fbpx
วิเคราะห์ทำเล

ส่องทำเลและอนาคตของย่าน “เลียบด่วน เอกมัย-รามอินทรา” น่าสนใจยังไง และกำลังจะมีอะไรอีกบ้าง

ถ้าพูดถึงย่านเลียบด่วนรามอินทรา หลายคนคงมีภาพจำที่แตกต่างกันออกไป บางคนมีภาพจำเป็นถนนเส้นสวยๆ มีต้นปาล์ม มีเสาไฟใหญ่ๆ, บางคนเคยมากินข้าวร้านอาหารแถวนี้, สำหรับบางคน เส้นนี้ก็เป็นทางผ่านกลับบ้าน, บางคนก็ไม่มีภาพจำอะไรเลย เพราะไม่ได้อยู่ในแนวรถไฟฟ้า เลยไม่เคยมา (ฮาาา)

ต้องบอกว่าถนนสายนี้ เป็นอีกถนนสายสำคัญของกรุงเทพฝั่งตะวันออก ที่คนในย่านรามอินทรา, เกษตร-นวมินทร์, ลาดพร้าวใช้งานเข้าสู่ใจกลางเมือง แล้วรู้หรือไม่ว่าในอนาคต ถนนเส้นนี้กำลังจะมีรถไฟฟ้าตัดผ่านถึง 5 สาย!! และมีทางด่วนตัดเพิ่มอีก

วันนี้เราเลยจะพามารู้จักกับถนนสายนี้ รวมไปถึงพาไปดูโครงการต่างๆ ในอนาคตที่จะเกิดขึ้นในละแวกถนนเส้นนี้กันครับ กับถนน “ประดิษฐ์มนูธรรม” หรือที่เราๆ เรียกกันติดปากว่าถนนเลียบด่วน

บทความนี้สนับสนุนโดย “Noble Create”

คอนโดใจกลางย่าน Lifestyle ของเลียบด่วน เพียง 300 เมตรจาก The Crystal ไม่ไกลจาก Central Eastville และ CDC
คอนโดใหม่ แต่งครบ* จัดเต็มส่วนกลางด้วยพื้นที่สวนกว่า 5 ไร่ และมี Facility ให้เลือกใช้กว่า 40 รายการ
ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเทา เพียง 10 นาทีถึงทองหล่อ
1 ห้องนอน เริ่ม 2.39 ล้าน* จองวันนิ้ ฟรีทุกค่าใช้จ่าย* รับส่วนลดสูงสุด 400,000 บ.*



ประวัติและที่มาของการสร้าง “ถนนประดิษฐ์มนูธรรม”

“ถนนเลียบด่วน” หรือ “เลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรา” อาจจะเป็นชื่อที่คุ้นหูที่เราเรียกกัน แต่ชื่อจริงๆ ของถนนสายนี้ก็คือ “ถนนประดิษฐ์มนูธรรม” ครับ ก่อนจะไปเข้าเรื่องของความน่าสนใจของย่านนี้ เราขอพาย้อนอดีตไปรู้จักกับที่มาที่ไปของถนนสายนี้กันก่อน

หากเรามองย้อนกลับไปสัก 40 ปีที่แล้ว ในยุคที่ยังไม่มีถนนประดิษฐ์มนูธรรม การเดินทางจากกรุงเทพฯ โซนตะวันออกเฉียงเหนือ แถวๆ บางเขน รามอินทรา ลาดพร้าว สะพานสูง เข้าตัวเมืองชั้นในของ กทม. โดยเฉพาะแถวสุขุมวิท จะมีทางเลือกที่อ้อมน้อยที่สุดก็คือวิ่งไปเส้นพหลโยธิน แล้วตัดลงเข้าใจกลางเมือง จากนั้นเลี้ยวไปทางสุขุมวิทอีกที ซึ่งก็เป็นเส้นทางที่ทั้งอ้อมและรถติดแบบมหาโหดเลยครับ เพราะในยุคนั้นถนนทุกสายก็รวมมาที่พหล-วิภาวดีกันหมด ทางเลือกเข้าเมืองทางอื่นยังมีไม่เยอะ

กรุงเทพมหานครเลยมีแนวคิดที่จะตัดถนนสายใหม่ ที่เป็นเส้นทางเลือกในการเดินทางจากย่านรามอินทรา ตัดผ่านที่ดินที่เป็นสวนเป็นไร่นาย่านสะพานสูง ตรงไปเชื่อมกับถนนพระราม 9 และเชื่อมเข้าสุขุมวิทผ่านทางซอยเอกมัย โดยได้ออกประกาศสำรวจที่ดินและเวนคืน เมื่อปี 2527 ครับ

ในยุคนั้นแนวเส้นทางจะขนานไปกับคลองลาดพร้าว และไปบรรจบกับถนนรามอินทราที่แยกลาดปลาเค้าด้วยนะ

แต่จนแล้วจนเล่า การดำเนินการเวนคืนเพื่อตัดถนนสายนี้ก็ไม่คืบหน้า จนมาถึงปี 2533 ช่วงนั้นทางด่วนกำลังบูมมากๆ ครับ ก็เลยมีการโอนภารกิจการเวนคืนสร้างเส้นทางสายนี้ ไปให้การทางพิเศษแห่งประเทศไทย เพื่อสร้างทางด่วนสายใหม่ ตัดตรงจากรามอินทราไปบรรจบกับทางด่วนขั้นที่ 1 ที่แยกอาจณรงค์ แถวๆ คลองเตย โดยในช่วงรามอินทราจนถึงเอกมัย ก็ได้รวมโครงการตัดถนนสายใหม่แบบไม่เก็บเงินเข้าไว้ด้วย

โดยมีการเปลี่ยนแนวเส้นทางจากเดิมที่ไปบรรจบถนนรามอินทราแถวๆ ลาดปลาเค้า เปลี่ยนไปตรงวัชรพลแทน เพื่อให้แนวเส้นทางขนานกับถนนพหลโยธิน ไม่โค้งเข้าไปชิดกันมากเกินไป

โดยโครงการทางด่วนและถนนสายนี้ก็เปิดให้ใช้ในช่วงปี 2540 ในยุคนั้นเป็นถนนที่อยู่ในกระแสพอสมควร เพราะมีความกว้างขวาง และมีการปลูกต้นปาล์มบริเวณทางเท้าตลอดแนวเลย


ที่มาของชื่อถนน “ประดิษฐ์มนูธรรม”

“ถนนประดิษฐ์มนูธรรม” ตั้งตามบรรดาศักดิ์ของ ปรีดี พนมยงค์ คือ หลวงประดิษฐ์มนูธรรม โดยในปี 2540 สมาชิกสภา กทม. ได้มีการเสนอให้ใช้ชื่อนี้เพื่อเป็นการเชิดชูคุณปรีดี ในฐานะที่เป็นผู้นำพาประเทศเข้าสู่สังคมประชาธิปไตย เนื่องจากในปี 2540 เป็นปีที่มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 ซึ่งเป็นรัฐธรรมนูญฉบับที่มีการเปิดกว้างทางการเมืองและได้ชื่อว่า “รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” ครับ

แต่เรื่องของชื่อถนนนี่ก็มีดราม่าเหมือนกัน เพราะผ่านไปถึงปี 2545 คุณสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการ กทม. ในสมัยนั้น ได้มีการสั่งเปลี่ยนชื่อถนนประดิษฐ์มนูธรรมบางส่วน (ช่วงลาดพร้าวถึงพระราม 9 ยาวประมาณ 2 กม.) ให้เป็นชื่อถนน “ประเสริฐมนูกิจ” โดยให้เหตุผลว่า “ประชาชนร้องเรียนขอให้เปลี่ยนชื่อถนนและแบ่งเป็น 2 ช่วง เนื่องจากถนนสายนี้มีความยาวหลายกิโลเมตร ทำให้เกิดความยุ่งยากในการระบุที่อยู่และชื่อผู้รับทางไปรษณีย์”

แต่หลังจากการเปลี่ยนชื่อในครั้งนั้น ก็มีผู้คัดค้านจำนวนมาก สุดท้ายในปี 2547 ทางสภา กทม. ก็นำชื่อถนนสายนี้มาพิจารณาอีกครั้ง และมีมติให้เปลี่ยนชื่อถนนทั้งสายกลับมาเป็น “ถนนประดิษฐ์มนูธรรม” ตามเดิมครับ

หลังจากนั้นได้มีการนำชื่อ “ถนนประเสริฐมนูกิจ” ไปตั้งเป็นชื่อของถนนเกษตร-นวมินทร์แทนเมื่อปี 2549


ถนนสายหลักโซนกรุงเทพตะวันออก

หลังจากที่ตั้งใจจะให้สายนี้แบ่งเบาภาระรถติดของถนนรามอินทรา/พหลโยธิน/รามคำแหง ให้เข้าสู่เมืองง่ายขึ้น พอเปิดใด้ไม่นาน ถนนสายนี้ก็กลายเป็นอีกถนนสายหลักของย่านนี้เลยครับ

ด้วยความที่เป็นถนนสายตัดตรง ช่วยให้คนจากย่านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นรามอินทรา, เกษตร-นวมินทร์, ลาดพร้าว, เข้าสู่เมืองได้เร็วขึ้น วิ่งแปปเดียวก็ถึงพระราม 9, สุขุมวิท, ทองหล่อ, เอกมัย เราเลยอาจจะเห็นการจราจรบนถนนเส้นนี้ค่อนข้างแน่นหน่อยในช่วงเวลาเร่งด่วนอย่างช่วงเช้าและช่วงเย็น


ทางด่วนฉลองรัช เชื่อมต่อเข้าออกตัวเมืองชั้นใน

ซึ่งข้อดีของย่านเลียบด่วนคือมีทางด่วนตรงกลางครับ ก็จะคล้ายกับเส้นวิภาวดี, บางนา-ตราด, บรมราชชนนี คือก็จะมีทางเลือกในการเดินทางอยู่พอสมควร ถ้าช่วง Traffic โล่งๆ ก็วิ่งด้านล่างปกติ ถ้าช่วงรถติดก็มีทางด่วนขนานกันเป็นทางเลือกในการเดินทางครับ เมื่อรวมทั้งถนนด้านล่างและทางด่วนแล้ว ก็เหมือนมีถนน 12 เลนไปกลับเลย

นอกจากนี้ตัวทางด่วนฉลองรัชที่วิ่งขนานกับถนนด้านล่าง จะสามารถเชื่อมต่อกับทางด่วนในเมืองได้หลายสายครับ อย่างเช่นเลี้ยวไปหน่อย ก็จะเป็นทางลงพระราม 9-อโศก
หรือใครที่ทำงานย่านสุขุมวิท ก็สามารถขึ้นสายนี้ตรงไปลงได้เลย ไม่ต้องเสียค่าด่านเพิ่ม และถ้าจะไปย่านอื่นๆ ในเมือง ด้วยความที่ทางด่วนเชื่อมกันหมด ก็สามารถไปได้หลายย่านโดยใช้ทางด่วนครับ (ถ้าเลี้ยวมาทางพระราม 9 ก็จะเสียค่าทางด่วนสูงสุด 3 ด่าน แต่ถ้ามาทางท่าเรือ-พระราม 4 ก็จะเสียค่าทางด่วนสูงสุด 2 ด่านครับ อยู่ที่ว่าเลือกใช้ทางไหน)

อ่ออ จริงๆ ทางด่วนฉลองรัชเค้าเชื่อมต่อไปถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกเลยนะครับ ดังนั้นเส้นนี้ก็เป็นทางด่วนเส้นหลักในการเข้าเมืองอีกเส้น ที่เราจะเห็นคนจากย่านลำลูกกา/รามอินทรา-วัชรพล ใช้เดินทางไปกลับเวลาทำงาน


ความเจริญที่ตามมากับถนนสายใหม่

พอถนนเส้นนี้กลายมาเป็นหนึ่งในสายหลัก สิ่งที่ตามมาก็หนีไม่พ้นความเจริญครับ

ย่านนี้ต้องบอกว่าเป็นอีกย่านที่มีการเติบโตค่อนข้างรวดเร็ว ด้วยความที่เค้าเป็นถนนที่ตัดผ่านโซนเวิ้งว้างกลางลาดพร้าว/รามอินทรามาก่อน ดังนั้นแต่เดิมที่ดินตรงนี้ก็จะเป็นที่ว่างซะเยอะครับ ตอนเด็กๆ จำได้ว่าผมนั่งรถผ่านย่านซอยโยธินพัฒนา มีแต่ทุ่งหญ้าเต็มไปหมด

แต่ระยะเวลาไม่นานครับ ย่านเลียบด่วนก็บูมขึ้นเรื่อยๆ ยุคนึงเราจะเห็นหมู่บ้านมาทยอยเปิด แต่ก่อนก็หลักไม่กี่ล้านยังพอหาบ้านได้ และมียุคนึงที่เส้นเลียบด่วนสวนอาหารบูมมาก จากทำเลเป็นถนนระหว่างทางกลับบ้าน ก็จะมีร้านอาหารมาเปิดเต็มไปหมด จนเริ่มมีห้างเข้ามา มีตึกออฟฟิศ มีโชว์รูมรถต่างๆ ปัจจุบันผ่านมา 20 กว่าปี เรียกได้ว่าดูจากภาพถ่ายดาวเทียม ที่ทิ้งร้างว่างๆ กลายเป็นหมู่บ้านและตึกต่างๆ ไปเยอะมากครับ

ในด้านของราคาที่ดินก็กระโดดขึ้นมาหลายเท่าตัวเช่นเดียวกัน บ้านเดี่ยวโครงการใหม่เลขหลักเดียวในย่านนี้ลืมไปได้เลย แต่สิ่งที่ได้มาก็คือความเจริญที่มากขึ้นกว่าแต่ก่อนหลายเท่าตัวเช่นเดียวกันครับ


ย่าน Lifestyle กิน ดื่ม เที่ยว

พอเริ่มมีหมู่บ้านมาเปิดเยอะ บวกกับทำเลเดินที่เชื่อมต่อกับบ้านในซอยต่างๆ ในย่านลาดพร้าว-รามอินทรา-นวมินทร์ที่มีเยอะอยู่แล้ว สิ่งที่ตามมาก็หนีไม่พ้นห้างครับ

แต่เลียบด่วนเป็นย่านนึงที่ไม่ได้มีแค่ห้างสองห้าง แต่มีให้เลือกหลายระดับ น่าจะได้อานิสงค์จากการที่ถนนเส้นนี้เป็นถนนสายระหว่างทางกลับบ้านของใครหลายๆ คนด้วยครับ ดังนั้นต่อให้ไม่ได้เป็นคนย่านนี้ ก็แวะห้างตรงนี้หลังเลิกงานก่อนกลับบ้านได้อีก น่าจะเป็นเหตุผลนึงที่ย่านนี้มีห้างต่างๆ เยอะเป็นพิเศษ

อย่างห้างใหญ่เลยของย่านนี้ ก็จะหนีไม่พ้น Central Eastville และ The Crystal ครับ ที่มีร้านต่างๆ และสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างครบ ทั้งของกิน, โรงหนัง, ฟิตเนส
หรือถ้าจะซื้อของเข้าบ้าน แถวนี้ก็จะมี Lotus’s และ Makro อยู่ด้วยเช่นเดียวกัน

ส่วนใครเป็นสายทำบ้านแต่งบ้าน เลียบด่วนก็เป็นอีกย่านนึงที่เป็นถนนรวมของแต่งบ้านครับ ไม่ว่าจะเป็น Crystal Design Center, HomePro, The Walk ที่มี Index Living Mall รวมไปถึงบุญถาวรและ Design Villege ที่อยู่ไม่ไกล

นอกจากนี้ถนนเส้นนี้ก็จะมีร้านกินดื่มตลอดสายครับ เป็นถนนสายนึงที่ค่อนข้างคึกคักในเรื่องของร้านอาหารต่างๆ หรือแม้แต่ตลาดนัดที่ดังๆ หน่อยก็จะเป็นตลาดนัดเลียบด่วนฮะ

เอาเป็นว่าระหว่างทาง ผ่านมาเส้นนี้แล้วหิว ยังไงก็มีอะไรกิน มาตี 3 ตี 4 ก็ยังมีตี๋น้อยอยู่ 2 สาขาเลยอ่ะ


แหล่งรวมย่านบ้านลักชู

ถ้าเราจะพูดถึงโซนหมู่บ้านราคาแพง ชื่อที่ออกมาก็จะมีอยู่ไม่กี่ที่ เช่นถนนราชพฤกษ์, กรุงเทพกรีฑา, พัฒนาการ และที่ขาดไปไม่ได้เลย ก็จะเป็นย่านเลียบด่วนเอกมัย-รามอินทรานี่หละครับ
ย่านนี้เรียกได้ว่าแทบจะเป็นศูนย์รวมของหมู่บ้านราคาระดับหลายสิบ ถึงหลายร้อยล้านเลย ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูลของทีมงาน LivingPop เฉพาะบ้านเดี่ยวหลัก 30 ล้านขึ้นไปในย่านนี้ ก็มีตั้งโครงการอยู่ตลอดทั้งแนวของถนนเลียบด่วน ซึ่งบางโครงการใช้เวลาปิดการขายไม่นานด้วย

เป็นย่านที่มี demand ของบ้านราคาแพง และเป็นทำเลที่ค่อนข้างได้รับการยอมรับของบ้านในกลุ่มนี้พอสมควร

แล้วทำไมบ้านระดับนี้ถึงมาตั้งที่ทำเลเลียบด่วนเยอะ??

ทีมงานมองว่าจะเป็นจากหลายๆ ปัจจัยรวมกันครับ หนึ่งคือเรื่องของความใกล้เมือง ที่ตรงนี้ตรงเข้าสู่สุขุมวิท/เอกมัย/ทองหล่อโดยตรง ซึ่งอย่างทองหล่อย่านนี้คงไม่ต้องพูดถึง ทั้งคอนโด Ultra Luxury หรือร้านอาหาร ที่เที่ยวต่างๆ เป็นย่านที่ค่อนข้างจะเน้นกลุ่มคนมีเงิน ที่ดินทองหล่อปัจจุบันก็ตารางวาละหลักล้าน-สองล้านไปแล้ว

ซึ่งถ้าจะทำบ้านเดี่ยวซัก 50 ตารางวา สมมุติเฉพาะค่าที่อย่างน้อยก็ 50 ล้านแล้วยังไม่ได้เสาบ้านสักต้นเลย ตรงเลียบด่วนนี่ก็เลยเป็นจุดที่ใกล้ใจกลางเมือง ทำเลเชื่อมต่อจากสุขุมวิท เอกมัย ทองหล่อ ที่ยังพอมีที่ดินทำบ้านเดี่ยวได้ ในระดับราคา 50-100 ล้านแล้วได้บ้านขนาดที่เหมาะสม ราคาไม่โดดจนกลายเป็นหลายร้อยล้านไป แต่ก็ไม่ได้เป็นทำเลนอกเมืองไปครับ

นอกจากนี้พวก Facility ต่างๆ ในย่านนี้ก็ค่อนข้างครบ ทั้งทางด่วน, ห้าง, ร้านกินดื่ม, สิ่งอำนวยความสะดวก ความบันเทิงต่างๆ หรือบางคนก็อาจจะมีธุรกิจเปิดอยู่ในย่านนี้อยู่ด้วย รวมไปถึงบรรยากาศของตัวถนนเส้นนี้เองก็จะแตกต่างจากถนนเส้นอื่นอย่างชัดเจน ด้วยการที่สองข้างทางมีต้นปาล์มและต้นไม้ค่อนข้างจะร่มรื่น มีถนนกว้าง ฟุตบาทกว้างตลอดทาง มีทางเท้า ทางจักรยาน ทำให้ภาพบรรยากาศของสายนี้แตกต่างจากถนนอื่นๆ ในกทม.พอสมควร และเมื่อมีการมาของหมู่บ้านที่ 1 ที่ 2 ที่ 3 ตามมาเรื่อยๆ ทำเลก็เริ่มมีฟีลลิ่งของการได้อยู่ในบ้านโครงการที่มีระดับราคาใกล้ๆ กัน ย่านนี้ก็เลยกลายเป็นย่านที่ได้ยอมรับของหมู่บ้านกลุ่มนี้ไปโดยปริยาย พูดว่าไปดูบ้านที่เลียบด่วน ก็ฟังดูต้องหรูแน่ๆ แล้วครับ

สังเกตว่าบ้านในย่านนี้ ที่ดินก็อาจจะไม่ได้ใหญ่เว่อมาก ด้วยราคาของที่ดินที่ก็ยังถือว่าสูง เราก็จะเห็นบ้านส่วนใหญ่ทำเป็น 3 ชั้น หรือสร้างค่อนข้างเต็มพื้นที่ดินฮะ ซึ่งก็จริงอยู่ว่าถ้าออกไปนอกเมือง ด้วยเงินเท่านี้ เราอาจจะได้บ้านที่ดินใหญ่ๆ เป็นไร่ได้เลย แต่เพราะความเป็นบ้านระดับ Ultra Luxury แค่ความใหญ่ของบ้านหรือที่ดินอย่างเดียวไม่พอ ทีมงานคิดว่าโดยรวมทั้งหมดก็เลยทำให้ย่านนี้ เป็นหนึ่งในย่านที่คนมองหาบ้านราคาแพงจะนึกถึงครับ


รถไฟฟ้าสายสีเทา (ส่วนที่ 1)

ต่อมาเราจะขอพาไปดูโครงการการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่จะเข้ามาช่วยเสริมให้การเดินทางคมนาคมในย่านนี้สะดวกขึ้นครับ โดยเริ่มจาก…
โครงการรถไฟฟ้าสายสีเทา 🚝

รถไฟฟ้าสายนี้เอาจริงก็มีคอนเซ็ปต์เดียวกับการตัดถนนประดิษฐ์มนูธรรมในระยะแรกเลยครับ ก็คือการเชื่อมต่อการเดินทางในย่านกรุงเทพโซนรามอินทรา ลาดพร้าว เข้ากับย่านศูนย์กลางเมืองอย่างสุขุมวิท โดยแนวเส้นทางก็จะ อยู่บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม เลียบทางด่วนไปตลอดเกือบทั้งสายเลยจะมีช่วงปลายที่เลี้ยวเข้าถนนเพชรบุรีและตัดเข้าสุขุมวิทผ่านซอยทองหล่อ

โครงการรถไฟฟ้าสายสีเทาปรากฏครั้งแรกในแผนแม่บทปี 2552 โดยอยู่ในความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานครครับ แต่หลังจากมีการพิจารณาปรับแผน เส้นทางนี้ก็ถูกพักไป เนื่องจากถูกมองว่าไม่ใช่เส้นทางเร่งด่วน แต่ปัจจุบันกรุงเทพมหานครได้มีการรื้อฟื้นโครงการนี้ขึ้นมาใหม่ โดยในปี 2564-65 ได้มีการศึกษาทบทวนโครงการและรูปแบบการลงทุน ซึ่งได้มีการสรุปผลไปเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาครับ

โดย Timeline ปัจจุบันของโครงการนี้ จะมีการนำเสนอ ครม. เพื่อขออนุมัติการเปิดประมูลให้เอกชนร่วมทุน ในช่วงปี 2566 หลังจากนั้นจะเข้าสู่ช่วงของการเปิดประมูลในปี 2567-68 เริ่มก่อสร้างในปี 2569-72 และจะเปิดให้บริการในปี 2573 ครับ โดยจะเป็นการดำเนินโครงการเฉพาะในส่วนที่ 1 ก็คือช่วงวัชรพล-ทองหล่อก่อน ส่วนสายสีเทาอีกเส้นนึงที่ไม่เชื่อมต่อกันกับช่วงนี้ ก็คือช่วงพระโขนง-พระราม 3-ท่าพระ จะยังอยู่ในแผนอนาคตต่อไปครับ (น่าจะอีกนานเลยฮะ)

สำหรับรูปแบบของรถไฟฟ้าสายสีเทา จะเป็นรถไฟฟ้าระบบโมโนเรล คล้ายกับรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพูที่กำลังก่อสร้างอยู่ในปัจจุบัน โดยจากวิ่งคู่ขนานไปตามแนวถนนประดิษฐ์มนูธรรมในฝั่งตะวันตก หรือก็คือทิศมุ่งหน้าไปทางรามอินทราครับ

แนวเส้นทางเริ่มจากจุดเริ่มต้นถนนประดิษฐ์มนูธรรมบริเวณจุดตัดกับถนนรามอินทรา ใกล้ซอยวัชรพล วิ่งลงมาตามแนวถนน ประดิษฐ์มนูธรรม ผ่านจุดตัดถนนประเสริฐมนูกิจ ถนนลาดพร้าว ถนนประชาอุทิศ ถนนพระรามเก้า แล้วเลี้ยวขวาเข้าถนนเพชรบุรี เลี้ยวซ้ายเข้าซอยทองหล่อ แล้วไปสิ้นสุดที่ปากซอยทองหล่อ ถนนสุขุมวิทครับ

โดยเส้นทางนี้จะมีสถานีจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายอื่นทั้งหมด 5 สถานี ได้แก่

🚝 สถานีวัชรพล เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู
🚝 สถานีประดิษฐ์มนูธรรม 25 เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล
🚝 สถานีวัดพระราม 9 เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม
🚝 สถานีทองหล่อ เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS สายสีลม

เรียกว่ารถไฟฟ้าสายนี้จะนำพาความสะดวกในการเดินทางให้กับชาวเลียบด่วนได้เดินทางเข้าสู่ตัวเมืองชั้นในได้แบบสะดวกขึ้นเยอะเลย ไม่ต้องไปกองรวมกันอยู่ที่รถไฟฟ้า BTS เพียงอย่างเดียวครับ 😀


รถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล

สำหรับโครงการต่อมาที่เราจะพูดถึงก็คือโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลนั่นเองฮะ 🚝

ถ้าจะว่ากันจริงๆรถไฟฟ้าสายนี้เป็นสายน้องใหม่ที่เกิดขึ้นมาทีหลังสุด จากดราม่าการก่อสร้างทางด่วนตัดผ่านหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในช่วงปี 2557 ที่มี การเสนอให้เปลี่ยนรูปแบบจากการสร้างทางด่วนเป็นการสร้างระบบรถไฟฟ้าแทน ซึ่งเมื่อมีการศึกษาทบทวนก็พบว่ารถไฟฟ้าก็ดี แต่ทางด่วนก็ยังคงมีความจำเป็น สุดท้ายจึงมีโครงการสร้างมันทั้งคู่เลยครับ 🤣

โดยโครงการนี้มีความคืบหน้าค่อนข้างเร็ว (กว่าสายอื่นๆ) ปัจจุบันได้มีการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ รูปแบบการดำเนินการ แนวเส้นทางและสถานีไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาเรื่องผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และการหาตำแหน่งศูนย์ซ่อมบำรุงใหม่ เนื่องจากจุดเดิมบริเวณแยกบางกะปิมีการก่อสร้างคอนโดไปแล้วครับ

จากความคืบหน้าที่รายงานไว้ล่าสุด Timeline ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล จะ เริ่มขั้นตอนการเปิดประมูลให้เอกชนร่วมลงทุนในปี 2566-67 นี้ และจะเริ่มเข้าสู่ช่วงของการก่อสร้างในช่วงปี 2568 เป็นต้นไป ใช้เวลา 39 เดือน ก็จะพร้อมเปิดให้บริการในช่วงปี 2571 ครับ 🥺

สำหรับรูปแบบของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ก็จะเป็น ระบบรถไฟฟ้าโมโนเรลเช่นเดียวกันกับสายสีเหลือง ชมพู และเทาครับ และเนื่องจากแนวเส้นทางบางช่วงมีการซ้อนทับกับทางด่วน จึงต้องมีการจัดลำดับการทำงาน โดยทาง รฟม. จะหาผู้รับเหมาเข้าไปก่อสร้างฐานรากของรถไฟฟ้าเอาไว้ก่อน จากนั้นจะเข้าสู่ช่วงก่อสร้างทางด่วน (เราจะพูดถึงเป็นโครงการถัดไปฮะ) และเมื่อทางด่วนสร้างไปแล้ว ผู้รับสัมปทานร่วมทุนของสายสีน้ำตาล ก็จะเข้ามาก่อสร้างรถไฟฟ้าต่อในช่วงปี 2568 เป็นต้นไปครับ

ซึ่งทั้งสองโครงการนี้จะใช้เสาแยกกันนะ ไม่ได้มีการเอาทางวิ่งรถไฟฟ้าไปแปะไว้บนเสาของทางด่วนโดยตรง เนื่องจากโครงการทางด่วนได้มีการคำนวณการรับน้ำหนักมาแล้วตั้งแต่แรก และได้มีการก่อสร้างฐานรากต่างๆ ไว้หมดแล้วครับ

แนวเส้นทางของรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลจะเริ่มต้นจากสี่แยกแคราย วิ่งไปตามถนนงามวงศ์วานผ่าน ม.เกษตรศาสตร์ เข้าสู่ถนนประเสริฐมนูกิจ (เกษตร-นวมินทร์) ตรงไปตัดกับสายสีเทาตรงตลาดหัวมุม ถนนประดิษฐ์มนูธรรม แล้วไปเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนนวมินทร์ ตรงยาวลงมาถึงสี่แยกบางกะปิ แล้วสิ้นสุดที่ถนนรามคำแหง โดยมีสถานีที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายอื่นดังนี้ครับ

🚝 สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีชมพู
🚝 สถานีบางเขน เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีแดง
🚝 สถานีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท
🚝 สถานีเกษตรนวมินทร์ เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเทา
🚝 สถานีแยกลำสาลี เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้มและสายสีเหลือง

เมื่อรถไฟฟ้าสายนี้สร้างเสร็จ จะเป็นสายที่เชื่อมโยงรถไฟฟ้าสายต่างๆ ให้เดินทางไปมาหาสู่กันได้ โดยที่ไม่ต้องนั่งอ้อมเข้าเมืองครับ 😊


ทางด่วนขั้นที่ 3 ช่วง N2

อย่างที่เราเกริ่นไปว่ารถไฟฟ้าสายสีน้ำตาลมาพร้อมกับทางด่วน ตอนนั้นต่อไปเราจะขอพูดถึงทางด่วนกันบ้างครับ

ถนนประเสริฐมนูกิจ หรือที่เรียกกันติดปากว่าถนนเกษตร-นวมินทร์ เป็นโครงการตัดถนนที่มาพร้อมกับการก่อสร้างฐานรากของทางด่วนสายใหม่ ซึ่งก็คือโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือ ซึ่งมีการแบ่งโครงการออกมาเป็น 3 ช่วง คือ

🛣️ ช่วง N1 – ซ้อนบนถนนงามวงศ์วาน ตั้งแต่สามแยกบางใหญ่-ม.เกษตรศาสตร์
🛣️ ช่วง N2 – ซ้อนบนถนนประเสริฐมนูกิจ ตั้งแต่ ม.เกษตรศาสตร์-ถนนนวมินทร์
🛣️ ช่วง N3 – เส้นทางแนวใหม่ โค้งลงมาเชื่อมกับมอเตอร์เวย์สาย 7 (กรุงเทพฯ-ชลบุรี) แถวๆ ARL หัวหมาก

แต่ปัจจุบันแนวเส้นทางในช่วง N1 สร้างไม่ได้แล้วเพราะติดโครงสร้างของรถไฟฟ้าสายสีม่วง รวมถึงปัญหาการก่อสร้างในข่วงที่ตัดผ่าน ม.เกษตรศาสตร์ ทำให้มีการยกเลิกช่วงนี้ และอยู่ระหว่างการออกแบบแนวเส้นทางทดแทน เพื่อให้ทางด่วนสายนี้ไปเชื่อมกับแนวทางด่วนในฝั่งตะวันตกได้ โดยจะอ้อมผ่านไปทางคลองบางบัว แล้วเลียบเส้นวิภาวดี เลี้ยวขวาแยกรัชวิภา ไปเชื่อมกับทางด่วนสายศรีรัช-วงแหวนครับ

ในขณะเดียวกัน ช่วง N3 ก็ติดปัญหาเรื่องการเวนคืน เนื่องจากเมืองได้เจริญไปมากแล้วนับจากวันที่ออกแบบแนวเส้นทางครั้งแรก ทำให้มีการปรับแนวเส้นทางใหม่ จากเดิมเมื่อถึงนวมินทร์แล้วจะเลี้ยววกลงไปเชื่อมมอเตอร์เวย์สาย 7 เปลี่ยนเป็นตรงไปสุดที่ถนนวงแหวนตะวันออกสาย 9 แทนครับ

ทางด่วนสายนี้จะมีจุดขึ้นลงไม่ค่อยเยอะ โดยจะมีทางแยกต่างระดับขนาดใหญ่ บริเวณจุดตัดถนนประเสริฐมนูกิจ-ประดิษฐ์มนูธรรม ที่ได้มีการเวนคืนออาไว้แต่แรกแล้ว แต่ปัจจุบันการทางพิเศษได้มีการปล่อยให้เอกชนเช่าทำตลาด ซึ่งส่วนนึงก็คือ “ตลาดหัวมุม” นั่นเองครับ

เมื่อมีการพัฒนาทางด่วนสายนี้แล้ว สี่แยกไฟแดงนี้ก็จะเปลี่ยนเป็นทางแยกต่างระดับสองชั้น โดยชั้นล่างจะเป็นถนนฟรี ที่สามารถเลี้ยวได้ทุกทางโดยไม่มีไฟแดงอีกต่อไป และชั้นบนก็จะเป็นแยกของทางด่วนสองสายตัดกัน ซึ่งจะเป็นที่ตั้งของด่านเก็บเงินของทางด่วนสายใหม่ด้วยครับ

จุดขึ้นลงของทางด่วนสายนี้จะมี 3 จุดหลักๆ ครับ

🛣️ จุดแรกคือบริเวณใกล้กับแยกเกษตร ห่างจากปากอุโมงค์ลอดทางแยกประมาณ 500 เมตร โดยจะเป็นจุดเริ่มต้น-สิ้นสุด ของช่วง N2

🛣️ จุดที่สองคือทางลงถนนรัชดา-รามอินทรา ตรงนี้จะมีเฉพาะทางลงของฝั่งขามุ่งหน้าออกเมือง โดยทางลงจะข้ามซอยนวลจันทร์ไป แล้วมุ่งหน้าสู่รามอินทราครับ

🛣️ จุดที่สามจะเป็นทางขึ้น-ลง ที่เชื่อมกับถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก (มอเตอร์เวย์สาย 9) โดยจะมีทางเลือกทั้งการลงไปด้านในถนนมอเตอร์เวย์เลย และเลือกที่จะไปวิ่งในทางคู่ขนานโดยไม่เข้ามอเตอร์เวย์ก็ได้ครับ ในส่วนของขาเข้าเมืองก็เช่นกัน สามารถขึ้นทางด่วนได้จากทั้งในมอเตอร์เวย์ และทางคู่ขนานเลย

สำหรับ Timeline ของทางด่วนสายนี้ จะค่อนข้างมาไวกว่ารถไฟฟ้าครับ ปัจจุบันการทางพิเศษฯ ใกล้จะเปิดประมูลก่อสร้างแล้ว (ตามข่าวบอกว่าปีนี้จะเปิดประมูล) โดยจะเริ่มก่อสร้างในปี 2566-69 และเปิดใช้งานในปี 2569 ครับ ☺️


อนาคตของย่านเลียบด่วน

ภาพรวมโครงการต่างๆ ของย่านเลียบด่วนหลังจากสร้างเสร็จ ก็จะเป็นตามในภาพฮะ

อย่างในอนาคตอันใกล้ ปีหน้า เส้นนี้จะมีรถไฟฟ้าสายใหม่ 2 สายตัดผ่าน คือรถไฟฟ้าสายสีชมพู และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง เป็นรถไฟฟ้าแบบ Monorail 2 สายที่สร้างเสร็จไล่เลี่ยกัน ก็ช่วยให้คนย่านนี้เดินทางสะดวกขึ้น หลังจากนั้นอีกประมาณ 2 ปี ก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่บริเวณถนนพระราม 9 เปิดให้บริการตามมา จุดนี้มีสถานีวัดพระราม 9 อยู่ใกล้กับแยกถนนพระราม 9 ตัดถนนประดิษฐ์มนูธรรม

ถัดมาในช่วงประมาณปี 2569 ก็คาดว่ารถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล ที่วิ่งอยู่บนถนนเกษตร-นวมินทร์ (ประเสิรฐมนูกิจ) จะเปิดให้บริการ เส้นทางจากลำสาลีผ่านม.เกษตรไปจบที่แยกแคราย เท่ากับว่าในตอนนี้ ถนนประดิษฐ์มนูธรรมเองก็จะมีรถไฟฟ้าผ่าน 4 เส้นแล้วครับ

ซึ่งในช่วงปี 2573 ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแผน รถไฟฟ้าสายสีเทาก็จะสร้างเสร็จ ก็จะเป็นรถไฟฟ้าสายที่พาคนจากย่านรามอินทรา เข้าสู่ย่านสุขุมวิทได้โดยตรง และตัดกับรถไฟฟ้าสายอื่นบนถนนเลียบด่วนอีก 4 สาย รวมเป็น 5 สาย ช่วยพาคนจากสายต่างๆ เข้าเมืองครับ นอกจากนี้ก็จะมีทางด่วนขั้นที่ 3 ที่จะเปิดใช้งานปี 2569 ด้วยเช่นกัน


Noble Create

และบทความนี้ต้องขอขอบคุณโครงการ Noble Create ด้วยครับ ที่ช่วยสนับสนุนบทความพาชมทำเลตัวนี้ สำหรับโครงการ Noble Create เอกมัย-รามอินทราน่าสนใจยังไง เดี๋ยว LivingPop เราจะเล่าให้ฟังฮะ

พูดถึงโครงการคอนโดจาก Noble ยุคนี้ เราจะเห็นเจ้านี้จับตลาดทำเลเกิดใหม่ และย่านที่ยังไม่ได้มีคอนโดอยู่เยอะ อย่างโครงการก่อนหน้านี้ก็มี Nue Mega Plus Bangna ที่เมกาบางนา, Nue Connex Condo Donmueang คอนโดใกล้ดอนเมือง หรืออย่าง Nue Cross Khu Khot Station คอนโด 0 เมตรจากรถไฟฟ้าคูคตก็เพิ่ง Sold out ไป

ซึ่งย่านเลียบด่วนเอง ย่านนี้ก็ถือว่าเป็นย่านคึกคักย่านนึงเลย มีทั้งห้าง หมู่บ้าน มีธุรกิจต่างๆ ทั้งออฟฟิศขนาดเล็ก และธุรกิจสตูดิโอกระจายอยู่ในละแวกย่านนี้ค่อนข้างเยอะ

แต่ที่พักอาศัยที่เป็นคอนโด ต้องบอกว่าบนถนนเลียบด่วนถือว่าน้อยมากจนแทบไม่มีเลยครับ โครงการ Noble Create ถือว่าเป็นคอนโด Highrise ตึกสูงตึกแรกในย่านนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งก็จะมาช่วยเติมเต็มทำเล สำหรับใครที่ต้องการที่อยู่ในรูปแบบคอนโดในย่านนี้ เป็นทางเลือกที่อยู่อาศัยกลุ่ม Affordable Residential ที่ราคาไม่สูงมาก อยู่ในงบเริ่มต้นช่วงประมาณ 2-3 ล้านบาท บนทำเลที่เป็นย่านหมู่บ้านกลุ่ม Luxury ซึ่งก็จะได้จุดเด่นตรงที่อยู่กลางไลฟ์สไตล์แบบเลียบด่วนในราคาที่จับต้องได้ และได้ส่วนกลางที่มาแบบค่อนข้างตัดเต็ม

ซึ่งจุดเด่นของที่นี่ คือไม่ได้เป็นคอนโดแค่พักอาศัยแค่นั้นครับ แต่ให้ส่วนกลางแบบแน่นๆ มีสวน 5 ไร่ Facility 40 รายการ เยอะที่สุดในย่าน ใครที่ชอบคอนโดส่วนกลางเยอะๆ ลองดูรูปหน้าถัดไปได้เลยครับ

นอกจากนี้ก็มีจุดเด่นอีกหลายอย่าง เช่น

  • ห่างจาก The Crystal 300 เมตร เดินไปได้
  • อนาคตมีรถไฟฟ้าสายสีเทาผ่านหน้าโครงการ
  • มีตึกสำหรับเลี้ยงสัตว์ได้แยกต่างหาก มีส่วนกลางพิเศษสำหรับน้องๆ
  • แปลนห้องหน้ากว้าง คิดฟังก์ชั่นการใช้งานมาให้แล้ว
  • เริ่ม 1.99 ล้านบาท ได้เฟอร์นิเจอร์ครบ (ผ่อน 3,900 บาท/เดือน)

Mega Project แห่งใหม่ของย่านนี้

โครงการ Noble Create ต้องบอกว่าไม่ได้มาเล่นๆ ครับ เพราะ Noble ได้ที่ดินแปลงใหญ่ย่านเลียบด่วนมา ทำให้ตรงนี้กลายเป็น Project ยักษ์ของ Noble เลย

ซึ่งตัว Noble Create จะเป็นส่วนหนึ่งของที่ดินแปลงใหญ่แปลงนี้ แต่ถึงจะแค่ส่วนหนึ่ง ที่นี่ก็ใหญ่ 12 ไร่แล้วนะครับ จัดมาเป็นคอนโด 6 อาคาร ได้สถาปนิกชื่อดังอย่าง A49 มาออกแบบหน้าตาของอาคารให้ด้วย จุดเด่นหน้าตาอาคารก็จะมาในสไตล์ Noble ที่เราคุ้นเคยกัน กับตึกทรงเหลี่ยมเท่ๆ เน้นดีไซน์ Pattern ของงาน Facade ภายนอกอาคารที่มีเอกลักษณ์ ถึง 3 แบบ 3 สไตล์ ทำให้พออยู่รวมกัน 6 ตึก ก็จะดูสวย แปลกตาไม่เหมือนใคร

  • แบบ Random เป็น pattern ของระเบียงที่แตกต่างกันไปในแต่ละชั้น อยู่ในอาคาร A และ F
  • แบบ Oplique เป็นรูปแบบของระเบียงแนวเฉียง มีอยู่ในอาคาร B
  • แบบ Grid ระเบียงแนวตรงที่จะมีอยู่ในอาคาร C, D และ F

ใจกลางย่าน Lifestyle เลียบด่วน

ถ้าเราลองดูถนนเลียบด่วน เอกมัย-รามอินทรา ก็จะเห็นว่าถนนเป็นช่วงยาวพอสมควรครับ แต่จุดที่ดูจะคึกคักเป็นพิเศษ หรือเรียกว่าเป็น Mid-Prime ของถนนสายนี้ จะไม่ได้เป็นจุดที่ใกล้เมืองที่สุดนะครับ แต่จะอยู่ในช่วงระหว่างถนนลาดพร้าวและเกษตร-นวมินทร์ (ประเสริฐมนูกิจ) ครับ

ตรงนี้เรียกได้ว่าเป็นย่าน Lifestyle ของทำเลนี้เลย เราจะเห็นห้างค่อนข้างครบทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น Central Eastville, The Crystal, The Walk มี Hypermarket อย่าง Lotus’s, Makro หรือสายทำบ้านก็มี CDC, Design Village ของบุญถาวร, HomePro, Index Living Mall และทั้งหมดนี่ก็อยู่ในระยะไม่เกิน 2-3 กิโล

ซึ่งตัว Noble Create เอง เค้าก็ตั้งอยู่จุดที่เป็นตรงกลางของย่านนี้เลยครับ จะห่างจาก The Crystal ประมาณ 300 เมตร สามารถเดินจากโครงการไปได้เลย
แล้วในอนาคต เมื่อรถไฟฟ้าสายสีเทาสร้างเสร็จ ตัวโครงการก็จะอยู่ด้านหน้าติดถนนใหญ่ใกล้กับรถไฟฟ้าสถานีโยธินพัฒนา


ส่วนกลางกว่า 40 ฟังก์ชั่น ใหญ่ 2,500 ตร.ม.

พื้นที่สีเขียว 5 ไร่ ยกคุณภาพชีวิต Central Park มาไว้ที่ใจกลางกรุงเทพฯ

ไฮไลท์อีกอย่างของที่นี่อยู่ที่ส่วนกลางที่จัดมาแน่นๆบนพื้นที่ 2,500 ตร.ม. กว่า 40 ฟังก์ชั่น ด้วยพื้นที่ของโครงการที่จัดมาให้ใหญ่ พร้อมพื้นที่ส่วนกลางจัดเต็ม ซึ่งมี Facility ให้เลือกหลากหลายเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของพื้นที่สีเขียว สระว่ายน้ำและ Clubhouse ในสวน รวมไปถึงบนอาคารแต่ละอาคาร เค้าก็มีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้อีกเช่นกัน

ส่วนใครที่เป็นสายคนรักสัตว์ ที่นี่จะมีตึกนึงแยกต่างหากที่สามารถเลี้ยงน้องหมาน้องแมวได้ แถมมีสวนส่วนกลาง Pet Park เฉพาะสำหรับพาน้องๆ มาเดินเล่นได้ด้วยครับ

เดี๋ยวเราพาไปรู้จักส่วนกลางแต่ละจุดของที่นี่กัน


พื้นที่สีเขียว 5 ไร่ ที่ไม่ใช่แค่สวน

แต่จำลองเป็นป่าในหุบเขา จากบรรยากาศของต้นไม้และสายน้ำ

จุดแรงที่เป็นจุดเด่นของที่นี่เลย คือสวนบริเวณตรงกลางของอาคารครับ ตรงนี้ได้บริษัทออกแบบ Landscape ชื่อดังอย่าง Shma มาออกแบบให้

คอนเซปต์ของที่นี่ก็ไม่ธรรมดา คือไม่ได้เป็นแค่สวน แต่จะจำลองเป็นป่าใจกลางคอนโด ด้วยพื้นที่สีเขียวกว่า 5 ไร่ เหมือนยกคุณภาพชีวิต Central Park มาไว้ใจกลางกรุงเทพฯครับ โดยจะเป็น Forest Habitat ที่รวมเอาการใช้ชีวิตของผู้คน กับพื้นที่สีเขียวและต้นไม้ใหญ่เข้าไว้ด้วยกัน รวมไปถึงมีทุ่งดอกไม้และลำธารเป็นองค์ประกอบของสวน ให้บรรยากาศเหมือนอยู่กลางหุบเขาที่มีระบบนิเวศต่างๆ แบบธรรมชาติครับ

นอกจากนี้ในสวนก็จะมีพื้นที่สำหรับพักผ่อน มาทำกิจกรรมต่างๆ ของลูกบ้านได้ด้วย


Clubhouse กลางสวน

เปิดรับวิวพื้นที่สีเขียวด้วยอาคารกระจกขนาดใหญ่

กลางพื้นที่ของสวนขนาด 5 ไร่ จะมีอาคาร Clubhouse กระจกขนาดใหญ่ พร้อมสระว่ายน้ำยาว 50 เมตร

เวลามาว่ายก็จะได้ฟีลว่ายน้ำในสวน ที่มีความร่มรื่นครับ นอกจากนี้ภายในตัวอาคาร Clubhouse เอง เค้าก็ยังมีพื้นที่ส่วนกลางให้ใช้ได้อีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นห้องฟิตเนส , สตรีม ซาวน่า, ห้อง Co-Kitchen, Game room, ห้อง Kid’s Club

แล้วด้วยดีไซน์ที่เป็นอาคารกระจกเพดานสูง ในหลายๆ ห้องเวลาใช้งานก็จะได้วิวพื้นที่สีเขียวด้วยเช่นเดียวกันครับ

อย่างที่บอกไปว่าเค้าไม่ได้มีพื้นที่ส่วนกลางแค่ในส่วนชั้นล่าง แต่บนอาคารก็จะมี Facility ต่างๆ ให้ลูกบ้านมาใช้งานได้อีกเช่นกัน อย่างใครเป็นสาย Creative สาย Content Creator ที่นี่ก็จะมีทั้งห้อง Library, Meeting Room และ Co-Working Space ให้มานั่งทำงานได้ มีห้อง Craft room ไว้สำหรับทำงานคราฟต์หรืองานฝีมือต่างๆ หรือถ้าต้องถ่ายงาน ก็มีห้อง Studio อีก 2 ห้องอย่าง Blogger Studio ไว้ถ่ายคน และ Flash Studio ไว้ถ่ายสินค้าครับ

ส่วนใครอยากมานั่งชิวๆ ที่นี่ก็จะมีห้อง Lounge, มีโซน Napping Area ไว้ให้มาใช้งานด้วยอีกเช่นกัน ส่วนกลางบนอาคารก็จะกระจายอยู่ตามแต่ละอาคารครับ บางจุดจะอยู่ที่ชั้น 28 ด้วย ก็จะได้วิวจากตึกสูงของย่านนี้ ที่รอบข้างยังไม่มีอะไรบัง


แบบห้องที่มีให้เลือกหลากหลาย

มาพูดถึงห้องของที่นี่กันบ้างครับ

จุดเด่นของคอนโด Noble ยุคหลังๆ ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Nue หรือแบรนด์ Noble เอง ต้องบอกว่าห้องของ Noble ค่อนข้างจะจัดผังมาดีเสมอๆ เลยครับ คือเราแทบจะไม่ได้เห็นแปลนห้องหน้าแคบจากค่ายนี้เลย จะห้องขนาดเริ่มต้นยังไง ส่วนใหญ่ก็จะพยายามจัดแปลนห้องให้ออกมาเป็นหน้ากว้าง และพื้นที่ใช้สอยภายในห้อง จะค่อนข้างผ่านการคิด และออกแบบจัดมาให้ใช้พื้นที่ได้เกินประโยชน์สูงสุด

เรียกได้ว่าห้อง 25-30 ตารางเมตรนี่เค้าก็รีดพื้นที่ใช้สอยออกมาได้เต็มที่ ไม่มีพื้นที่ตรงไหนเสียไปเปล่าๆ เลย จะเป็นยังไง เดี๋ยวเราพาดูห้องตัวอย่างของที่นี่แบบคร่าวๆ ครับ

สำหรับราคาเริ่มต้น 1.99 ล้าน เค้าจะเป็นห้องขนาด 22.90 ตารางเมตร แต่ห้องตัวอย่างห้องแรกจะเป็นขนาด 25.7 ตารางเมตรครับผม ห้องนี้จุดเด่นคือถึงจะมีพื้นที่แค่ 25 ตารางเมตรกว่าๆ แต่พอเป็นห้องหน้ากว้าง เลยทำห้องนอนอยู่ฝั่งนึงของห้องได้เลย เลยจะได้ห้องนอนปิด เป็นสัดส่วน มีความเป็นส่วนตัวครับ และได้หน้าต่างรับแสงทั้งห้องนอนและโซนห้องนั่งเล่น

ส่วนครัว ห้องนี้จะวางไว้สองฝั่งเลยครับ แล้วตรงกลางเป็นทางเดิน ทำให้มีพื้นที่ใช้สอยในครัวมากขึ้น โดยที่ไม่กินพื้นที่ห้องมาก ห้องแปลนนี้สามารถเลือกได้ด้วยนะครับ ว่าจะเอาห้องนั่งเล่นติดระเบียง หรือจะเอาห้องครัวติดระเบียง


ถัดมามาดูห้องที่ใหญ่ขึ้นหน่อย ว่าจะทำอะไรได้บ้าง กับห้องขนาด 30.30 ตารางเมตร พื้นที่ห้องนี้จะเพิ่มขึ้นมาประมาณเกือบ 5 ตารางเมตรจากห้องที่แล้วครับ ตัวผังห้องอาจจะยังคล้ายๆ เดิม แต่พื้นที่ใช้สอยของส่วนห้องนั่งเล่นและห้องนอนเราจะได้เพิ่มขึ้น อย่างห้องนั่งเล่นของห้อง type นี้เราก็จะวางโซฟากว้างขึ้นได้เป็น 3 ที่นั่ง หรือใครอยากบิ้วด์ตู้ หรือปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่น ก็ยังพอมีพื้นที่ให้ปรับครับ

ไฮไลท์ห้องนี้อยู่ที่ห้องนอนครับ จริงๆ ห้องที่นี่เค้าจะแถมเฟอร์นิเจอร์มาให้เกือบจะครบอยู่แล้วครับ อย่างห้องนอนเค้าก็มีตู้เสื้อผ้าแบบบิ้วด์มาให้เลย แต่ห้องนี้ส่วนของตู้เสื้อผ้า จะมีพื้นที่เหลือมากพอทำเป็น Walkin Closet แบบย่อมๆ ได้ โดยที่ห้องนอนยังเหลือพื้นที่สำหรับวางเตียง 5 ฟุตได้ แบบมีระยะเดิน และห้องนี้ก็เช่นกัน ห้องครัวก็ยังมีให้เลือก 2 แบบว่าอยากได้ครัวติดระเบียง หรืออยากได้ห้องนั่งเล่นติดระเบียงครับ (อยู่ที่ว่าเลือกห้องตำแหน่งไหนของแต่ละตึก)


ถ้าห้องนอนเดียวไม่พอ หรือใครเผื่ออนาคต ห้องไซส์ใหญ่ก็มีนะ

ขนาดห้องถัดมาจะเป็นขนาด 39.50 ตารางเมตร กระโดดขึ้นมาหน่อย โดยที่ห้องแปลนนี้ ความพิเศษอยู่ที่เป็นห้องมุมครับ ดังนั้นก็จะได้หน้าต่างรับแสง 2 ด้าน และแปลนห้องเป็นแบบหน้ากว้างด้วย ทำให้ห้อง 39 ตารางเมตรห้องนี้ มีช่องหน้าต่าง/ประตูรับแสงถึง 4 จุดรอบห้องเลย

โดยแปลนนี้เราจะเปิดมาเจอกับครัวก่อนครับ เป็นฟังก์ชั่นครัวปิด ถัดมาก็จะเป็นโซนนั่งเล่นและรับประทานอาหารขนาดใหญ่ วางโต๊ะ 4 ที่นั่งสบายๆ มีห้องนอนไซส์มาตรฐาน แต่ห้อง Plus ของห้องนี้จะได้ประตูปิด ทำเป็นห้องนอนเล็กอีกห้องนึงได้เลยครับ เป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus ที่จัดออกมาเกือบจะเป็น 2 Bedroom แล้ว ในขนาดไม่ถึง 40 ตารางเมตร

แบบถัดมาเป็นห้อง Combine ขนาด 53.40 ตารางเมตร ที่เป็นการเอาห้องขนาด 26 ตารางเมตร 2 ห้องมารวมกันครับ อย่างที่บอกไปว่าห้องที่นี่เป็นห้องหน้ากว้างอยู่แล้ว ยิ่งเอาห้องห้องกว้าง 2 ห้องที่อยู่ติดกันมารวมกัน ทำให้ห้อง 2 Bedroom แบบ Combine ของที่นี่จะได้ห้องหน้ากว้างแบบตะโกนครับ พื้นที่ส่วนใหญ่ในห้องก็จะได้คับแสงธรรมชาติ มีห้องนั่งเล่นและโซนรับประทานอาหารขนาดใหญ่ ห้องนอน Master Bedroom มีโซนสำหรับแต่งตัว และห้องนี้จะได้ห้องน้ำ 2 ห้องด้วยครับ


เป็นอย่างไรกันบ้างครับ สำหรับทำเลเลียบด่วนรามอินทรา-เอกมัย แล้วเพื่อนๆ มีความทรงจำอะไรกันบ้างกับทำเลนี้ บอกกันได้นะฮะ

ส่วนสำหรับใครที่สนใจโครงการ Noble Create เอกมัย-รามอินทรา คอนโดใหม่แต่งครบผ่อนต่ำ 3,900 บาท* ก็ลงทะเบียนกันด้านล่างได้เลยครับ 🙂

บทความนี้สนับสนุนโดย “Noble Create”

คอนโดใจกลางย่าน Lifestyle ของเลียบด่วน เพียง 300 เมตรจาก The Crystal ไม่ไกลจาก Central Eastville และ CDC
คอนโดใหม่ แต่งครบ* จัดเต็มส่วนกลางด้วยพื้นที่สวนกว่า 5 ไร่ และมี Facility ให้เลือกใช้กว่า 40 รายการ
ใกล้รถไฟฟ้าสายสีเทา เพียง 10 นาทีถึงทองหล่อ
1 ห้องนอน เริ่ม 2.39 ล้าน* จองวันนิ้ ฟรีทุกค่าใช้จ่าย* รับส่วนลดสูงสุด 400,000 บ.*


ข้อมูลอ้างอิง

Related posts
วิเคราะห์ทำเล

วิเคราะห์ทำเลย่าน “บางนา” ในปี 2024 ...อะไรที่ทำให้ Developer เจ้าต่างๆ สนใจทำเลนี้??

วิเคราะห์ทำเล

ส่องทำเล "จรัญ-บางอ้อ" ย่านติดรถไฟฟ้าสายหลักที่ราคาคอนโดยังถูกอยู่!... 😄

วิเคราะห์ทำเล

เปิดแผนพัฒนาเมืองย่านพหลโยธิน-รามอินทรา นอกจากรถไฟฟ้าจะมีโครงการอะไรอีกบ้างมาดูกัน!

วิเคราะห์ทำเล

พาไปดู 4 คอนโดใหม่ ในย่าน "ตลาดพลู" สุดยอดแหล่งของกินฝั่งธนฯ ใกล้ BTS ตลาดพลู และ BRT ราชพฤกษ์