่วนห้องอเนกประสงค์จะได้ประตูบานเลื่อนกระจก สามารถทำเป็นห้องนอนเล็กได้ด้วย ส่วนห้องนอนได้เป็นผนังทึบ เพิ่มความเป็นส่วนตัวฮะ

สุดท้ายเป็น 2 Bedroom ขนาด 55 ตารางเมตรครับ ห้องนี้ได้ครัวปิดเหมือนกันนะ ครัวอยู่ติดกับทางเข้าห้องเลย ได้เคาน์เตอร์รูปตัว L ที่ใหญ่ และมีพื้นที่ทำอาหารเยอะ มีช่องสำหรับวางตู้เย็น และพื้นที่ให้เราวางตู้เก็บรองเท้าด้วย ติดกับครัวจะเป็นมุมกินข้าวและมุมนั่งเล่น มุมกินข้าวสามารถวางโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งได้แบบไม่อึดอัด ส่วนมุมนั่งเล่นวางโซฟายาวๆ ได้เลย ได้กระจกเข้ามุมด้วยนะครับ ส่วนห้องน้ำได้ 2 ห้อง คือด้านนอกกับในห้องนอนใหญ่

ห้องนอนใหญ่จะอยู่ติดกับระเบียงเลย พื้นที่ใช้สอยค่อนข้างเยอะ มีพื้นที่ให้เรา Built-in ตู้เสื้อผ้าตู้เก็บของได้แบบจุกๆ ส่วนห้องนอนเล็กก็ไม่ได้เล็กนะครับ นอกจากจะวางเตียงได้แล้ว ก็ยังวางตู้เสื้อผ้า และมีมุมสำหรับวางโต๊ะทำงานด้วย


ห้องตัวอย่าง

เรามีห้องตัวอย่างมาให้ดูทั้งหมด 3 ห้องด้วยกันครับ เป็นห้อง Studio ขนาด 26 ตารางเมตร, 1 Bedroom ขนาด 31 ตารางเมตร และ 1 Bedroom Plus Hybrid ขนาด 34.5 ตารางเมตรฮะ ทุกห้องที่นี่จะขายแบบ Fully Fitted จะได้ในส่วนของเคาน์เตอร์ครัว เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจาน รวมไปถึงสุขภัณฑ์ต่างๆ ในห้องน้ำด้วย ถ้าเป็นห้องแบบ Hybrid จะได้เพดานสูง 4.5 เมตร แต่ถ้าเป็นห้องธรรมดาเพดานจะสูง 2.65 เมตร แล้วห้องแบบ Hybrid ก็จะอยู่ที่ชั้น 32 – 37 ฮะ

Studio ขนาด 26 ตารางเมตร

ห้องนี้เปิดเข้ามาจะเจอครัวก่อนเลย ครัวขนาดทั่วไป มีเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจานมาให้ ใต้เคาน์เตอร์เองก็สามารถวางเครื่องซักผ้าได้ จะได้ไม่ไปเกะกะที่ระเบียง ส่วนห้องน้ำเองจะอยู่ตรงข้ามกับครัว ด้านข้างมีพื้นที่สำหรับชั้นวางรองเท้าด้วย

ด้วยความที่เป็นห้องแบบสตูดิโอ ดังนั้นทุกอย่างก็จะอยู่รวมกันหมดครับ ทั้งเตียง ตู้เสื้อผ้า โซฟา มุมกินข้าว ชั้นวางทีวี และโต๊ะทำงาน

ภาพรวมของแต่ละมุมฮะ

ในส่วนของห้องน้ำจะหน้าตาแบบนี้เลย แต่ที่นี่ห้องอาบน้ำเขาไม่ได้ให้ฉากกั้นมานะครับ อาจจะต้องติดตั้งเพิ่มเอง


1 Bedroom ขนาด 31 ตารางเมตร

ห้องนี้ถ้าเปิดเข้ามาจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อนเลย เขาย้ายครัวไปไว้ด้านหลังครับ แล้วทำเป็นครัวปิด มีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นให้ ส่วนห้องนอนเองก็เป็นประตูบานทึบ ช่วยให้เรารู้สึกได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้น

ครัวค่อนข้างกว้าง สามารถวางโต๊ะกินข้าวได้ หรือถ้าเราชอบทำอาหาร มุมกินข้าวเปลี่ยนเป็นที่ปรุงอาหารแทนก็ได้นะครับ อาจจะทำเป็นเคาน์เตอร์บาร์ให้ทำอาหารได้ แต่ก็นั่งกินข้าวได้ด้วย ก็อเนกประสงค์ดีครับ ส่วนห้องนั่งเล่นก็วางโซฟาขนาด 2 – 3 ที่นั่งได้ ระยะห่างระหว่างชั้นวางทีวีกับโซฟามีพอสมควร สำหรับห้องนอนเองก็วางเตียงขนาด 5 – 6 ฟุตได้สบายๆ ฮะ


1 Bedroom Plus Hybrid ขนาด 34.5 ตารางเมตร

มาถึงห้องที่นี่จะเป็นไฮไลต์ของที่นี่เลยก็ได้ว่าได้ เพราะห้องนี้มี 2 ชั้นฮะ เขาเพิ่มชั้นลอยขึ้นมาด้วย ซึ่งการแบ่งพื้นที่เองก็ค่อนข้างดี เปิดเข้ามาเจอครัวตามปกติ ถัดมาเป็นมุมกินข้าว สามารถวางโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งได้แบบไม่อึดอัด

มุมนั่งเล่นจะอยู่ติดกับระเบียง ได้หน้าต่างกระจกสูง 4.5 เมตร รับแสงเข้ามาในห้องแบบเต็มๆ

ติดกับมุมนั่งเล่น จะเป็นห้องอเนกประสงค์ ค่อนข้างใหญ่เลย ห้องตัวอย่างเขาแต่งเป็นห้องทำงานให้ดู เราจะปรับเป็นห้องอื่นๆ ตามที่ชอบเลยก็ได้ฮะ

ขึ้นบันไดมาด้านบน มีพื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้าค่อนข้างเยอะ เตียงจะอยู่ติดกับหน่าต่างกระจก ดังนั้นทั้งก่อนนอนและตอนตื่น เราก็สามารถชมวิวด้านนอกได้ทุกวัน

มองจากด้านบนลงไปก็จะเห็นมุมนั่งเล่นพอดีครับ


สรุปภาพรวมโครงการ

ในเรื่องของทำเลก็อย่างที่บอกฮะว่าใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีบางพลัด อยู่ในระยะที่เดินได้สบายๆ ใกล้ๆ กับโครงการมี Tesco Lotus ด้วย ใกล้แบบว่าเราสามารถเดินไปซื้อของได้เลย อาจจะไม่ใช่ทำเลกลางเมืองแบบจ๋าๆ ผมว่าค่อนข้างสะดวกสำหรับคนที่ใช้รถไฟฟ้าเป็นประจำอยู่แล้ว สามารถเลี่ยงรถติดได้ด้วย หรือถ้าอยากจะไปไกลหน่อย เข้าเมืองหน่อย รถไฟฟ้าไม่กี่สถานีก็เข้าเมืองได้แล้วฮะ

สำหรับพื้นที่ส่วนกลาง ผมว่าชั้น 38 – Rooftop ค่อนข้างกว้างและใหญ่ ทั้ง 24/7 Active Gym, Iconic Sky Bar และ Panoramic Work Loft ส่วนพื้นที่ด้านนอกก็ได้สวนสีเขียวที่ยาว สามารถวิ่งและออกกำลังกายได้ แต่ถ้าเป็นชั้น 6 โดยส่วนตัวมองว่าสระว่ายน้ำดูเล็กเกินไปนิดนึง แถมไม่เปิดรับวิวเท่าไหร่ ค่อนข้างเป็นสระปิด ได้ความเป็นส่วนตัวก็จริง แต่ไม่ได้วิวครับ

ส่วนห้องพักอาศัยด้วยความที่ตอนนี้เหลือห้องน้อยแล้ว เลยอาจจะไม่ได้มี Layout มาให้เลือกเยอะ แต่ก็มี Studio, 1 Bedroom กับห้องแบบ Hybrid ที่เหลืออยู่ แปลนห้องก็ไม่มีอะไรซับซ้อนมากฮะ ทุกห้องกั้นเป็นสัดเป็นส่วนชัดเจน ครัวที่ได้ก็เป็นแบบปิด แถมยังได้วิวแม่น้ำ วิวเมือง มีความเปิดโล่ง มองแล้วสบายตาสบายใจ


โปรโมชั่น

ถ้าเพื่อนๆ สนใจโครงการนี้ก็อาจจะต้องรีบหน่อยฮะ เพราะห้องเขาใกล้จะขายหมดแล้ว ถ้าอยากจะเข้าไปดูโครงการจริง สามารถเข้าไปที่โครงการได้เลยฮะ ได้วิวแม่น้ำทุกยูนิต ในราคาเริ่มต้น 2.09 ล้านบาท หรือโทร 02-3162222 บอกเลยว่าวิวที่นี่สวยจริงไรจริง เป็นวิวที่โล่งแบบ 360 องศาเลย ต้องไปเห็นด้วยตาตัวเองนะ


Related posts
พรีวิวโครงการ

แวะมาดู "Flexi Maga Space Bangna" คอนโดใหม่ใกล้ Mega Bangna พร้อเฟอร์ฯ ที่คิดมาแล้ว เริ่ม 1.89 ล้านบาท

พรีวิวโครงการ

แวะมาดู "Mayfield ปิ่นเกล้า" ทาวน์โฮมที่มีดาดฟ้าส่วนตัว ใกล้เซ็นทรัลปิ่นเกล้า เริ่ม 14.5 ล้านบาท

พรีวิวโครงการ

พาชมโครงการ "COBE รัชดา - พระราม 9" คอนโดคนรุ่นใหม่ ส่วนกลางใหญ่ ใจกลางย่านรัชดา เริ่ม 2.39 ล้านบาท

พรีวิวโครงการ

พาชมเปิดบ้านครั้งแรก "LIFE Sathorn Sierra" คอนโดส่วนกลาง 5 ไร่ ใหญ่ที่สุดในย่าน ใกล้ BTS ตลาดพลู